หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

"เราจะหลุดออกจากลัทธิบูชา พระเอก ในขบวนการของประชาชน ได้หรือไม่อย่างไร"

"เราจะหลุดออกจากลัทธิบูชา พระเอก ในขบวนการของประชาชน ได้หรือไม่อย่างไร"





เชิญร่วมกลุ่มศึกษาเศรษฐศาสตร์การเมืองมาร์คซิสม์

หัวข้อ เราจะหลุดออกจากลัทธิบูชา พระเอก ในขบวนการของประชาชน ได้หรือไม่อย่างไร
นำเสนอโดย ครรชิต พัฒนโภคะ
วันอาทิตย์ที่ ๑๑ พ.ย. ๕๕ เวลา ๑๔.๐๐ น.
ณ สำนักงานโครงการรณรงค์เพื่อแรงงานไทย ลาดพร้าว 64 แยก 5 (ไม่มีที่จอดรถ)

หัวข้อ ข้อดีข้อเสียของการจับอาวุธสู้ในการปฏิวัติ บทเรียนจาก พคท. ซิเรีย อียิปต์ และลิเบีย
นำเสนอโดย พจนา วลัย
วันอาทิตย์ที่ ๑๘ พ.ย. ๕๕ เวลา ๑๔.๐๐ น.
ณ สำนักงานโครงการรณรงค์เพื่อแรงงานไทย ลาดพร้าว 64 แยก 5 (ไม่มีที่จอดรถ)

สำรองที่นั่งได้ที่เบอร์ ๐๘๕ ๐๔๔ ๑๗๗๘
จัดโดย องค์กรเลี้ยวซ้าย

จาก สนธิ ลิ้มทองกุล โยงยาว บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ "เส้น" ของ "ใคร"

จาก สนธิ ลิ้มทองกุล โยงยาว บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ "เส้น" ของ "ใคร"


แช่งแข็งประเทศไทย 5 ปี



สัญญาณเรียกม็อบ ๙.๐๑
 
เวลาเหลือไม่มากแล้วน้องพี่
เงินทุนที่มีก็ร่อยหรอ

มวลม็อบน้อยไปยังไม่พอ
ล้วงมุขจนหมดหม้อเคล็ดวิชา
จำทู่ซี้หน้าทนเพราะจนแต้ม
สัญญาณแย้มบอกหวยด้วยฤกษ์ผา
ฝนตกขี้หมูไหลรวมใจมา
เพื่อโน้มฟ้าคลุกดินแล้วกิน
ดาว

เกษียร เตชะพีระ 

 

คนที่ให้คำจำกัดความ "ม็อบ" พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในห้วงก่อนและหลังรัฐประหารเดือนกันยายน 2549 ว่

"ม็อบมีเส้น"

คือ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นการให้นิยามระหว่างดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

ปรากฏว่าคำนิยามนี้ "จุดติด" 

ที่ จุดติดมิใช่เพราะว่าฐานเดิมของ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ คือ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หากที่สำคัญเป็นอย่างมากคือ เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อันมีตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนเป็นเหมือนกระดานหก 

ตำแหน่ง "ผบ.ตชด." คือ ตัวตนที่แท้ของ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ 

หลัง พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ให้นิยามพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยว่าเป็น "ม็อบมีเส้น" มาถึง ณ วันนี้ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ก็ใช้นิยามเดียวกันนี้ต่อกระบวนการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามที่นำโดย พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์

ด้าน 1 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประเมินว่า "ไม่มีน้ำยา"

ผีกลัวแสงสว่าง

ผีกลัวแสงสว่าง

 

โดย ธงชัย วินิจจะกูล

 

บัดนี้คงชัดเจนแล้วว่าคำร้องต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ(ไอซีซี)กรณี อาชญากรรมการเมืองตรงราชประสงค์เมื่อปี 2553 และการดำเนินการต่อเนื่องมาทั้งหลาย ไม่ใช่ละครปลอบใจคนเสื้อแดงและไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันไร้ประโยชน์

ประชาคมโลกจัดตั้งไอซีซีขึ้นมาเพื่อจัดการลงโทษผู้มีอำนาจที่ก่อ อาชญากรรมร้ายแรงต่อมนุษยชาติ เช่นสังหารประชาชนจำนวนมากหรือฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ซึ่งร้อยทั้งร้อยเริ่มต้นจากกระทำผิดก่ออาชญากรรมแล้วลอยนวลไม่ถูกลงโทษ (impunity)

ภารกิจของไอซีซีคือต้องยุติภาวะเช่นนี้ให้จงได้ (“End the Impunity”)

การที่อัยการของไอซีซีเข้าพบรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยก็เพราะเขาเห็นว่า กรณีนี้มีมูลควรสนใจและสะท้อนวัฒนธรรมปล่อยคนผิดที่มีอำนาจลอยนวลซ้ำแล้วซ้ำ เล่าจนเป็นปัญหาใหญ่ของการเมืองไทย ด้วยเหตุนี้ไอซีซีจึงไม่จำหน่ายคำร้องของนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัมออกไปตั้งแต่แรกๆที่เขายื่นเมื่อมกราคม 2554

(หวังว่าคงไม่มีใครเพ้อเจ้อกล่าวหาว่าอัยการของไอซีซีรับเงินทักษิณ)

ผู้มีส่วนในการก่ออาชญากรรมเมื่อปี 2553 และบรรดาผู้สนับสนุนต่างพากันออกมาคัดค้านไอซีซีเป็นการใหญ่ด้วยข้ออ้างสารพัด

เรื่องนี้เราควรพิจารณาสาเหตุผลสะเทือนให้กว้างและไกล อย่าหมกมุ่นหลงติดคิดแคบๆสั้นๆหรือคิดแค่ลูบหน้าปะจมูก อย่าหวังปัดปัญหาหรือปิดหูปิดตาตัวเองเด็ดขาด

ถ้า กระบวนการยุติธรรมของไทย(ไม่ใช่แค่ศาล)เชื่อถือได้ ไอซีซีย่อมไม่ต้องการเข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด และคงไม่มีคนไทยต้องพยายามไปร้องต่อไอซีซีด้วยซ้ำเพราะพึ่งกระบวนการ ยุติธรรมของไทยก็ย่อมได้

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยว่าด้วย “อำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ” หรือ “อำนาจก่อตั้งระบอบการเมือง”

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยว่าด้วย “อำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ” หรือ “อำนาจก่อตั้งระบอบการเมือง”

 


เมื่อคราวที่ศาลรัฐธรรมนูญ “สกัดกั้นขัดขวาง” การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ เพื่อนำไปสู่การยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับนั้น ผมได้เขียนเรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับ “อำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ” หรือ “อำนาจก่อตั้งระบอบการเมือง” (Pouvoir constituant) ไว้ในเฟซบุ๊คของผมจำนวนมาก

เมื่อกาลเวลาผ่านไป หากเราต้องการค้นหาข้อความเหล่านั้น ก็อาจทำได้ยากลำบาก หรือหากเจ้าของเฟซบุ๊คอยากย้อนกลับไปหาชีวิตในยุค Pre-Facebook (อย่างเช่นห้วงเวลานี้) ข้อความเหล่านั้น ก็จะหายตามไปด้วย

ด้วยเหตุนี้ ผมจึงคัดลอกและปรับปรุงข้อความต่างๆที่เกี่ยวกับ “อำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ” หรือ “อำนาจก่อตั้งระบอบการเมือง”  ที่ปรากฏในเฟซบุ๊คของผม และนำมาบันทึกลงไว้ในบล็อก

...

๕ มิถุนายน ๒๕๕๕ 

อำนาจเป็นปรากฏการณ์ในทุกสังคม สังคมการเมืองหนึ่ง มีความสับสนวุ่นวาย นำอำนาจไปผูกไว้กับตัวคน คนที่เป็นหัวหน้าตาย ก็จะเกิดความวุ่นวาย แย่งชิงอำนาจกัน มนุษย์จึงคิดค้น innovation ใหม่ขึ้น คือ การทำให้อำนาจนั้นกลายเป็นสถาบัน อำนาจที่ถูกทำให้เป็นสถาบัน คือ "รัฐ"

รัฐ เป็นสิ่งสมมติ แต่สิ่งสมมตินั้นกลับมีพลัง เพราะ มันคืออำนาจ เมื่อรัฐเป็นสิ่งสมมติ ไม่มีแขนขา ไม่มีกาย ก็ต้องมีคนเข้ามาใช้อำนาจแทนรัฐ แล้วใครจะเป็นผู้ทรงอำนาจในรัฐนั้น? ใครจะเป็นองค์กรผู้ใช้อำนาจในนามรัฐ? ความสัมพันธ์ขององค์กรต่างๆในรัฐจะเป็นอย่างไร? ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชนจะเป็นอย่างไร? 

ปัญหาเหล่านี้ ก็ต้องมาตกลงกันว่า สังคมการเมือง หรือรัฐนั้น จะมีกรอบอย่างไร มีกติกาอย่างไร มีการจัดวางโครงสร้างขององค์กรต่างๆอย่างไร พูดให้ชัด คือ การตกลงก่อตั้งระบอบการเมือง ระบบกฎหมายขึ้นนั้นเอง

กรอบนั้นเราเรียกว่า "รัฐธรรมนูญ"

อำนาจที่ก่อตั้งระบอบการเมือง ระบบกฎหมาย รัฐธรรมนูญ นั้น เราเรียกว่า "อำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ"

ดังนั้น อำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ จึงสูงสุดเด็ดขาด เป็นล้นพ้น ไม่มีข้อจำกัดใดๆทั้งสิ้น เพราะ เป็นอำนาจที่อยู่ในสภาวะก่อนมีรัฐธรรมนูญ ก่อนมีระบอบการเมือง ก่อนมีระบบกฎหมาย อำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ จึงก่อตั้งระบอบการเมืองแบบใดก็ได้ แต่ในยุคปัจจุบัน อยู่ในโลกเสรีประชาธิปไตย อำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ จึงก่อตั้งรัฐธรรมนูญ ระบอบการเมือง ระบบกฎหมาย ให้เป็นแบบเสรีประชาธิปไตย

ปัญหาที่ตามมา ใครคือ ผู้ทรงอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ? 

ประเทศไทย นับแต่ ๒๔๗๕ คือ ประชาชน (ข้อนี้อาจถกเถียงกันได้ว่าเป็นของกษัตริย์ร่วมด้วยหรือไม่)

(อ่านต่อ)
http://blogazine.in.th/blogs/piyabutr-saengkanokkul/post/3755 

ชาวบ้านลุ่มน้ำโขง 8 จังหวัด ประณาม ‘ช.การช่าง’ เหยียดหยามไร้การศึกษา

ชาวบ้านลุ่มน้ำโขง 8 จังหวัด ประณาม ‘ช.การช่าง’ เหยียดหยามไร้การศึกษา

 

 
ประชาชนไทย 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง ร่วมกับเครือข่ายฯ ออกแถลงการณ์ “ประณามบริษัท ช.การช่าง เหยียดหยามคนลุ่มน้ำโขงไร้การศึกษา” จี้หยุดบิดเบือนความจริงเรื่องเขื่อนไซยะบุรี

เครือข่ายประชาชนไทย 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง ร่วมกับเครือข่ายสภาองค์กรชุมชนตำบลลุ่มน้ำโขง 7 จังหวัดภาคอีสาน (คสข.) และสภาองค์กรชุมชนตำบลภาคอีสาน 19 จังหวัด ออกแถลงการณ์ “ประณามบริษัท ช.การช่าง เหยียดหยามคนลุ่มน้ำโขงไร้การศึกษา” ลงวันที่ 8 พ.ย.55 จากกรณีที่คนของบริษัทไซยะบุรีพาวเวอร์ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนระบุชาวบ้านไร้ การศึกษาและถูกชักจูงไปในทางที่ผิด พร้อมเรียกร้องให้กล่าวขอโทษต่อการดูถูกเหยียดหยามชาวบ้านลุ่มน้ำโขงดัง กล่าว โดยหากไม่มีการกล่าวขอโทษจะมีการยกขบวนไปหา

“คนจนไม่ใช่คนโง่ หยุดบิดเบือนความจริงเรื่องเขื่อนไซยะบุรี หยุดเหยียบย่ำคนจน” ข้อความในแถลงการณ์ระบุ

เนื้อหาของแถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า ตามที่นายเรวัติ สุวรรณกิตติ รักษาการผู้จัดการบริษัทไซยะบุรีพาวเวอร์ ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัทช.การช่าง ได้ให้สัมภาษณ์ในหนังสือพิมพ์นิวยอร์กทามส์เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ.2555 ว่า “พวกนักสิ่งแวดล้อมพยายามก่อกวนให้เกิดความขัดแย้งและสร้างความโกรธเคืองให้ กับพวกชาวบ้านที่ไร้การศึกษาและพวกที่ถูกชักจูงไปในทางที่ผิดๆ”
เครือข่ายประชาชน 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง เครือข่ายสภาองค์กรชุมชนตำบลลุ่มน้ำโขง 7 จังหวัดภาคอีสาน สภาองค์กรชุมชนตำบลภาคอีสาน 19 จังหวัด ขอประณามการเหยียดหยามคนลุ่มน้ำโขงดังกล่าวว่าเป็นการแสดงออกที่ขาดการเคารพ ความเป็นมนุษย์ ไร้ซึ่งความเป็นคนเพราะคนที่ดูถูกคนนั้นไม่ใช่คน เป็นคำพูดที่ไม่น่าจะหลุดออกมาจากปากของคนที่บอกว่าตัวเองมีการศึกษา สร้างโครงการเพื่อประโยชน์ของคนอื่นและอย่างโปร่งใส ไม่ใช่ทำเพื่อประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง ซึ่งความคิดของผู้นำบริษัทอย่างนี้ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าโครงการนี้ ทำไปเพื่อใคร พวกนี้คิดถึงชาวบ้านแค่ไหน อย่างไร

(อ่านต่อ
http://www.prachatai.com/journal/2012/11/43582

Wake up Thailand ประจำวันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2555

Wake up Thailand ประจำวันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2555  



ทหารแก่(มาก) ไม่ยอมตาย 

ทหารแก่(มาก) ไม่ยอมตาย

(คลิกฟัง)
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=HjqEkCPEv80

Divas Cafe ประจำวันที่ 9 พฤศจิกายน 2555

Divas Cafe ประจำวันที่ 9 พฤศจิกายน 2555


มิติทางสังคมกับการก้าวสู่ประชาคมอาเซียน 

มิติทางสังคมกับการก้าวสู่ประชาคมอาเซียน

(คลิกฟัง)
http://www.dailymotion.com/video/xuynfk_

ประมวลภาพพระราชพิธีฯ ถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

ประมวลภาพพระราชพิธีฯ ถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค





ประเพณี แห่เรือประเทศอังกฤษ เขาให้ชนเผ่าทุกเผ่า
ที่เคยอยู่ในอาณานิคม รวมทั้งประชาชนมาร่วมงานกัน
ไม่แบ่งชนชั้น  นั้นคือประชาธิปไตยจริงๆ



 
"สมเด็จพระบรมฯ"เสด็จฯโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ถวายผ้าพระกฐิน วัดอรุณฯ