หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2555

ในเรื่องกษัตริย์ คอป. ฟันธงยืนข้างอำมาตย์


แดงสังคมนิยม

ในเรื่องกษัตริย์ คอป. ฟันธงยืนข้างอำมาตย์


โดย ใจ อึ๊งภากรณ์


รายงาน ฉบับสมบูรณ์ของคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่ง ชาติ ( คอป.) ในหมวดที่เกี่ยวกับกษัตริย์พิสูจน์ว่า คอป. ที่อ้างตัวเป็นกลางนั้น ยืนอยู่เคียงข้างชนชั้นปกครองหรืออำมาตย์ เพราะเสนอเหมือนกับว่าเป็น “ข้อมูลความจริงที่ค้านไม่ได้” ว่า “สถาบันพระมหากษัตริย์...เป็นที่สักการะและหวงแหนของปวงชนชาวไทย” ซึ่งไม่ตรงกับความจริงในสังคม ไม่ว่าจะเป็นช่วงนี้ หรือช่วงสงครามพรรคคอมมิวนิสต์ หรือช่วงปฏิวัติ ๒๔๗๕ หรือช่วงท้ายของรัชกาลที่ ๕

คอป. มีการตอแหลว่ารัฐบาลควร “สนับสนุนให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และทำความเข้าใจร่วมกันของสังคม เกี่ยวกับสถานะและบทบาทของสถาบันพระมหากษัตริย์ ในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” แต่เพื่อให้ทุกคนมาจงรักภักดี ไม่ใช่ว่าจะเปิดโอกาสให้พลเมืองแลกเปลี่ยนกันว่าควรมีหรือไม่มีระบบกษัตริย์ ที่เป็นประมุข ในสายตา คอป. เราไม่มีสิทธิ์เสนอว่าประเทศไทยควรปกครองในรูปแบบฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี่ อินโดนีเซีย หรือฟิลิปปินส์แต่อย่างใด และแม้แต่สิทธิเสรีภาพในการวิจารณ์สถาบันกษัตริย์ แบบที่มีในอังกฤษ และสแกนดิเนเวีย พลเมืองไทยก็ไม่ควรมีสิทธิ์ตามความเห็นของ คอป. โดยมีการอ้างวัฒนธรรมไทย ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นวัฒนธรรมของอำมาตย์ ไม่ใช่ของคนไทยทั้งสังคม

ในเรื่อง 112 คอป. เสนอว่าควรมีการ “ดำเนินการอย่างเด็ดขาดต่อผู้ที่จาบจ้วงล่วงละเมิดด้วยเจตนาร้ายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์” คือคงไว้ 112 และ ใช้อย่างเด็ดขาดถึงแม้ว่าอาจมีการปฏิรูปแบบผักชีโรยหน้าบ้าง ซึ่งการปฏิรูปดังกล่าวจะไม่มีความหมายมากนัดในรูปธรรม คอป. ไม่มีการพูดถึงศาลที่ปิดลับ และไม่มีการพูดถึงความสำคัญของความโปร่งใสและการตรวจสอบบุคคลที่มีตำแหน่ง สาธารณะแต่อย่างใด และนอกจากนี้ไม่กล่าวถึงการที่คนโดน 112 ทั้งๆ ที่เขียนหรือพูดความจริง

การที่ผมโดนข้อหา 112 ส่วน หนึ่งมาจากการตั้งคำถามในหนังสือวิชาการว่า “กษัตริย์ควรปกป้องรัฐธรรมนูญจากการทำรัฐประหารหรือไม่?” ผมขอเพิ่มอีกคำถามว่า “กษัตริย์ควรพยายามปกป้องพลเมืองไทยจากการถูกทหารเข่นฆ่าหรือไม่ หรืออย่างน้อยวิจารณ์ทหารมือเปื้อนเลือดได้ไหม?” แต่คำถามแบบนี้คงเป็นคำถามต้องห้ามในสายตา คอป.

สถาบันกษัตริย์ไทยเป็นเครื่องมือเพื่อสร้างอำนาจและความชอบธรรมใหกับซีก ต่างๆ ของชนชั้นปกครองในการกดขี่ขูดรีดพลเมือง ซีกต่างๆ นี้ประกอบไปด้วยกองทัพ ข้าราชการชั้นสูงและนายทุน ดังนั้นการที่ คอป. มองว่าต้องปกป้องสถาบันกษัตริย์โดยไม่มีทางเลือกอื่น หมายความว่า คอป. กำลังฟันธงปกป้องซีกต่างๆ ของชนชั้นปกครองไทยที่กดขี่เข่นฆ่าประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง

มีคนอื่นวิจารณ์รายงานของ คอป. ในเรื่องที่ทหารเข่นฆ่าเสื้อแดงแล้ว ผมเห็นด้วยกับสาระสำคัญของคำวิจารณ์ของ พิภพ อุดมอิทธิพงศ์ และจะไม่กล่าวอะไรซ้ำ

ส่วนข้อเสนอแนะให้กับทหารของ คอป.นั้น อ่านแล้วเหมือนคนมือไม้อ่อนขอร้องให้โจรเป็นคนดี ไม่มีความหมายเลย ไม่มีการเสนอว่าควรมีการดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับทหารที่แทรกแซงการเมือง หรือฆ่าประชาชนแต่อย่างใด

(ที่มา)
http://redthaisocialist.com/2011-01-20-12-41-04/375-2012-09-18-07-00-43.html

เสียสละ

เสียสละ


 
โดย วรศักดิ์ ประยูรศุข
   
รายงานฉบับสมบูรณ์ของ คอป. มีอีกประเด็นที่ไปทางไหนก็มีคนพูดถึง

นั่นคือ ข้อเสนอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เสียสละ เป็น "รัฐบุรุษ" อยู่นอกประเทศ เพื่อความสงบสุขของ "ส่วนรวม" คือประเทศไทย

โดยยกตัวอย่างกรณีของ นายปรีดี พนมยงค์ ผู้ก่อการ 2475 อดีตนายกรัฐมนตรี ฯลฯ ขึ้นมาอ้าง

ปัญญาชน และคนไทยทั่วไปที่ใฝ่รู้ เชื่อว่า จะทราบประวัติชีวิตและผลงาน ของนายปรีดี พนมยงค์ เป็นอย่างดี

หนังสือ เอกสาร และสื่อต่างๆ ที่เล่าเรื่องราวของนายปรีดี มีอยู่มากมาย

งานสำคัญของนายปรีดีได้แก่ การเปลี่ยนแปลงการปกครอง เมื่อ พ.ศ. 2475 ซึ่งครบรอบ 80 ปี ในปีนี้

นาย ปรีดีได้ชื่อว่าเป็น "มันสมอง" ของคณะราษฎร ผู้ก่อการ 2475 ด้วยความเป็นนักกฎหมายระดับดอกเตอร์ และประกาศนียบัตรชั้นสูงทางด้านเศรษฐกิจ จากมหาวิทยาลัยปารีส

โปรดอ่านอีกครั้ง คำสั่งศาล-รายงานคอป. อะไรกันแน่ที่′ดำ′

โปรดอ่านอีกครั้ง คำสั่งศาล-รายงานคอป. อะไรกันแน่ที่′ดำ′



"จากพฤติการณ์ต่างๆ ดังกล่าวเชื่อว่าวันเกิดเหตุ กลุ่มที่ร่วมระดมยิงอาวุธปืนที่ใช้ในราชการสงคราม ใส่รถตู้คันเกิดเหตุนั้นเป็นเจ้าพนักงานทหาร แม้ไม่มีประจักษ์พยานเห็นว่าผู้ตายถูกลูกกระสุนปืนของผู้ใด แต่บริเวณที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ควบคุมของเจ้าพนักงานทหาร ที่ควบคุมพื้นที่ทั้ง 2 ฝั่งถนนของที่เกิดเหตุ"...ในช่วงเกิด เหตุไม่มีคนร้ายเข้าไปในที่เกิดเหตุ ในลักษณะเข้าไปยิงปะทะต่อสู้กับเจ้าพนักงานทหารตามที่วินิจฉัยข้างต้น คงมีเพียงเจ้าพนักงานทหารที่สามารถใช้อาวุธปืนยิง รถตู้ เพราะฝ่าฝืนคำสั่งที่ประกาศเตือนไม่ให้แล่นเข้าไปในพื้นที่ควบคุม เป็นเวลาเดียวกับ ผู้ตายวิ่งออกไปดูเหตุการณ์หน้าสำนักงานขายคอนโดฯ

"...ศาล จึงมีคำสั่งว่า ผู้ตายชื่อนายพัน คำกอง ตายที่หน้าที่สำนักงานขายคอนโด มิเนียม ชื่อไอดีโอคอนโด ถนนราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2553 เวลากลางคืน ก่อนเที่ยงคืน เหตุและพฤติการณ์ที่ตายเกิดจาก การถูกลูกกระสุนปืนขนาด .223 (5.56 มม.) จากอาวุธปืนที่ใช้ในราชการสงคราม ที่เจ้าพนักงานทหารร่วมกันยิงไปที่รถตู้หมายเลขทะเบียน ฮค 8561 กรุงเทพมหานคร มี นายสมร ไหมทอง เป็นผู้ขับ แล้วลูกกระสุนปืนไปถูกผู้ตายถึงแก่ความตาย

"ในขณะเจ้าพนักงานทหารกำลังปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบปิดล้อมพื้นที่ควบคุม ตามคำสั่งของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)"

 
คือคำชี้คดีของศาลอาญาเมื่อวันจันทร์ที่ 17 กันยายน 2555


"เหตุการณ์ 10 เม.ย. 2553 บริเวณ สี่แยกคอกวัวและถนนดินสอเป็นช่วงรุนแรงมากที่สุด พบหลักฐานการปรากฏตัวของชายชุดดำ ใช้อาวุธโจมตีทหารบริเวณถนนตะนาวและถนนข้าวสาร จากการตรวจสอบทั้งจาก คอป.และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน พบการใช้ระเบิดเอ็ม 79 และอาวุธปืนยาวยิงใส่เจ้าหน้าที่

"สรุปได้ว่า มีชายชุดดำจริงในเหตุการณ์ต่างๆ และยังพบว่า คนชุดดำที่มีอาวุธสงครามบางคนเกี่ยวพันใกล้ชิดกับ พล.ต. ขัตติยะ สวัสดิผล หรือเสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก อาจหมายถึงใกล้ชิดไปไหนมาไหนด้วยกัน

“ชาญวิทย์ เกษตรศิริ” โพสต์เฟซบุค ชี้ความผิดพลาดมหันต์ "คณิต ณ นคร" จี้ "ทักษิณ" เสียสละ

“ชาญวิทย์ เกษตรศิริ” โพสต์เฟซบุค ชี้ความผิดพลาดมหันต์ "คณิต ณ นคร" จี้ "ทักษิณ" เสียสละ


 
ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ นักประวัติศาสตร์ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความในเฟซบุคส่วนตัว ให้ความเห็น กรณี ดร.คณิต ณ นคร ประธาน คอป.  มีข้อเสนอแนะแนบท้าย ไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ดังนี้

ศ. ดร. คณิต ณ นคร เป็น ประธานกรรมการอิสระตรวจสอบ และค้นหาความจริง เพื่อการปรองดองแห่งชาติ หรือ “คอป” (พร้อมรายงาน 300  หน้า)

เป็น คณบดี คณะนิติศาสตร์ ม. ธุรกิจบัณฑิตย์ เป็น อดีตอัยการสูงสุด เป็น อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2539 เป็น อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย คนแรก
 
ศ. ดร. คณิต ณ นคร

มีข้อผิดพลาดมหันต์ และขาดความรอบรู้ทาง ประวัติศาสตร์การเมืองไทย กับความรู้เกี่ยวกับ ฯพณฯ ปรีดี พนมยงค์ โดยมีข้อเสนอแนะแนบท้าย ไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่าจะเป็นบุคคลที่ถูกเรียกว่า “สเตทแมน” (Stateman) หรือรัฐบุรุษได้ ต้องรู้จักคำว่าเสียสละ
  
พร้อมหยิบยกกรณีของอาจารย์ปรีดี พนมยงค์ มาเล่าให้ฟัง ถึงการเสียสละเพื่อส่วนรวม โดยทำงานเพื่อประเทศ และประชาชนคนไทย แต่ไม่เดินทางกลับไทย เพียงเพราะหวังให้บ้านเมืองสงบสุข
 
ศ. ดร. คณิต ณ นคร มิได้ศึกษา หรือตระหนักว่า ในฐานะนักการเมืองไทย ฯพณฯ ปรีดี

ได้พยายามกลับเมืองไทย หลายต่อหลายครั้ง
 
และ ครั้งหนึ่งได้กลับมาทำ “ขบวนการประชาธิปใตย  26 กุมภาพันธุ์ 2492/1951” คือ ยึดอำนาจรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม แต่ล้มเหลว ถูกปราบปรามหนัก ด้วยอาวุธสงคราม ขบวนการนั้น จึงถูกเรียกว่า “กบฎวังหลวง”

ความ พยายามยึดอำนาจครั้งนั้น ฯพณฯ ปรีดี ได้รับความร่วมมือจาก อดึตเสรีไทย (บางส่วน) อาจารย์นักศึกษา มธก (บางส่วน) และ นายทหารเรือ (บางส่วน)

ผู้ ก่อการฯ ถูกปราบปรามหนัก ฯพณฯ ปรีดี ต้องหลบซ่อนอยู่ในบ้านแถวฝั่งธน เป็นเวลา 6 เดือน จนกระทั่งหลบหนีออกไปได้ และไม่สามารถกลับมาเมืองไทยได้อีกเลย

 นี่เป็นการหนีออกครั้งที่สอง

ครั้ง แรก คือ หลัง “รัฐประหาร 2490/1947” (นำโดยผิน ชุนหะวัน) ข้อมูลการหลบหนีนี้ นักวิชาการ ผู้คน และเวป จำนวนไม่น้อย จำสับสนว่าเป็นเรื่องเดียวกัน (ดังนั้น ควรระมัดระวังข้อมูล)

ความ ล้มเหลวครั้งนี้ สมาชิกของเสรีไทย อดีตผู้นำ นักการเมือง “คณะราษฎร” ปีกเสรีนิยม บางคนถูกฆ่า ยิงทิ้ง เช่น ทองอินทร์ ภูริพัฒน์, จำลอง ดาวเรือง, ถวิล อุดล, ทองเปลว ชลภูมิ, เตียง ศิริขันธ์,โผน อินทรทัต, ทวี ตะเวทิกุล, ฯลฯ นี่เป็นการปิดบทบาทฝ่ายเสรีนิยม ฝ่ายนักการเมืองพลเรือน ไปนานแสนนาน

(นี่ยังไม่นับ ช่วง ประวัติศาสตร์การเมือง ของการผงาดขึ้นมาของระบอบสฤษดิ์/ถนอม/ประภาส ตลอดจนการฟื้นฟู และสถาปนาพระราชอำนาจนำ ของรัชกาลปัจจุบัน ครับ)
  
หมายเหตุ
ความ พยายามของชนชั้นนำ อีลีต ผู้ดี ไฮโซ ที่จะสร้าง “วาทกรรมการเมือง” ว่าด้วยเรื่องของ “เทพ ธรรมะ คนดี คนมีศีลธรรม” ทำให้การศึกษา ประวัติศาสตร์ การเมือง วิชารัฐศาสตร์ วิชานิติศาสตร์ ฯลฯ กลายเป็นเรื่องของ ความเชื่อ อุดมการณ์ มากกว่าเรื่องของวิชาการ เรื่องของความรู้ เรื่องของสติปัญญา ตามแนวทางที่ว่า “นตถิปัญญา สมาอาภา” หรือ “แสงสว่าง เสมอด้วยปัญญา ไม่มี”

(ที่มา)

ชาวอินเดียนับล้านประท้วงใหญ่ต้านค้าปลีกข้ามชาติ

ชาวอินเดียนับล้านประท้วงใหญ่ต้านค้าปลีกข้ามชาติ

 

http://www.matichon.co.th/online/2012/09/13481364741348136520l.jpg 


ชาวอินเดียนับล้านประท้วงใหญ่ต้านค้าปลีกข้ามชาติ
http://news.voicetv.co.th/global/51011.html
 
เจาะนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจอินเดีย
http://news.voicetv.co.th/global/51012.html 


ชาวอินเดียจำนวนหลายล้านคนร่วมหยุดงานประท้วงทั่วประเทศ เพื่อต่อต้านนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งอนุญาตให้บรรษัทค้าปลีกข้ามชาติเปิดกิจการในประเทศได้ ขณะที่รัฐบาลยืนยันว่านโยบายดังกล่าวจำเป็นต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลัง อยู่ในภาวะซบเซา
 
กลุ่มผู้สนับสนุนพรรคภาราติยะ ชานาตา หรือ BJP พรรคฝ่ายค้านสำคัญของอินเดีย และสมาชิกสหภาพแรงงานส่วนใหญ่ในประเทศ ร่วมกันหยุดงานประท้วงและเดินขบวนตามเมืองใหญ่ต่างๆ รวมถึงในกรุงนิวเดลี นครโกลกัตตา และนครบังกาลอร์ เพื่อต่อต้านการปฏิรูปเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยคาดว่าผู้ที่เข้าร่วมการชุมนุมครั้งนี้มีจำนวนกว่า 50 ล้านคน
 
ในอุตตรประเทศ ผู้ประท้วงส่วนหนึ่งปิดกั้นทางรถไฟสายหลัก ทำให้การสัญจรไม่สามารถใช้การได้ตลอดทั้งวัน ส่งผลให้มีผู้โดยสารตกค้างตามสถานีต่างๆ เป็นจำนวนมาก ขณะที่ในโกลกัตตา ซึ่งเป็นสถานที่ประท้วงหลัก เนื่องจากเป็นพื้นที่ฐานเสียงของพรรค BJP อาคารร้านค้า รวมถึงโรงเรียนและระบบขนส่งส่วนใหญ่ต่างปิดให้บริการ เช่นเดียวกับในนครบังกาลอร์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่บริษัทอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างชาติจำนวน มาก ที่อาคารห้างร้านเกือบทั้งหมดในเมืองถูกปิดตายลงเช่นเดียวกัน
 
การประท้วงดังกล่าว เกิดจากความไม่พอใจของกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย พนักงานร้านค้า รวมถึงผู้ที่ทำงานในภาคค้าปลีกท้องถิ่นอื่นๆ ที่นโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจฉบับล่าสุดของรัฐบาล จะส่งผลให้บรรษัทค้าปลีกข้ามชาติยักษ์ใหญ่อย่างเทสโกของอังกฤษ และวอลมาร์ทของสหรัฐฯ เข้ามาเปิดกิจการในประเทศ ซึ่งจะทำให้คนอินเดียจำนวนมากต้องตกงาน รวมถึงอาจทำให้วัฒนธรรมการบริโภคและการจับจ่ายใช้สอยของชาวอินเดียต้อง เปลี่ยนแปลงไป
 
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลของนายมานโมฮัน ซิงห์ นายกรัฐมนตรีอินเดีย ยืนยันว่านโยบายดังกล่าวเป็นมาตรการที่จำเป็น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังอยู่ในภาวะซบเซา และการลงทุนจากต่างชาติที่เพิ่มขึ้นนี้ จะช่วยเพิ่มอัตราการจ้างงาน มากกว่าทำให้มีผู้ตกงานเป็นจำนวนมากเช่นที่ประชาชนส่วนใหญ่กังวล

พบหลักฐานโบราณระบุ 'พระเยซูทรงมีพระชายา​'

พบหลักฐานโบราณระบุ 'พระเยซูทรงมีพระชายา​'

 

พบหลักฐานโบราณระบุ 'พระเยซูทรงมีพระชายา​'

 
นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เปิดเผยหลักฐานโบราณที่ระบุว่า พระเยซูทรงเคยตรัสถึงพระชายา ซึ่งยังไม่มีการยืนยันถึงข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ แต่ถือเป็นหลักฐานชิ้นแรกที่อ้างว่า ศาสดาของศาสนาคริสต์ทรงเคยผ่านการแต่งงานมาก่อน
 
ศาสตราจารย์คาเรน คิง นักวิชาการประจำวิทยาลัยเทวศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา นำชิ้นส่วนกระดาษปาปิรุสโบราณ ซึ่งเป็นหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรชิ้นแรกที่ระบุว่า พระเยซูทรงมีพระชายา ออกมานำเสนอในงานประชุมวิชาการด้านคอปติกศึกษา ที่มหาวิทยาลัยของนครรัฐวาติกัน
 
โดยศาสตราจารย์คิงเชื่อว่า หลักฐานชิ้นนี้จะก่อให้เกิดการถกเถียงเกี่ยวกับประเด็นเรื่องสานุศิษย์และ บทบาทของสตรีในศาสนาคริสต์ ยุคโบราณ แม้ว่าอาจจะเกิดการโต้แย้งว่า ชิ้นส่วนกระดาษปาปิรุสและข้อความบนกระดาษชิ้นนี้เป็นของจริงที่บันทึกโดยนัก เทววิทยาในสมัยนั้นจริงหรือไม่
 
สำหรับชิ้นส่วนกระดาษปาปิรุสดังกล่าว มีขนาดกว้าง 4 เซนติเมตร ยาว 8 เซนติเมตร โดยบันทึกด้วยภาษาคอปติกโบราณเป็นข้อความที่แปลได้ว่า "พระเยซูกล่าวต่อพวกเขาว่า ชายาของข้าพเจ้า..." และอีกข้อความหนึ่งระบุว่า 'เธอจะเป็นศิษย์ของข้าพเจ้า'
 
ขณะที่นักวิชาการหลายคน เช่น นักปาปิรุสศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮัมบูร์ก มองว่า ชิ้นส่วนกระดาษปาปิรุสดังกล่าวไม่น่าจะเป็นของจริง ซึ่งศาสตราจารย์คิง ผู้นำเสนอหลักฐานสำคัญชิ้นนี้ก็ยอมรับว่า เธอก็มีความสงสัยเช่นกันว่าข้อความที่บันทึกด้วยภาษาคอปติกนั้นจะมีน้ำหนัก ยืนยันถึงพระสถานะสมรสของพระเยซู
 
อย่างไรก็ตาม เธอยืนยันว่า กระดาษปาปิรุสชิ้นนี้เป็นบันทึกเกี่ยวกับความเชื่อของชาวคริสต์ในสมัยศตวรรษ ที่ 2 ที่เชื่อว่า พระเยซูทรงมีพระชายาอยู่จริง
 
สำหรับประเด็นเรื่องพระชายาของพระเยซูเคยเป็นข้อถกเถียงอย่างกว้างขวางใน ช่วงปี 2546 หลังจากที่นวนิยายเรื่อง 'รหัสลับดาวินชี' ของแดน บราวน์ ซึ่งสร้างความไม่พอใจเป็นอย่างมากให้แก่ศาสนจักรโรมันคาทอลิกและชาวคริสต์ จำนวนมาก

(คลิกฟัง)
http://news.voicetv.co.th/global/51024.html

Wake up Thailand

Wake up Thailand

 

ไทยรั้งอันดับ 4 ใกล้แชมป์รัฐประหารโลก


ไทยรั้งอันดับ 4 ใกล้แชมป์รัฐประหารโลก
Wake up Thailand 20 กันยายน 2555   
http://shows.voicetv.co.th/wakeup-thailand



19 กันยารัฐประหารแบบ innocent
Wake up Thailand  19 กันยายน 2555   
http://shows.voicetv.co.th/wakeup-thailand/50802.html 

The Daily Dose

The Daily Dose


  

 

ในที่สุดซูจีก็ได้ไป Land of the Free 
The Daily Dose ประจำวันที่ 20 กันยายน 2555 
http://shows.voicetv.co.th/the-daily-dose

ชุมนุมจัดตั้ง Occupy ครบรอบ 1 ปี 
TheDaily Dose ประจำวันที่ 19 กันยายน 2555  
http://shows.voicetv.co.th/the-daily-dose/50889.html

Divas Cafe

Divas Cafe

แดงโห่ ปชป เฮ นักวิชาการซัด กระแสตีกลับเพื่อไทย Divas Cafe 13มิย55
http://youtu.be/vTCbQdANN1k


คอป.คิดไปเอง ? 'ปรีดี' เสียสละ..ไม่ขอกลับไทย
Divas Cafe ประจำวันที่ 20 กันยายน 2555
http://shows.voicetv.co.th/divas-cafe

6 ปีรัฐประหาร ยุติธรรมไม่มี ความจริงไม่ปรากฏ
รายการ Divas Cafe ประจำวันที่ 19 กันยายน 2555
http://shows.voicetv.co.th/divas-cafe/50864.html

ที่นี่ความจริง อ.ตุ้ม อ.หวาน 18กย55

ที่นี่ความจริง อ.ตุ้ม อ.หวาน 18กย55

 

 

(คลิกฟัง)
http://www.youtube.com/watch?v=3tF8SNu3vlE

คอป. เห็น 'ตุลาการ' ชัดกว่า 'ชายชุดดำ'

คอป. เห็น 'ตุลาการ' ชัดกว่า 'ชายชุดดำ'

 

โดยวีรพัฒน์ ปริยวงศ์
นักกฎหมายอิสระ
http://www.facebook.com/verapat



อ วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ รายงาน คอป และเรื่องคดี พัน คำกอง 20 9 2012
http://www.youtube.com/watch?v=P1I5z8hYAQE 


รายงานฉบับสมบูรณ์ โดย ‘คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ’ (คอป.) ได้ กล่าวถึง ประเด็น ‘สถาบันตุลาการ’ ไว้พอสมควร ซึ่งผู้เขียนจะขอนำเนื้อหาบางส่วนมาชวนสังคมร่วมกันคิดต่อว่า ‘ตุลาการ’ เป็นส่วนหนึ่งของ ‘รากเหง้า’ ความขัดแย้งหรือไม่ ? และ ‘ตุลาการ’ ควรจะปรับตัวเพื่อร่วมสร้างความปรองดองในสังคมไทยอย่างไร ? ดังนี้


1. นักการเมืองซุกหุ้น แต่ตุลาการ หักดิบ’ กฎหมาย
คอป. เล่าถึงบริบทความขัดแย้งตาม ‘แบบฉบับมาตรฐาน’ โดยนำยุคสมัย ‘รัฐบาลไทยรักไทย’ มาเป็นจุดเริ่มต้นของลำดับเหตุการณ์  รายงาน คอป. ระบุว่า

“[รัฐบาลไทยรักไทย] ถูกกล่าวหาว่าละเมิดหลักการประชาธิปไตย หลักนิติธรรม คุณธรรมและสิทธิมนุษยชน ใช้อำนาจแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมืองและธุรกิจ แต่ระบบตรวจสอบกลับอ่อนแอและขาดประสิทธิภาพและถูกกล่าวหาว่าถูกแทรกแซงโดย ฝ่ายบริหาร จนทำให้ผู้นำกองทัพทำรัฐประหารในปี 2549 ซึ่งเป็นการใช้อำนาจนอกระบบในการแก้ปัญหาและเป็นการละเมิดหลักประชาธิปไตย อย่างร้ายแรง แทนที่จะเป็นการแก้ปัญหาทางการเมือง การรัฐประหารกลับกลายเป็นเงื่อนไขที่ทำให้ความขัดแย้งทางการเมืองขยายตัว มีความซับซ้อนและเป็นบาดแผลทางการเมืองที่ร้าวลึกมาจนถึงปัจจุบัน” (หน้า 53-54)

จากนั้น คอป.  จึงวิเคราะห์เชื่อมโยงความเกี่ยวข้องระหว่าง ตุลาการและความรุนแรงทางการเมือง โดยให้ความสำคัญอย่างมากกับ คดีซุกหุ้น ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยเมื่อปี 2544 ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มิได้กระทำผิดกฎหมาย โดยรายงาน คอป. ระบุว่า

อำนาจตุลาการซึ่งควรต้องมีบทบาทและหน้าที่ในการผดุงไว้ซึ่ง หลักนิติธรรม กลับไม่สามารถทำหน้าที่ในการยุติความขัดแย้งทางการเมืองได้ และยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นผู้ละเมิดหลักนิติธรรมเสียเอง (รายงานหน้า 54, เน้นคำหนาโดย คอป.) และระบุต่อว่า กรณีจึงกลายเป็นปัญหารากเหง้าและปมปัญหาของความขัดแย้งในระยะต่อมา…”  (หน้า 54, เน้นคำโดยผู้เขียน) 

ยิ่งไปกว่านั้น คอป. ได้วิเคราะห์ถึงปัญหาทางกฎหมายของคำวินิจฉัยดังกล่าวอย่างเจาะจง และอ้างถึงความคิดเห็นของตุลาการรายบุคคลสองท่าน ก่อนจะติติงอย่างเข้มข้นถึงคำวินิจฉัย ‘คดีซุกหุ้น’ดังกล่าวว่า

เป็น การปฏิบัติที่ผิดหลักกฎหมายโดยแท้ และเป็น ความผิดพลาดของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่ง เป็นการบิดเบือนหรือหักดิบกฎหมาย อันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทให้สังคมเกิดความเคลือบแคลงในหลักนิติธรรมของประเทศไทย  (รายงานหน้า 55, เน้นคำโดยผู้เขียน)

(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2012/09/42735

นานาทัศนะ: ทำอย่างไร หากมีการ "ขัดขืนมติมหาชน" อีกครั้ง

นานาทัศนะ: ทำอย่างไร หากมีการ "ขัดขืนมติมหาชน" อีกครั้ง


 


2012-09-20-ทัศนะ "อุทัย พิมพ์ใจชน"  

2012-09-20-ทัศนะ "สิริวัฒน์ ไกรสินธุ์"  

2012-09-20-ทัศนะ "สมบัติ บุญงามอนงค์"  

เนื่องในเดือนแห่งการรำลึกรัฐประหาร ๑๙ ก.ย.  ฟังทัศนะนักต้านรัฐประหารสามรุ่น – ‘อุทัย พิมพ์ใจชน’ นักต้านรัฐประหาร ๑๗ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๑๔ ‘สิริวัฒน์ ไกรสินธุ์’ นักต้านรัฐประหาร ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๔ และ ‘สมบัติ บุญงามอนงค์’ นักต้านรัฐประหาร ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ กับคำถามที่ว่า "หากมีการขัดขืนมติมหาชนอีกครั้ง" เราควรทำเช่นไร?

อนึ่งบทสัมภาษณ์นี้เป็นการสัมภาษณ์ทัศนคติสั้นๆ ว่าหากมีการค้านมติมหาชนจากคนกลุ่มน้อยที่มีอำนาจ ประชาชนควรทำเช่นไร (เป็นการสัมภาษณ์เมื่อช่วงเดือนเมษายน 2555 ที่ผ่านมา และตัดบางส่วนบางจากหนังสือประชาชนต้านรัฐประหาร)

(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2012/09/42743

เสื้อแดงกลุ่มย่อยจัด "ชายชุดดำทำรัฐประหาร" ประจาน 6 ปี รัฐประหาร

เสื้อแดงกลุ่มย่อยจัด "ชายชุดดำทำรัฐประหาร" ประจาน 6 ปี รัฐประหาร




 

เมื่อเวลา 17.00 น. วานนี้ (19 ก.ย. 55) ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน คนเสื้อแดงกลุ่ม Cyber Ranger กลุ่มเสรีราษฎร กลุ่มปฏิญญาหน้าศาล กลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตยและกลุ่มเสื้อแดงบางนา รวมทั้งสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) ร่วมจัดกิจกรรม “ชายชุดดำทำรัฐประหาร” ประจานการทำรัฐประหาร เนื่องในวาระครบรอบ 6 ปีการรัฐประหารในวันที่ 19 ก.ย.49 เปรียบคนสังการ เป็น “มือที่มองไม่เห็น” เหมือน “ชายชุดดำ” ในเหตุการณ์ เมษา-พ.ค.53 ที่ไม่ทราบว่าเป็นใคร

โดยมีกิจกรรมปราศรัยในประเด็นเกี่ยวกับการรัฐประหาร การแสดงเชิงสัญญาลักษณ์เพื่อประจารการรัฐประหาร จัดนิทรรศการภาพเหตุการณ์การรัฐประหารและการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐประหาร รวมทั้งการจุดเทียนรำลึกและเขียนข้อความถึงกองทัพไทย ซึ่ง นายซิม ไฮแอท จากกลุ่ม Cyber Ranger ผู้ร่วมจัดกิจกรรม ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าข้อความที่ผู้ชุมนุมเขียนนั้นจะมีการนำไปยื่น ต่อกองทัพบกในวันที่ 20 ก.ย.55 เวลา 11.00 น. ต่อจากนั้นจะไปยื่นหนังสือต่อสถานีโทรทัศน์ ASTV และพรรคประชาธิปัตย์ ในเวลา 13.00 น.และ 15.00 น.ตามลำดับ โดยอ้างว่า เพื่อเรียกร้องให้ยุติการสนับสนุนการทำรัฐประหาร

นายซิม ไฮแอท กล่าวถึงชื่อกิจกรรม “ชายชุดดำทำรัฐประหาร” โดยให้เหตุผลว่าเหมือนตอนสลายการชุมนุม เมษา - พ.ค. 53 ที่มี “ชายชุดดำ” ซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้จับมือมาดมก็ไม่ได้ ซึ่งเหมือนเป็น “มือที่มองไม่เห็น” ที่ออกคำสั่งในการทำรัฐประหาร

นายซิม ไฮแอท ยังกล่าด้วยว่า การรัฐประหารไม่ใช่สิ่งดีที่น่ารำลึก เราต้องการประจานการกระทำการรัฐประหารที่วันนี้เรายังไม่ลืม เวทีนี้เป็นเวทีเปิดที่ไม่ใช่เฉพาะคนเสื้อแดงเท่านั้น ซึ่งใครไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหารก็มาร่วมกับเราได้ นายซิม ไฮแอท กล่าวด้วยว่าการรัฐประหารไม่ได้ช่วยแก่ปัญหาอะไร วันนี้มาแสดงพลังเพื่อต้องการให้ผู้ที่ทำรัฐประหารรู้ว่าพวกเรายังไม่ลืม โดยกิจกรรมดังกล่าวยุติลงตามกำหนดในเวลา 21.00 น. ท่ามกลางสายฝนที่ตกตั้งแต่ช่วงต้นของกิจกรรม

(ที่มา)
http://www.prachatai.com/journal/2012/09/42737 

เฉลยแล้ว!!! ภาพ "ชายชุดดำ" ที่ "น้องเดียร์" โพสต์ว่อนเน็ต เป็นอย่างไรไปชมกัน...

เฉลยแล้ว!!! ภาพ "ชายชุดดำ" ที่ "น้องเดียร์"โพสต์ว่อนเน็ต เป็นอย่างไรไปชมกัน...



(คลิกชม) 
http://www.go6tv.com/2012/09/11.html

“ปิดตา นั่งเงียบ 112 นาที” หน้าศาล ประท้วง "ความยุติธรรม" ร้องปล่อยนักโทษการเมือง

“ปิดตา นั่งเงียบ 112 นาที” หน้าศาล ประท้วง "ความยุติธรรม" ร้องปล่อยนักโทษการเมือง


 



เมื่อวันที่ 19 ก.ย.55 เวลา 10.38 น. ที่บริเวณบาทวิถี หน้าศาลอาญา รัชดา มีผู้ชุมนุมประมาณ 30 คน แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ด้วยการนั่งปิดตาด้วยผ้าดำที่มาข้อความ “ปล่อยนักโทษการเมือง” เป็นเวลา 112 นาที ตั้งแต่เวลา 10.38-12.30 น.

น.ส.จิตรา คชเดช นักสหภาพแรงงาน ผู้ริเริ่มกิจกรรม กล่าวว่า ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นประชาชนนัดแนะกันผ่านทางเฟซบุ๊ก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนเสื้อแดง โดยมีเป้าหมายเนื่องจากวันนี้มีการขึ้นศาลของนายสุรภักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และตามกำหนดการเดิม จะมีการอ่านคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ กรณีที่สมยศ พฤกษาเกษมสุข ยื่นตีความว่ามาตรา 112 ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ แต่ทราบข่าวว่ากรณีหลังมีการเลื่อน จึงต้องมาประท้วงการเลื่อนครั้งนี้ เพราะถือเป็นความยุติธรรมที่มาช้า จึงเป็นความไม่ยุติธรรม

นอกจากนี้ น.ส.จิตรา ยังกล่าวด้วยว่า เป็นการประท้วงการไม่ให้สิทธิประกันตัว ของนายสุรภักดิ์และนายสมยศ รวมถึงนักโทษการเมืองคนอื่นๆ ที่ควรได้รับสิทธิการประกันตัว ซึ่งการแสดงออกนี้ไม่ได้มีการยื่นหนังสือต่อศาลแต่ต้องการให้คนที่สัญจรผ่าน ไปมาบริเวณนี้รับรู้

ทั้งนี้ นายคารม พลพรกลาง ทนายความนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข  ผู้ต้องขังคดี 112 กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ศาลได้โทรแจ้งว่าศาลสั่งเลื่อนนัดที่จะมีในวัน 19 ก.ย. นี้ เนื่องจากยังไม่มีคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญออกมา จากกรณีที่ฝ่ายจำเลยยื่นให้ตีความว่ามาตรา 112  ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ (อ่านเพิ่มเติม) โดยศาลได้นัดฟังคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญอีกครั้งในวันที่ 19 ธ.ค.นี้

(ที่มา)
http://www.prachatai.com/journal/2012/09/42733

รายการจุดเปลี่ยน "ย้อนเกล็ด คอป."

รายการจุดเปลี่ยน  "ย้อนเกล็ด คอป."
 
คิดถึงคุณจักรภพค่ะ http://www.mediafire.com/?6rz4i2ta8ohp3zp คลิปรายการจุดเปลียน วันนี้ จุดเปลี่ยน โดยคุณจักรภพ เพ็ญแข 18กย55 http://www.youtube.com/watch?v=XM7BR3RfW_k&feature=plcp 
รายการจุดเปลี่ยน โดยคุณ จักรภพ เพ็ญแข ในประเด็น "ย้อนเกล็ดคอป." สัมภาษณ์โดย มิดไนท์ซัน นปช.อียูสวีเดน 18 กันยายน 2555

(คลิกฟัง)
http://www.youtube.com/watch?v=XM7BR3RfW_k&feature=plcp&noredirect=1