หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

กรัมชี่กับความคิดขัดแย้งในสมองของมนุษย์

กรัมชี่กับความคิดขัดแย้งในสมองของมนุษย์



ที่กรัมชี่กล่าวไว้คือ วันหนึ่งหากประชาชนในสังคม เรียนรู้จากการต่อสู้ผ่านประสบการณ์ในโลกจริง คนในสังคมก็จะรู้ว่า สิ่งที่ตนเองได้รับการสั่งสอนครอบงำมาตั้งแต่เกิดนั้น มันสวนทางย้อนแย้งกับผลประโยชน์ของตนเอง

โดย ฮิปโปน้อย  บรมสุขเกษม


อันโตนีโอ กรัมชี่ เป็นนักมาร์คซิสต์ชาวอิตาลี ซึ่งเป็นทั้งนักหนังสือพิมพ์ นักเขียน รวมไปถึงเป็นนักสังคมนิยม เขาเคยติดคุกถึง 10 ปี ในช่วงปี 1926-1935 จากการที่หัวหน้าพรรคฟาสซิสต์ขึ้นมามีอำนาจทางการเมืองในอิตาลี จนทำให้ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ถูกกวาดล้างและจับกุม ในช่วงที่กรัมชี่ติดคุกอยู่นั้น เขาได้มีผลงานการเขียนบทความหลาหลายประเด็นในขณะนั้น โดยเรียกบทความที่กรัมชี่เขียนในคุกว่า “สมุดบันทึกจากคุก”(Prison Notebook)

จากสมุดบันทึกในคุกของกรัมชี่ มีอยู่ประเด็นหนึ่งที่พูดถึงเรื่องความคิดและจิตสำนึกของมนุษย์ โดยกรัมชี่พยายามชี้ให้เห็นว่า การที่คนในสังคมดำรงอยู่ในรัฐ ชนชั้นปกครองของรัฐมักจะตีกรอบทางความคิดให้ประชาชนในรัฐ ซึ่งเป็นเหมือนการวางยาให้ประชาชนในรัฐคล้อยตามจนเชื่อง เพื่อจะได้ปกครองง่ายๆ

อย่างเช่น การนำเอาศาสนามาเป็นเครื่องมือ เพื่อลดทอนการต่อสู้ทางชนชั้น ในรูปแบบของการคำสอนที่ว่า มันเป็นเรื่องเวรกรรม พระเจ้าเป็นผู้กำหนด เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ดังนั้นเราจงควรมีความสุขกับสิ่งที่เป็นอยู่ อย่าได้คิดจะเปลี่ยนแปลงสังคม การครอบงำให้คนในสังคมเชื่องนั้น ก็จะผ่านสื่อกลางทาง วัด โรงเรียน สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อวิทยุโทรทัศน์ ฯลฯ

กรัมชี่ได้กล่าวถึงความคิดของมนุษย์ไว้ว่า ในสมองของคนเรานั้น จะมีความคิดกระแสหลักของชนชั้นปกครองตีกรอบไว้ ซึ่งเรียกว่าความคิดกระแสหลัก โดยความคิดกระแสหลักนี้ จะถูกถ่ายทอดจากสถาบันต่างๆ ที่อยู่ในรัฐ เช่น สถาบันศาสนา สถาบันการศึกษา และการสื่อสารมวลชน เมื่อชนชั้นปกครองเป็นผู้ควบคุมปัจจัยการผลิตในสังคม ชนชั้นปกครองย่อมได้เปรียบอยู่แล้ว ในการนำเสนอแนวความคิดของตัวเอง เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง

แต่สิ่งที่เป็นหลุมฝั่งกลบความคิดของชนชั้นปกครอง ที่กรัมชี่กล่าวไว้คือ วันหนึ่งหากประชาชนในสังคม เรียนรู้จากการต่อสู้ผ่านประสบการณ์ในโลกจริง คนในสังคมก็จะรู้ว่า สิ่งที่ตนเองได้รับการสั่งสอนครอบงำมาตั้งแต่เกิดนั้น มันสวนทางย้อนแย้งกับผลประโยชน์ของตนเอง คนในสังคมจะค่อยๆ ตาสว่าง จากการต่อสู้ผ่านเหตุการณ์ความขัดแย้งต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างรัฐกับคนในรัฐ โดยเฉพาะเมื่อถึงคราวที่คนในรัฐลุกขึ้นมาต่อสู้ ในเรื่องของสิทธิเสรีภาพและเพื่อประชาธิปไตย

จากบันทึกที่กรัมชี่ได้เขียนไว้นั้น ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงบันทึกที่ไม่ยาวมาก แต่ก็ทำให้เราเข้าใจในเรื่องของความคิดและจิตสำนึก ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร หากมีคนกล่าวหาว่าแรงงานนั้นขาดจิตสำนึกทางชนชั้น เพราะการจะเกิดจิตสำนึกทางชนชั้นนั้น ต้องเกิดมากจากการต่อสู้โดยตรงเท่านั้น อย่างเช่น การที่ผู้ใช้แรงงานในโรงงานประท้วงนัดหยุดงาน ประสบการณ์จากการประท้วงต่อสู้นั้น จะเป็นตัวเปลี่ยนความคิด เขาจะเห็นว่าอันที่จริงแล้วพวกเขานั้นมีพลังในการต่อสู้กับนายทุนแค่ไหน เพราะเขาจะรู้ว่าผลผลิตและกำไรเกิดจากพวกเขา ไม่ใช่ความสามารถของนายทุนหรือเงินแต่อย่างใด

หรืออีกกรณีหนึ่งที่ประชาชนลุกหือขึ้นมาเรียกร้องประชาธิปไตย การต่อสู้ของคนเสื้อแดงที่เรียกตนเองว่า เป็นคนตาสว่างนั้น เป็นตัวบ่งชี้ได้ดีเลยทีเดียว เพราะเขาได้รู้แล้วว่าเขาต้องต่อสู้กับอำนาจเผด็จการที่กดหัวเขาอยู่ เขาเรียนรู้ผ่านการไปชุมนุม การรับทราบข้อมูลอีกด้านหนึ่งที่พวกชนชั้นปกครองปิดบังไว้ ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ของเสื้อแดงเอง เกิดการรวมเป็นกลุ่มเพื่อต่อสู้ในจุดมุ่งหมายอย่างเดียวกัน เมื่อผ่านการต่อสู้ก็จะได้เห็นถึงสภาพจริงในสังคม ในการต่อสู้คนเสื้อแดงก็จะได้คำตอบ ที่ขัดกับโฆษณาชวนเชื่อและกรอบความคิดที่ฝั่งสมอง

ตัวอย่างเช่น แต่ไหนแต่ไรเรามักถูกสอนว่า ทหารคือผู้รักษาความสงบเรียบร้อยของชาติ แต่สิ่งที่เห็นผ่านการต่อสู้นั้นคือ ทหารคือเป็นผู้รักษาอำนาจเผด็จการให้กับชนชั้นปกครองเพียงไม่กี่คน และไม่เคยอยู่ข้างประชาชนเลย หรือคำกล่าวที่ว่าไทยนี้รักสงบ เป็นเมืองพุทธศีลธรรมดีงามมาตั้งแต่โบราณ แต่เหตุใดกลับปล่อยให้มีการฆ่ากันกลางเมือง โดยไม่มีผู้ที่อ้างว่าตนเองมีศีลธรรมสูงส่งออกมาแสดงความคิดเห็นหรือประณาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ดังนั้นแล้วงานเขียนของกรัมชี่ในเรื่องนี้ได้ชี้ให้เห็นว่า จิตสำนึกทางชนชั้น จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อประชนชนลุกขึ้นมาต่อสู้ด้วยตังเอง ประการณ์จากโลกจริงจะทลายกรอบความคิด ที่ชนชั้นปกครองคอยป้อนเราผ่านสถาบันต่างๆมาตั้งแต่เกิด และความคิดต่างๆที่ขัดแย้งอยู่ในสมองก็จะได้รับคำตอบ


(ที่มา) 
http://turnleftthai.blogspot.dk/2012/11/blog-post_2088.html

Wake up Thailand ประจำวันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน 2555

Wake up Thailand ประจำวันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน 2555

อย่ามั่ว!!! แช่แข็งคือปฏิรูป


(คลิกฟัง)      
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=kx8lwkjuLJg

รายการ The Daily Dose ประจำวันที่ 15 พฤศจิกายน 2555

รายการ The Daily Dose ประจำวันที่ 15 พฤศจิกายน 2555
 
 
อิหร่านไม่ยอมซื้ออาวุธรัสเซีย! 
 
(คลิกฟัง)
http://www.dailymotion.com/VoiceTV#video=xv413d

Divas Cafe ประจำวันที่ 15 พฤศจิกายน 2555

Divas Cafe ประจำวันที่ 15 พฤศจิกายน 2555 



'เด็กไทย'..อยากอภิวัฒน์การศึกษาไทย ?!


(คลิกฟัง)
http://www.dailymotion.com/VoiceTV#video=xv3rzj

มาแน่-จัดหนัก ม็อบและกำลังหนุน กลุ่มทุน-การเมือง

มาแน่-จัดหนัก ม็อบและกำลังหนุน กลุ่มทุน-การเมือง







หน่วยงานข่าวกรองของรัฐสรุปประเมินการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามในวันที่ 24 พ.ย.ว่า
 
1.จะเป็นการชุมนุมครั้งใหญ่ อาจมีผู้เข้าร่วมหลายหมื่นคน

2.พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ เป็นเพียงตัวละครหน้าฉาก แต่การจัดระดมคนมาร่วมการชุมนุมเป็นของพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง

3.พบ การเคลื่อนไหวเตรียมระดมพลอย่างชัดเจนในภาคใต้ 8 จังหวัด ได้แก่ สงขลา สุราษฎร์ธานี ภูเก็ต กระบี่ พังงา ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี โดยนักการเมืองในพื้นที่จะจัดนำมวลชนเข้าร่วมชุมนุมใน กทม. ประสานนักการเมืองของพรรคเดียวกันในพื้นที่ กทม.

ซึ่งจะจัดมวลชนในกรุงเทพฯ อาทิ นักการเมืองหญิงคนหนึ่งระดมคนจากย่านตลิ่งชัน และการจัดมวลชนจากบ่อนการพนันย่านบางซื่อเข้าสมทบ


 
4.พบการระดมมวลชนใน จ.ราชบุรี และกาญจนบุรี ของแกนนำพันธมิตรฯรายหนึ่ง

5.ตัวเลขมวลชนที่ตั้งเป้าเอาไว้ในประมาณ 5 หมื่นคน

6.ค่าใช้จ่ายประมาณวันละ 100 ล้านบาท

เป้าหมายของการชุมนุม นอกเหนือไปจากกดดันและขับไล่รัฐบาล

ยังอยู่ที่คดีเอกสารการรับราชการทหาร รวมทั้งคดี 99 ศพ ในการสลายม็อบเสื้อแดงปี 2553

เพราะ พบการสร้างกระแสในหมู่มวลชน ที่เตรียมจัดเข้ามาร่วมชุมนุม ว่ารัฐบาลใช้อำนาจรังแก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรี

ขณะที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง ระบุว่า

กลิ่นรัฐประหาร"ล้มรัฐบาล"วิกฤตการเมืองเดือนพฤศจิกา แผน 3 ขาตั้งรับ"ม็อบ เสธ.อ้าย"

 

 

สัปดาห์สุดท้ายของเดือนพฤศจิกายน รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อาจต้องแบกภาระทางการเมืองหนักอึ้ง

นอก จากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ลั่นกลองศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและ 3 รัฐมนตรี ในวันที่ 25-27 พ.ย. รัฐบาลยังคงต้องกางแผนรับมือเวทีชุมนุมของ "พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์" หรือ "เสธ.อ้าย" ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 24 พ.ย.นี้

เป็นการชุมนุมต่อเนื่องจากวันที่ 28 ต.ค. ครั้งนี้เลือกใช้ "ลานพระบรมรูปทรงม้า" นัดหมายระดมประชาชน 1 ล้านคน ผ่านเครือข่ายภาคีขององค์การพิทักษ์สยามและภาคีเครือข่าย เพื่อปราศรัย-อภิปรายนอกสภา ภายใต้หัวข้อ "วันพิพากษารัฐบาล"


แนว ร่วม-รบหลักของ "เสธ.อ้าย" อาจหนีไม่พ้นมวลชนขาประจำจากกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่ได้รับสัญญาณจาก "พล.ต.จำลอง ศรีเมือง" ที่ไฟเขียวให้เข้าร่วมการชุมนุมครั้งนี้

ครั้งนี้ "เสธ.อ้าย" ตั้งเป้าเรียกร้องให้รัฐบาล "ยุติบทบาท" และ "แช่แข็งประเทศ 5 ปี" ก่อนปล่อยพื้นที่ให้การเมืองประชาชนเข้ามาแก้ปัญหาประเทศอย่างเป็นระบบ

หลัง จากหน่วยงานความมั่นคงประเมินปริมาณ "ม็อบ เสธ.อ้าย" ผิดพลาดในครั้งแรก ครั้งนี้จึงถูกกำชับเรื่องความแม่นยำเป็นพิเศษ และทั้งองคาพยพของ "ยิ่งลักษณ์" จึงกำกับเคลื่อนไหวอย่างเป็นระบบทั้งฝ่ายพรรคเพื่อไทย คนเสื้อแดง และรัฐบาล

โดยฟากรัฐบาลเป็นหน้าที่ของ "ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง" รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง รับหน้าที่เช็กกำลังพล-ตรวจสอบท่อน้ำเลี้ยง โดยเฉพาะข่าวลือเรื่องมีกลุ่มทุนใหญ่คอยสนับสนุนม็อบครั้งนี้

"ร.ต.อ .เฉลิม" เปิดเผยเพียงว่า มีทั้งกลุ่มทุนขนาดเล็กและใหญ่ มีรูปแบบเหมือนเหตุการณ์รัฐประหารเมื่อ 19 ก.ย. 49 ซึ่งขณะนี้ตนและฝ่ายความมั่นคงกำลังตรวจสอบและเพื่อให้แผนรับมือ เป็นไปอย่างสมบูรณ์ ยังเตรียมทำหนังสือเชิญองค์กรอิสระให้เข้าร่วมสังเกตการณ์ขณะที่รัฐบาลดูแล การชุมนุม เพื่อป้องกันข้อกล่าวหา "ใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ"

ภาษาไทยศัพท์การเมืองร่วมสมัยวันละคำ

ภาษาไทยศัพท์การเมืองร่วมสมัยวันละคำ

























โทรสั่งพิซซ่า ๑๑๑๒ (สำ.)

ความหมาย:

ยกเลิกหรือแก้ไขประมวลกฎหมา
ยอาญา มาตรา ๑๑๒.

ที่มา:
มาจากคำล้อเลียนข้อความของ ดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ที่เขียนบนเฟสบุ๊คส่วนตัวว่
“เลิก ๑๑๒ สิครับ แล้วผมจะเล่าให้ฟัง” เมื่อวันที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๕๕.

ภายหลัง, สำนวนนี้กลายเป็นแท็กไลน์ที่
มีผู้นิยมใช้ในกรณีที่ตนไม่อาจเปิดเผยข้อมูลหรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวแก่เรื่องใดเรื่องหนึ่งได้ ด้วยเกรงว่าจะกระทบสวัสดิภาพของตนและครอบครัว.

"ชาญวิทย์ เกษตรศิริ" มอง "ยิ่งลักษณ์-โอบามา"-"เวลาได้วิ่งเลย คนรุ่นเก่า อำนาจเก่า บารมีเก่าไปแล้ว"

"ชาญวิทย์ เกษตรศิริ" มอง "ยิ่งลักษณ์-โอบามา"-"เวลาได้วิ่งเลย คนรุ่นเก่า อำนาจเก่า บารมีเก่าไปแล้ว"





"มติชนออนไลน์" สัมภาษณ์ ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์การเมืองไทยและประวัติศาสตร์เอเชียตะวันออก เฉียงใต้ ในบรรยากาศที่ไทยต้อนรับผู้นำระดับโลก ท่ามกลางกระแสการเมืองภายใน ที่กำลังก้าวผ่านยุคหนึ่งไปสู่อีกยุคหนึ่ง

@อาจารย์มองว่า ผลการเลือกตั้งสหรัฐอเมริก สะท้อนแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงในอนาคตอย่างไร

"โอบามา" ชนะการเลือกตั้ง เมื่อไม่กี่วันมานี้ คือวันที่ 6 พฤศจิกายน ผมก็ไปสังเกตการณ์การเลือกตั้งอเมริกา อยู่ที่ UCLA  นั่งดูรายงานทางโทรทัศน์ทั้งคืน ด้วยความตื่นเต้น  การเลือกตั้งอเมริกา น่าตื่นเต้น เพราะประธานาธิบดีอเมริกัน อาจมีอำนาจสูงที่สุดในโลกก็ว่าได้ เพราะมีกองทัพ ซึ่งมีสมรรถภาพสูง แผ่อำนาจไปทั่ว แล้วในกรณีของโอบามา น่าสนใจที่ว่า คนดำ สามารถเป็นประธานาธิบดีได้ เป็นครั้งแรก แล้ว เป็นถึง 2 เทอม ชนะอย่างขาดลอย 
ทั้งที่ตอนแรก มีข่าวว่า โอบามา มีปัญหามาก อาจจะสูสี แต่ว่า เมื่อดูจากคะแนนนิยมทั่วไป ที่เรียกว่า ป๊อบปูล่าโหวต ก็ชนะ ส่วนคะแนน ที่ได้จากผู้แทนของรัฐ ก็ชนะ เขาก็ขาดลอยมา ทำให้คนคาดหวังว่า การเลือกตั้งต่อไปคราวหน้า อาจจะเป็นทีของผู้หญิง เมื่ออเมริกา สามารถทำให้คนดำ เป็นประธานาธิบดีได้ อเมริกา ก็อาจจะเลือกผู้หญิงเป็นผู้นำ ก็ได้
 
@เป้าหมาย ในการเดินทางมาไทย ของประธานาธิบดีโอบามา

ผมคิดว่าน่าสนใจว่า ฮิลลารี่ คลินตัน คงจะมาด้วย เธอยังอยู่ในเทอมของการเป็น รัฐมนตรีต่างประเทศของรัฐบาล “โอบามา1” นี่คือ การรุกของโอบามา ที่เข้ามากลุ่มอาเซียน ผมไม่ได้มอง แค่ว่า โอบามา มาประเทศไทย แต่เป้าหมายสำคัญ ของโอบามา อยู่ที่พม่า อย่าลืมว่า พม่า มีพรมแดนอยู่ระหว่างจีนและอินเดีย ซึ่งสำคัญมาก ไทยไม่มีพรมแดนติดจีนและอินเดีย ยกเว้น น่านน้ำในทะเลติดกับอินเดีย ฉะนั้น  ในแง่ของสถานที่ตั้งของพม่า สำคัญมาก ผมคิดว่า  โอบามา ก็คงต้องการจะผลักดันนโยบาย ของการที่ทำให้พม่าปฏิรูปการเมือง มุ่งสู่ประชาธิปไตย มีการเลือกตั้ง และยังเข้ามา แข่งขันอำนาจกับจีนอีกด้วย พร้อมๆ กับการที่จะไปประชุมที่กัมพูชา ในการประชุมอีสเอเชียซัมมิท 
 
ดังนั้น โอบามา รุกนโยบายต่างประเทศ ผมไม่คาดคิดว่าเขาจะเร็วขนาดนี้  เขาเป็นคนที่เร็วมากๆ แล้วคำที่เขาใช้ในการเลือกตั้ง คือ “ฟอร์เวิร์ด” นี่เป็นภาษาของการสื่อสารในอินเตอร์เนต คุณจะฟอร์เวิร์ด สิ่งนี้ ไปที่คนโน้น คนนี้ เป็นภาษาคนหนุ่มสาว คนรุ่นใหม่ ที่เล่นอินเตอร์เนต ขณะที่โอบามา มีคนไลค์เฟซบุค ประมาณ 3 ล้านคน ผมเชื่อว่า คนอายุ 60-70 ปี ในบ้านเรา ไม่รู้ภาษาอินเตอร์เนตแล้ว คือ “ตกรุ่น” ไปแล้ว 
 
เขาเล่นเกมส์ ไปพม่า กับกัมพูชา แถมประเทศไทย เพราะ ยังไง ก็เป็นพันธมิตรเก่ากันมา ในสมัยสงครามเย็น สงครามต่อต้านคอมมิวนิสต์ คุณยิ่งลักษณ์ จึงได้เอี่ยวไปด้วย จากการที่เขาจะไปพม่า และกัมพูชา

@เลือกมาไทยเป็นที่แรก

ก็พันธมิตรเก่า นะครับ ร่วมรบกันมาตั้ง กี่ 10 ปี ถล่มเวียดนาม ถล่มอินโดจีนมาเป็นเวลานาน มีฐานทัพ ดังนั้น ต้องรักษา ไมตรีเก่า แต่ผมเดาว่าจุดสำคัญการรุกครั้งนี้ คือ พม่า กับกัมพูชา ในแง่ นโยบายต่างประเทศ ส่วนสถานการณ์การเมืองภายในของไทย ก็น่าเป็นห่วง เพราะดูไม่ค่อยมีความมั่นคง ขณะที่เมื่อก่อน พม่า ดูล้าหลัง แต่ ตอนนี้ ดูพม่าจะก้าวหน้า ส่วนไทยเมื่อก่อน ดูจะก้าวหน้า แต่ตอนนี้ ดูจะล้าหลัง 

และก็น่าสังเกต ว่าดูเหมือน โอบามา ไม่มีกำหนดการพบปะกับผู้นำฝ่ายค้านของไทย ทั้งๆ ที่เมื่อจะไปพม่า จะพบทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน อันนี้ ควรจ้องดูให้ดี ครับ

@ กลุ่มที่อยากแช่แข็ง ประเทศ ก็ยังเคลื่อนไหวอยู่ จะมีพลังหรือไม่

ไม่น่าจะมีพลัง เพียงแต่ เขายังอาศัย อิงกับอำนาจเก่า บารมีเก่า จึงเล่นได้... ประเภท ม็อบมีเส้น ถ้าไม่มีเส้น เล่นแบบนี้ ไม่ได้ ต้องมีเส้น ถึงจะเล่นได้
 

(อ่านต่อ) 
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1352944128&grpid=01&catid=&subcatid 

เพราะฉันถูกปิดหูปิดตา (ผ่าน ม.112) ฉันจึงขำ

เพราะฉันถูกปิดหูปิดตา (ผ่าน ม.112) ฉันจึงขำ





โดย ประวิตร โรจนพฤกษ์
@PravitR


 
อารมณ์ขันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการอยู่รอดในสังคมป่าเถื่อนที่ปิดหูปิดตาปิดปากประชาชนอย่างไม่รู้จักพอเพียง

ต่อไปนี้คืออารมณ์ขันของผม ที่ขออุทิศให้กับนักโทษทางความคิด ที่ต้องติดคุกในนามของ ‘ความดี’ และการปกป้อง ‘คนดี’ และประชาชนผู้รักการลืมหูลืมตา

1) ผมชอบการปิดหูปิดตา มันมืดและทำให้เข้าใจอะไรต่อมิอะไรได้ง่ายดี ว่าเขาต้องการอะไร

2) จงเชื่อในความดีที่ตั้งคำถามไม่ได้ และการปิดหูปิดตาที่ห้ามขัดขืน
3) จงเชื่อในรถถัง และการปิดหูปิดตาปิดปากประชาชน
4) เชื่อในการปิดหูปิดตา แล้วเจ้าจะพ้นภัย
5) แม่ครับ แม่ครับ การปิดหูปิดตาคืออะไรครับ? แม่: อย่าเสือกเลยลูก เดี๋ยวก็เจอคุกหรือเจอคนเอาเก้าอี้ฟาดหัวหรอก
6) พ่อครับ พ่อครับ การปิดหูปิดตาคืออะไรครับ? พ่อ: มึงนี่อยากถูกไล่ออกจากบ้าน ตัดขาดพ่อลูกเหรอะ? พ่อกำลังดูทีวีช่อง…อยู่นะลูก –อย่ากวนนะจ๊ะลูกรัก
7) แม่ครับ แม่ครับ ทำไมต้องไล่คนไทยบางคนไปต่างประเทศละครับ? แม่: เขาหวังดีนะลูก เขากลัวคนเหล่านั้นถูกเก้าอี้ฟาดหัว
8) พ่อรักลูกมากนะลูก พ่อจึงอยากให้ลูกอยู่อย่างปิดหูปิดตาปิดปาก – มันปลอดภัยดี
9) แม่ๆ โตขึ้นลูกอยากเป็นนักคิดนักปรัชญา! แม่: อย่าเลยลูก ประเทศนี้เขาห้ามคิดต่าง ห้ามสงสัยนะลูก แต่อวยอย่างไม่รู้จักพอเพียงอย่างสร้างสรรค์และหวังดีได้นะลูก –เขาเรียกว่า whiteเลีย คล้ายๆ whitelie นะลูก อาชีพนี้ดีนะ สบายไปหลายคนแล้ว!
10) คำแนะนำในการใช้ชีวิตในราชอาณาจักรไทย: ตื่นขึ้นมา กรุณารีบปิดหูปิดตา ไม่พยายามสงสัยอะไรบางอย่าง ทั้งนี้เพื่อความสะดวกและปลอดภัยในการดำรงชีวิตของคุณเอง
11) เมืองไทยอาจไม่เหมาะสำหรับการฝึกสมอง แต่สิ่งแวดล้อมเอื้ออำนวยสำหรับการฝึกลิ้นฝึกเลียเป็นอย่างยิ่ง
12) สมองมีไว้ให้ไม่ต้องใช้ ลิ้นมีไว้ให้ whiteเลีย รัวๆ
13) ระหว่างลิ้นกับสมอง คุณเชื่ออะไรมากกว่ากัน?
14) ม.112 สอนให้ผมเชื่อว่า ความดีอย่างไม่ต้องตรวจสอบ มีจริงในโลกนี้!

'สมศักดิ์ เจียมฯ' ถูกตำรวจส่งฟ้องม. 112 เตรียมรายงานตัวกับอัยการอังคารนี้

'สมศักดิ์ เจียมฯ' ถูกตำรวจส่งฟ้องม. 112 เตรียมรายงานตัวกับอัยการอังคารนี้

 

ฝากรูป 

สั่งฟ้อง "สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล" หลังกองทัพบก แจ้งความเอาผิด "มาตรา112"

นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความในเฟซบุค เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2555 ว่า กรณีกองทัพบก แจ้งความกล่าวโทษในคดีอาญามาตรา 112 เมื่อเดือนเมษายน 2554 โดยอ้างบทความ 2 ชิ้น
 
ล่าสุด พนักงานสอบสวน แจ้งให้ทราบว่ามีความเห็นสั่งฟ้อง โดยอยู่ระหว่างส่งสำนวนให้พนักงานอัยการ และแจ้งให้ไปรายงานตัวกับพนักงานอัยการในวันอังคารที่ 20 พฤศจิกายนนี้
 
สำหรับ บทบาทของนายสมศักดิ์ นอกจากจะเป็นนักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ เจ้าของผลงานเขียนหนังสือและบทความจำนวนมากแล้ว ยังได้ปรากฎตัวในการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง นอกจากนั้น ยังมีบทบาทในโลกออนไลน์ เพราะการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองผ่านเฟซบุค ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูง มีเพื่อนทางเฟซบุค 5 พันกว่าคน และมีผู้ติดตามการโพสต์ข้อความถึง 2 หมื่นกว่าคน โดยการโพสต์ข้อความแต่ละครั้งจะสร้างข้อถกเถียงให้แก่ผู้ที่มีความเห็นแตกต่างกันตามมา  

ข่าวจาก มติชน
http://www.konthaiuk.eu/forum/index.php?topic=23764.0

-------------------------------------------------

ที่จริงแล้ว "สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล" มีเบื้องลึกเบื้องหลังมากกว่าแค่อาจารย์ ซึงมีส่วนเกี่ยวข้องกับ กลุ่ม นักศึกษา ศนนท.ปี 53 ซึงเป็นมือเท้าในนาม UDD , กลุ่มประกายไฟ,อื่นๆ   และยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มนิติราษฏร์   และยังมีส่วนเ้กี่ยวข้องกับ นาย นิธิวัฒิ วรรณศิริ (หรือป๋าจอมตั๊ป) กับ ทนายของอากง อีกด้วย
------------------------------------

 

15 11 55 ข่าวค่ำDNN สมศักดิ์ เข้าพบอัยการแจงคดี 112 วันที่ 20 พ ย นี้



สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล นักวิชาการประวัติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ เผยพนง.สอบสวนสั่งฟ้องฐานหมิ่นเบื้องสูงแล้ว เหตุตีพิมพ์บทความเกี่ยวกับฟ้าหญิงจุฬาภรณ์เผยแพร่ 2 บทความ

เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 55 สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กของตนเองระบุว่า พนักงานสอบสวนได้มีความเห็นสั่งฟ้องเขาด้วยข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพแล้ว และมีหมายให้ไปรายตัวกับพนักงานอัยการในวันอังคารที่จะถึงนี้ (20 พ.ย.)  หลังจากเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2554 สมศักดิ์ได้รับทราบข้อกล่าวหาที่สน. นางเลิ้ง จากการที่กองทัพบกเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษเขาด้วยกฎหมายอาญามาตรา 112 จากการเขียนบทความเกี่ยวกับการพระราชทานสัมภาษณ์ของฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ และเผยแพร่ลงในเว็บไซต์ต่างๆ 

สมศักดิ์ให้ความเห็นว่า การดำเนินคดีดังกล่าวเป็นเรื่องที่ "น่าผิดหวัง" เนื่องจากรูปคดีดังกล่าว "มีน้ำหนักอ่อนมากๆ กล่าวได้ว่าไม่มีมูลเพียงพอ" ทั้งนี้ กฎหมายอาญามาตรา 112 ระบุว่า ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จ ราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี

(ที่มา)
http://www.prachatai.com/journal/2012/11/43677

ยกเลิกกม.เผด็จการ

ยกเลิกกม.เผด็จการ




รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550(
สสร.ปี 50) 
http://www.uddtoday.net/forum/topics/50-1#.UKSqqmdhWYQ 

สวนา ๒ ปี นิติราษฎร์ ๖ ปี รัฐประหาร รัฐประหารกับระบอบรัฐธรรมนูญ 30 9 2012
http://www.youtube.com/watch?v=x4u2P2xK5L4