หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2556

คนละเรื่องที่สัมพันธ์กันของมาร์กซ์และดาร์วิน

คนละเรื่องที่สัมพันธ์กันของมาร์กซ์และดาร์วิน


 
ทฤษฎีของดาร์วินนั้น ได้เขย่าความเชื่อในเรื่องของอันตวิทยาในแบบเทววิทยา ที่บอกว่ามีพระเจ้าเป็นกำหนดจุดมุ่งหมายของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ให้เป็นไปตามแบบแผนที่พระเจ้าสร้างขึ้น ซึ่งในหลักของทฤษฎีวิวัฒนาการของดาร์วินนั้น ได้โต้แย้งให้เห็นว่า สิ่งมีชีวิตรวมถึงมนุษย์นั้น มีการวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง และผลจากการวิวัฒนาการนั้นเอง

โดย ฮิปโปน้อย บรมสุขเกษม 

เป็นที่รู้กันดีว่ามาร์กซ์และเอ็งเกลส์ ให้การยอมรับทฤษฎีวิวัฒนาการของ ชาร์ลส์ ดาร์วิน แม้ว่าเรื่องที่ดาร์วินทำการศึกษานั้นเป็นเรื่องของสัตว์ ซึ่งไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกันกับเรื่องของเศรษฐกิจและการเมืองเลย แต่เพราะเหตุใดมาร์กซ์จึงยอมรับทฤษฎีวิวัฒนาการของดาร์วิน ทั้งที่เป็นเรื่องของสัตว์ล้วนๆ มาเป็นแบบจำลองของการมองภาพสังคมมนุษย์

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าทฤษฎีของดาร์วินนั้น ได้เขย่าความเชื่อในเรื่องของอันตวิทยาในแบบเทววิทยา ที่บอกว่ามีพระเจ้าเป็นกำหนดจุดมุ่งหมายของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ให้เป็นไปตามแบบแผนที่พระเจ้าสร้างขึ้น ซึ่งในหลักของทฤษฎีวิวัฒนาการของดาร์วินนั้น ได้โต้แย้งให้เห็นว่า สิ่งมีชีวิตรวมถึงมนุษย์นั้น มีการวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่อง และผลจากการวิวัฒนาการนั้นเอง ที่เป็นผลลัพธ์ของการเปลี่ยนวานรให้เป็นมนุษย์ เนื่องจากว่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิดจะปรับเปลี่ยนสภาพของตัวเองอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ตัวเองมีสมรรถภาพในการดำรงชีวิตอยู่ต่อไป ผู้ที่แข็งแกร่งและสามารถปรับตัวเองได้ จะเป็นผู้ที่สามารถอยู่รอด แต่ถ้าหากไม่สามารถปรับตัวเองหรือไร้สมรรถภาพ ก็จะต้องสูญพันธ์ไปในที่สุด

ฉะนั้นผู้ที่แข็งแกร่งจึงเป็นผู้ที่เหมาะสมที่จะอยู่รอด เพราะนี่คือกระบวนการคัดสรรทางธรรมชาติ และพัฒนาการของสิ่งมีชีวิตนั้น จะไม่มีที่สิ้นสุดตราบใดที่สัตว์ยังคงได้รับแรงกดดันจากธรรมชาติ ให้ต้องปรับตัวอยู่เสมอ ในส่วนนี้เป็นเพียงการอธิบายความรวมคร่าวๆ ของทฤษฎีดาร์วินในแง่ของการวิวัฒนาการชีวิตสัตว์เท่านั้น

ประกาศนิติราษฎร์ ฉบับที่ ๔๑ (วรเจตน์ ภาคีรัตน์)

ประกาศนิติราษฎร์ ฉบับที่ ๔๑ (วรเจตน์ ภาคีรัตน์)

 

 

ประกาศนิติราษฎร์ ฉบับที่ ๔๑ (วรเจตน์ ภาคีรัตน์)
ภารกิจคณะนิติราษฎร์ใน พ.ศ. ๒๕๕๖
   
          โดยที่มีผู้สอบถามถึงกิจกรรมทางวิชาการของคณะนิติราษฎร์ : นิติศาสตร์เพื่อราษฎร ที่จะดำเนินการต่อไปใน พ.ศ.๒๕๕๖ ตลอดจนสอบถามถึงความคืบหน้าของการรณรงค์แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ และการดำเนินการตามแนวทางการตรากฎหมายเพื่อขจัดความขัดแย้งที่เกิดขึ้นใน สังคมอย่างเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายภายหลังจากการแย่งชิงอำนาจรัฐเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ ตามที่ได้เคยประกาศไว้ในประกาศนิติราษฎร์ฉบับที่ ๓๔ (๒๕ เมษายน ๒๕๕๕) ในโอกาสขึ้นปีใหม่พุทธศักราช ๒๕๕๖ นี้ คณะนิติราษฎร์ขอชี้แจงถึงภารกิจและกิจกรรมที่จะดำเนินการต่อไป ดังนี้

          ๑. การรณรงค์และรวบรวมรายชื่อประชาชนเพื่อเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ ตามข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์ โดยคณะรณรงค์แก้ไขมาตรา ๑๑๒ (ครก.๑๑๒) นั้น ได้ผ่านพ้นจากขั้นตอนการรณรงค์รวบรมรายชื่อประชาชนไปสู่การเสนอร่างพระราช บัญญัติดังกล่าวไปยังประธานรัฐสภาแล้ว เมื่อกลางปี ๒๕๕๕ ต่อมาในราวเดือนตุลาคม ๒๕๕๕ ประธานรัฐสภา (นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์) ได้ปฏิเสธไม่บรรจุร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเข้าสู่วาระการประชุม โดยอ้างว่าร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๑๒ ไม่เป็นร่างพระราชบัญญัติตามที่กำหนดในหมวด ๓  (สิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย) และหมวด ๕ (แนวนโยบายแห่งรัฐ) ของรัฐธรรมนูญ ทั้งๆที่กรณีเป็นที่ประจักษ์ชัดว่าประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๒๒ ซึ่งกำหนดโทษในทางอาญานั้น เป็นกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเสรีภาพในร่างกายและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ของบุคคลซึ่งเป็นเสรีภาพที่รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญ การปฏิเสธไม่บรรจุร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเข้าสู่วาระการประชุม จึงเป็นการปฏิเสธที่ไม่ชอบด้วยเหตุผล หลังจากทราบการปฏิเสธแล้ว ครก.๑๑๒ (ซึ่งประกอบไปด้วยบุคคลหลายฝ่ายรวมทั้งคณะนิติราษฎร์) ได้พยายามประสานเพื่อเสนอความเห็นให้ประธานรัฐสภาทบทวนการวินิจฉัย แต่ไม่ได้รับความร่วมมือเท่าที่ควรจากบุคคลที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นในเดือนมกราคม ๒๕๕๖ นี้ ครก.๑๑๒ จะได้โต้แย้งคำสั่งของประธานรัฐสภา (นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์) เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อให้มีการทบทวนคำสั่งดังกล่าว หลังจากนั้นจะดำเนินการตามช่องทางในทางกฎหมายต่อไปจนสุดหนทาง

ค่าแรง 300 บาท ก็ยังไม่พอ ต้องถึบนายทุนลงจากเตียงด้วย

ค่าแรง 300 บาท ก็ยังไม่พอ ต้องถึบนายทุนลงจากเตียงด้วย
 

รบ.อิตาลีลงดาบ ระงับการเบิกเงินใน"วาติกัน"ส่อเค้านักเที่ยวปวดหัว"โนเอทีเอ็ม-เครดิต การ์ด"

รบ.อิตาลีลงดาบ ระงับการเบิกเงินใน"วาติกัน"ส่อเค้านักเที่ยวปวดหัว"โนเอทีเอ็ม-เครดิต การ์ด"


  
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลอิตาลีได้สั่งระงับการจ่ายเงินจากการเบิกเงินธนาคารในนครรัฐวาติกันแล้ว เพื่อเป็นมาตรการลงโทษรัฐวาติกันที่ล้มเหลวในการให้ความร่วมมือเพื่อบรรลุการแก้ปัญหาการฟอกเงินของสหภาพยุโรป ขณะที่โฆษกวาติกันเผยว่าขณะนี้วาติกันได้ติดต่อเจรจากับสหภาพยุโรปอยู่ และเรียกร้องให้มาตรการดังกล่าวเป็นไปเพียงระยะสั้น ขณะที่สมเด็จพระสันตปาปา เบเนดิกส์ ที่ 16 ได้สัญญาว่า วาติกัน จะดำเนินการบริหารการเงินและการธนาคารอย่างโปร่งใส หลังจากที่ผ่านมา สถาบันด้านการทำงานเพื่อศาสนา หรือไอโออาร์ ถูกระบุว่าพัวพันกับพฤติกรรมการฟอกเงินที่ใหญ่โต

รายงานระบุว่า ที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า วาติกันสามารถสร้างความคืบหน้าในการปฎิรูปกฎหมายเพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของมาตรฐานอียูแต่วาติกันยังต้องแก้ปัญหาอีกมากขณะที่ความล้มเหลวที่จะแก้ปัญหานี้ จะส่งผลให้ธนาคารกลางอิตาลี ต้องสั่งให้ธนาคาร"ดอยช์ แบงก์ อิตาเลีย"ที่กำกับดูแลการทำธุรกรรมทุกประเภทของนครวาติกัน งดจ่ายเงินใด ๆ ให้แก่ผู้เบิกเงินในรัฐวาติกัน

ขณะที่มาตรการจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวยังรัฐแห่งนี้จะต้องจ่ายเงิน สดสถานเดียว ในการซื้อของหรือใช้บริการใด ๆ ในการท่องเที่ยวรัฐนี้ ซึ่งอาจเป็นผลกระทบใหญ่ เพราะที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวกว่า 5 ล้านคนมาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์วาติกันเมื่อปีที่แล้ว และใช้เงินกว่า 50 ล้านยูโร ในการซื้อตั๋วชม และของที่ระลึกต่าง ๆ และมาตรการนี้จะยังทำให้นักท่องเที่ยวต้องจ่ายเงินสดอย่างเดียว รวมทั้งการบริจาคสิ่งของต่าง ๆ ให้แก่นครวาติกันในช่วงเทศกาลสันตปาปาออกมาพบปะประชาชนด้วย

(ที่มา)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1357367732&grpid=01&catid=&subcatid=