หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ประณามความรุนแรงในอียิปต์ และข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลใหม่

ประณามความรุนแรงในอียิปต์ และข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลใหม่ 


 

องค์กรสังคมนิยมปฏิวัติอียิปต์ประณามความรุนแรงของกองทัพ และประณามจุดยืนของพรรคมุสลิม และโมฮัมมัด บาดี สมาชิกอวุโสของพรรค ที่จงใจสร้างสถานการณ์ความรุนแรงบนท้องถนนหลังจากที่ประธานาธิบดีมูรซี่ถูกล้ม การกระทำของพรรค ด้วยการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา มุ่งที่จะสร้างสงครามกลางเมือง และหาทางให้มูรซี่กลับมามีอำนาจ

มวลชนเป็นล้านเป็นผู้ปลดมูรซี่ และไม่ต้องรอให้กองทัพมาปกป้องผู้คนที่กำลังยึดจตุรัสทาห์เรีย

การปฏิวัติอียิปต์ต้องเดินหน้า แต่มวลชนกำลังทบทวนสถานการณ์และการจัดตั้ง ทั้งในกลุ่มผู้ประท้วงบนท้องถนน กลุ่มชุมชนและในสถานที่ทำงานต่างๆ ซึ่งกระบวนการนี้ต้องใช้เวลา

ไม่ว่าใครจะได้รับการแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี คนคนนั้นควรมาจากแนวร่วมปฏิวัติที่ล้มมูบารักแต่แรก นอกจากนี้เรามีข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลใหม่คือ

1.รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขปัญหาปากท้องของคนจนที่มีบทบาทสำคัญในขบวนการปฏิวัติ

2.ต้องมีการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ ที่ประกอบไปด้วยตัวแทนของกลุ่มต่างๆ เช่นกรรมาชีพคนทำงาน เกษตรกร คนจน สตรี และผู้แทนของชาวคริสต์คอพทิค เพื่อร่างรัฐธรรมนูญที่เน้นสิทธิเสรีภาพและความเป็นธรรมทางสังคม

3.ต้องมีการออกกฏหมายเพื่อลงโทษผู้นำพรรคมุสลิม นายพลระดับสูง และซากเก่าของชนชั้นนำจากยุคมูบารัก ซึ่งล้วนแต่มือเปื้อนเลือดประชาชน
 
(ที่มา)
http://turnleftthai.blogspot.dk/2013/07/blog-post_9.html

Wake Up Thailand

Wake Up Thailand  
 



Wake Up Thailand ประจำวันที่ 11 กรกฎาคม 2556 ตอนที่ 2
คลิป....นักการเมืองก็คุยกันอย่างนี้แหละ
http://www.dailymotion.com/video/x11rptv_คล-ป-น-กการเม-องก-ค-ยก-นอย-างน-และ 
 
Wake Up Thailand ประจำวันที่ 11 กรกฎาคม 2556 ตอนที่ 1
จะสีไหนฝ่ายไหน ข้าวไม่เลือกคนกิน 
http://www.dailymotion.com/video/x11rpbm_จะส-ไหนฝ-ายไหน-ข-าวไม-เล-อกคนก-น 
 
Wake Up Thailand ประจำวันที่ 10 กรกฎาคม 2556 ตอนที่ 2
อิสรภาพของสื่อในยุคสภาวิชาชีพสื่อเดี้ยง? 
http://www.youtube.com/watch?v=OqbxquDV2TE 
  
Wake Up Thailand ประจำวันที่ 10 กรกฎาคม 2556 ตอนที่ 1
เส้นทางสู่อเวจีของเณรคำ? 
http://www.youtube.com/watch?v=rrrYgE-PQ-8 
  
Wake Up Thailand ประจำวันที่ 9 กรกฎาคม 2556 ตอนที่ 2 
Coffee with : จตุพร พรหมพันธุ์ 
http://www.youtube.com/watch?v=IjIZD5kW_aA 
  
Wake Up Thailand ประจำวันที่ 9 กรกฎาคม 2556 ตอนที่ 1
มีอะไร...อีกไหมที่ไม่เกี่ยวกับเณรคำ?
http://www.youtube.com/watch?v=CZYB-9vro_U 
 
Wake Up Thailand ประจำวันที่ 8 กรกฎาคม 2556 ตอนที่ 2 
หัวรุนแรงทุกศาสนา เลวร้ายกว่าเผด็จการทหาร 
 http://www.dailymotion.com/video/x11mmk9_ห-วร-นแรงท-กศาสนา-เลวร-ายกว-าเผด-จการทหาร
 
Wake Up Thailand ประจำวันที่ 8 กรกฎาคม 2556 ตอนที่ 1
ทหารทั้งโลกก็เหมือนกัน หลังรัฐประหาร
http://www.youtube.com/watch?v=K3tEuLqTZCQ  

Divas Cafe

Divas Cafe


  

Divas Cafe ประจำวันที่ 11 กรกฎาคม 2556
'ข้าวนาซี' 
http://www.youtube.com/watch?v=UtDixWApPrM&feature=youtube_gdata 
   
Divas Cafe ประจำวันที่ 10 กรกฎาคม 2556
บทเรียนของไทย ''ตุรกีโมเดล'' 
http://www.youtube.com/watch?v=Ip7K8f7TNVk 
 
Divas Cafe ประจำวันที่ 9 กรกฎาคม 2556 
รัฐประหารคือศัตรูของประชาธิปไตย 
http://www.youtube.com/watch?v=rsoQ6R-Wkjo 
 
Divas Cafe ประจำวันที่ 8 กรกฎาคม 2556 
ดีว่าส์สำรวจโลก จากอียิปต์ ถึง นิวยอร์ก
http://www.youtube.com/watch?v=XXgCR_vHUSA 

ปฏิวัติอียิปต์ ทหารขโมยชัยชนะ // นสพ.เลี้ยวซ้าย ปีที่ 9 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม 56

ปฏิวัติอียิปต์ ทหารขโมยชัยชนะ // นสพ.เลี้ยวซ้าย ปีที่ 9 ฉบับที่ 2 กรกฎาคม 56 



คลิกดาวน์โหลด(อ่านที่นี่)

คุยกับสุรชาติ บำรุงสุข : 10 โจทย์ใหญ่กว่า ‘โผทหาร’ สำหรับรมว.กลาโหมใหม่

คุยกับสุรชาติ บำรุงสุข : 10 โจทย์ใหญ่กว่า ‘โผทหาร’ สำหรับรมว.กลาโหมใหม่

 


 
คลิกดูภาพใหญ่ที่นี่

ทุกครั้งที่ผู้นำรัฐบาลพลเรือนมานั่งคุมกระทรวงกลาโหม เสียงสะท้อนความห่วงกังวลว่าฝ่ายบริหารจะเข้าไปจัดการกับ “โผทหาร” ก็ดังขึ้นทุกที พร้อมๆ กับการลุ้นว่ารัฐบาลจะมีอันเป็นไปอีกหรือไม่ ครั้งนี้ก็เช่นกันเมื่อยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ หญิงนั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยเฉพาะเมื่อเป็นรัฐบาลที่เป็นคู่ขัดแย้งกับกองทัพ ชัดเจนกว่ารัฐบาลไหนๆ

สื่อหลายสำนักพุ่งตรงไปยังนักวิชาการ นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงอย่าง ‘สุรชาติ บำรุงสุข’ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ปรึกษาหน่วยงานความมั่นคง และคอลัมนิสต์ที่เขียนเรื่องราวในแวดวงนี้มายาวนาน

ประชาไท พูดคุยกับสุรชาติ ก่อนที่ ‘คลิปเสียงอยากกลับบ้าน’ จะโด่งดังเป็นพลุแตก สร้างแรงกระเพื่อมหนัก และน่าจะสร้างความปั่นป่วนในกองทัพไม่น้อย และยังต้องรอดูต่อไปว่าแรงกระเพื่อมนั้นจะกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างกอง ทัพและรัฐบาลเพียงใด อย่างไรก็ตาม สื่อบางสำนักเปรียบเปรยถึงขั้นว่า พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา นั้นได้ตายจากถนนสายการเมือง กองทัพแล้ว จาก ‘ความสะเพร่า’ ครั้งนี้

การจัดความสัมพันธ์ทางอำนาจระหว่างรัฐบาลและกองทัพมีความละเอียดอ่อนสูง มาก และนับเป็นความท้าทายของนายกฯ  “หญิง” ที่ถูกปรามาสว่าเป็นเพียงเสือกระดาษ ตรายางสีชมพูที่ไม่น่าจะทำอะไรได้ แต่สุรชาติยังคงมองโลกอย่างมีความหวัง พร้อมๆ กับฝาก 10 โจทย์สำคัญสำหรับการขับเคลื่อนกองทัพในระยะยาวให้รัฐมนตรีคนใหม่

ที่สำคัญ สุรชาติยืนยันว่า “โผทหาร” ไม่ใช่หัวใจของเรื่อง ไม่ใช่จุดศูนย์กลางอย่างที่หลายคนเห็น เพราะนั่นเป็นโจทย์ระยะสั้นเกินไป และติดกับดัก “แตะเป็นหัก” สำหรับการเมืองช่วงเปลี่ยนผ่านอย่างไทยสุรชาติไม่เชื่อว่ารัฐบาลพลเรือน สามารถจัดการเรื่องนั้นได้จริง  ผู้นำพลเรือนจึงควรหันไปทำเรื่องอื่นๆ ที่ใหญ่กว่าและไม่เป็นปมขัดแย้งรุนแรงกับกองทัพ แต่ขณะเดียวกันเรื่องเหล่านั้นก็สามารถจะปรับกระบวนทัศน์ กระบวนท่าของกองทัพ ให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการสร้างประชาธิปไตยได้
เพราะไม่เชื่อว่าเราจะตัดกองทัพออกไปได้จากกระบวนการสร้างประชาธิปไตย

ทำไมสุรชาติจึงยังให้ที่ทางกับกองทัพในกระบวนการสร้างประชาธิปไตย 10 โจทย์สำหรับรัฐมนตรีหญิงที่เขาเห็นว่าใหญ่กว่าโผทหาร และน่าทำกว่านั้น จริงหรือไม่ คืออะไร  ติดตามในรายละเอียดด้านล่าง

(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2013/07/47604 

ข้อตกลงระหว่างเพื่อไทยกับอำมาตย์

ข้อตกลงระหว่างเพื่อไทยกับอำมาตย์ 

 


ใครปล่อยคลิป เพื่ออะไร? โดย ดร. เพียงดิน รักไทย
https://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=CmyvpdLTw0M 


เรา เริ่มเห็นภาพของ “ข้อตกลง” ไม่ว่าจะทางการหรือไม่ ระหว่างอำมาตย์กับพรรคเพื่อไทย เพื่อให้พรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลได้ และเพื่อให้แกนนำเพื่อไทยถูกกลืนกลับไปเป็นพรรคพวกของอำมาตย์เหมือนเดิม เพราะพรรคไทยรักไทยในอดีตก็เคยเป็นพวกเดียวกับอำมาตย์ก่อนที่จะทะเลาะกัน


อำมาตย์ กีดกันไม่ให้เพื่อไทยตั้งรัฐบาลยาก เพราะเสียงประชาชนชัดเจน แต่ในขณะเดียวกันพรรคเพื่อไทยแสดงความยินยอมที่จะ “ปรองดอง” แบบยอมจำนนต่ออำมาตย์ เพื่อแลกกับการไม่ถูกล้ม โดยการสัญญาว่าจะไม่เปลี่ยนอะไรมากมายในสังคมไทย สรุปแล้วในอดีตเราเห็นรัฐประหาร ๑๙ กันยา ตามด้วยรัฐประหารผ่านศาล และปัจจุบันเราเห็นรัฐประหารที่สาม ผ่านการกดดันและการปรองดองจอมปลอม และผ่านการหักหลังเสื้อแดง


ลองมาพิจารณาประเด็นสำคัญๆ เช่น กรณี 112 กรณีภาคใต้ กรณีคดีการเมืองเนื่องจากการชุมนุม และกรณีทหาร



คดี 112


๕ สิงหาคม ตำรวจจับนักศึกษาที่พึ่งจบจากม.เกษตร นรเวศย์ ยศปิยะเสถียร ในข้อหา 112 เพราะ ดาวน์โหลดข้อความจากอินเตอร์เน็ท นักศึกษาคนนี้โดนฟ้องโดยเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยเองคือ นายนิพนธ์ ลิ้มแหลมทอง รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศา​สตร์ ฝ่ายกิจการนิสิต เป็นผู้มาแจ้งความดำเนินคดี

๑๓ สิงหาคม น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) เปิด เผยว่า นับจากนี้ไป จะมีการกำชับให้ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของกระทรวง ในทุกระดับ มีการเข้มงวดมากยิ่งขึ้น ในการกำกับดูแลปราบปรามการกระทำผิด พ.ร.บ.เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และการหมิ่นสถาบันผ่านเว็บไซต์ต่างๆ โดยจะดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด สรุปแล้วไม่มีอะไรดีขึ้น อาจแย่ลง และการเซ็นเซอร์สื่อยังมีอยู่เหมือนเดิม


นักโทษการเมืองคดี 112 ทุก คน เช่นคุณสมยศ อ.สุชัย คุณดาร์ตอร์บิโด และคนอื่นๆ อีกมากมายยังติดคุกอยู่ ทั้งคนที่ผ่านกระบวนการศาลสองมาตรฐาน และคนที่ยังรอคดีในศาล


สส. และรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ด้วยการหมอบ คลาน แต่ยังไม่มีการแสดงความจงรักภักดีต่อประชาชนที่เลือกเขามา

ตั้งวงรำพันกับแอดมินเพจ ‘ซดเหล้าเข้าพรรษา’ ทำไมต้องสู้เพื่อ ‘สิทธิแห่งการเมา’

ตั้งวงรำพันกับแอดมินเพจ ‘ซดเหล้าเข้าพรรษา’ ทำไมต้องสู้เพื่อ ‘สิทธิแห่งการเมา’

 

 
โดย เทวฤทธิ์ มณีฉาย สัมภาษณ์


“เราไม่ได้ต่อต้านการควบคุมการบริโภคสุรา สิ่งที่เราต่อต้านคือการใช้อำนาจรัฐจากฐานคิดทางศาสนา” รำพันจากแอดมินเพจ‘ซดเหล้าเข้าพรรษา’ ชวนตั้งวงฟังทัศนะกับเทศกาลเข้าพรรษางดดื่มสุราแห่งชาติ ทำความดีถวายในหลวง

เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา นายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบที่จะประกาศให้ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาเป็นช่วงกิจกรรม “งดดื่มสุราแห่งชาติ ทำความดีถวายในหลวง” ตามที่คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติเสนอ

โดยพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 และประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2552 ได้กำหนด “ห้ามมิให้ผู้ใดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา และเข้าพรรษา ยกเว้นการขายในโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม” เพื่อสนับสนุนกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยลดปัญหาและผลกระทบทั้งด้านสังคมและเศรษฐกิจ ช่วยสร้างเสริมสุขภาพของประชาชน โดยให้ตระหนักถึงพิษภัยของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตลอดจนช่วยป้องกันเด็กและเยาวชนมิให้เข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้โดยง่าย จากยุทธศาสตร์นโยบายแอลกอฮอล์ระดับชาติ


อย่างไรก็ตามล่าสุดนาทีแรกของวันที่ 10 ก.ค. ในโซเชียลเน็ตเวิคได้มีการตั้งเพจชื่อ “ซดเหล้าเข้าพรรษา” ขึ้นมาเพื่อวิพากษ์วิจารณ์การรณรงค์ “เทศกาลเข้าพรรษางดดื่มสุราแห่งชาติ ทำความดีถวายในหลวง” ไว้อย่างน่าสนใจว่า
1. การดื่มสุรามีผลร้ายต่อสุขภาพจริง แต่นั่นเป็นเรื่องของปัจเจกของใครของมัน
2. การดื่มสุรา มีผลร้ายต่อสังคมโดยรวมจริง เช่น อุบัติเหตุ หรือสุขภาพที่เสื่อมโทรมของประชากรก็ทำให้ประเทศอ่อนแอ --- แต่รัฐก็ควบคุมการบริโภคผ่าน "ภาษีบาป" ของสินค้าพวกนี้ไปแล้ว รัฐได้เงินจากผู้บริโภคไปมหาศาลในแต่ละปี
3. การควบคุมการบริโภคสุราเป็นเรื่องปกติสามัญ แต่สิ่งที่ไม่ปกติในประเทศไทยคือการควบคุมโดยการอ้าง "ศาสนา" ไม่ใช่เรื่องสวัสดิการของสังคมโดยรวมแต่อย่างใด
ดังนั้นการต่อต้านประเด็นเรื่องสุรา จึงเท่ากับการต่อต้านการเป็น "รัฐศาสนาพุทธ" ของประเทศไทยนั่นเอง ประเทศไทยไม่ได้มีแต่ศาสนาพุทธ ขอสิทธิให้คนอื่นได้อยู่บ้าง....
จน ทราย อินทิรา เจริญปุระ ในชื่อเฟซบุ๊ก “Itr Charoenpura” นักแสดง คอลัมนิสต์และพิธีกรชื่อดัง ได้โพสต์แนะนำเพจนี้จากหลักการ 3 ข้อข้างต้นด้วยว่า “เชิญท่านพิจารณา ถ้าเห็นด้วยตามหลักการนี้ก็ตามไปไลค์เพจ หากไม่เห็นด้วยต่อหลักการ โปรดทำเพจต่อต้านอย่างสงบ”

ในโอกาสนี้ประชาไทจึงได้มีโอกาสตั้งวงพูดคุยกับแอดมินเพจซดเหล้าเข้า พรรษา เพื่อทำความเข้าใจแนวคิด พร้อมทั้งเป็นช่องทางในนำเสนอมุมมองที่แตกต่างจากรัฐกรณีการรณรงค์งดเหล่าใน ช่วงเทศกาลเข้าพรรษาดังกล่าว