หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555

การปรองดองจอมปลอม ทรยศต่อวีรชน

แดงสังคมนิยม

การปรองดองจอมปลอม ทรยศต่อวีรชน


โดย ใจ อึ๊งภากรณ์
 

หลัง ชัยชนะของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ความจริงเรื่อง “การปรองดอง” เห็นได้อย่างชัดเจน คือมันเป็นการทรยศต่อวีรชนเสื้อแดงที่เสียสละเลือดเนื้อในการต่อสู้กับ อำมาตย์ และเป็นการทรยศต่อนักโทษการเมืองเสื้อแดง รวมถึงนักโทษ 112 ด้วย

การปรองดองบนซากศพวีรชนและบนความปวดร้าวของนักโทษครั้งนี้ มาจากข้อตกลงระหว่างทักษิณกับฝ่ายทหาร มีการตกลงกันว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในสถานภาพของสถาบันกษัตริย์ ไม่แก้/ยกเลิกกฏหมายเผด็จการ 112 ไม่ปฏิรูประบบศาล ไม่ปล่อยนักโทษการเมือง และจะไม่มีการนำฆาตกร(ใจหมา)ที่ฆ่าประชาชนเสื้อแดงมาขึ้นศาล ในข้อตกลงนี้ทางทหารก็จะปล่อยให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์อยู่ต่อไป ในแง่หนึ่งรัฐบาลนี้เป็นประโยชน์กับทหารมากกว่ารัฐบาลประชาธิปัตย์ เพราะสามารถคุมเสื้อแดงส่วนใหญ่ได้ผ่านแกนนำ นปช. ส่วนทักษิณและพรรคพวกมีความหวังว่าอดีตนายกจะได้กลับเมืองไทยในอนาคตอันใกล้

ทั้งๆ ที่นักวิชาการไทยและตะวันตกจำนวนมากหลงเชื่อว่ากษัตริย์ไทยมีอำนาจสั่งการ และแทรกแซงการเมือง ไม่ว่าจะโดยตรงหรือผ่าน “เครือข่ายกษัตริย์” แต่ในความเป็นจริงกษัตริย์ไทยเป็นคนอ่อนแอไร้อำนาจและถูกใช้โดยทหาร ข้าราชการชั้นสูงและนายทุนมาตลอด มีการเชิดชูและสร้างกษัตริย์ขึ้นมาให้ดูเหมือนมีอำนาจ แต่มันเป็นภาพหลอกลวงเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับชนชั้นปกครองไทยต่างหาก วิกฤตและความขัดแย้งในสังคมไทยไม่ใช่ความขัดแย้งระหว่างฝ่ายกษัตริย์กับ ทักษิณแต่อย่างใด แต่เป็นความขัดแย้งระหว่างนักการเมืองที่สร้างอำนาจผ่านการเลือกตั้ง กับทหารและข้าราชการที่ไม่มีฐานจากการเลือกตั้ง และทั้งสองฝ่ายพยายามหาความชอบธรรมจากการใช้กษัตริย์

ขบวนการเสื้อแดงมีความสัมพันธ์เชิงวิภาษวิธีกับทักษิณ คือส่วนใหญ่รักทักษิณเพราะเห็นด้วยกับนโยบายการเมือง แต่ในขณะเดียวกันคนเสื้อแดงมีเป้าหมายในการต่อสู้ของตนเองด้วย คือสู้เพื่อประชาธิปไตยและความยุติธรรมและความเท่าเทียมทางสังคม ซึ่งไม่ใช่เป้าหมายของทักษิณและพรรคเพื่อไทย แต่ถ้าเป้าหมายของเสื้อแดงนี้จะบรรลุความสำเร็จ เสื้อแดงก้าวหน้าจะต้องรวมตัวกันเป็นองค์กรทางการเมืองที่อิสระจากพรรคเพื่อไทยและแกนนำ นปช. เพื่อผลักดันข้อเสนอของนิติราษฏร์ เพื่อให้มีการปล่อยนักโทษการเมือง และเพื่อให้มีการนำทหารและนักการเมืองที่ฆ่าประชาชนมาลงโทษ

(ที่มา)
http://redthaisocialist.com/2011-01-20-12-41-04/380-2012-10-29-19-31-49.html 

สืบทอดเจตนารมณ์ ‘นวมทอง ไพรวัลย์’ และภารกิจต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยยังไม่สิ้นสุด

สืบทอดเจตนารมณ์ ‘นวมทอง ไพรวัลย์’ และภารกิจต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยยังไม่สิ้นสุด




ลุงนวมทอง ITV#1
http://www.youtube.com/watch?v=TqQPdMk0E_A&feature=relmfu 

ลุงนวมทอง ITV# 2
http://www.youtube.com/watch?v=yMdb3_3NOxw&feature=autoplay&list=PL4D812B300E644863&playnext 

เพลงวีรชน นวมทอง ไพรวัลย์
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=5I4sRYa3wqM 


31 ตุลาคม 2549 นวมทอง ไพรวัลย์  ผูกคอตายกับราวสะพานลอย บริเวณสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ก่อร่างประวัติศาสตร์ของสามัญชน ผู้คัดค้านอำนาจเผด็จการรัฐประหาร พิทักษ์ประชาธิปไตย

สำหรับคนเสื้อแดงและผู้รักประชาธิปไตย คงไม่มีใครลืมประวัติศาสตร์ของสามัญชนที่ชื่อ ‘นวมทอง ไพรวัลย์’ ผู้คัดค้านอำนาจเผด็จการรัฐประหาร พิทักษ์ประชาธิปไตย

คืนวันที่ 31 ตุลาคม 2549 นายนวมทองผูกคอตายกับราวสะพานลอย บริเวณถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาออก เยื้องกับที่ตั้งสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ (บริษัท วัชรพล จำกัด) โดยในจดหมายลาตายระบุว่า ต้องการลบคำสบประมาทของ พันเอก อัคร ทิพโรจน์ รองโฆษก คปค. ที่ว่า ไม่มีใครมีอุดมการณ์มากขนาดยอมพลีชีพได้

ใน คืนที่นายนวมทองแขวนคอตาย เขาตั้งใจสวมเสื้อยืดสีดำ สกรีข้อความเป็นบทกวี ที่เคยใช้ในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย โดยด้านหน้าเป็นบทกวีของรวี โดมพระจันทร์ ที่ว่า


ตื่นเถิดเสรีชน
อย่ายอมทนก้มหน้าฝืน
ดาบหอกกระบอกปืน
หรือทนคลื่นกระแสเรา

แผ่นดินมีหินชาติ
ที่ดาดาษความโฉดเขลา
ปลิ้นปล้อนตะลอนเอา
ประโยชน์เข้าเฉพาะตน


ก่อนหน้านั้น  เมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2549 นายนวมทอง ซึ่งเป็นอดีตพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย บางกรวย ได้ขับรถยนต์แท็กซี่ พุ่งเข้าชนรถถังเบา M41A2 Walker Bulldog ป้ายทะเบียนตรากงจักร 71116 ของคณะรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 และได้รับบาดเจ็บสาหัส
นวมทอง ไพรวัลย์ ได้สละชีพกระทำอัตวินิบาตรกรรม เพื่อให้คนได้ตระหนักถึงคุณค่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และความหมายสำคัญของระบอบประชาธิปไตย ความอัปยศอัปลักษณ์ของอำนาจรัฐประหาร

นวม ทอง ไพรวัลย์ จึงเป็นสัญญลักษ์แห่งอุดมการณ์ประชาธิปไตย ที่ปรารถนาถึงสังคมไทยเป็นสังคมที่มี ‘เสรีภาพ เสมอภาคและภราดรภาพ’ ไม่ต่างไปจากความใฝ่ฝันของคณะราษฎร เมื่อปี 2475 แต่อย่างใดเลย


อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การเมืองปัจจุบัน ความขัดแย้ง ระหว่าง ‘ฝ่ายอำนาจอำมาตยาธิปไตย’ กับ ‘ฝ่ายพลังประชาธิปไตย’ ก็ยังไม่จบสิ้น นับตั้งแต่รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 และสาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งมาจากปัญหารากเหง้าของรัฐธรรมนูญปี 2550 ที่มาจาก ‘ระบอบอำมาตยาธิปไตย’ โดย ‘อำมาตยาธิปไตย’ และเพื่อ ‘อำมาตยาธิปไตย’

แม้ว่า ภายหลังจากการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยได้เสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลตามหลักการประชาธิปไตยรัฐสภา แต่ความขัดแย้งดังกล่าวยังไม่จบสิ้น เนื่องด้วยมีการเคลื่อนไหวของ ‘ฝ่ายอำมาตยาธิปไตย’ เพื่อล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมีขึ้นอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน รวมทั้งรัฐบาลพลเรือนก็ยังไม่สามารถควบคุมกองทัพได้โดยตรงเนื่องจากมีพร บ.กลาโหมเป็นอุปสรรคขัดขวาง


(อ่านต่อ)
http://prachatai3.info/journal/2012/10/43410?utm_source=dlvr.it&utm_medium=facebook

"หากไม่พูดความจริง ความยุติธรรมและการปรองดองจะเกิดขึ้นได้อย่างไร"


"หากไม่พูดความจริง ความยุติธรรมและการปรองดองจะเกิดขึ้นได้อย่างไร"
 



อ.ปิยบุตร แสงกนกกุล หนึ่งในนักวิชาการกลุ่มนิติราษฎร์ วิพากษ์ข้อเสนอปรองดองบนฐานคิดสถาบันพระปกเกล้า ซึ่งนอกจากจะมีข้อเสนอข้อหนึ่งให้มีการ "นิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง" แล้วยังมีการยกเว้นการพูด "ความจริง" บางเรื่อง โดยกล่าวว่า:


"...ในทางการเมือง การปรองดองที่กำลังจะทำกันอยู่อย่างข้อเสนอของสถาบันพระปกเกล้า ซึ่งตนเห็นว่ามีข้อดีอยู่ เช่นบทที่ว่าด้วยตัวอย่างการจัดการความขัดแย้งทางการเมืองจากต่างประเทศ 10 ประเทศ อีกส่วนหนึ่งคือเรื่องทฤษฎี เกี่ยวกับความยุติธรรมในช่วงเปลี่ยนผ่าน และทฤษฎีเรื่องความปรองดองแห่งชาติ แต่สองส่วนที่ดีมากนี้ถูกทำลายลงทั้งหมดจากข้อเสนอของสถาบันพระปกเกล้าฯเอง เพราะทฤษฎี เกี่ยวกับความยุติธรรมในช่วงเปลี่ยนผ่าน และทฤษฎีเรื่องความปรองดองแห่งชาติ ไม่ว่าจะใช้ตำรากี่เล่มก็เหมือนกันหมด คือ ต้องพูดความจริง ประเด็นต้นเหตุความขัดแย้งต้องกล้าพูดออกมาให้หมดทุกเรื่อง แต่ข้อเสนอของสถาบันพระปกเกล้าไม่พูดเรื่องม.112 ใครทำรัฐประหารก็ไม่พูด เรื่องสถาบันกษัตริย์ก็ไม่ให้พูดแล้วจะปรองดองกันได้อย่างไร"



อ.ปิยบุตร แสงกนกกุล

เว็บไซต์ประชาธรรม, 20 พฤษภาคม 2555 
ที่มา: http://www.prachatham.com/detail.htm?code=n6_20052012_01

ตอบข้อโต้แย้งประกาศคณะราษฎร ว่าด้วยการกีดกันการศึกษาของราษฎรในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์

ตอบข้อโต้แย้งประกาศคณะราษฎร ว่าด้วยการกีดกันการศึกษาของราษฎรในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์


 

 

 

 

 

 


 

โดย พุฒิพงศ์ พงศ์เอนกกุล

 

"ประกาศคณะราษฎร" ในตอนที่กล่าวว่า "มิหนำซ้ำกล่าวหมิ่นประมาทราษฎรผู้มีบุญคุณเสียภาษีอากรให้พวกเจ้าได้กินว่า ราษฎรรู้เท่าไม่ถึงเจ้านั้นไม่ใช่เพราะโง่ เป็นเพราะขาดการศึกษาที่พวกเจ้าปกปิดไว้ไม่ให้เรียนเต็มที่เพราะเกรงว่า ราษฎรได้มีการศึกษาก็จะรู้ความชั่วร้ายที่ทำไว้และคงจะไม่ยอมให้ทำนาบนหลัง คน"

เรามักจะพบ "ข้อโต้แย้ง" ข้อความในประกาศคณะราษฎรในท่อนความดังกล่าวทำนองว่า "ถ้าเจ้ากีดกันสามัญชนในการเข้าถึงการศึกษาแล้ว จะมีคนจบนอก อย่างปรีดี พนมยงค์ พจน์ พหลโยธิน ฯลฯ ได้อย่างไร?"

ในชั้นต้นเราอาจพิเคราะห์ได้ว่า ผู้เป็นเสี้ยนหนามทางความคิดความรับรู้ เช่น บรรดากบฎผู้มีบุญในสมัย ร.๕ (กบฎผู้มีบุญ คือ ผู้ที่มีชาวบ้านยกย่องนับถือตามท้องถิ่นต่างๆ จนรัฐบาลกษัตริย์เกรงว่าจะกระทบต่อพระบรมเดชานุภาพของกษัตริย์ จึงต้องปราบปราม เช่น ครูบาศรีวิชัย เป็นต้น) ทั้งปรากฏในข้อโจมตีของรัชกาลที่ ๕ ว่า ประชาชนเป็นพวกไม่รู้จักคิด ("แต่ก่อนมาพระบรมราโชบายอันใดที่จะทำไปไม่ใคร่จะได้แสดงให้ราษฎรทราบเพราะ เหตุว่าถึงทราบก็ปราศจากความคิด หรือกลับคิดเห็นการให้ผิดไปโดยมิได้แกล้ง") ฉะนั้น เพื่อ "ผนึกความรู้เข้าสู่ส่วนกลาง" จึงต้องให้การศึกษาแก่คนพวกนี้

Wake up Thailand

Wake up Thailand

 

ประจำวันอังคารที่ 30 ตุลาคม 2555    
แดงอย่าขยับ
http://www.dailymotion.com/video/xupa06 



ประจำวันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม 2555       
แช่เเข็งประเทศไทยสไตล์เสธอ้าย
http://www.dailymotion.com/video/xuobrz

The Daily Dose

The Daily Dose


  

ประจำวันที่ 30 ตุลาคม 2555
ชุมนุมในคูเวตเรียกร้อง ปชต.เกิน 20 คนไม่ได้
http://www.dailymotion.com/video/xuppun 


ประจำวันที่ 29 ตุลาคม 2555 
รีบระบายข้าวตามข้อเสนอวิโรจน์ ณ ระนอง 
http://www.dailymotion.com/video/xuost6

Divas Cafe

Divas Cafe  



ดูละคร ย้อนมองสังคมผ่าน.. 'แรงเงา' 

ประจำวันที่ 30 ตุลาคม 2555
ดูละคร ย้อนมองสังคมผ่าน.. 'แรงเงา'
http://www.dailymotion.com/video/xupi6p



ผิดเป็น..ปู ? กับกระแสดราม่าออนไลน์

ประจำวันที่ 29 ตุลาคม 2555
ผิดเป็น..ปู ? กับกระแสดราม่าออนไลน์ 
http://www.dailymotion.com/video/xuokd0

ที่นี่ความจริง 30 10 2012

ที่นี่ความจริง 30 10 2012

 


(คลิกฟัง) 
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=NK81dJVIbTM

รายงาน: สรุปข้อต่อสู้คดี 112 บนเฟซบุ๊ค ‘เราจะครองxxxx’ ก่อนพิพากษาพรุ่งนี้

รายงาน: สรุปข้อต่อสู้คดี 112 บนเฟซบุ๊ค ‘เราจะครองxxxx’ ก่อนพิพากษาพรุ่งนี้

 

ฝากรูป

พรุ่งนี้ (31 ต.ค.55)  เวลา 9.00 น. ที่ศาลอาญา รัชดา จะมีการพิพากษา คดีของนายสุรภักดิ์ จำเลยในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และ ความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา14(3)

มาตรา 14 ผู้ใดกระทําความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ 

(1) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน 

(2) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิด ความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน

(3) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง แห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา

สุรภักดิ์ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 2 ก.ย.54 ไม่ได้ประกันตัวและอยู่ในเรือนจำจนถึงปัจจุบัน
 
สุรภักดิ์ อายุ 40 ปี เป็นโปรแกรมเมอร์ที่เพิ่งจัดตั้งบริษัทของตนเอง รับจ้างออกแบบระบบให้บริษัทเอกชนต่างๆ รวมถึงรัฐวิสาหกิจด้วย

เขาถูกกล่าวหาว่า เป็น “เจ้าของ” บัญชีเฟซบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า “เราจะครองxxxx”  โพสต์ข้อความที่เข้าข่ายความผิดทั้งสิ้น 6 ข้อความ แต่เมื่ออัยการทำคำฟ้องปรากฏเพียง 5 ข้อความ (4 พ.ค.54, 18 มิ.ย.54, 22 มิ.ย.54, 23 มิ.ย.54, 16 ส.ค.54) ดังนั้น หากศาลพิพากษาให้เขามีความผิดจริง เขาจะมีความผิด 5 กรรม
 
สุรภักดิ์ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาทั้งในชั้นจับกุมและในชั้นสอบสวน โดยระบุด้วยว่า ไม่ใช่เจ้าของอีเมล์และเฟซบุ๊คดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หลังสุรภักดิ์ถูกจับกุม เฟซบุ๊คบัญชีนี้ยังเปิดใช้งานและมีความเคลื่อนไหวอยู่

ความเป็นมาของคดีนี้เริ่มต้นจาก มีประชาชนทั่วไปชื่อ มานะชัย แจ้งเบาะแสไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทาง เทคโนโลยี หรือ ปอท. โดยแจ้งว่ามีเฟซบุ๊คที่กระทำความผิดดังกล่าว มีเจ้าของเป็นนายสุรภักดิ์ พร้อมให้ชื่อ-นามสกุล-ที่อยู่ แก่เจ้าหน้าที่ด้วย โดยในการสืบพยานในศาล เจ้าหน้าที่เบิกความว่าไม่รู้และไม่ได้ตรวจสอบว่าบุคคลผู้ให้เบาะแสนี้คือ ใคร และไม่สามารถนำตัวผู้แจ้งเบาะแสมาเบิกความได้

จากนั้นไม่นานจึงมีนักศึกษาราชภัฏคนหนึ่งไปร้องทุกข์กล่าวโทษกับตำรวจ ทำให้เรื่องนี้เป็นคดีขึ้นมาอย่างเป็นทางการ พยานปากนี้ขึ้นเบิกความในชั้นศาลด้วย ซึ่งทั้งพยานและจำเลยไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว อย่างไรก็ตาม พยานปากนี้ระบุว่าได้ปลอมตัวเป็นคนเสื้อแดงเข้าไปเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊คที่ ถูกกล่าวหาดังกล่าว จึงสามารถเห็นข้อความหมิ่นที่ถูกโพสต์ได้ และทำการ capture หน้าจอ ปริ๊นท์ออกมาเป็นหลักฐานให้ตำรวจ

นักศึกษาราชภัฏยังระบุถึงความเชื่อมโยงระหว่างอีเมล์และเฟซบุ๊คที่กระทำ ผิดไว้ว่า พยานเป็นสมาชิกในอีเมล์กรุ๊ปหนึ่งของกูเกิลกรุ๊ป และได้นำอีเมล์สมาชิกคนหนึ่งคือdorkao@hotmail.com (ดอกอ้อ) ไปค้นหาใน google ผลการค้นหาพบหน้าเฟซบุ๊คบัญชี เราจครองxxxx จึงสันนิษฐานว่าเจ้าของอีเมล์นี้เป็นเจ้าของบัญชีเฟซบุ๊คดังกล่าวด้วย ต่อมาจึงได้ทราบในภายหลังจากตำรวจว่า อีเมล์ดังกล่าวนั้นคือนายสุรภักดิ์

(อ่านต่อ) 

http://www.prachatai.com/journal/2012/10/43398

ประเมินม็อบ"เสธ.อ้าย" หน่วยข่าวจับตา"ท่อน้ำเลี้ยง" "หวั่นมือที่3-ป่วนเมือง"

ประเมินม็อบ"เสธ.อ้าย" หน่วยข่าวจับตา"ท่อน้ำเลี้ยง" "หวั่นมือที่3-ป่วนเมือง"




การชุมนุมขององค์กรพิทักษ์สยามและภาคีเครือข่าย นำโดย พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือเสธ.อ้าย ประธานองค์กรพิทักษ์สยาม และภาคีเครือข่าย 30 องค์กร ภายใต้ชื่อ "รวมพลัง คนทนไม่ไหว หยุดวิกฤตและหายนะชาติ" เพื่อเรียกร้องนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลแก้ไข 3 เรื่อง คือ 1.จาบจ้วงสถาบัน 2.เป็นหุ่นเชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ 3.การทุจริตคอร์รัปชั่น ที่ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย (สนามม้านางเลิ้ง) เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม เป็นการชุมนุมท่ามกลางกระแสข่าวบันได 5 ขั้น ในการล้มรัฐบาล

แขกรับ เชิญที่ขึ้นเวทีครั้งนี้ไม่ใช่ใครอื่น หลายคนเป็นนักเคลื่อนไหวหน้าเก่า อาทิ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำเสื้อหลากสี ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ กลุ่มกองทัพธรรม นายนิพนธ์ วงษ์ตระหง่าน อดีตนายกสมาคมโรงสีข้าวแห่งประเทศไทย น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตสมาชิกนิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นายสมบูรณ์ ทองบุราณ รศ.ดร.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ อาจารย์ประจำภาควิชาเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายพิเชฏฐ พัฒนโชติ นายเสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน และ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ โดย พล.อ.บุญเลิศสรุปยอดผู้ชุมนุมประมาณ 30,000 คน เป็นผู้มาลงทะเบียน 20,000 คน และอีก 10,000 คนไม่ได้ลงชื่อ

ขณะที่ ศูนย์ปฏิบัติการข่าวด้านความมั่นคง กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เกาะติดความเคลื่อนไหวและสรุปยอดผู้ชุมนุมสูงสุดจำนวน 7,300 คน ในช่วงเวลา 16.00 น.

โดยเวลาประมาณ 08.20 น. มีมวลชนจากกองทัพธรรมซึ่งเดินทางมาจากชุมชนศีรษะอโศก จ.ศรีสะเกษ ราชธานีอโศก จ.อุบลราชธานี กลุ่มญาติธรรม วัดป่าสงวนธรรมร่วมใจ จ.ยโสธร และปฐมอโศก จ.นครปฐม ประมาณ 500 คน มาปักหลัก ส่วนผู้ชุมนุมที่เหลือเป็นกลุ่มของ นพ.ตุลย์ และฐานเสียงส่วนหนึ่งจากพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามในกรุงเทพมหานครเดินทางมา สมทบ

เนื้อหาการปราศรัยเป็นการกล่าวโจมตีรัฐบาล ส่วนใหญ่ตีวงอยู่ใน 3 ข้อเรียกร้อง ซึ่งรวมถึงการปราศรัยโจมตีนโยบายรับจำนำข้าวด้วย

อย่างไรก็ตาม จากยอดผู้ชุมนุมทำให้ภาคีเครือข่ายตัดสินใจประกาศเดินหน้ารวมพลตามแผนบันไดขั้นที่ 2 ดังที่เคยประกาศไว้

"ประชาชน ที่มาร่วมชุมนุมจะกลับไปบอกผู้ที่ไม่ได้มา ให้มาร่วมชุมนุม คาดว่า 1 คน จะชวนมาได้ 100 คน คาดว่าการชุมนุมครั้งต่อไปอาจจะเกิดขึ้นใน 1 เดือน โดยบันไดขั้นที่ 2 จะต้องจบการชุมนุมในวันเดียว จะเป็นการชุมนุมในนามกลุ่มประชาชนคนรักชาติ องค์กรพิทักษ์สยามและภาคีเครือข่าย" พล.อ.บุญเลิศกล่าว 

(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1351562597&grpid=01&catid=&subcatid=

ประมวลภาพ พายุเฮอร์ริเคน "แซนดี้"ถล่มสหรัฐยับ ไฟฟ้าดับ-น้ำท่วม กระทบปชช.กว่า 2 ล้านคน !!

ประมวลภาพ พายุเฮอร์ริเคน "แซนดี้"ถล่มสหรัฐยับ ไฟฟ้าดับ-น้ำท่วม กระทบปชช.กว่า 2 ล้านคน !!


 


เฮอร์ริเคนแซนดี้ สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างแก่ชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ก่อให้เกิดฝนตกหนัก ลมแรง น้ำท่วมสูง และหิมะตกหนักที่ก่อให้เกิดแผ่นดินถล่ม

คาดว่าประชาชนกว่า 50 ล้านคนจะได้รับผลกระทบจากพายุลูกนี้ ประชาชนหลายแสนคนได้รับคำสั่งให้อพยพออกจากบ้านเรือน และอีกมากกว่า 2 ล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้ บริการขนส่งสาธารณะถูกยกเลิกในหลายเมือง เที่ยวบินจำนวนมากถูกระงับ

ทั้งนี้ คาดกันว่าพายุแซนดี้จะยังคงส่งอิทธิพลต่อ 12 รัฐของสหรัฐฯในอีกราว 24-36 ชม.ข้างหน้าต่อไป และคาดว่าจะเกิดหิมะตกหนักสูง 91 ซม. ในเขตเทือกเขาแอพพาลาเชียนในรัฐเวสต์ เวอร์จิเนีย, เวอร์จิเนีย และเคนตักกี้

(ที่มา)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1351567259&grpid=01&catid=&subcatid=

เก็บตก-สะเก็ดข่าว เบื้องหลังการถ่ายทำ"ปู3" (และข่าวลือ-ข่าวจริงกับชื่อย่อส.เสือ) !!?

เก็บตก-สะเก็ดข่าว เบื้องหลังการถ่ายทำ"ปู3" (และข่าวลือ-ข่าวจริงกับชื่อย่อส.เสือ) !!?

 


การปรับ "ครม.ปู 3" เรียบร้อยไปแล้ว

ภายหลังมีพระบรม ราชโองการแต่งตั้ง ครม.ชุดใหม่ รอขั้นตอนการเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน ก่อนเข้ารับหน้าที่อย่างเป็นทางการเท่านั้น ทุกอย่างก็จะเสร็จสิ้น

เป็นการปรับใหญ่ถึง 23 ตำแหน่ง หรือค่อน ครม.

พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งรัฐมนตรี ประกาศออกมาเมื่อวันอาทิตย์ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา

มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ที่น่าจะเก็บตก นำมาบันทึกไว้ประกอบการติดตามข่าวสารการเมืองกันต่อไป

สำหรับรายชื่อ ครม.ใหม่ทั้งคนเข้าและคนออก เป็นไปตามกระแสข่าวก่อนหน้านี้

เว้นแต่ตำแหน่ง รมช.คลัง ปรากฏว่า นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ต้องพ้นจากตำแหน่งด้วย โดยไม่มีข่าวโหมโรงมาก่อน

แม้ว่านักข่าวสายกระทรวงการคลังจะบอกว่า แว่วๆ ข่าวมาบ้าง แต่ก็ไม่ได้ยินความเคลื่อนไหวมากกว่านั้น

การ พ้นตำแหน่งของนายวิรุฬ ปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 18 ของพรรคเพื่อไทย รมช.คลังที่ทำงานเงียบๆ แต่มีอัธยาศัยไมตรี เป็นนักเลงพระระดับเซียนเกรงใจอีกคนหนึ่ง อธิบายได้ว่า เพราะเหนียวแน่นในตำแหน่งนี้มา 2 ยุค ทั้งในยุคปู 1 และปู 2 ถือว่ายาวนานพอสมควร ในรัฐบาลที่คนมาก เก้าอี้น้อย และต้องปรับตัวรับกระแสปัญหาใหม่ๆ ตลอด

ผลที่ตามมา ทำให้กระทรวงเหลือ รมต. 2 คน คือ รมว. นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กับ รมช. นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย ซึ่งจะต้องแบ่งงานกันใหม่

การที่กระทรวงนี้ลดจำนวน รมช.ลงไป ทำให้เกิดความคาใจจากพรรคร่วมรัฐบาล

เพราะ อีกตำแหน่งที่มีการปรับเปลี่ยนแบบเซอร์ไพรส์กันเอง คือ กรณีของ นายฐานิสร์ เทียนทอง ที่โดนปรับจาก รมช.มหาดไทย ไปเป็น รมช.อุตสาหกรรม อันเป็นกระทรวงในโควตาของพรรคชาติพัฒนา

ในแบบที่เจ้าของโควตามารับรู้ทีหลังว่า ตำแหน่งเต็ม ไม่พอรองรับ ขอฝากมาเป็นรัฐมนตรี ให้ช่วยจัดแบ่งงานให้ด้วย

ซึ่งที่จริง หากมีการลดตำแหน่ง รมช.คลัง ตำแหน่งก็น่าจะพอ สำหรับการจัดสรรในพรรคเพื่อไทย

สำหรับ ตำแหน่งของนายฐานิสร์ ทางพรรคเพื่อไทยต้องจัดหาให้เป็นพิเศษ เพราะเกรงว่า ถ้าหลุดหายไปเลย อาจเกิดปัญหาจาก "ป๋าเหนาะ" นายเสนาะ เทียนทอง นักการเมืองรุ่นเก๋า ผู้ส่งนายฐานิสร์เข้าประกวดได้

ตำแหน่ง รมว.อุตสาหกรรม ของ นายประเสริฐ บุญชัยสุข ส.ส.โคราช พรรคชาติพัฒนา ก็ได้มาแบบพิสดารเล็กน้อย

ในวันที่ 24 ต.ค. ที่แกนนำรัฐบาลเรียกให้ว่าที่ รมต.ไปกรอกประวัติ

ปรากฏว่าแกนนำชาติพัฒนา ติดต่อนายประเสริฐไม่ได้ เพราะเจ้าตัวปิดโทรศัพท์มือถือ

ต้องติดต่อไปที่ นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเดียวกัน ซึ่งอยู่ที่รัฐสภา ให้ไปช่วยตามหาตัวที่ห้องต่างๆ ในสภา

ก่อนจะพบว่ากำลังประชุมกรรมาธิการ ต้องเรียกตัวไปกับแกนนำพรรค ก่อนส่งตัวไปกรอกประวัติที่ทำเนียบรัฐบาล

อีกเก้าอี้ที่น่าสนใจ คือ การปลด พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา หรือบิ๊กอ๊อด ออกจากตำแหน่งรองนายกฯ

ที่ ผ่านมาดูแลการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่การปรับ "ครม.ปู 3" ครั้งนี้ไม่มีรองนายกฯที่เคยเป็นนายทหารที่จะเข้ามารับผิดชอบแทน

จะมีก็แค่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี แต่เจ้าตัวตอบปฏิเสธ

กลายเป็นงานที่ยัง "โหว่" ต้องไปหา เจ้าภาพผู้รับผิดชอบมาดูแลกันต่อไป และน่าสนใจว่านายกฯยิ่งลักษณ์จะมอบหมายงานนี้ให้ใคร

อีกกระแส ข่าวในการจัดทำโผ ครม.ก็คือ บทบาทของนักการเมืองชื่อ "ส.เสือ" ที่ถูกคนเสื้อแดงบางกลุ่ม ระบุว่าเป็นต้นเหตุทำให้นายจตุพร พรหมพันธุ์ ไม่ได้ตำแหน่ง รมต.ในครั้งนี้

(อ่านต่อ) 
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1351565137&grpid=01&catid=&subcatid=