ประเมินม็อบ"เสธ.อ้าย" หน่วยข่าวจับตา"ท่อน้ำเลี้ยง" "หวั่นมือที่3-ป่วนเมือง"
การชุมนุมขององค์กรพิทักษ์สยามและภาคีเครือข่าย นำโดย
พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือเสธ.อ้าย ประธานองค์กรพิทักษ์สยาม
และภาคีเครือข่าย 30 องค์กร ภายใต้ชื่อ "รวมพลัง คนทนไม่ไหว
หยุดวิกฤตและหายนะชาติ" เพื่อเรียกร้องนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลแก้ไข 3 เรื่อง
คือ 1.จาบจ้วงสถาบัน 2.เป็นหุ่นเชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร
อดีตนายกรัฐมนตรี และ 3.การทุจริตคอร์รัปชั่น
ที่ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย (สนามม้านางเลิ้ง) เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม
เป็นการชุมนุมท่ามกลางกระแสข่าวบันได 5 ขั้น ในการล้มรัฐบาล
แขกรับ เชิญที่ขึ้นเวทีครั้งนี้ไม่ใช่ใครอื่น หลายคนเป็นนักเคลื่อนไหวหน้าเก่า อาทิ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำเสื้อหลากสี ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ กลุ่มกองทัพธรรม นายนิพนธ์ วงษ์ตระหง่าน อดีตนายกสมาคมโรงสีข้าวแห่งประเทศไทย น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตสมาชิกนิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นายสมบูรณ์ ทองบุราณ รศ.ดร.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ อาจารย์ประจำภาควิชาเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายพิเชฏฐ พัฒนโชติ นายเสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน และ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ โดย พล.อ.บุญเลิศสรุปยอดผู้ชุมนุมประมาณ 30,000 คน เป็นผู้มาลงทะเบียน 20,000 คน และอีก 10,000 คนไม่ได้ลงชื่อ
ขณะที่ ศูนย์ปฏิบัติการข่าวด้านความมั่นคง กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เกาะติดความเคลื่อนไหวและสรุปยอดผู้ชุมนุมสูงสุดจำนวน 7,300 คน ในช่วงเวลา 16.00 น.
โดยเวลาประมาณ 08.20 น. มีมวลชนจากกองทัพธรรมซึ่งเดินทางมาจากชุมชนศีรษะอโศก จ.ศรีสะเกษ ราชธานีอโศก จ.อุบลราชธานี กลุ่มญาติธรรม วัดป่าสงวนธรรมร่วมใจ จ.ยโสธร และปฐมอโศก จ.นครปฐม ประมาณ 500 คน มาปักหลัก ส่วนผู้ชุมนุมที่เหลือเป็นกลุ่มของ นพ.ตุลย์ และฐานเสียงส่วนหนึ่งจากพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามในกรุงเทพมหานครเดินทางมา สมทบ
เนื้อหาการปราศรัยเป็นการกล่าวโจมตีรัฐบาล ส่วนใหญ่ตีวงอยู่ใน 3 ข้อเรียกร้อง ซึ่งรวมถึงการปราศรัยโจมตีนโยบายรับจำนำข้าวด้วย
อย่างไรก็ตาม จากยอดผู้ชุมนุมทำให้ภาคีเครือข่ายตัดสินใจประกาศเดินหน้ารวมพลตามแผนบันไดขั้นที่ 2 ดังที่เคยประกาศไว้
"ประชาชน ที่มาร่วมชุมนุมจะกลับไปบอกผู้ที่ไม่ได้มา ให้มาร่วมชุมนุม คาดว่า 1 คน จะชวนมาได้ 100 คน คาดว่าการชุมนุมครั้งต่อไปอาจจะเกิดขึ้นใน 1 เดือน โดยบันไดขั้นที่ 2 จะต้องจบการชุมนุมในวันเดียว จะเป็นการชุมนุมในนามกลุ่มประชาชนคนรักชาติ องค์กรพิทักษ์สยามและภาคีเครือข่าย" พล.อ.บุญเลิศกล่าว
แขกรับ เชิญที่ขึ้นเวทีครั้งนี้ไม่ใช่ใครอื่น หลายคนเป็นนักเคลื่อนไหวหน้าเก่า อาทิ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำเสื้อหลากสี ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ กลุ่มกองทัพธรรม นายนิพนธ์ วงษ์ตระหง่าน อดีตนายกสมาคมโรงสีข้าวแห่งประเทศไทย น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตสมาชิกนิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นายสมบูรณ์ ทองบุราณ รศ.ดร.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ อาจารย์ประจำภาควิชาเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายพิเชฏฐ พัฒนโชติ นายเสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน และ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ โดย พล.อ.บุญเลิศสรุปยอดผู้ชุมนุมประมาณ 30,000 คน เป็นผู้มาลงทะเบียน 20,000 คน และอีก 10,000 คนไม่ได้ลงชื่อ
ขณะที่ ศูนย์ปฏิบัติการข่าวด้านความมั่นคง กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เกาะติดความเคลื่อนไหวและสรุปยอดผู้ชุมนุมสูงสุดจำนวน 7,300 คน ในช่วงเวลา 16.00 น.
โดยเวลาประมาณ 08.20 น. มีมวลชนจากกองทัพธรรมซึ่งเดินทางมาจากชุมชนศีรษะอโศก จ.ศรีสะเกษ ราชธานีอโศก จ.อุบลราชธานี กลุ่มญาติธรรม วัดป่าสงวนธรรมร่วมใจ จ.ยโสธร และปฐมอโศก จ.นครปฐม ประมาณ 500 คน มาปักหลัก ส่วนผู้ชุมนุมที่เหลือเป็นกลุ่มของ นพ.ตุลย์ และฐานเสียงส่วนหนึ่งจากพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามในกรุงเทพมหานครเดินทางมา สมทบ
เนื้อหาการปราศรัยเป็นการกล่าวโจมตีรัฐบาล ส่วนใหญ่ตีวงอยู่ใน 3 ข้อเรียกร้อง ซึ่งรวมถึงการปราศรัยโจมตีนโยบายรับจำนำข้าวด้วย
อย่างไรก็ตาม จากยอดผู้ชุมนุมทำให้ภาคีเครือข่ายตัดสินใจประกาศเดินหน้ารวมพลตามแผนบันไดขั้นที่ 2 ดังที่เคยประกาศไว้
"ประชาชน ที่มาร่วมชุมนุมจะกลับไปบอกผู้ที่ไม่ได้มา ให้มาร่วมชุมนุม คาดว่า 1 คน จะชวนมาได้ 100 คน คาดว่าการชุมนุมครั้งต่อไปอาจจะเกิดขึ้นใน 1 เดือน โดยบันไดขั้นที่ 2 จะต้องจบการชุมนุมในวันเดียว จะเป็นการชุมนุมในนามกลุ่มประชาชนคนรักชาติ องค์กรพิทักษ์สยามและภาคีเครือข่าย" พล.อ.บุญเลิศกล่าว
(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1351562597&grpid=01&catid=&subcatid=
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น