“กรีซ-สเปน” ประชาชนยังลุกฮือ ผลพวงพิษวิกฤตเศรษฐกิจยุโรป
ชาวกรีกหลายหมื่นคน ได้ชุมนุมประท้วงทั่วประเทศ เมื่อวันพฤหัสบดี เพื่อต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดที่เข้มงวดยิ่งขึ้น และส่งผลให้เครือข่ายขนส่งของประเทศต้องปิดให้บริการไปโดยปริยาย (ที่มาภาพ: Riot TV)
ผลจากการใช้นโยบาย “รัดเข็มขัด” เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจของรัฐบาลประเทศยุโรป ล่าสุดประชาชนยังแสดงความไม่พอใจอย่างต่อเนื่องทั้งที่กรีซและสเปน สองประเทศที่อาการโคม่าที่สุดในขณะนี้19 ต.ค. 55 – เนชั่นทันข่าวรายงาน ว่าเมื่อวันที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมาชาวกรีกหลายหมื่นคน ได้ชุมนุมประท้วงทั่วประเทศ เมื่อวันพฤหัสบดี เพื่อต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดที่เข้มงวดยิ่งขึ้น และส่งผลให้เครือข่ายขนส่งของประเทศต้องปิดให้บริการไปโดยปริยาย
มีการปะทะกันที่กรุงเอเธนส์ หลังจากผู้ประท้วงขว้างปาก้อนหินและขวดเข้าใส่ตำรวจ และร้องตะโกนคำขวัญว่า ไม่มีที่ให้ตำรวจในการประท้วงอย่างสันติ โดยการประท้วงครั้งนี้ เกิดขึ้นในขณะที่บรรดาผู้นำชาติยุโรป กำลังประชุมกันที่กรุงบรัสเซลล์ของเบลเยียม เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิกยูโรโซน ท่ามกลางวิกฤติหนี้ที่เป็นอุปสรรคขัดขวางการเติบโตแบบยั่งยืน
การประท้วงเมื่อวันพฤหัสบดี เป็นการประท้วงใหญ่ครั้งที่สองในระยะเวลา 1เดือน ตามคำเรียกร้องของสหภาพต่าง ๆ ที่ระบุว่า ถ้ามีการตัดค่าแรงหรือบำนาญรอบใหม่ ก็จะเจ็บปวดเกินไปสำหรับชาวกรีกที่ต้องทนแบกรับความทุกข์อยู่ในเวลานี้ ซึ่งความไม่พอใจในมาตรการรัดเข็มขัด ได้ส่งผลให้เกิดการประท้วงรุนแรงตามท้องถนนมาแล้วหลายครั้ง
การประท้วงล่าสุดในกรุงเอเธนส์ มีผู้เข้าร่วมประมาณ 30,000 คน ตำรวจสามารถจำกัดความรุนแรงได้ หลังจากดำเนินอยู่นาน 90 นาที ซึ่งผู้ประท้วงได้สลายตัวจากจตุรัสซินแท็กม่า ในช่วงบ่าย มีรายงานว่า มีชายวัย 65 ปีคนหนึ่ง เสียชีวิตหลังจากเป็นลมหน้ามืดในระหว่างการชุมนุมแม้ว่าแพทย์ของสหภาพจะ พยายามช่วยชีวิตเขา แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
การชุมนุมยังมีขึ้นตามเมืองใหญ่ ๆ รวมทั้ง เธสซาโลนิกี้ และ ปาทรัส หรือแม้กระทั่งเกาะครีทผู้ประท้วงบางคน ได้โบกธงชาติสเปนและโปรตุเกส ร่วงกับธงกรีซ เพื่อแสดงให้เห็นความเป็นเอกภาพด้านแรงงาน ที่ต้องเผชิญชะตากรรมเดียวกัน ภายใต้มาตรการรัดเข็มขัด ร้านค้าพากันปิดทำการ เช่นเดียวรถไฟและท่าเรือหลายแห่ง ส่วนโรงพยาบาลหลายแห่งได้รับผลกระทบในส่วนของแผนกจัดกระดูกและการขนส่ง.
สเปนประท้วงนักเรียน-นักศึกษาประท้วงรัฐบาลตัดลดการใช้จ่ายด้านการศึกษา
ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา ASTV ผู้จัดการออนไลน์รายงาน ว่านักเรียนมัธยมและนักศึกษามหาวิทยาลัยหลายพันคน ร่วมเดินขบวนตามเมืองต่างๆ หลายสิบแห่งทั่วสเปนเพื่อแสดงพลังต่อต้านรัฐบาลที่ตัดลดการใช้จ่ายด้านการ ศึกษา ที่รัฐบาลมีเป้าหมายลดการขาดดุลสาธารณะ
“เอาเงินจากพวกธนาคารนั่นแหละมาให้โรงเรียนของรัฐ” ผู้ประท้วงต่างพากันตะโกนขณะที่เดินผ่านท้องถนนสายต่างๆ ในกรุงมาดริด อ้างถึงเงินจำนวนแสนล้านยูโรที่รัฐบาลอัดฉีดช่วยเหลือธนาคารต่างๆ ที่กำลังร่อแร่ แต่อีกด้านหนึ่งกลับดำเนินการตัดลดการใช้จ่ายต่างๆทางสังคม
ในบาร์เซโลนา เมืองใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของสเปน ตำรวจเปิดเผยว่ามีนักเรียนราว 3,000 คน เดินขบวนไปตามท้องถนนหลายสาย นอกจากนี้ยังพบเห็นการประท้วงที่มีผู้เข้าร่วมหลายพันคนทั้งในบาเลนเซียและ เมืองอื่นๆ
การเดินขบวนเป็นส่วนหนึ่งของแผนประท้วง 3 วันของเหล่านักเรียนนักศึกษา ซึ่งจะมีไปจนถึงวันพฤหัสบดี (18 ต.ค.) ขณะที่มีรายงานว่าการชุมนุมในกรุงมาดริดนั้น มีเหล่าผู้ปกครองและพวกครูบาอาจารย์เข้าร่วมด้วย “โรงเรียนของฉัน มีครูถูกปลดไปแล้ว 7 คนในปีนี้ หลังจากปีที่แล้วโดนไปทั้งหมด 16 คน” ซารา ดิอาซ นักเรียนมัธยมรายหนึ่งเผยระหว่างร่วมชุมนุมในเมืองหลวง
ด้านลีโอนอร์ อันเดรส วัย 50 ปี ที่เดินทางมาร่วมชุมนุมในมาดริด พร้อมกับลูกสาววัย 14 ปี บอกว่าแผนตัดลดงบประมาณด้านการศึกษาส่งผลประทบต่อขนาดชั้นเรียนและบีบให้ สถาบันการศึกษาต่างๆต้องยกเลิกกิจกรรมทั้งหลายแหล่
นอกจากนี้แล้ว ผู้ประท้วงบางส่วนยังคร่ำครวญว่าแผนลดค่าใช้จ่ายของรัฐบาล ยังนำมาซึ่งค่าเล่าเรียนที่แพงขึ้นในระดับมหาวิทยาลัย “ค่าเทอมพุ่งพรวด ปีที่แล้วฉันเสียค่าเทอมแค่ 700 ยูโร (28,000 บาท) แต่ปีนี้ขึ้นไปเป็น 1,300 ยูโร (52,000 บาท)” ลอรา รุยส์ นักศึกษาสื่อสารมวลชนวัย 21 ปีกล่าว
ข้อมูลของกระทรวงศึกษาธิการสเปนระบุว่างบประมาณด้านการศึกษาในปีนี้ถูก ปรับลดจากปี 2011 กว่า 1,000 ล้านยูโร และตามสถาบันการศึกษารัฐบาล ระหว่างปีการศึกษา 2011-12 มีการจ้างงานครูลดลงเกือบ 3,000 ตำแหน่ง
(ที่มา)http://www.prachatai.com/journal/2012/10/43231
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น