หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2555

8 เรื่องน่ารู้ เกร็ดวันแรงงานสหรัฐฯ

8 เรื่องน่ารู้ เกร็ดวันแรงงานสหรัฐฯ

 


ปีนี้วันที่ 3 ก.ย. ถือเป็นวันแรงงานของสหรัฐฯ ที่จะนับตามวันจันทร์วันแรกของเดือน ก.ย. เว็บไซต์ BusinessNewsDaily ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวธุรกิจได้นำเสนอรายงานพิเศษเกี่ยวกับข้อเท็จจริงของแรง งานในสหรัฐฯ


วันที่ 3 ก.ย. 2012 ถือเป็นวันแรงงานของสหรัฐฯ ซึ่งปกติแล้วจะนับตามวันจันทร์วันแรกของเดือน ก.ย. ในปีนี้เว็บไซต์ BusinessNewsDaily ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวธุรกิจได้นำเสนอรายงานพิเศษเกี่ยวกับข้อเท็จจริงของแรง งานในสหรัฐฯ
BusinessNewsDaily กล่าวว่าหากคุณคิดว่าวันแรงงานเป็นแค่การหาข้ออ้างในการเลี้ยงบาร์บีคิวและ การฉลองให้การวันสิ้นสุดฤดูร้อน คุณก็คิดผิดแล้ว รากเหง้าของวันแรงงานของสหรัฐฯ คือการเชิดชูผลงานของแรงงาน

เกร็ดน่ารู้เกี่ยวแรงงานในสหรัฐฯ 8 ข้อ มีดังนี้


1. วันแรงงานสหรัฐฯ เดิมทีเป็นการประท้วง

ต้นกำเนิดของวันแรงงานสหรัฐฯ ไม่ใช่การเฉลิมฉลอง จริงๆ แล้วการ 'ฉลอง' ให้กับวันแรงงานครั้งแรกในสหรัฐฯ คือการประท้วงของคนงาน 10,000 คน ที่ชุมนุมเดินขบวนมาที่จัตุรัสยูเนียน สแควร์ ในนิวยอร์กซิตี้ เพื่อสนับสนุนแนงคิดเรื่องวันหยุดของแรงงาน จนกระทั่งถึงในปี 1894 หลังจากการประท้วงครั้งนั้น 12 ปี ประธานาธิบดี โกรเวอร์ คลีฟแลนด์ ได้เซ็นลงนามให้วันจันทร์วันแรกของเดือน ก.ย. ของทุกปี เป็นวันแรงงาน ซึ่งหลายรัฐได้ผ่านร่างกฏหมายยอมรับวันแรงงานก่อนหน้านี้แล้ว

2. คนทำงานในสำนักงานน้อยลง

จำนวนลูกจ้างที่ทำงานจากบ้านมีเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากการพัฒนาเทคโนโลยี ที่ทำให้การทำงานในที่ไกลจากสำนักงานทำได้ง่ายขึ้น การสำรวจสำมะโนประชากรของสหรัฐฯ ในปี 2010 ระบุว่า มีคนราว 5,900,000 คนโดยประมาณที่ทำงานจากที่บ้านในปี 2010 แม้ว่าจำนวนนี้จะคิดเป็นคนในสัดส่วนน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนลูกจ้างทั้งหมด แต่ก็มีการประเมินว่าคนกลุ่มนี้จะเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในอีกช่วง สองสามปีนี้

ลูกจ้างในสหรัฐฯ มีความอยากทำงานที่บ้านมากถึงขนาดยอมสละบางอย่างได้ ในการสำรวจเมื่อไม่นานมานี้ ลูกจ้างราวร้อยละ 12 บอกว่าพวกเขายอมไม่อาบน้ำเพื่อแลกกับการได้ทำงานที่บ้าน อีกร้อยละ 5 บอกว่าพวกเขายอมหย่ากับคู่ครองเพื่อให้ได้ทำงานที่บ้าน

3. เป็นวันที่คน 155 ล้านคน จะได้เฉลิมฉลอง

จำนวนคนงานที่ได้มีวันหยุดในวันแรงงานของสหรัฐฯ มีจำนวน 155,200,000 คน ซึ่งเป็นจำนวนแรงงานสหรัฐฯ ทั้งหมด จำนวน 155 ล้านคนนี้รวบรวมมาจากข้อมูลของสำนักสถิติแรงงานแห่งชาติสหรัฐฯ เมื่อเดือน มิ.ย. 2012 ซึ่งทำการสำรวจจากจำนวนผู้ใช้แรงงานอายุ 16 ปีขึ้นไป

งานที่ได้รับความนิยมมากที่สุดวัดตามการสำรวจสำมะโนประชากรของสหรัฐฯ ในปี 2010 ได้แก่ วิชาชีพครู (3,073.673 คน), ภารโรง (1,445,991 คน) และ คนทำอาหาร (1,051,471 คน)

4. ไม่มีใครทราบว่าผู้ริเริ่มวันหยุดนี้เป็นใคร

แม้ว่าจะไม่มีรู้แน่ชัดว่าผู้เริ่มต้นวันแรงงานสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการคือใคร มีอยูสองคนที่เป็นที่ถกเถียงกันอยู่

กระทรวงแรงงานของสหรัฐฯ ให้เครดิตกับทั้ง ปีเตอร์ เจ แมคไกร์ เลขาธิการภราดรภาพช่างไม้ และผู้ร่วมก่อตั้งสหพันธ์แรงงานของสหรัฐฯ กับอีกคนคือ แมธธิว มาไกร์ ช่างเครื่องยนต์ ซึ่งในเวลาต่อมากลายเป็นเลขาธิการสาขาของสมาคมช่างยนต์ ในเพเตอสัน รัฐนิวเจอร์ซี ว่าทั้งสองคนนี้เป็นผู้เสนอแนวคิดเรื่องวันแรงงานสหรัฐฯ

5. ความแตกต่างด้านรายได้ยังคงอยู่

แม้ว่าจะมีความพยายามอย่างมากในการทำให้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงได้รับ เงินค่าตอบแทนเท่ากัน แต่ความต่างก็ยังมีอยู่ ในการสำรวจสำมะโนประชากรปี 2010 ประชากรชายโดยเฉลี่ยได้รับเงินค่าจ้าง 47,715 ดอลลาร์ (ราว 1,490,000 บาท) ต่อปี ขณะที่ผู้หญิงโดยเฉลี่ยได้รับเงินค่าจ้าง 36,931 ดอลลาร์ (ราว 1,153,000 บาท) ต่อปี

6. คนงาน 'นกตื่นเช้า'

คนงานต้องเสียสละอะไรหลายอย่างมากเพื่องาน หนึ่งในสิ่งที่พวกเขาสละมากที่สุดคือตารางเวลานอน สำมะโนประชากรปี 2010 ระบุว่ามีคนงานราว 16,300,000 คน เริ่มออกไปทำงานตั้งแต่ช่วงเวลาระหว่างเที่ยงคืนถึง 5.59 น. คนงาน 'นกตื่นเช้า' เหล่านี้นับเป็นร้อยละ 12.5 ของคนงานทั้งหมด คนงานจำนวนที่เหลือไม่มีความกังวลเรื่องการติดรถคนอื่นไปทำงานหรือการตื่น เช้าเพื่อไปทำงาน

สำมะโนประชากรระบุว่า ร้อยละ 76.6 ของคนงาน บอกว่าพวกเขาขับรถไปทำงานคนเดียว อีกน้อยกว่าร้อยละ 10 บอกว่าพวกเขาติดรถไปทำงานพร้อมกับคนอื่น ที่เหลืออีกร้อยละ 4.9 บอกว่าพวกเขาใช้บริการขนส่งมวลชนเดินทางไปทำงาน

7. เวลาเดินทางไปทำงานของคนงานสหรัฐฯ แตกต่างกันมาก

แม้ว่าคนงานแต่และคนจะเดินทางไปทำงานด้วยวิธีต่างกัน แต่พวกเขาควรจะใช้เวลาราวครึ่งชั่วโมงในการเดินทางไปถึงที่ทำงานใช่หรือไม่

จากสำรวจสำมะโนประชากรปี 2010 ระบุว่าเวลาโดยเฉลี่ยของคนงานในการเดินทางไปถึงที่งานคือ 25 นาที คนงานในรัฐแมรีแลนด์และนิวยอร์กใช้เวลาเดินทางนานที่สุดคือแต่ละคนโดยเฉลี่ย มากกว่า 31 นาที 

ขณะที่คนงานส่วนใหญ่ไปถึงที่ทำงานด้วยเวลาครึ่งชั่วโมง มีคนงานราว 3,200,000 ล้านคนที่ใช้เวลา 90 นาทีหรือมากกว่าในการเดินทางไปทำงานในแต่ละวัน

8. ไม่ใช่แค่วันส่งท้ายฤดูร้อน

แม้วันแรงงานจะเริ่มต้นโดยเป็นวันเพื่อระลึกถึงความสำคัญของคนงาน แต่ในตอนนี้มันกลายเป็นวันฉลองส่งท้ายฤดูร้อนอย่างไม่เป็นทางการด้วยเช่นกัน วันแรงงานสหรัฐฯ ไม่ใช่เพียงแค่บอกว่ากำลังจะเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วงแล้ว แต่ยังบังเอิญตรงกับวันเริ่มต้นปีการศึกษาในหลายๆ รัฐด้วย

นอกจากนี้แล้ว วันแรงงานยังมีความสำคัญต่อโลกแฟชั่นส่วนหนึ่งจากความเชื่อที่บอกกันมานานว่าไม่ควรสวมชุดสีขาวหลังจากวันหยุดเดือน ก.ย.

สุดท้ายคือ วันแรงงานยังเป็นช่วงเริ่มต้นฤดูกาลของลีคอเมริกันฟุตบอล NFL ซึ่งจะเริ่มแข่งกันนัดแรกในวันพฤหัสฯ (6 ก.ย.) หลังช่วงวันหยุดวันแรงงานด้วย 

(ที่มา)
http://www.prachatai.com/journal/2012/09/42427

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น