หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2555

ระบบทาสกับการเหยียดสีผิว

ระบบทาสกับการเหยียดสีผิว

 
 
ระบบทาสเป็นระบบที่ขัดแย้งโดยสิ้นเชิงกับความ เท่าเทียมของมนุษย์ นักปรัชญา “ยุคแสงสว่าง” อาจนั่งดื่มกาแฟและพูดคุยเรื่องเสรีภาพ แต่กาแฟ และน้ำตาลที่เขาดื่ม หรือบุหรี่ที่เขาสูบ ล้วนแต่มาจากแรงงานบังคับของทาสทั้งสิ้น 

โดย C. H.


ก่อนศตวรรษที่ 18 ทาสส่วนใหญ่ในโลกไม่ใช่คนผิวดำ และคำว่า slave (ทาส) ในภาษาอังกฤษมาจากคำว่าเชื้อชาติ “สลาฟ” ใน ยุโรปกลาง ในขั้นตอนแรกของการบุกเบิกทวีปอเมริกามีการใช้แรงงานเกษตรพันธสัญญาจากยุโรป ที่ต้องทำงานฟรีหลายปี แต่ระบบนี้สร้างแรงงานน้อยเกินไป จึงมีการหันมาใช้แรงงานทาสผิวดำที่ถูกจับในทวีปอัฟริกาและนำไปขายโดยหัวหน้า เผ่าพื้นเมืองเอง

ระบบทาสในทวีปอเมริกาและเกาะคาริเบี้ยน เชื่อมโยงและเสริมเศรษฐกิจทุนนิยมที่กำลังเติบโตในอังกฤษและที่อื่นของยุโรปในลักษณะ “สามเหลี่ยมของการค้าขาย” คือ ผลผลิตจากอังกฤษ เช่นเครื่องมือเหล็ก อาวุธ และผ้า ถูกแลกกับทาสที่อัฟริกา ทาสเหล่านั้นจะถูกขนส่งไปขายในอเมริกาและคาริเบี้ยน และเงินจากการขายทาสจะนำไปซื้อน้ำตาล ยาสูบ และฝ้าย เพื่อขายในยุโรป

ระบบทาสเป็นระบบที่ขัดแย้งโดยสิ้นเชิงกับความเท่าเทียมของมนุษย์ นักปรัชญา “ยุคแสงสว่าง” อาจนั่งดื่มกาแฟและพูดคุยเรื่องเสรีภาพ แต่กาแฟ และน้ำตาลที่เขาดื่ม หรือบุหรี่ที่เขาสูบ ล้วนแต่มาจากแรงงานบังคับของทาสทั้งสิ้น

ข้อแก้ตัวที่นักคิดและนักธุรกิจใช้ เพื่อสร้างความชอบธรรมกับระบบทาสมีสองข้อคือ
   
ข้อแก้ตัวอันแรก คือการมองว่าทาสเป็นแค่ทรัพย์สมบัติปัจเจก ดังนั้นคนที่สนับสนุนสิทธิในทรัพย์สมบัติ อย่าง จอห์น ลอค ซึ่งถือหุ้นในบริษัที่ได้ประโยชน์จากการค้าทาส จะมองว่าระบบทาส  “ไม่ผิดศีลธรรม”
   
ข้อแก้ตัวที่สอง คือการเสนอว่าคนผิวดำ “ไม่ใช่มนุษย์” ดังนั้นอุดมการณ์ความเท่าเทียมของมนุษย์ หรือความคิดศาสนาคริสต์ “ไม่ขัดแย้ง” กับระบบทาส นี่คือรากฐานกำเนิดของความคิดที่เหยียดสีผิวหรือเกลียดชังคนผิวคล้ำ และความคิดแบบนี้มีความสำคัญในการสร้างความแตกแยกระหว่างคนธรรมดาผิวขาวกับ คนผิวดำ เพื่อไม่ให้คนชั้นล่างสามัคคีและร่วมต่อสู้กับคนชั้นบน เพราะในอดีตมนุษย์ไม่เคยให้ความสำคัญกับสีผิว ในอียิปต์หรือโรมคนสีผิวแตกต่างกันมีทั่วไปในทุกระดับของสังคม

ระบบทาสทำลายเศรษฐกิจอัฟริกา เพราะการนำเข้าสินค้าอุตสาหกรรมจากอังกฤษ ทำลายอุตสาหกรรมพื้นเมือง และการจับทาสทำให้ประชากรผู้ผลิตในอัฟริกาลดลงด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้เปิดทางให้ตะวันตกเข้ามายึดครองอัฟริกาเป็นอาณานิคมได้ง่าย ขึ้น
 
(คลิกฟัง)
http://turnleftthai.blogspot.dk/2012/09/blog-post_11.html 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น