หน้าเว็บ

วันพุธที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2555

มองฝ่าหมอกควันและก๊าซน้ำตา จะเห็นทหารและประชาธิปัตย์ฆ่าประชาชน

มองฝ่าหมอกควันและก๊าซน้ำตา จะเห็นทหารและประชาธิปัตย์ฆ่าประชาชน



ชื่อบทความเดิม: ถ้ามองฝ่าหมอกควันก๊าซน้ำตาและรายละเอียดไร้สาระ จะเห็นทหารและประชาธิปัตย์ฆ่าประชาชนมือเปล่า

โดย ใจ อึ๊งภากรณ์

ท่ามกลางการเล่นละคร “ค้นหาข้อมูล” ของการเข่นฆ่าเสื้อแดง ฝ่ายทหารและพรรคพวก เช่น คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ(คอป.) กำลังพยายามเบี่ยงเบนประเด็นหลักของเหตุการณ์ ด้วยรายละเอียดไร้สาระ ผมจึงขอสรุปประเด็นสำคัญๆ สองข้อของเหตุการณ์อีกครั้ง

1. ถ้ารัฐบาลไหน ไม่ว่าที่ไหนในโลก ใช้ทหารติดอาวุธสงคราม กระสุนจริง และรถถัง เพื่อเคลียร์พื้นที่การชุมนุมของประชาชนจำนวนมากที่ไร้อาวุธและไม่ได้ใช้ ความรุนแรง ในที่สุด ท่ามกลางความตึงเครียด และด้วยความจงใจ ทหารจะใช้กระสุนจริงเพื่อฆ่าประชาชน เพราะทหารไม่ได้นำปืน  M16 ปืนกลนานาชนิด หรือรถถัง มาหุงข้าว ไถนา หรือสร้างเกมสนุกๆ ให้เด็กๆ อาวุธสงครามดังกล่าวมีไว้ฆ่าคนอย่างเดียว คำถามที่รัฐบาลอำมาตย์ต้องตอบคือ ทำไมใช้ทหารติดอาวุธสงครามในการเคลียร์พื้นที่ของการชุมนุมของประชาชน?

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับอำมาตย์และชนชั้นปกครองไทย ในรอบ 40 ปีที่ผ่านมา มีการใช้กำลังทหารติดอาวุธสงคราม เพื่อเข่นฆ่าประชาชนมือเปล่าที่เรียกร้องประชาธิปไตย 5 ครั้งกลางกรุงเทพฯ คือ ๑๔ ตุลา ๑๖, ๖ ตุลา ๑๙, พฤษภา ๓๕, เมษาเลือด ๕๒ และเมษาเลือด ๕๓ ถ้านับเหตุการณ์ตากใบในภาคใต้ในปี ๒๕๔๗ ก็มีทั้งหมด 6 ครั้ง ที่รัฐไทยฆ่าประชาชนมือเปล่าที่ประท้วงตามกระบวนการประชาธิปไตย ใครที่สั่งทหารติดอาวุธสงครามไปสลายการชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตย จึงมีความจงใจให้เกิดการเสียเลือดเนื้อแน่นอน 

2. รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ของอภิสิทธิ์ ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งและกระบวนการประชาธิปไตยแต่อย่างใด มาจากการทำรัฐประหาร ๑๙ กันยา และรัฐประหารเงียบของศาลหลายรอบ มาผ่านรัฐธรรมนูญทหาร รวมถึงการกดดันของพันธมิตรฯ ดังนั้นรัฐบาลไร้ความชอบธรรมที่จะปกครองประเทศ และไร้ความชอบธรรมที่จะคัดค้านข้อเรียกร้องของคนเสื้อแดงให้ยุบสภาและคืน อำนาจให้ประชาชนโดยสิ้นเชิง

ถ้าจะมีสันติภาพและการปรองดอง ทหารมือเปื้อนเลือด และนักการเมืองมือเปื้อนเลือดต้องถูกนำมาขึ้นศาล และทหารที่เป็นกบฏต่อประชาชนโดยการทำรัฐประหารผิดกฎหมายควรถูกลงโทษด้วย
 
(ที่มา)
http://turnleftthai.blogspot.dk/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น