"วันที่เป็นเครื่องมือทางการเมือง มันจะทำงานโดยการเบี่ยงเบนประเด็นไม่ให้เรามองเห็นรากเหง้าของปัญหาว่ามันมาจากที่ใดกันแน่"
โดย สมุดบันทึกสีแดง
วัน
สำคัญต่างๆ
บ่อยครั้งมักจะเป็นเครื่องมือทางการเมืองโดยเฉพาะวันนั้นจัดขึ้นเพื่อเชิดชู
ปัจเจกและเอาปัจเจกมาเป็นโลโก้เพื่อเป็นตัวแทนของคนทั้งสังคม
โดยละเลยบทบาทของคนส่วนใหญ่ คนธรรมดา
เครื่องมือทางการเมืองชนิดนี้จะเปิดช่องให้มีการประณามคนที่ไม่เข้ากรอบไม่
เข้ากติกาของสังคม
ซึ่งกรอบและกติกาของสังคมที่ยึดถือนั้นไม่ได้หมายความว่ามันดีแต่อย่างใด
บ่อยครั้งค่อนข้างปฏิกิริยาและน่ารังเกียจ
เพราะมันถูกกำหนดขึ้นมาโดยคนส่วนน้อย เพื่อผลประโยชน์ของคนส่วนน้อย
วันที่เป็นเครื่องมือทางการเมือง มันจะทำงานโดยการเบี่ยงเบนประเด็นไม่ให้เรามองเห็นรากเหง้าของปัญหาว่ามันมา จากที่ใดกันแน่ เช่น ถ้าลูกเต้าเหล่าใคร เรียนไม่จบ ตกงาน ไม่มีอนาคต ติดยา เต้นโคโยตี้ เป็นหญิงขายบริการทางเพศ ก็จะถูกประณาม เท่านั้นยังไม่พอการประณามจะลามไปด่าพ่อแม่ โครตเหง้าตระกูลด้วย โทษฐานที่เลี้ยงดูอบรมสั่งสอนไม่ดี
นี่แหละความเป็นไทยที่ถูกกำหนดโดยคนส่วนน้อย แทนที่จะตั้งคำถามว่าสังคมประเภทไหนที่ปล่อยให้คนเป็นจำนวนมากตกงาน ไม่มีความมั่นคงในชีวิต สังคมแบบไหนที่ไม่จัดการศึกษาที่ดีให้กับประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศและ เสียภาษี สังคมประเภทไหนที่หน้าชื่นตาบานกับการเข่นฆ่าประชาชน แต่หัวหงอกหัวดำที่อยู่ในอำนาจกรี๊ดสลบกับเด็กสาวเต้นโคโยตี้ เด็กสาวเต้นเปลือยในเทศกาลสงกรานต์
การมีวันสำคัญไม่ได้ให้การศึกษาด้านบวกกับประชาแต่อย่างใด แต่ทำให้คนบางส่วนใช้เหตุผลไม่เป็น ลำดับความสำคัญอะไรไม่ค่อยถูก เช่น เต้นเปลือยเป็นเรื่องร้ายแรงกว่าการฆ่าเพื่อมนุษย์ด้วยกัน โดยที่เขาเหล่านั้นเรียกร้องความเป็นธรรม ความเป็นประชาธิปไตย...
การมีวันสำคัญที่เกี่ยวข้องกับวันสำคัญของครอบครัวแก้ปัญหาหรือไม่...คำตอบคือ... “ไม่เลย” แต่มันช่วยไม่ให้คนส่วนน้อยในสังคมต้องมีภาระ สามารถชูหน้าชูตาลอยอยู่ในสังคมได้ ไม่ต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้น รัฐบาลก็ฉวยโอกาไม่ต้องจัดการอะไรเพื่อเพิ่มความมั่นคง การมีศักดิ์ศรีของคนธรรมดาอย่างใดทั้งสิ้น เกิดปัญหาอะไรขึ้น ก็อธิบายและกล่าวโทษบุคคลเป็นรายๆ ไป ง่ายดี...จบ!
วันที่เป็นเครื่องมือทางการเมือง มันจะทำงานโดยการเบี่ยงเบนประเด็นไม่ให้เรามองเห็นรากเหง้าของปัญหาว่ามันมา จากที่ใดกันแน่ เช่น ถ้าลูกเต้าเหล่าใคร เรียนไม่จบ ตกงาน ไม่มีอนาคต ติดยา เต้นโคโยตี้ เป็นหญิงขายบริการทางเพศ ก็จะถูกประณาม เท่านั้นยังไม่พอการประณามจะลามไปด่าพ่อแม่ โครตเหง้าตระกูลด้วย โทษฐานที่เลี้ยงดูอบรมสั่งสอนไม่ดี
นี่แหละความเป็นไทยที่ถูกกำหนดโดยคนส่วนน้อย แทนที่จะตั้งคำถามว่าสังคมประเภทไหนที่ปล่อยให้คนเป็นจำนวนมากตกงาน ไม่มีความมั่นคงในชีวิต สังคมแบบไหนที่ไม่จัดการศึกษาที่ดีให้กับประชาชนผู้เป็นเจ้าของประเทศและ เสียภาษี สังคมประเภทไหนที่หน้าชื่นตาบานกับการเข่นฆ่าประชาชน แต่หัวหงอกหัวดำที่อยู่ในอำนาจกรี๊ดสลบกับเด็กสาวเต้นโคโยตี้ เด็กสาวเต้นเปลือยในเทศกาลสงกรานต์
การมีวันสำคัญไม่ได้ให้การศึกษาด้านบวกกับประชาแต่อย่างใด แต่ทำให้คนบางส่วนใช้เหตุผลไม่เป็น ลำดับความสำคัญอะไรไม่ค่อยถูก เช่น เต้นเปลือยเป็นเรื่องร้ายแรงกว่าการฆ่าเพื่อมนุษย์ด้วยกัน โดยที่เขาเหล่านั้นเรียกร้องความเป็นธรรม ความเป็นประชาธิปไตย...
การมีวันสำคัญที่เกี่ยวข้องกับวันสำคัญของครอบครัวแก้ปัญหาหรือไม่...คำตอบคือ... “ไม่เลย” แต่มันช่วยไม่ให้คนส่วนน้อยในสังคมต้องมีภาระ สามารถชูหน้าชูตาลอยอยู่ในสังคมได้ ไม่ต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้น รัฐบาลก็ฉวยโอกาไม่ต้องจัดการอะไรเพื่อเพิ่มความมั่นคง การมีศักดิ์ศรีของคนธรรมดาอย่างใดทั้งสิ้น เกิดปัญหาอะไรขึ้น ก็อธิบายและกล่าวโทษบุคคลเป็นรายๆ ไป ง่ายดี...จบ!
โดยส่วนตัวของผู้เขียน รังเกียจวันสำคัญแบบนี้มาก อยากจะเรียกร้องให้ยกเลิกไปเลย เห็นแล้วรำคาญ วันที่ไร้ประโยชน์แบบนี้ถูกทำให้เป็นเรื่องใหญ่มาก แต่เรื่องที่ใหญ่มากๆ เช่น 'ไทย'ฉาว-ติดอันดับโลกทารุณเมีย[1] กลับเป็นข่าวเพียงเล็กๆ แถมองค์กรที่ได้เงินเพื่อจัดทำการรณรงค์ในเรื่องนี้ ก็มีประวัติอันยาวยืดในความมักง่าย เช่น อธิบายว่าความรุนแรงในครอบครัวมีสาเหตุหลักมาจากการดื่มเหล้า ความเครียดหรือสภาวะความไม่เป็นธรรมในสังคม ภาระในครอบครัวที่เกินขีดความสามารถของคนๆ หนึ่ง ไม่ได้เกี่ยวข้องแต่อย่างใด
ก็อย่างว่าหละนะ วันสำคัญแย่ๆ มันก็ทำให้องค์กรแบบนี้ออกมาพูดอะไรชุ่ยๆ ก็ได้ ถ้าใช้สมองนิดหนึ่งโดยมองไปที่ประเทศที่ไม่ดื่มเหล้าเช่น ประเทศมุสลิม ที่มีปัญหาความรุนแรงในครอบครัวสูงมาก โดยที่ชายในประเทศนั้นไม่ดื่มเหล้า ..อะฮ้าถ้าเราคิดสักหน่อยเราก็จะพบว่าปัจจัยหลักมันไม่ได้อยู่ที่การดื่ม เหล้านี่นะ..
ล่าสุดก็ออกสปอตโฆษณารณรงค์ให้คนงดดื่มเหล้า โดยอ้างว่าดื่มเหล้าแล้วทำให้คนไม่มีความเป็นมนุษย์แต่กลายเป็นสุนัข ตอนนี้คนส่วนหนึ่งในสังคมโดยเฉพาะพวกที่อยู่ในอำนาจก็เป็นสัตว์ไปแล้ว เพราะแยกแยะอะไรไม่ค่อยถูกแถมกระหายเลือด ฆ่าคนธรรมดาในสังคมที่รักประชาธิปไตย รอบแล้วรอบเล่า จับคนบริสุทธิ์เข้าคุก คนแล้วคนเล่า
วันสำคัญที่ไม่ได้เป็นวันสำคัญของคนส่วนใหญ่ เช่น วันกรรมกรสากล หรือ 24 มิถุนา การมีวันเหล่านี้มากไป มีแต่จะสร้างปัญหาสังคมให้ขยายตัวไปเรื่อยๆ ฉะนั้นยกเลิกวันสำคัญเพื่อคนส่วนน้อยกันเถอะ แล้วหันมาเชิดชูบทบาทของวีรชน คนที่ต่อสู้เพื่อคนส่วนใหญ่ แต่ถูกคนส่วนน้อยลบความสำคัญของพวกไปเขาไป
(ที่มา)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น