โพสต์ใน Facebook: พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ทรงกวาดซื้อของเก่าจนหมดหิ้ง
อ้าง อิง: Princess clears the shelves in antiques raid: Thai royal spends EIGHT HOURS - and at least £20,000 - buying treasures at arcade (and carries them off in 15-car convoy) - (http://
ข่าวเขียนโดยคุณเบน สเปนเซอร์
โพสต์ลงในเวป ของหนังสือพิมพ์ เดลิเมล์ ออนไลน์ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 17:35 น (ฝั่งตะวันออก); บทความได้ อัพเดท เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 18:33 น.
พระวรชายา ทรงกวาดซื้อของเก่าจนหมดหิ้ง: พระบรมวงศานุวงศ์ของไทยใช้เวลา แปด ชั่วโมง และจับจ่ายใช้สอยอย่างน้อยที่สุด 20,000 ปอนด์ (ประมาณ 1 ล้านบาทไทย) ด้วยการซื้อของล้ำค่า (และขนของทุกอย่างขึ้นไปบนขบวนรถคณะติดตาม 15 คัน
* พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา และคณะผู้ติดตาม ได้เดินทางมายังหมู่บ้าน ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์ของงานฝีมือและเครื่องลายครามในขบวนรถลิมูซีนซึ่งมี โชเฟอร์ผู้ขับรถให้ทั้งหมู่คณะ
* พระองค์ซึ่งมีพระชนม์มายุ 40 พรรษา ได้ทรงซื้อพวกเครื่องถ้วยชามลายครามและเครื่องประดับต่างๆ ในเมือง แบทเทิ้ลบริดจ์
มันเป็นเวลา กลางวันที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำฝน ที่ศูนย์การค้าวัตถุโบราณและผู้ค้าขายยังมีความฉงนสงสัยอยู่ว่า พวกเขาจะมีโอกาสได้เห็นลูกค้าคนใดคนหนึ่งเข้ามาซื้อของก่อนที่จะถึงเวลาปิด ร้านของพวกเขาหรือไม่
จากนั้น ในทันทีทันใด วันที่พวกเขาจะได้รับทรัพย์ทั้งหมด ก็ได้เกิดขึ้นในเวลาครั้งเดียว พระบรมวงศานุวงศ์ของประเทศไทยพระองค์หนึ่ง ได้เสด็จเดินทางมาถึงอย่างไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า จากขบวนเสด็จผู้ติดตามด้วยรถประจำคณะทั้งหมด 15 คัน และใช้เวลาอยู่อีก แปด ชั่วโมงเพื่อเตรียมตระครุบกวาดซื้อเครื่องถ้วยชามลายครามและเครื่องประดับ ต่างๆ
เมื่อถึงเวลา ที่การจับจ่ายใช้สอยอย่างสนุกสนานในพระทัยของพระองค์ได้สิ้นสุดลง ชั้นหิ้งที่วางข้าวของ ต่างเหลือแต่ความว่างเปล่า และ ผู้ค้าขายทั้งหมด ก็เตรียมแผนการกันที่จะเฉลิมฉลองกับอาหารค่ำของพวกเขา
การเสด็จ อย่างไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา ได้เกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ ที่หมู่บ้านในเมืองเอสเซ็กส์ (Essex) ของแคว้นแบทเทิ่ลส์บริดจ์ (Battlesbridge)
การกวาด ลำเลียงนำข้าวของที่ทรงซื้อเข้าไปในรถต่างๆ ขบวนรถของคณะผู้ติดตาม ซึ่งรวมไปถึงรถลิโมซีนที่ปิดฟิลม์กรองแสงสีดำสนิทบนหน้าต่าง ด้วยการขับของโชร์เฟอร์อย่างพร้อมสรรพ และกลุ่มของรถมินิบัสและรถตู้ ที่จอดอยู่
ในทันทีทันใด พระวรชายา ซึ่งทรงมีพระชนมายุ 40 พรรษา ได้ทรงเริ่มเลือกวัตถุแต่ละชิ้นก่อนที่กลุ่มผู้ช่วยของพระองค์ได้ทำการติด ป้ายและรวมถึงบรรจุข้าวของเหล่านั้นลงหีบห่อ
คุณจิม กัลลี่ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการค้าได้ทำการประเมินว่า พระองค์ได้ทรงจับจ่ายใช้สอยอย่างน้อยที่สุดเป็นจำนวน 20,000 ปอนด์ (ประมาณ 1 ล้านบาทไทย) ด้วยการซื้อของจากหลายๆ ร้านรวมกัน
‘พระองค์ทรงโปรดปรานในการซื้อพวกเครื่องลายครามมากที่สุด’ เขาได้กล่าว
‘พระองค์ไม่ได้ทรงเลือกซื้อชิ้นที่แพงๆ อย่างเป็นพิเศษแต่อย่างใด – แต่พระองค์ทรงซื้อสิ่งของเป็นจำนวนมากมายมหาศาล’
รูปแกะสลักของยาโดร้ (Lladro figurines) ที่ร้านของผู้ประกอบการค้าคนหนึ่งได้ถูกกวาดซื้อจนเกลี้ยงแผง และคุณเฮเลน สไมทธ์ ซึ่งเป็นผู้ขายอีกท่านหนึ่งได้กล่าวว่า พระวรชายาได้ทรงซื้อสินค้าต่างๆ จากร้านของตนร้านเดียวเป็นจำนวนมากกว่า 100 ชิ้น
สินค้าพวกนี้รวมไปถึงชุดน้ำชาซึ่งทำด้วยเครื่องเงินแท้และทำด้วยเครื่องลายคราม, เครื่องถ้วยชามของรอยัล วูซเทอร์ (Royal Worcester) และเซรามิค (Ceramic - ดินเผา) ของทัพทั่น แวร์ (Tupton Ware), รูปปั้นแกะสลักของ รอยัล ดอลทั่น (Royal Doulton) และมีตะเกียงน้ำมันอีกมากกว่า 30 ชิ้น
'มันเป็นเวลา ประมาณบ่ายสามโมงเย็น และฝนกำลังลงเม็ดอยู่ และฉันก็กำลังคิดว่า จะไปพักดื่มกาแฟสักถ้วยก่อน – คุณก็ไม่คิดคาดหวังอะไรว่าจะมี พระบรมวงศานุวงศ์เดินทางเข้ามาซื้อของถึงที่นี่’ เธอกล่าว
เธอเสริมต่อด้วยว่า: ‘ยังมีผู้ติดตามอีกประมาณ 15 ถึง 20 คนอยู่ในคณะ รวมไปถึงพระวรชายา, คณะฑูตานุฑูตและแพทย์ส่วนพระองค์อยู่ด้วย ’
คุณโจ เพททิทท์ กล่าวว่า พระวรชายาได้ ‘ทรงกวาดซื้อของในร้านบางร้านจนหมดเกลี้ยงเลย ถ้าให้พูดตามตรง’
‘ผู้ประกอบ การค้าบางคน ได้เปลี่ยนใจที่จะเดินทางตระเวนไปยังที่ต่างๆ ภายในประเทศ เพื่อจะซื้อหามาแทนที่สิ่งที่พระองค์ได้ทรงซื้อไป’ เขากล่าว
‘มันเป็น เรื่องที่ดีอย่างยิ่งสำหรับเรา เพราะว่า เรื่องนี้ ได้นำให้ร้านค้าของเราปรากฎอยู่บนเรดาห์ (ของการช้อปปิ้ง) และเมื่อยังอยู่ในสภาวะที่เศรษฐกิจยังตกต่ำอยู่ และพวกเราต้องการให้มีธุรกิจการค้าแบบนี้เกิดขึ้น’
‘ผมมีความปิ ติยินดีเป็นอย่างยิ่งจริงๆ ในฐานะตัวแทนของกลุ่มผู้ประกอบการค้าขายทั้งหมดที่นี่ ที่พระองค์ได้ทรงตัดสินพระทัยมาเยี่ยมเยียนเรา”
เมื่อเดือน กรกฎาคมที่ผ่านมา พระวรชายาได้ทรงเสด็จไปยังศูนย์การค้าวัตถุโบราณอีกแห่งหนึ่งในเมืองฮา ร์ทลี่ย์ วิ้นท์นี่ย์ (Hartley Wintney) ของแคว้นแฮมเชียร์ (Hampshire) และใช้เงินมากกว่า 10,000 ปอนด์ (5 แสนบาท) ในการจับจ่ายซื้อของเครื่องถ้วยชามเซรามิคอันมีคุณภาพดี (bone china) เป็นจำนวนมากกว่า 300 ชิ้น
ในบางโอกาส พระองค์ได้ทรงเสด็จพร้อมๆ กันกับพระสวามีของพระองค์ คือ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ ซึ่งทรงเป็นพระราชทายาทของราชบัลลังก์ไทย ซึ่งในขณะนี้ ทรงมีพระชนมายุ 60 พรรษา
คณะผู้ติดตามทั้งหมดได้บินไปยังเมืองฟาร์นโบโรห์ (Farnborough) โดยเครื่องบินพระราชพาหนะส่วนพระองค์
พระวรชายาทรงเป็นพระชายาองค์ที่สามของสมเด็จพระบรมโอรสธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ซึ่งมีพระชนมายุน้อยกว่าสมเด็จพระบรมฯ ประมาณ 20 พรรษา
ทั้งสอง พระองค์ทรงเป็นพระราชอาคันตุกะในการเลี้ยงพระกระยาหารค่ำในงานเฉลิมฉลองพระ ราชพิธีพัชราภิเษก (ครบรอบการครองราชย์ 60 ปีของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2) ที่พระตำหนักบั๊กกิ้งแฮม เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
พระองค์ทรง ได้รับการศึกษาอย่างสูง พร้อมกับทรงได้รับปริญญาจากด้านการบริหารและการเรือน พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ ได้ทรงถูกตกเป็นข่าวใหญ่เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2552 เนื่องจากมีเรื่องที่พระองค์ ซึ่งได้ทรงถูกระบุอยู่ในการเขียนของวิกิลีกค์เกี่ยวกับการปรากฎตัวในงาน รื่นเริงส่วนพระองค์งานหนึ่ง (http://www.mediafire.com/?cb2pcfmli4svup4)
http://www.youtube.com/watch?v=QiJfey_h398&feature=related(บรรดาภรรเมีย..ของเสี่ยโอ)
(ที่มา)
Doungchampa Spencer - https://www.facebook.com/doungchampa
"เงินที่ใครบางรายเอาไป "ช้อป" จนร้านว่างไปเลยนั่น
เขาทำมาหากินอะไรละครับ เงินภาษีของประชาชนเเท้ๆ
เอาเงินของคนไทย (ที่ไม่ใช่เงินตัวเองสักหน่อย) ไปหมุนเวียนให้ฝรั่งดูด
ขายของเก่าได้ ก็ซื้อของเก่าได้ ไม่เห็นแปลกอะไร ?
พระนางอังรี มาดัวเน็ต ของฝรั่งเศส (ภายหลังโดนกิโยตินตัดหัว)
พระนางศุภยาลัต ของพม่า (ภายหลังโดนเนรเทศไปอยู่อินเดีย พร้อมพระราชสวามี)
ก็เป็นนักถลุงเงินตัวยง ในขณะที่ประชาชนกำลังลำบากเดือดร้อน ไม่มีที่อยู่ ไม่มีที่กิน กำลังจะอดตายกันทั้งประเทศ
ถึงกับบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์การล่มสลายของราชวงศ์
พระองค์ทรงคิดที่ดำเนินรอยตาม เพื่อที่จะได้มีชื่อจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ไทยก็ได้"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น