เมื่อ เพรียวพันธ์ กลายเป็น "อะไหล่" และ "คีย์สำคัญ" ทางการเมืองไปเรียบร้อยแล้ว !!!

เมื่อ เพรียวพันธ์ กลายเป็น "อะไหล่" และ "คีย์สำคัญ" ทางการเมืองไปเรียบร้อยแล้ว !!!

ในเร็วมีช้า

ในช้ามีเร็ว

ดูจะอธิบายการเข้าเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ได้ดี

เร็ว ก็เช่นเพียง 15 วันหลังเกษียณอายุราชการ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ก็เข้ามาสวมเสื้อพรรคเพื่อไทยแล้ว

ทั้งที่ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ. เพรียวพันธ์มีปฏิกิริยาและแสดงออกแบบ "ช้าๆ" เกี่ยวกับเรื่องการเมือง

ด้วยเหตุผลไม่สนใจบ้าง ไม่ถนัดบ้าง

แต่ก็แง้มๆ ไว้ตามสมควรว่า หากจะให้เข้าไปดูแลงานด้านการปราบปรามยาเสพติด หรือปัญหาภาคใต้ ก็พร้อมเพราะชำนาญ

และด้วยช่องที่แง้มๆ ไว้นี่แหละ

แผล็บเดียว พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ก็พรวดเข้ามาการเมืองแล้ว

ทั้ง ที่ก่อนหน้านี้ คาดหมายกันว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์จะ "เหาะ" เข้าสู่การเมืองช่วงที่มี "การปรับคณะรัฐมนตรี" ซึ่งคงไม่อีกกี่เดือนหลังจากนี้

อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ก็ทำเซอร์ไพรส์ มา "เร็ว" ก่อนกำหนด

แต่ก็มีการดึงให้ "ช้าและเนิบนาบ" ดุลไปกับ "ความเร็ว" นั้นด้วย

คือไม่ยอม "เหาะ" มา ทั้งที่หากจะเหาะก็เหาะได้

ขอขึ้นกระได เข้าลิฟต์ "ตามขั้นตอน"

ด้วยการมาสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคก่อน

ซึ่ง ช่วยลดความรู้สึกลงได้หลายขีด ว่าไม่ได้มาแล้วใหญ่เลยเพราะความเป็น "ดามาพงศ์" หรือความเป็น "พี่ชายคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์" แต่อย่างใด

ถือเป็น "ยุทธวิธี" ที่น่าสนใจ

น่าสนใจ พอๆ กับที่ "จัดจังหวะเข้าพรรค" ของตนเอง พร้อมกับอดีตเตรียมทหารรุ่น 10 อีกกว่า 20 คน

ไม่ยอมเป็นวันแมนโชว์ เหมือนกับรู้ว่า "เด่น" นักมักเป็น "ภัย"

ที่ สำคัญการเข้าพรรคแบบ "รวมหมู่" กับเหล่าอดีตนายทหารครั้งนี้ ทำให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์อยู่ภายใต้คำอธิบายของ พล.ต.ท.วิโรจน์  เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรคเพื่อไทยด้วย

คำอธิบายที่ว่าก็คือ บรรดาผู้ที่เข้ามาร่วมเป็นสมาชิกพรรคครั้งนี้ ล้วนแต่เคยรับใช้เบื้องพระยุคลบาท เป็นบุคคลที่มีความจงรักภักดี

"เป็น สิ่งที่พิสูจน์และประจักษ์ว่าพรรคเพื่อไทยมีอุดมการณ์ มีจุดหมายชัดเจนในเรื่องจงรักภักดี ทำให้ข้าราชการเหล่านี้ผู้ที่เคยสนองรับใช้เบื้องพระยุคลบาทอย่างใกล้ชิดมา ก่อนเข้ามาเป็นสมาชิกพรรค" นี่คือชุดคำอธิบายของ พล.ต.ท.วิโรจน์

ซึ่งแน่นอนย่อมมีผลดีต่อภาพของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ อย่างมหาศาล

ยิ่งไปกว่านั้น พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ยังคงพยายามแสดงความ "แจ่มชัด" ในความ "พอเพียง" ทางการเมือง

ด้วยการประกาศ ไม่ขอเป็นหัวหน้าพรรค

ไม่ขอลงสมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

ถ้าได้เป็นรัฐมนตรี ก็ขอเป็นรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับงานยาเสพติด และภาคใต้เท่านั้น

ซึ่ง อาจจะมีนัยต่อท้าย แบบความระหว่างบรรทัดเล็กน้อย ทำนองว่า ที่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรี ก็เพราะความถนัดในงานจริงๆ ไม่ใช่เพราะความเป็นเครือญาติ "ดามาพงศ์" หรือ "ชินวัตร" แต่อย่างใด

นัยที่ต้องการแสดงให้เห็นแบบนี้นี่เอง ที่ทำให้เสียงโจมตีในประเด็น "การสืบทอดอำนาจ" ในหมู่ "ดามาพงศ์-ชินวัตร" ไม่ดังจนเกินไปนัก

ทั้งที่ใครๆ ก็ว่า การเข้าสู่การเมืองของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ครั้งนี้

"ไม่ธรรมดา"

วางเกม ช้า-เร็ว-เพียงพออย่างรอบคอบ รัดกุม

เป็นความรอบคอบ รัดกุม

ขณะที่ขบวนการล้มรัฐบาลก็ยังคงหาจังหวะโจมตีอยู่ตลอดเวลา

พร้อมๆ กับเสียงซุบซิบในพรรคทำนองว่า นี่เป็นการเข้ามาเพื่อ "ดุลอำนาจในพรรค"

ซึ่งไม่ว่าจะเหตุใด

แต่ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ถือเป็น "อะไหล่" และ "คีย์สำคัญ" ทางการเมืองไปเรียบร้อยแล้ว

(ที่มา)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1350792656&grpid=&catid=02&subcatid=0200