หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2555

11 ปี 9/11 เมืองลุงแซมและโลก ที่ไม่เคยเหมือนเดิม

11 ปี 9/11 เมืองลุงแซมและโลก ที่ไม่เคยเหมือนเดิม


Posted ImagePosted Image
Posted ImagePosted Image


ยังคงจำกันได้ สำหรับเหตุการณ์โจรจี้เครื่องบินสองลำพุ่งชนตึกแฝด "เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์" ในมหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 หรือที่เรียกกันติดปากว่า "เหตุการณ์ 9/11"

คงไม่อาจปฏิเสธได้ว่า เหตุการณ์ในคราวนั้น ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนจนมีผลกระทบต่อสหรัฐอเมริกาอย่างกว้างขวางทั้งทางการ เมือง เศรษฐกิจ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งวิถีชีวิตของอเมริกันชนที่ได้รับผลกระทบนี้โดยตรง

ไม่ เพียงแค่นั้น ผลกระทบดังกล่าว ซึ่งเป็นผลพวงจากเหตุการณ์ 9/11 ยังได้ส่งต่อไปยังความรู้สึกของคนทั่วโลก โดยเฉพาะมุมมองที่มีต่อชาวมุสลิมผู้มักถูกมองว่าเป็นตัวร้ายของเหตุการณ์ใน ครั้งนั้น อีกทั้งยังเป็นตัวการสำคัญที่สร้างความปั่นป่วนให้กับโลกใบนี้

แม้ ว่าเหตุการณ์จะผ่านมา 11 ปีแล้ว แต่ด้วยรอยด่างของความละเอียดอ่อนอันเกิดจากความแตกต่างทางเชื้อชาติและ ศาสนา ทำให้ "ห้องสมุด The Reading Room" และ "กลุ่ม Film Virus" ได้จัดวงเสวนาในหัวข้อ "11 ปี ของเหตุการณ์ 9/11 สหรัฐอเมริกาและโลกที่ไม่เคยเหมือนเดิม" ขึ้น

โดยมีนักวิชาการ ผู้กำกับภาพยนตร์และนักวิจารณ์ภาพยนตร์ ร่วมพูดคุยในประเด็นเรื่องอิทธิพลของสื่อสารมวลชนที่มีต่อเหตุการณ์ 9/11 ถึงการสร้างความรับรู้ของเหตุการณ์ ไปจนถึงการสร้างตัวตนใหม่ให้กับชาวมุสลิมในทรรศนะของผู้รับสารด้วย

"เกษม เพ็ญภินันท์" อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้อธิบายสภาพสังคมภายในของสหรัฐอเมริกาในช่วงเวลานั้นว่า มีความพยายามที่จะสร้างหรือให้พลเมืองสหรัฐเชื่อไปในทิศทางเดียวกัน โดยใช้สื่อในประเทศนำเสนอข้อมูลข่าวสารเพื่อให้พลเมืองของตัวเชื่อว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับสหรัฐมันคืออะไร และสหรัฐมีศักยภาพพอจะทำอะไรได้บ้าง จนนำไปสู่การเข้าไปจัดการกับกลุ่มอัลเคด้าและซัดดัม ฮุสเซน อดีตผู้นำเผด็จการของอิรักในที่สุด ซึ่งกรณีดังกล่าวไม่ใช้แค่การทำสงครามหรือแค่ต้องการผลประโยชน์น้ำมันใน ตะวันออกกลางเท่านั้น 



อีกด้านหนึ่ง มันได้ชี้ให้เห็นว่าสหรัฐอเมริกามีบทบาท มีสถานะและความเชื่อมั่นในบทบาทของประเทศตัวเองอย่างไร ซึ่งผลของการชวนเชื่อนี้ คือผลสำเร็จของ จอร์จ ดับเบิลยู. บุช อดีตประธานาธิบดี ในการดำเนินนโยบายการต่างประเทศและนโยบายภายในประเทศ จนสามารถชนะการเลือกตั้งในสมัยที่ 2 ได้ ทั้งยังได้พันธมิตรที่กระโดดเข้าร่วมวงประกาศสงครามกับลัทธิการก่อการร้าย ด้วย

สอดคล้องกับมุมมองของ "ชญานิน เตียงพิทยากร" นักวิจารณ์ภาพยนตร์ ที่บอกว่า แน่นอนเหตุการณ์ 9/11 สหรัฐจะต้องทำให้ทุกคนเห็นว่า เขาเป็นผู้ถูกกระทำและรับไม่ได้กับการกระทำนี้ ซึ่งภาพความเสียหายนี้ยังมีอิทธิพลถึงขนาดที่ประธานาธิบดีบุชสามารถพูดต่อ ประชาคมโลกว่า "ถ้าคุณไม่อยู่ฝั่งเราก็เป็นศัตรูของเรา แต่ถ้าคุณอยู่ฝั่งตรงข้ามกับผู้ก่อการร้ายคุณก็ต้องมาเป็นพวกกับเรา" ซึ่งผลของมันทำให้มีหลายประเทศลงไปอยู่ในบ่วงของสงคราม เข้าไปจัดการอัฟกานิสถาน จัดการอิรัก


(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1347350978&grpid=&catid=02&subcatid=0202 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น