คอป. เห็น 'ตุลาการ' ชัดกว่า 'ชายชุดดำ'
โดยวีรพัฒน์ ปริยวงศ์
นักกฎหมายอิสระ
http://www.facebook.com/verapat
อ วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ รายงาน คอป และเรื่องคดี พัน คำกอง 20 9 2012
http://www.youtube.com/watch?v=P1I5z8hYAQE
รายงานฉบับสมบูรณ์ โดย ‘คณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ’ (คอป.) ได้ กล่าวถึง ประเด็น ‘สถาบันตุลาการ’ ไว้พอสมควร ซึ่งผู้เขียนจะขอนำเนื้อหาบางส่วนมาชวนสังคมร่วมกันคิดต่อว่า ‘ตุลาการ’ เป็นส่วนหนึ่งของ ‘รากเหง้า’ ความขัดแย้งหรือไม่ ? และ ‘ตุลาการ’ ควรจะปรับตัวเพื่อร่วมสร้างความปรองดองในสังคมไทยอย่างไร ? ดังนี้
1. นักการเมืองซุกหุ้น แต่ตุลาการ ‘หักดิบ’ กฎหมาย
คอป. เล่าถึงบริบทความขัดแย้งตาม ‘แบบฉบับมาตรฐาน’ โดยนำยุคสมัย ‘รัฐบาลไทยรักไทย’ มาเป็นจุดเริ่มต้นของลำดับเหตุการณ์ รายงาน คอป. ระบุว่า
“[รัฐบาลไทยรักไทย] ถูกกล่าวหาว่าละเมิดหลักการประชาธิปไตย หลักนิติธรรม คุณธรรมและสิทธิมนุษยชน ใช้อำนาจแสวงหาผลประโยชน์ทางการเมืองและธุรกิจ แต่ระบบตรวจสอบกลับอ่อนแอและขาดประสิทธิภาพและถูกกล่าวหาว่าถูกแทรกแซงโดย ฝ่ายบริหาร จนทำให้ผู้นำกองทัพทำรัฐประหารในปี 2549 ซึ่งเป็นการใช้อำนาจนอกระบบในการแก้ปัญหาและเป็นการละเมิดหลักประชาธิปไตย อย่างร้ายแรง แทนที่จะเป็นการแก้ปัญหาทางการเมือง การรัฐประหารกลับกลายเป็นเงื่อนไขที่ทำให้ความขัดแย้งทางการเมืองขยายตัว มีความซับซ้อนและเป็นบาดแผลทางการเมืองที่ร้าวลึกมาจนถึงปัจจุบัน” (หน้า 53-54)
จากนั้น คอป. จึงวิเคราะห์เชื่อมโยงความเกี่ยวข้องระหว่าง ‘ตุลาการ’ และความรุนแรงทางการเมือง โดยให้ความสำคัญอย่างมากกับ ‘คดีซุกหุ้น’ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัยเมื่อปี 2544 ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มิได้กระทำผิดกฎหมาย โดยรายงาน คอป. ระบุว่า
“อำนาจตุลาการซึ่งควรต้องมีบทบาทและหน้าที่ในการผดุงไว้ซึ่ง หลักนิติธรรม กลับไม่สามารถทำหน้าที่ในการยุติความขัดแย้งทางการเมืองได้ และยังถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นผู้ละเมิดหลักนิติธรรมเสียเอง” (รายงานหน้า 54, เน้นคำหนาโดย คอป.) และระบุต่อว่า “กรณีจึงกลายเป็นปัญหารากเหง้าและปมปัญหาของความขัดแย้งในระยะต่อมา…” (หน้า 54, เน้นคำโดยผู้เขียน)
ยิ่งไปกว่านั้น คอป. ได้วิเคราะห์ถึงปัญหาทางกฎหมายของคำวินิจฉัยดังกล่าวอย่างเจาะจง และอ้างถึงความคิดเห็นของตุลาการรายบุคคลสองท่าน ก่อนจะติติงอย่างเข้มข้นถึงคำวินิจฉัย ‘คดีซุกหุ้น’ดังกล่าวว่า
เป็น “การปฏิบัติที่ผิดหลักกฎหมายโดยแท้” และเป็น “ความผิดพลาดของศาลรัฐธรรมนูญ” ซึ่ง “เป็นการบิดเบือนหรือหักดิบกฎหมาย อันเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้สังคมเกิดความเคลือบแคลงในหลักนิติธรรมของประเทศไทย” (รายงานหน้า 55, เน้นคำโดยผู้เขียน)
(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2012/09/42735
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น