โดย อลิน จารุอมรจิต
ฉันยืนมองโปสเตอร์รณรงค์ โครงการศึกษาสาธารณสุขร่วมใจเทิดไท้องค์ราชัน ลดโรค เพิ่มสุข วัยรุ่นไทย
อีกใบเป็นรูปชายในเครื่องแบบนักเรียนกำลังอุ้มทารกตัวน้อย มีคำโปรยว่า "ผู้ชายเป็นต้นเหตุ ให้ผู้หญิงวัยรุ่นคลอดบุตร เฉลี่ย 15 คนต่อชั่วโมง" และ "ผลจากการเช็คเรตติ้ง มีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน เป็นต้นเหตุให้วัยรุ่นคลอดบุตรเฉลี่ย 15 คนต่อชั่วโมง"
ฉันรู้และเข้าใจว่าโปสเตอร์รณรงค์ชิ้นนี้ ชูปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น
แต่อย่างแรกเลยนะ
จากความรู้วิชาชีววิทยาพื้นฐานมากๆ การตั้งครรภ์นั้นเกิดจากอสุจิผสมกับไข่ และไปฝังตัวที่ผนังมดลูก
ดังนั้น หากบอกว่า "ผู้ชาย" และ "การมีเพศสัมพันธ์" เป็นต้นเหตุ สำหรับฉันมันไม่จริงเลย
เราก็เห็นๆ กันอยู่ว่าผู้ชายที่มีเพศสัมพันธ์แล้วไม่ทำให้ผู้หญิงท้องนั้นมีอยู่เป็น ล้านๆ คน และการมีเพศสัมพันธ์กันก็ไม่ได้ทำให้ผู้หญิงทุกคนท้องเสมอไป
ประโยคเหล่านี้กระเทือนจิตใจผู้ชายนะที่ไปหาเขาว่าเป็นเหตุเกิดเรื่อง และทำให้วัยรุ่นขยาดต่อคำว่า "มีเพศสัมพันธ์" เพราะมันเป็น "ตัวการร้าย" พร้อมทั้งสั่งสอนว่า ควรคิดให้ดีก่อนที่จะมีเพศสัมพันธ์
แต่ในความเป็นจริง "เพศสัมพันธ์" มันใช่เรื่องที่ต้องใช้ความคิดด้วยหรือ มีใครมาใช้ความคิดเมื่อ "เข้าด้ายเข้าเข็ม" รึเปล่า
แล้วหากคิดได้ว่าไม่ควร แต่อารมณ์มันวิ่งไปไกลกว่าความคิดแล้ว..จะทำอย่างไร
ไม่ว่าผู้ใหญ่หรือวัยรุ่น เพศสัมพันธ์เป็นเรื่องแสนธรรมดาที่ร่างกายเราเรียกร้อง เหมือนที่ท้องเราหิวข้าว โดยเฉพาะในวัยรุ่น ยิ่งเป็นช่วงวัยที่พร้อมจะสืบพันธุ์
ดังนั้น คำว่า "ยังไม่ถึงวัยอันควร" ย่อมใช้ไม่ได้แน่ๆ
เพราะทั้งร่างกายและอารมณ์ของวัยรุ่นมันแสดงออกแล้วว่า "นี่ล่ะ คือช่วงเวลาอันควรของฉัน"
แต่ปัญหาคือ ในสังคมปัจจุบัน มันยังไม่ใช่เวลาจะเลี้ยงลูก แต่คือเวลาที่วัยรุ่นต้องเรียนหนังสือ ในเมื่อเรารู้แล้วว่าผู้หญิงตั้งครรภ์เพราะอะไร ทำไมจึงไม่ป้องกันจากจุดนั้น เมื่อเทคโนโลยีก็ก้าวไปไกล ทำไมจึงไม่สอนให้มีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย โดยใช้ถุงยางอนามัย หรือวิธีอื่นๆ
ทำไมนะ ผู้รณรงค์ไม่ลองพยายามหาวิธีฝังความคิดใส่สมองวัยรุ่นดูบ้างว่า...ต้องใช้ ถุงยางอนามัย เมื่อมีเพศสัมพันธ์.. และทำให้ความคิดนั้นฝังไปจนถึงบนเตียง เพราะแก้ปัญหาได้ตรงประเด็นกว่าการพยายามฝังความคิดว่า เพศสัมพันธ์นั้นอันตรายทำให้ผู้หญิงตั้งครรภ์ไม่พร้อมและต้องคลอดลูกเฉลี่ย 15 คนต่อชั่วโมง
บลา..บลา..บลา..
ยังมีโปสเตอร์อีกใบ เป็นภาพเด็กผู้หญิงยืนมั่นใจอยู่หน้ากระดานดำ พร้อมคำโปรยว่า "ฉันไม่พร้อมมีเพศสัมพันธ์" และต่อไปที่ด้านล่างว่า "กล้าประกาศให้รู้ ชีวิตนี้ไม่มีพลาด วัยรุ่นหญิงในวัยเรียน ต้องกล้าปฏิเสธในการมีเพศสัมพันธ์"
ขอบอกหน่อยนะว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในหัวของฉันเมื่อเห็นภาพโปสเตอร์รณรงค์นี้ ซึ่งทำให้การรณรงค์นี้ไม่ได้ผลเลยคือ คำถามว่า "รู้ได้อย่างไรว่าผู้หญิงไม่พร้อมจะมีเพศสัมพันธ์"
ข้อมูลนี้เกิดจากการอนุมานเอาเองของผู้ทำ หรือการสุ่มตัวอย่าง แต่จากประสบการณ์ของฉันคือ
ผู้หญิงบางคนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองอยากมีเพศสัมพันธ์ แต่เพราะสังคมแวดล้อมและค่านิยมที่สั่งสอน ว่า "ต้องเป็นคนรักนวลสงวนตัว"
..จะซ่าเรื่องไหนก็ต้องไม่ใช่เรื่องเพศ..
ผู้หญิงที่แสดงออกอย่างชัดแจ้งในเรื่องนี้คือผู้หญิงไม่ดี และมีคำด่าสำหรับผู้ที่แสดงออกเรื่องเพศ
อย่างมากมาย ไม่มีใครอยากจะโดนประณามเช่นนั้น จึง "สั่งสอนตัวเองอีกที" ว่าเราไม่ได้มีความต้องการ ทางเพศ ดังนั้น เมื่อมีผู้ชายมาเอ่ยปากขอมีเพศสัมพันธ์ด้วย ก็พยายามจะปฏิเสธ ซึ่งอาจสำเร็จเพราะบางรายผู้ชายอาจหยุด (แต่ในใจผู้หญิงที่ปฏิเสธกลับรู้สึกว่า "ทำไมไม่ดำเนินการต่อ")
บางรายผู้ชายยังพยายามตื๊อต่อไป และผู้หญิงก็ไม่ได้รู้สึกอย่างจริงจังว่า "ต้องปฏิเสธ" อาจเพราะในใจลึกๆ แล้ว ผู้หญิงเองก็มีความต้องการทางเพศเช่นเดียวกัน ดังนั้น การจะให้พูดอย่างเต็มปากเต็มคำออกมาว่า "ฉันไม่พร้อมมีเพศสัมพันธ์" ก็คงเป็นเรื่องยาก
การพยายาม "สะกดจิตผู้หญิงให้ไม่พร้อมมีเพศสัมพันธ์" เป็นผลร้ายต่อตัวผู้หญิงเอง เพราะเมื่อคิดว่า ยังไงเสีย ตนเองก็จะไม่มี จึงไม่เคยมีความรู้เรื่องการป้องกันการตั้งครรภ์ รวมไปถึงความรู้เรื่องอื่นๆ เช่น โรคต่างๆ ที่จะตามมา การรู้จักนับประจำเดือน
เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้เตรียมพร้อม เช่น โดนบังคับ ข่มขืน อยู่ในอารมณ์มึนเมา หรืออยู่กับคนรักและอารมณ์กำลังพาไปโดยไม่รู้สึกอยากปฏิเสธ จึงเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้มากกว่าผู้ที่เตรียมพร้อมเสมอ
การออกมารณรงค์ว่า "มีเพศสัมพันธ์ในวัยรุ่นเป็นเรื่องที่ผิดพลาด กลายเป็นตราบาปในชีวิต" ยิ่งเป็นการตอกย้ำค่านิยมให้สังคมเหยียดวัยรุ่นที่มีเพศสัมพันธ์ รังเกียจผู้หญิงที่ท้องในวัยเรียน และทำให้คนที่ตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนั้นรู้สึกเหมือน "โดนทั้งแผ่นดินกดทับ" คิดว่าตัวเองทำความผิดรุนแรงและ..ไม่มีค่าอีกต่อไป ทั้งที่เพศสัมพันธ์ไม่ใช่เรื่องอันตราย และไม่ได้เป็นสิ่งต้องห้าม
สิ่งที่อันตรายคือ การศึกษา สื่อ และสังคม ที่ไม่เคยให้ความรู้เรื่องการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย ป้องกันโรคติดต่อและป้องกันการตั้งครรภ์ ทั้งยังซ้ำเติมคนที่พลาดตั้งครรภ์ในวัยเรียน และไม่เคยมีทางออกให้ นอกจาก...ผู้หญิงต้องก้มหน้าเลี้ยงลูกทั้งที่ไม่พร้อม หากคนไหนไปยุติการตั้งครรภ์และถูกจับได้ ก็โดนประณามว่าเป็น "แม่ใจยักษ์"
ฉันก็ไม่เคยหยุดสงสัยซะทีว่า สังคมเราจะทำเรื่องธรรมชาติให้กลายเป็นความผิดราวก่ออาชญากรรมเพื่ออะไร
เหตุใดผู้ใหญ่จึงเอาแต่ต่อต้าน กดเก็บความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ แม้ว่าเทคโนโลยีและความรู้ เรื่องเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยจะก้าวไปไกลแค่ไหน แต่ค่านิยม การศึกษา และสื่อของสังคมก็ยังคงพูด "เรื่องเดิมๆ" ซึ่งไม่อาจแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้อย่างไม่เปลี่ยนแปลงเสียที
อีกอย่างนะ ภาพวัยรุ่นหญิงมัธยมต้นที่นำมาใช้ในโปสเตอร์รณรงค์ชุดนี้ แสดงว่าผู้ทำก็คงรู้แล้วว่า วัยรุ่นเดี๋ยวนี้มีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุ 13-14 ปี แต่ลองพลิกเข้าไปดูเนื้อหาการศึกษาระดับมัธยมต้น ในห้องเรียนสิ ยังทำราวกับเด็ก "ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไร" ไม่เคยมีการสอนเรื่องเพศศึกษาในเชิงป้องกัน การรู้ทันอารมณ์ทางเพศ และความรู้ในเรื่องเหล่านี้ที่เอาไปใช้ได้จริงๆ ในชีวิตด้วยซ้ำ
มีแต่เนื้อหา "สั่ง ห้าม อย่า" เพียงอย่างเดียว ซึ่งไม่สามารถยืนยันว่าจะประสบผลสำเร็จได้เลย ฉันขอรับรอง
ก็ขนาดยืนดูภาพวัยรุ่นชายหน้าตาคมเข้มบนโปสเตอร์นี้ ฉันยังอดคิดในใจไม่ได้ว่า
"แหม่ คัดหน้าตามาซะหล่อโดนใจ อยากรู้จักจัง”
(ที่มา)
http://www.prachatai.com/journal/2012/09/42488
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น