หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

บทบาทของ "สื่อ" พลังจาก รัฐประหาร 2549 ต่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

 

การออกมาเยาะเย้ยหยามหยัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในแบบของ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ที่หยิบยืมคำคม อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ที่ว่า

"โง่แล้วขยัน"

หรือ ที่หญิงเล็กจากแพร่ระดับ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู ซึ่งออกมาคอมเมนต์ "แท้จริงแล้ว ผู้หญิงเหนืออ่อนแอ ขี้แย ร้องไห้ สำออย ทำอะไรไม่ได้ก็ร้องไห้ ใช้มารยาหญิงผิดที่ผิดทางหรือไม่"ต้องกลายเป็นเรื่องจิ๊บๆ จ้อยๆ ขึ้นมาโดยพลัน

เมื่อประสบเข้ากับการจัดเต็ม จัดหนัก โดยการประสานแหล่งข่าว "ระดับสูงในกองทัพ" เข้ากับแหล่งข่าว "สมาชิกบ้านเลขที่ 111"

นำไปสู่ความล้มเหลวในการบริหารจัดการกับปัญหาน้ำท่วมของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

นำไปสู่ข้อเสนออันโน้มไปในทางที่จะให้ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก หรือ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง เข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี

แต่แล้ว ทุกอย่างก็เสมอเป็นเหมือนกับ "โคมลอย" ใบโต

เมื่อปะเข้ากับ 1 แถลงปฏิเสธจากกระทรวงกลาโหม และ 1 แถลงปฏิเสธจากศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก

และ 1 คำชี้แจงนุ่มๆ จากอดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย สมาชิกบ้านเลขที่ 111


ที่ ว่าการประสาน 2 แหล่งข่าว อันได้แก่ 1 แหล่งข่าว "ระดับสูงในกองทัพ" กับ 1 แหล่งข่าว "สมาชิกบ้านเลขที่ 111" ต้องถือว่าจัดหนัก จัดเต็ม

เพราะ "กองทัพ" เป็นปัจจัยชี้ขาดอนาคตของรัฐบาลทุกรัฐบาล

ไม่ว่ารัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ล้วนไปเพราะกองทัพเมื่อปี 2543 ไม่ว่ารัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ล้วนไปเพราะกองทัพเมื่อปี 2549

ขณะเดียวกัน กล่าวสำหรับรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็มีความเปราะบาง


(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1320912308&grpid=no&catid=&subcatid=
ช่อง 11 และชนชั้นกลาง



โดย สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

อ่านบทความของอาจารย์นิธิ เอียวศรีวงศ์ ในมติชนรายวันนี่แหละ ตีพิมพ์เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา พูดถึงกรณี "สถานี โทรทัศน์ไทยพีบีเอสได้เลือกที่จะเสนอตัววิ่งจากเอสเอ็มเอสที่ผู้ชมส่งเข้ามา ในรายการข่าวตอนเที่ยงว่า ′แม่น้ำเจ้าพระยาลงโทษพวกเสื้อแดง′ ผู้ส่งใช้นามว่ามหานทีสีทันดร"
โดยอาจารย์นิธิมีความเห็นว่า

"ท่ามกลางความทุกข์ยากของผู้คนแทบเลือดตากระเด็นนี้ คงปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่า ความเห็นนี้อัปลักษณ์"
นึก ถึงบทความนี้ เพราะในระหว่างฟังการอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ มี ส.ส.ฝ่ายค้าน พยายามหยิบประเด็นน้ำท่วมขึ้นมาโจมตีรัฐบาล โดยเน้นไปยังการเสนอข่าวของโทรทัศน์ช่อง 11 ว่าไม่เป็นที่น่าเชื่อถือ

พร้อมกับยกย่องสถานีโทรทัศน์ช่องอื่นๆ อย่างเลอเลิศ

ส.ส.ที่อภิปราย คงไม่รู้ว่า ข่าวโทรทัศน์ช่องต่างๆ ในวิกฤตน้ำท่วม ได้สร้างความผิดหวังให้ชาวบ้านไปถ้วนหน้า
จุดสำคัญคือการเร่งรีบเสนอข่าว ชิงกันโชว์ความรวดเร็วฉับไว

จึงทำให้ความไม่น่าเชื่อถือกระจายไปทั่วทุกช่อง

อย่างเช่น รีบจะบอกว่าน้ำได้ท่วมถนนสายนี้แล้ว โดยขาดการอธิบายว่า ท่วมตั้งแต่ตรงไหนถึงตรงไหนของถนนสายนั้น

อีกทั้งนักข่าวทุกคนก็มีความจำเป็นต้องไปยืนในจุดที่น้ำท่วมสูงสุดของบริเวณนั้น เพื่อให้ได้ภาพที่เร้าใจคนดู และให้เห็นว่าท่วมสูง

กลายเป็นว่า ถนนนั้นทั้งสาย ซอยนั้นทั้งซอย ท่วมสูงมากเท่ากับที่นักข่าวยืนรายงานอยู่
ผลกระทบที่ตามมา นอกจากสร้างความตกอกตกใจแล้ว ธุรกิจร้านค้าพลอยเจ๊ง เพราะลูกค้านึกว่าท่วมไปแล้ว

(อ่านต่อ) 
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1321005487&grpid=&catid=02&subcatid=0207
หน้ากาก"เวนเดตต้า" สัญญะทางการเมืองอันทรงพลัง




หากได้เห็นภาพข่าวหรือคลิปวิดีโอการชุมนุมประท้วงของขบวน การเคลื่อนไหว "ออคคิวพาย" หรือกลุ่มยึดสถานที่ต่างๆ จากทั่วโลก คุณคงจะได้เห็นผู้คนจำนวนหนึ่งสวมหน้ากากที่เป็นใบหน้าของผู้ชายที่ดูคล้าย การ์ตูน มีหนวดโค้งแหลมพร้อมรอยยิ้ม ขณะที่ดวงตาทั้งคู่ดูลึกลับ

หน้ากากดังกล่าวมีต้นแบบมาจาก กาย ฟอว์กส์ ชายชาวอังกฤษผู้ที่พยายามจะวางระเบิดอาคารรัฐสภาอังกฤษเมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน ค.ศ.1605

อเล็กซานดร้า ริชชิอาร์เดลลี หนึ่งในผู้เข้าร่วมประท้วงออคคิวพาย วอลล์สตรีท ที่สวนสาธารณะซัคคอตติพาร์ค ในนครนิวยอร์ก บอกว่า "หน้ากากนี้มีความหมายมาก มันไม่เกี่ยวกับการวางระเบิด แต่เกี่ยวกับการไม่เปิดเผยตัวตนและสันติ"

สำหรับเด็กสาววัย 20 ปีจากคีย์พอร์ท รัฐนิวเจอร์ซีย์ ผู้นี้ หน้ากากกาย ฟอว์กส์ "เกี่ยวกับการต่อต้านอำนาจที่คอยกดขี่"

หน้ากากกาย ฟอว์กส์ไม่ได้โด่งดังเป็นที่รู้จักขึ้นมาจากหนังสือเรียนวิชาประวัติศาสตร์ แต่เป็นเพราะนิยายภาพที่มีอายุเกือบ 30 ปี และภาพยนตร์ที่ออกฉายเมื่อ 5 ปีที่แล้ว

"วี ฟอร์ เวนเดตต้า" ชื่อภาษาไทยว่าเพชฌฆาตหน้ากากพญายม ภาพยนตร์ที่สร้างจากการ์ตูนซึ่งกล่าวถึงผู้นิยมลัทธิอนาธิปไตยและต่อต้าน วีรบุรุษที่จินตนาการว่าตนเองเป็นกาย ฟอว์กส์ยุคใหม่ และก่อการกบฏต่อรัฐบาลฟาสซิสต์ที่กลายมาเป็นบรรทัดฐานของกลุ่มผู้ประท้วง รุ่นใหม่ในโลกตะวันตก

แต่ไม่ว่าแรงบันดาลใจจะมาจากการ์ตูน ภาพยนตร์หรือบุคคลในประวัติศาสตร์ จินตภาพในการอุปมาอุปไมยซึ่งทุกวันนี้ถูกนำไปใช้ตั้งแต่จูเลียน แอสแซนจ์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์วิกิลีกส์จนถึงกลุ่มแฮกเกอร์ "อะนอนีมัส" ได้บรรจุไว้ซึ่งความหมายโดยนัยที่เข้มข้น ลึกซึ้ง

(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1320987137&grpid=&catid=02&subcatid=0202
′เมืองไทยในเงาน้ำ′



 เกษียร เตชะพีระ

เมื่อ มองภาพรวมทั้งหมดแล้ว ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าผลกระทบของมหาอุทกภัยครั้งนี้จะทำให้สังคมไทยเราดี ขึ้นหรือแย่ลง แต่ที่แน่ก็คือมันทำให้สังคมไทยเปล่าเปลือยล่อนจ้อนขึ้น เผยให้เห็นตัวตนที่แท้จริงของเราอย่างที่เคยเป็นมาและเป็นอยู่จริงทั้งในแง่ งามและอัปลักษณ์ สายน้ำที่ล้นหลากประหนึ่งบานกระจกที่บังคับให้เราจ้องมองดูตัวเองอย่างซื่อ ตรงโดยปราศจากถนิมพิมพาภรณ์ใดๆ

ในแง่หนึ่งมหา อุทกภัยนี้ก็เปิดโอกาสครั้งใหญ่ให้คนไทยโดยเฉพาะเยาวชนได้ทำงานเสียสละตนเอง เพื่อคนอื่นๆ, รักคนอื่นๆ, รู้สึกเข้าอกเข้าใจเห็นอกเห็นใจคนอื่นๆ, ได้ปลีกออกห่างจากตัวตนอันคับแคบ โดดเดี่ยว หวาดระแวงและมากด้วยความดูหมิ่นเกลียดชังของตนเอง ไปโอบกอดโลกอันกว้างไว้ในอ้อมอก

ทว่าในแง่กลับกัน ท่ามกลางน้ำท่วมใหญ่ กระแสน้ำก็กระฉอกซัดจนอารยธรรมอันเปราะบางที่ฉาบผิวอยู่ค่อยเปื่อยยุ่ยหลุด ลอกออกไปจากคนบางคนอย่างง่ายดาย เผยให้เห็นสันดานดิบอันป่าเถื่อนข้างใน

(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1321000203&grpid=01&catid=&subcatid=

ล้านคำบรรยาย การ์ตูนเซีย 11/11/54 ช่วยพาก้าวข้าม...ไปด้วยกัน


รูปภาพ

เจอวิกฤติ น้ำท่วม อ่วมไปหมด
เลิกรันทด หดหู่ แล้วสู้ต่อ
เพื่อพานพบ สิ่งสวยงาม ตามที่รอ
ให้เกิดก่อ ความรุ่งเรือง เมืองศิวิไลซ์....

ล้านความคิด สถิตสร้าง บนทางฝัน
ร่วมมือกัน ด้วยรัก ไม่ผลักใส
กี่เรื่องทุกข์ ช่วยดูแล รอยแผลใจ
สู่วันใหม่ ผ่องผุด ดุจแสงทอง....

เช็ดน้ำตา ให้แห้ง ออกแรงหนุน
ร่วมเกื้อกูล สายใย ไม่เป็นสอง
สร้างสิ่งสุข แสนงาม ตามครรลอง
ให้จับต้อง ความสุข..ลืมทุกข์ระทม....

จงก้าวข้าม ด้วยกัน อย่าหวั่นไหว
ทุกแรงใจ หล่อหลอม พร้อมสุขสม
เพื่อความหวัง สดใส ได้ชื่นชม
ผ่านทุกข์ตรม แสนเข็ญ สู่เส้นชัย....

กยอ. กยน. ก่อโดยรัฐ
คือความหวัง เด่นชัด ที่จัดให้
ร่วมฟื้นฟู ความหมองหม่น ของคนไทย
เกาะกุมมือ ก้าวข้ามภัย ไปด้วยกัน...

๓ บลา / ๑๑ พ.ย.๕๔
http://3blabla.blogspot.com

 สื่อหน้าด้าน

ไอ้สื่อหน้าด้าน ไอ้สื่อทรราช ไอ้สื่อขี้ข้าอำมาตย์ กินเงินภาษีประชาชน แต่มารวมหัวกันทำร้ายเจ้าของเงิน

5 ปีมานี้ ประเทศเสียหาย คนไทยแตกแยก มีความขัดแย้งทั่วทุกหย่อมหญ้า ยากเกินเยียวยา
 
สาเหตุหลักมาจากสื่อที่ไร้จรรยาบรรณ บิดเบือนข่าว สร้างประเด็นเท็จ เต็มไปด้วยอคติ ปั่นหัวประชาชนให้เกลียดกัน
ทำให้เกิดความระแวงซึ่งกันและกันระหว่างคนไทย สื่อเหล่านี้มีจุดหมายซ้อนเร้น

ด้วย วิธีการสกปรกของสื่อบางสำนัก ทำให้วันนี้ประชาชนเชื่อ ในข้อมูลข่าวของสำนักข่าวที่ตนเองฝักใฝ่ โดยไม่แคร์ว่าข่าวนั้น จริงเท็จแค่ไหน
 
ต้องช่วยกันเปิดโปงสื่อ ที่หากินบนความขัดแย้งของประชาชน อย่าให้ประชาชน ตกเป็นเหยื่อของสื่อเลวๆพวกนี้อีกเลย

หวังว่าจะไม่มีงบไปทีวีช่องนี้อีก
อย่าเอาภาษีเรา ไปสร้างความแตกแยกให้ประเทศ

รูปภาพ


รูปภาพ