วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2555
Divas Cafe
Divas Cafe
divas cafe รังสิมา ขอ Chair ด้วยคน !! 31 5 2012
(คลิกฟัง)
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=ILWfrm2Srf8#!
ก้าวต่อไปของครก 112 พรบ ปรองดอง Divas Cafe 30พค55
(คลิกฟัง)
http://www.youtube.com/watch?v=bP3tYcaKKcI&feature=related
'กูเกิล' หวั่น พ.ร.บ.คอมฯ คุกคามเศรษฐกิจอินเทอร์เน็ตไทย
'กูเกิล' หวั่น พ.ร.บ.คอมฯ คุกคามเศรษฐกิจอินเทอร์เน็ตไทย
กูเกิล โดย รอส ลาเจอร์เนส หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะ
ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ออกแถลงการณ์แสดงความกังวลถึงทิศทางการพัฒนาเศรษฐกิจไทยจากกรณีที่ได้มีการ
บังคับใช้กฏหมาย พรบ.คอมฯ ต่อ ผอ.ประชาไท
ว่าอาจยับยั้งการเกิดของนวัตกรรมและตัดโอกาสการลงทุนในประเทศได้
รายละเอียดมีดังนี้ ...
หัวหน้าฝ่ายนโยบายสาธารณะ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ที่มา: http://googlethailand.blogspot.com/2012/05/threat-to-potential-of-thailands.html
ธุรกิจนับล้านไม่ว่าจะขนาดเล็ก กลางหรือขนาดใหญ่ทั่วประเทศไทยเติบโต เจริญรุ่งเรืองและมีความหวังจากการทำให้ธุรกิจออนไลน์ เรื่องราวความสำเร็จจากอินเตอร์เน็ตของประเทศไทยที่ผมได้พบเห็นเป็นการ บันดาลใจอย่างแท้จริง - จากนักตกแต่งบ้านที่ใช้เว็บไซต์ฟื้นฟูธุรกิจที่เสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม ไปจนถึงผู้ผลิตชุดกีฬาและอุปกรณ์กีฬามวยไทยที่สร้างปรากฎการณ์เผยแพร่วัฒนธรรมที่โดดเด่นของไทยไปสู่ตลาดโลกได้อย่างงดงาม
มีเรื่องราวดีๆ อีกมากมายของคนไทยและธุรกิจไทยที่ประสบความสำเร็จจาก โลกออนไลน์ในลักษณะนี้ ซึ่งนี่เป็นแค่ตัวอย่างเพียงหยิบมือของศักยภาพที่มีอยู่ในประเทศไทย แต่น่าเสียดายที่อนาคตของอินเตอร์เน็ตในประเทศไทยกำลังมีการคุกคามอย่างร้ายแรงอันหนึ่งเกิดขึ้น
วันนี้มีการประกาศคำพิพากษาของคดีหนึ่งที่เกิดขึ้นในศาลไทยที่กำลังวิ่งสวนทางกับความน่าตื่นเต้นของประเทศและบทบาทที่สำคัญที่ จะนำมาซึ่งเสรีภาพ การเปิดกว้างและความรุ่มรวยของอินเตอร์เน็ตมาสู่ชีวิต เรื่องย่อๆ ของกรณีนี้คือการที่ผู้หญิงไทยคนหนึ่งที่เปิดเว็บไซต์ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 8 เดือน โดยให้รอลงอาญาเป็นเวลา 1 ปี ด้วย ข้อหา มีเจตนาจงใจสนับสนุนหรือยินยอมให้มีข้อความที่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมาย อาญาที่มีผู้โพสต์ไว้ ปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ ซึ่งเธอได้ลบข้อความนั้นออกหลังจากที่เธอรับรู้ การตัดสินจำคุกเธอจากสิ่งที่เธอไม่เคยเขียนส่งสาส์นถึงผู้ประกอบการและนัก ธุรกิจชั้นนำที่ทำธุรกิจบริการอินเตอร์เน็ตแพลต์ฟอร์มในประเทศไทยว่าพวกเขา อาจหรือถูกลงโทษอย่างรุนแรงจากการกระทำของผู้ใช้
การตัดสินครั้งนี้เป็นแบบอย่างที่น่ากังวลอย่างมากเพราะว่าอินเตอร์เน็ตแพ ลตฟอร์มหรือที่อ้างถึงบ่อยๆ ว่า “ตัวกลาง” เป็นเครื่องมือและเว็บไซต์ที่พวกเราหลายๆ คนใช้อยู่ทุกวันเพื่อเชื่อมโยงกับเพื่อนฝูง ครอบครัว และลูกค้าทั่วโลก เช่น เครือข่ายสังคม ตลาดออนไลน์และเว็บสนทนาต่างๆ เหล่านี้เป็นฐานรากของเว็บทั้งสิ้น
ลองจินตนาการดูว่าหากพรุ่งนี้บริการออนไลน์ทั้งหลายที่คุณใช้อยู่ปิดลง เพราะว่าเจ้าของบริการเหล่านั้นเกรงการถูกจำคุกเพราะเห็นความเสี่ยงที่มี มากกว่าสิ่งที่จะได้กลับมา เราไม่เพียงแต่จะเสียบริการที่เราชอบหรือต้องใช้งาน เราอาจต้องเสียความสามารถที่จะมีส่วนร่วมกับบทสนทนากับคนทั่วโลก และนั่นเป็นหัวใจและวิญญาณของอินเตอร์เน็ต เชื่อมโยงกับคนทั้งโลก สร้างสรรค์นวัตกรมและรับประสบการณ์จากโอกาสที่มีอยู่ในหลายๆ ประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจดิจิตอลประกอบอยู่อย่างแนบแน่น
(อ่านต่อ) http://www.prachatai.com/journal/2012/05/40767
สาส์นจาก “ซูจี”-“เต็งเส่ง”ถึงแรงงานพม่า จุดเปลี่ยนวงการแรงงานไทย
สาส์นจาก “ซูจี”-“เต็งเส่ง”ถึงแรงงานพม่า จุดเปลี่ยนวงการแรงงานไทย
"เมซู่ เมซู่ !! จานมาปาเซ!!"
เสียงตะโกนโห่ร้องอวยพรอย่างต่อเนื่องของกลุ่มผู้ใช้แรงงานชาวพม่าหลายพันคน ซึ่งสามารถแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า "ขอให้แม่อองซาน ซูจีของเรามีสุขภาพแข็งแรง" ดังกึกก้องไปทั่วตลาดกุ้งกลางจังหวัดสมุทรสาครเมื่อวันก่อน หลังจากที่นางซูจีเดินทางมาเยี่ยมแรงงานพม่าที่ อ.มหาชัย ท่ามกลางฝูงชนชาวพม่าหลายพันคนที่ทนยืนฝ่าแดดร้อนเพื่อรอคอยการมาถึงของซูจีอย่างใจจดใจจ่อ บางคนถือป้ายเขียนเป็นภาษาพม่าว่ายินดีต้อนรับ บางคนถือดอกไม้ ถือธงชาติพม่า หรือถือรูปของซูจี และนายพลอองซาน บิดาผู้ล่วงลับของซูจี ภาพเหล่านี้สะท้อนถึงความศรัทธาที่ผู้ใช้แรงงานชาวพม่าในไทยมีต่อตัวอองซาน ซูจี ผู้นำพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี)ของพม่า
การมาเยือนไทยในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวย่างแรกของซูจีที่เดินทางออกนอกประเทศพม่า หลังจากที่ถูกรัฐบาลทหารพม่ากักบริเวณอยู่ภายในบ้านเป็นเวลานาน เป็นการออกนอกประเทศครั้งแรกในรอบ 24 ปี การเดินทางเยือนมหาชัยของเธอ มีจุดมุ่งหมายคือการมาดูวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของแรงงานพม่าในไทย โดยแรงงานพม่าหลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พวกเขามีความปลาบปลื้มและดีใจที่อองซาน ซูจีมาเยี่ยม เพราะซูจีเปรียบเสมือน "วีรสตรีของชาวพม่า" เป็น "มารดาแห่งประชาธิปไตยในลุ่มน้ำอิระวดี"
สิ่งที่น่าจับตาคือ คำพูดของซูจีในการกล่าวทักทายกลุ่มผู้ใช้แรงงานชาวพม่าที่ศูนย์การเรียนรู้แรงงานข้ามชาติ ในจ.สมุทรสาคร ซูจี กล่าวว่า “หากวันใดที่ประเทศพม่าเป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ก็อยากให้ชาวพม่าทุกคนกลับไปทำงานเพื่อช่วยกันพัฒนาประเทศ เพราะไม่มีที่ไหนสุขใจเท่ากับที่บ้านของเรา”
(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1338452739&grpid=&catid=02&subcatid=0207
มาตรฐานสากล และปัญหา กม.หมิ่นฯ ม.112
มาตรฐานสากล และปัญหา กม.หมิ่นฯ ม.112
หมายเหตุ
บทความของ"ชาญวิทย์ เกษตรศิริ" อดีตอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ข้าราชการบำนาญ แสดงทัศนะเรื่องปัญหา กม.หมิ่นฯ ม.112 "มติชน"ฉบับวันที่ 1มิถุนายนนำมาเรียบเรียงในประเด็นน่าสนใจดังนี้
------------------------------
จากการศึกษาและจากการสอน "วิชาประวัติศาสตร์การเมืองสยาม/ไทย" มาเป็นเวลานานปีผมได้พบว่าขณะนี้สังคมและประชาชนไทยของเราเผชิญต่อปัญหาที่ท้าทายอย่างยิ่ง คล้ายๆ กับที่ได้เผชิญมาแล้วเมื่อ พ.ศ.2475 (1932) คือเมื่อ 80 ปีที่แล้วในเรื่องของ "รัฐธรรมนูญ" ที่ถ้ามองจากเหรียญด้านหัวของ "คณะเจ้า" ก็กล่าวกันว่า "คณะราษฎร" ใจร้อน ชิงสุกก่อนห้าม แต่ถ้ามองจากเหรียญด้านก้อยของ "คณะราษฎร" ก็เชื่อกันว่าความล่าช้า อืดอาด ทำให้เกิด"ความจำเป็นทางประวัติศาสตร์" ที่จะต้องมี "การปฏิวัติประชาธิปไตย 24 มิถุนายน 2475" เพื่อเปลี่ยน "ระบอบราชาธิปไตย" ให้เป็น "ระบอบประชาธิปไตย"
ปัญหาที่สังคมและประชาชนไทย เผชิญอยู่ในสมัยรัชกาลปัจจุบัน ก็คือ เราจะสามารถปฏิรูป และแก้ไข "กฎหมายหมิ่นฯ มาตรา 112" ได้ช้า หรือได้เร็ว และจะทันท่วงทีกับสถานการณ์ของการเมืองภายในของเราเอง กับสถานการณ์ของการเมืองระหว่างประเทศหรือไม่ นี่คือปัญหาของ "เหรียญสองด้าน" ที่เราต้องชั่งน้ำหนัก ระหว่างด้านหัว กับด้านก้อย ระหว่าง "กลุ่มอำนาจเดิม-พลังเดิม" กับ "กลุ่มอำนาจใหม่-พลังใหม่"
2.จากการศึกษาของผม พบว่ามีข้อมูลใหม่ๆ เกี่ยวกับปัญหา กม.หมิ่นฯ ม.112 ปรากฏอยู่ในหนังสือเล่มใหม่ที่ ฯพณฯ อานันท์ ปันยารชุน เป็นประธานรวบรวมและจัดพิมพ์ ในโอกาส 84 พรรษา ชื่อเรื่อง King BhumibolAdulyadej: A Life′s Work หนา 383 หน้าราคา 1,235 บาท หรือ 40US$ มีนักเขียนที่มีชื่อเสียงด้านวิชาการ เช่น คริสเบเกอร์-พอพันธ์ อุยยานนท์-เดวิด สเตร็กฟุส ร่วมด้วยในหนังสือสือเล่มนี้บทที่ว่าด้วย "กฎหมายหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย..." หน้า 303-313 (The Law of Lese Majeste) มีข้อความถอดเป็นภาษาไทยได้ดังนี้
"จากปี พ.ศ.2536 (1993) ถึงปี พ.ศ.2547 (2004) เป็นเวลาถึง 11 ปี โดยเฉลี่ยแล้วจำนวนคดีหมิ่นใหม่ๆ ลดลงครึ่งหนึ่ง และก็ไม่มีคดีหมิ่นเลย ในปี 2545 (2002)...
(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1338443628&grpid=03&catid=02&subcatid=0207
The Daily Dose
The Daily Dose
The Daily Dose 31พค55
(คลิกฟัง)
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=PBdGql4QqE0
The Daily Dose 30พค55
(คลิกฟัง)
http://www.youtube.com/watch?v=cqBuTLjkfOg&feature=player_embedded
Wake Up Thailand
Wake Up ThailandWake Up Thailand 31พค55(คลิกฟัง) |
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=7IuytEZyRUQ
Wake Up Thailand 30พค55
(คลิกฟัง)
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=EDsR7xqQQlM
ทำไม "สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล" ถึงเศร้ากับการ "ชนช้าง" ของพลัง2ฝ่าย ในศึกพ.ร.บ.ปรองดอง?
นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ได้แสดงความเห็นล่าสุด
เกี่ยวกับสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้นจากการพยายามเสนอร่างพ.ร.บ.ปรองดอง
เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า
ขอย้ำว่า ประเด็นใหญ่จริงๆ ตอนนี้ อยู่ตรงนี้แหละ
ระหว่าง การเอาทักษิณกลับบ้าน (ผ่าน พ.ร.บ.ปรองดอง) vs การบล็อกทักษิณกลับบ้าน ของ
พธม.-ปชป.
สำหรับผมเองนะ
สิ่งที่น่าเศร้าคือ ในการ "ชนช้าง" (gigantic clash) ระหว่างพลัง 2 ฝ่าย ที่รวมศูนย์ที่เรืองนี้
ชะตากรรม-อิสรภาพของคนตัวเล็กตัวน้อย กลายเป็นอะไรที่ถูก "พ่วง" เป็นเพียง "ผลพลอยได้" (byproducts)
หรือ "ผลพลอยเสีย" (collateral damages) ไป
ต่อมา
นายสมศักดิ์ได้แสดงทัศนะเพิ่มเติมอีกว่า
อันนี้
ใครอ่านผมประจำก็คงพอรู้ๆกันนะ แต่ผมอยากบอกตรงๆว่า
ผมไม่ค่อย กระตือรือล้น (enthusiastic) นักหรอก ไอเดียเรื่อง เอาทักษิณกลับบ้านให้ได้ภายในปีนี้
น่ะ
ผมว่า "ราคา"
ที่ต้อง จ่าย ในสถานการณ์ที่เป็นอยู่ มันมากเกินไป
ตั้งแต่ว่า ต้อง "รีบหันกลับ 180 องศา" เรื่อง เปรม และเรื่องอะไรต่ออะไร
ทำนองเดียวกัน
|
|
ไปจนถึงการทำให้เรื่องช่วยคนตัวเล็กตัวน้อยที่ติดคุก เรื่องกรณีการฆ่าคนกลางเมือง ฯลฯ
ต้องกลายเป็น "ตัวประกัน" ที่พร้อมจะเสี่ยงหรือสละได้หมด
ความจริง ถ้าดีเลย์เรื่องเอาทักษิณกลับบ้านนี้ไป แล้วค่อยๆ ทำเรื่องอื่นๆ ก่อน
โดยเฉพาะเรื่องช่วยคนธรรมดาๆ ให้ออกมา ให้เสร็จๆ ไป น่าจะดีกว่าเยอะ
"ราคา" ทั้งหลายที่รู้สึกว่าต้องจ่ายๆ ไป (แม้แต่เรื่องเปรม) ก็ไม่แน่ว่า
จำเป็น
(ที่มา)
|
|
บก.ลายจุดชี้ขโมยเก้าอี้ประธานฯ-ปาแฟ้มเอกสาร เป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ แต่ว่า...
บก.ลายจุดชี้ขโมยเก้าอี้ประธานฯ-ปาแฟ้มเอกสาร เป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ แต่ว่า...
นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด "แกนนอน"
ผู้ริเริ่มกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์หลายอย่างให้แก่กลุ่มคนเสื้อแดง ได้แสดงความเห็นต่อพฤติกรรมของ
ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่พยายามขัดขวางไม่ให้มีการนำร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง
เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ในระหว่างวันที่ 30-31 พฤษภาคม ผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก "บก.ลายจุด"
มีเนื้อหาบางส่วน ดังนี้
"ลากเก้าอี้ประธานไปเก็บ บอกว่าเป็นการแสดงออกทางสัญลักษณ์ โถ...รังสิมา"
"เป็นความเข้าใจถูกแล้วที่การขโมยเก้าอี้ประธานรัฐสภาและปาแฟ้มเอกสารใส่เป็นการแสดงออกทางสัญลักษณ์
เพียงแต่ว่ามันเป็นสัญลักษณ์_อย"
"ประชาธิปัตย์ใช้เวลา 2 วันทำลายพรรคตัวเองในสภาท่ามกลางสายตาของชาวโลก"
"ถ้าให้เทียบระหว่าง พธม. กับ ประชาธิปัตย์ในรอบ 2 วันนี้ ผมคิดว่า พธม.
ดูดีกว่าประชาธิปัตย์มาก"
"ต้องแยกให้ออกระหว่าง สัญลักษณ์ กับ อัปลักษณ์"
(ที่มา)http://www.matichon.co.t/news_detail.php?newsid=1338480904&grpid=03&catid=01&subcatid=0100
บรรยากาศ พธม.ชุมนุม ยื่นสภาถอน 4 ร่างกฎหมายปรองดอง
บรรยากาศ พธม.ชุมนุม ยื่นสภาถอน 4 ร่างกฎหมายปรองดอง
"สนธิ" ประกาศลั่นจะสู้จนกว่าได้ชัยชนะ
30 พ.ค.55 เว็บไซต์คมชัดลึกรายงาน
ว่า เมื่อเวลา 13.53 น. นายสนธิ ลิ้มทองกุล
แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
(พธม.) ได้ขึ้นเวทีปราศรัยระบุว่าจุดเริ่มต้นของพันธมิตรฯ เริ่มเมื่อ
ก.พ.2549
มีการเคลื่อนขบวนจากสวนลุมพินีมายังลานพระบรมรูปทรงม้าแต่ระหว่างนั้นเจอพวก
กุ๊ยรังแก จากประชาชนที่มาฟังความรู้
จึงแปรรูปมาเป็นมวลชนสู้แบบพันธมิตรครั้งแรก จากนั้น 6 ปีที่ผ่านมา พธม.
ย้อนมาที่นี่อีกครั้ง ซึ่งรูปแบบจะไม่ยืดเยื้อเหมือนปี 2549
แต่บอกว่าไม่มีพลังใดจะชนะพลังศีลธรรมได้ นอกจากนี้ ตอนพ่อของตนได้ตั้งชื่อ
สนธิ ก็ไม่เชื่อว่ามีอีกคนตั้งชื่อสนธิ เหมือนกัน "สนธิ"
คนหนึ่งเป็นลูกเจ๊ก แต่อีกคนเป็นลูกแขก ซึ่งคนหนึ่งขายสมบัติเพื่อชาติ
อีกคนกลับขายชาติเพื่อสมบัติ คนหนึ่งเติบโตมาเพื่อทำงานประจำ
อีกคนเรียนโรงเรียนที่สาบานต่อธงชัยเฉลิมพล แต่สุดท้ายก็มาขายชาติ
ใช่หรือไม่
นายสนธิ กล่าวว่า วันนี้มีข่าวลือว่า สนธิ รับเงิน จึงอยากรู้ว่า สนธิ
ไหนกันแน่ การชุมนุมครั้งนี้จะทิ้งข้อบาดหมาง 1 ปี
ที่ผ่านมาเพื่อจับมือเดินหน้าต่อไปสำหรับเวทีพันธมิตรฯ เท่านั้น
ให้ทุกคนให้สัจจะว่าใครมาทำลายสถาบันได้เจอกันแน่
และเมื่อใดมีการออกกฎหมายให้พ้นผิดจะได้เจอกัน
ซึ่งพันธมิตรจะไม่เคยถอยจากสองเรื่องนี้อย่างแน่นอน
ขณะเดียวกันภายหลังการตั้งรัฐบาล เมื่อเดือน ก.ค.
ปีที่แล้วจนถึงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา พธม. ถูกถามว่าทำไมไม่ยอมออก
แต่ตอนนี้ยืนยันได้ว่า พธม. คือทัพหลวง จะออกมาเมื่อมีการผิดสัจจะ
จะสู้จนกว่าจะได้ชัยชนะ
การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ได้เพื่อส่วนตัวแต่เพื่อความศักดิ์สิทธิ์ของแผ่นดิน
(อ่านต่อ)http://www.prachatai.com/journal/2012/05/40769
พ.ร.บ.ปรองดอง ทำสภาลุกเป็นไฟ ประท้วงวุ่น "ปชป."ชี้บรรจุวาระไม่ชอบ ตะโกนไล่"สมศักดิ์"ออกไป!!
พ.ร.บ.ปรองดอง ทำสภาลุกเป็นไฟ ประท้วงวุ่น "ปชป."ชี้บรรจุวาระไม่ชอบ ตะโกนไล่"สมศักดิ์"ออกไป!!
(คลิกอ่าน)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1338369016&grpid=&catid=01&subcatid=0100
สส.ปชป ลุกฮือเข้าล้อมกรอบ ประธานสภา !!
เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand เจาะลึกประเด็นวุ่นวายในสภา "เหตุแย่งเก้าอี้ประธานสภา : เกมหรืออารมณ์พาไป" กับคุณรังสิมา ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์
(คลิกอ่าน)
https://www.youtube.com/watch?v=RRFd-R-kHCc&feature=related
ความวุ่นวายในสภา 30 05 2555
(คลิกฟัง)http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=RNrMkHZ9RVo
ดึง'สมศักดิ์'ลงจากบัลลังก์
ในช่วงเวลา 18.09 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้เกิดเหตุการณ์ปั่นป่วนขึ้น เมื่อส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ไม่พอใจการทำหน้าที่ของนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรที่เร่งรัดการลงมติ โดยนายอภิชาติ สุภาแพ่ง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้ขึ้นไปดึงเก้าอี้ประธานสภาฯ เพื่อให้ลงจากเก้าอี้ ทำให้ส.ส. ที่กำลังประชุมอยู่ต่างพากันกรูเข้าล้อมประธานสภาฯ พร้อมตะโกนด่าทอ ทำให้บรรยากาศในการประชุมตึงเครียด และต้องพักการประชุมไปชั่วครู่ และเรียกร้องให้มีการพักการประชุม
(คลิกฟัง)http://www.youtube.com/watch?v=bIbQ9v7q6jY&feature=player_embedded
ส.ส.หญิง แย่งเก้าอี้ประธานสภาฯ
(คลิกดู)https://www.youtube.com/watch?v=hBIbWWdjd-g&feature=related
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)