หน้าเว็บ

วันพุธที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

บ้านเมืองไม่ใช่ของเรา : วิพากษ์วิธีกับขบวนการเสื้อแดงจากใจ อึ๊งภากรณ์

บ้านเมืองไม่ใช่ของเรา : วิพากษ์วิธีกับขบวนการเสื้อแดงจากใจ อึ๊งภากรณ์

 

 

ChuPitchTV# 76 คุยกับ ใจ อึ๊งภากรณ์

http://www.youtube.com/watch?v=EOC5mjnNXIg&feature=player_embedded#! 



บ้านเมืองไม่ใช่ของเรา เทปนี้คุยกับใจ อึ๊งภากรณ์ ถึงประเทศเยอรมัน ถึงเรื่องมุมมองต่อขบวนการประชาธิปไตยของประชาชนอิยิปต์เปรียบเทียบกับการ เคลื่อนไหวคนเสื้อแดงในเมืองไทย และความแตกต่างของการขยายพื้นที่ประชาธิปไตยในสังคมที่ไม่มีขบวนการแรงงาน เข้าร่วมอย่างประเทศไทย ต่างกับประเทศอื่นๆ อย่างอิยิปต์หรือแม้แต่ในกรีซอย่างไร

(คลิกฟัง)
http://www.prachatai.com/journal/2012/07/41611

Wake Up Thailand

Wake Up Thailand


Wake Up Thailand 18กค55

http://www.youtube.com/watch?v=gSkCE_I4eHo

The Daily Dose

The Daily Dose

 

 

The Daily Dose 18กค5

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=1m-1GYnfpMw 

Divas Cafe

Divas Cafe


แดงโห่ ปชป เฮ นักวิชาการซัด กระแสตีกลับเพื่อไทย Divas Cafe 13มิย55
http://youtu.be/vTCbQdANN1k


วิพากษ์บทความของ นงนุช สิงหเดชะ Divas Cafe 18กค55

http://www.youtube.com/watch?v=BMSiEiFbrZI&feature=player_embedded

“จตุพร” เปิด 3 ทางเลือกแก้ไขรธน.–วอนขอความเมตตาศาลอาญาให้สิทธิประกันตัว

“จตุพร” เปิด 3 ทางเลือกแก้ไขรธน.–วอนขอความเมตตาศาลอาญาให้สิทธิประกันตัว

 

 

นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึง ทิศทางการเคลื่อนไหวของ นปช. ขณะนี้ว่า ต้องรอคำวินิจฉัยกลางและคำวินิจฉัยส่วนตัวของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ทั้ง 8 คน เพราะต้องการให้การแก้ปัญหาเดินหน้าไปอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ซึ่ง มีทางเลือก 3 ทาง ประกอบด้วย 1) เดินหน้าโหวตร่างรัฐธรรมนูญวาระสาม หรือ 2) ทำประชามติ และ 3) แก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา

ส่วนสาเหตุที่ต้องรอ เพื่อตัดสินใจบน 3 ทางเลือกนี้ เป็นเพราะสิ่งที่ศาลอธิบาย ไม่ได้อยู่ในมาตราใดของศาลรัฐธรรมนูญ ฉะนั้น จะต้องดูให้สุดทางจากคำอธิบายฉบับเต็ม เพื่อให้ตกผลึกทั้ง รัฐบาลพรรคเพื่อไทย และ นปช. ต้องเห็นครบจึงจะตัดสินใจได้

สำหรับท่าทีของ ส.ส.และ สว. 416 คน จะส่งคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ หรือไม่นั้น นายจตุพร กล่าวว่า แต่ละคนต้องตัดสินใจเพราะเป็นทั้งเรื่องส่วนตัวและเป็นอำนาจที่ประชาชนเลือก มา เชื่อว่า ทุกฝ่ายกำลังรอความชัดเจนจากคำวินิจฉัยฉบับสมบูรณ์

นายจตุพร กล่าวถึงกรณีศาลอาญานัดไต่สวนกรณีศาลรัฐธรรมนูญยื่นเพิกถอนการปล่อยตัวชั่ว คราวในวันที่ 23 ก.ค.นี้ว่า เตรียมชี้แจงว่าไม่ได้เป็นไปตามข้อกล่าวหา และไม่ได้ทำผิดเงื่อนไขการประกันตัว อาทิ การเข้าชื่อถอดถอดตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ก็เป็นไปตามสิทธิตามรัฐธรรมนูญ รวมถึงการที่ตนขอร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจส่งกำลังไปดูแลบ้านตุลาการศาลรัฐ ธรรมนูญ ก็มีเจตนาป้องกันไม่ให้มือที่ 3 ก่อเหตุการณ์ความวุ่นวายภายหลังศาลอ่านคำวินิจฉัย ไม่มีข้อเท็จจริงใดเป็นการข่มขู่แต่อย่างใด จะเห็นได้ว่า ตั้งแต่การพิจารณาคดี วันที่มีการไต่สวน จนถึงวันที่มีการวินิจฉัย ตนได้ห้ามประชาชนไม่ให้ไปรวมตัวที่ศาลรัฐธรรมนูญ นอกจากนั้นยังมีคำถามว่า ศาลรัฐธรรมนูญเป็นคู่กรณีกับตนเองกรณีศาลฯได้ แจ้งความกล่าวหาตนในชั้นพนักงานสอบสวน เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2553 คดียังไม่สิ้นสุด ดังนั้น ศาลฯ ใช้อำนาจวินิจฉัยคดีตนเองได้อย่างไร ฉะนั้น หวังว่า เมื่อนำความไปเรียนต่อศาลอาญาแล้ว ก็หวังว่าจะได้รับความเมตตาและความยุติธรรม

 

(อ่านต่อ)http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1342524598&grpid=&catid=02&subcatid=0202

ก้าวฝ่า “ความเงียบงัน” - A Walk Through "the Silence

ก้าวฝ่า “ความเงียบงัน” - A Walk Through "the Silence

 


"ในความเงียบงัน
มีคนร่ำไห้
มีคนกู่ตะโกน
มีคนก้าวเดินไปทีละก้าว-ทีละก้าว
เดินฝ่าความเงียบนั้น
โดยไม่มีใครได้ยิน
ในความเงียบงัน
คนเหล่านั้นยังคงก้าวเดินไป
ทีละก้าว-ทีละก้าว
ก้าวฝ่าความเงียบงันนี้ไป"


ความตั้งใจที่จะทำโฟโต้โมเสค (Photo Mosaic) ชุดนี้  เริ่มขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว (2554) ท่ามกลางความเงียบงันอันเหลือทนของสังคมไทยต่อ “กรณีมาตรา 112”
 

แรกทีเดียวผมตั้งใจจะทำงานชิ้นนี้ให้เสร็จออกมาก่อนกลางเดือนมกราคม 2555 เพื่อจัดแสดงในงาน “กลับสู่แสงสว่าง” (15 - 22 มกราคม 2555) ที่กลุ่ม “กวีราษฎร์” จัดขึ้นเพื่อสนับสนุนการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ตามแนวทางของ “คณะนิติราษฎร์”  โดยได้ทำภาพร่างเอาไว้แล้ว  แต่ก็ต้องตัดสินใจชะลอไว้ก่อน เนื่องจากในขณะนั้นผมมีภาพถ่ายกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ “มาตรา” 112 อยู่เพียงประมาณ 600-700 ภาพ ขณะที่ความละเอียดของภาพเต็มตามที่ผมคำนวณเอาไว้นั้นจำเป็นต้องใช้อย่างน้อย 1,000 ภาพในการนำมาเรียงต่อกัน หาไม่แล้วภาพที่ออกมาก็จะไม่ละเอียดเท่าที่ตั้งใจไว้
 

กลางดึกของคืนวันที่ 26 พฤษภาคม ภาพ A Walk Through "the Silence” # 1  - ภาพแรกของงานชุดนี้ - เสร็จสมบูรณ์ลงด้วยภาพถ่ายจำนวน 1,457 ภาพ ที่ถูกผม crop เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสทีละภาพ ก่อนจัดเรียงโดยไม่ซ้ำเป็นภาพขนาด 60 x 90 เซนติเมตร ตามภาพธีม (theme) - ซึ่งเป็นภาพเท้าและท่อนขาที่ถูกพันธนาการด้วยโซ่ตรวนของผู้ต้องหาคดีตาม ประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ผู้หนึ่ง ซึ่งผมถ่ายไว้ในวันที่เขาถูกพิพากษาจำคุก - ก่อนถูกนำไปพิมพ์ลงบนแคนวาสและจัดแสดงในนิทรรศการศิลปะ “เรื่องเล่าของมนุษย์ล่องหน” เมื่อวันที่ 2-22 มิถุนายน 2555 ที่เชียงใหม่ ร่วมกับงานของเพื่อนศิลปินอีก 15 คน (จัดโดยกลุ่ม Unseen Thailand )


ผ่านไปอีกเกือบสองเดือน - 17 กรกฎาคม 2555  A Walk Through "the Silence” # 2  จึงได้เสร็จสมบูรณ์ตามมา ด้วยภาพถ่ายทั้งหมด 1,430 ภาพ ซึ่งจะพิมพ์ลงบนแคนวาสขนาด 180.44 x 42.52 เซนติเมตร


 

ในฐานะคนทำงานศิลปะตัวเล็กๆ ที่ไม่โด่งดัง ผมย่อมไม่กล้าคาดหวังว่าผลงานของตัวเองจะสามารถเปลี่ยนแปลงหรือก่อผลสะเทือน ใดๆ โดยเฉพาะกับ “ความเงียบงัน” ที่ดำรงอยู่อย่างแข็งแกร่ง

สิ่งเดียวที่พอจะคาดหวังกระทั่งคาดคั้นได้ก็คงมีแต่เพียงตัวเองเท่านั้น - ผมตั้งใจจะทำภาพชุด A Walk Through "the Silence" ออกมาให้สมบูรณ์ตามที่ตั้งใจ (คืออย่างน้อยชุดนี้จะมี 5 ภาพ) ภายในปีนี้ให้ได้

และหากจะสามารถคาดหวังต่อภาพชุดนี้ได้บ้าง สิ่งที่ผมอยากให้มันสำแดงออกมาก็คือ  การบอกว่าท่ามกลาง “ความเงียบงัน” ที่เราต่างเผชิญอยู่นี้ ไม่ได้มีแต่ความว่างเปล่า และยิ่งไม่ใช่ความ “นิ่งงัน” อย่างที่บางคนอาจหมิ่นแคลน ลำพอง หรือแม้แต่ลอบทอดถอนใจ หากแต่ยังมีความเคลื่อนไหว และมีคนจำนวนมากที่ยังคงพยายามจะ “ก้าวฝ่า” มันไป

แต่ถ้าหาก A Walk Through "the Silence" จะสามารถทำได้มากกว่านี้ ผมก็คงได้แต่ยินดีกับมัน

(ที่มา)
http://blogazine.in.th/blogs/karnt/post/3518

คดี ‘พัน คำกอง’ จนท.ยันกระสุนชนิดเดียวปืนทหาร แต่ไม่ตรงกับกระบอกที่ส่งตรวจ

คดี ‘พัน คำกอง’ จนท.ยันกระสุนชนิดเดียวปืนทหาร แต่ไม่ตรงกับกระบอกที่ส่งตรวจ

 

 

จนท.พิสูจน์หลักฐานเบิกความ ไต่สวนการตายคดี ‘คำ พันกอง’ ยันกระสุนที่อยู่ในร่างผู้ตายเป็นกระสุนปืนเล็กกลชนิดเดียวกับปืนของทหารที่ ส่งตรวจหลังเหตุการณ์ 1 ปี แต่ไม่ใช่กระบอกเดียวกัน พร้อมอธิบายผลตรวจเปลี่ยน หากเปลี่ยนลำกล้อง

18 ก.ค.55 ที่ห้องพิจารณา 909 ศาลอาญา รัชดา มีการไต่สวนการเสียชีวิตของนายพัน คำกอง คนขับแท็กซี่ ชาว จ.ยโสธร ซึ่งถูกยิงบริเวณถนนราชปรารภ ใกล้แอร์พอร์ทลิงค์ ซึ่งเป็นจุดประจำการของทหาร เมื่อหลังเที่ยงคืนวันที่ 14 พ.ค.ต่อกับวันที่ 15 พ.ค.53 จากกรณีที่มีการยิงสกัดรถตู้ที่เข้ามาในพื้นที่ดังกล่าว โดยในวันนี้มีพยาน 4 ปากเป็นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการพิสูจน์เปรียบเทียบหัวกระสุนที่อยู่ ในร่างผู้ตายกับอาวุธปืนที่เจ้าหน้าที่ทหารใช้ในการปฏิบัติการในพื้นที่ โดยหนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่ตรวจหัวกระสุนที่อยู่ในร่างนายพัน คำกอง ผู้เสียชีวิต เบิกความว่า หัวกระสุนดังกล่าวเป็นกระสุนปืนเล็กกลขนาด .223 ( 5.56 มม.) ซึ่งสามารถใช้กับปืนเล็กกลและปืนไรเฟิลได้ เช่น M16, HK ทราโว่ เป็นต้น และเป็นกระสุนชนิดเดียวกันกับปืนของเจ้าหน้าที่ทหารที่ส่งมาตรวจ แต่ลักษณะรอยตำหนิพิเศษของหัวกระสุนที่ถูกยิงจากลำกล้องของปืนที่ส่งตรวจ นั้นไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นปืนกระบอกเดียวกันกับที่ใช้ยิงนายพัน คำกอง ทั้งนี้ ลักษณะของตำหนิพิเศษจะเกิดจากลำกล้องของปืนแต่ละกระบอกซึ่งจะไม่เหมือนกัน แต่อย่างไรก็ตามปืนแต่ละกระบอกก็สามารถเปลี่ยนลำกล้องได้  และหากมีการเปลี่ยนลำกล้องก็ไม่สามารถยืนยันได้

พ.ต.ท.ธีรนันต์ นคินทร์พงษ์ จากกลุ่มงานตรวจอาวุธและเครื่องกระสุน กองพิสูจน์หลักฐานกลาง เจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งที่ทำการพิสูจน์เปรียบเทียบหัวกระสุนที่อยู่ในร่างผู้ เสียชีวิตกับอาวุธปืนที่เจ้าหน้าที่ทหารใช้ในการปฏิบัติการในพื้นที่ดัง กล่าว  โดยหน่วยงานตรวจสอบได้รับมอบปืนเล็กกล 5 กระบอกของกองพันที่ 31 ทหารปืนใหญ่ รักษาพระองค์ (ป.พัน.31 รอ.) ในวันที่ 1 มิ.ย.54 หรือกว่า 1 ปีหลังเกิดเหตุ จากพนักงานสอบสวน สน.พญาไท

“ปรากฏว่ากระสุนของกลาง [ที่พบในศพผู้ตาย-ประชาไท] ไม่ได้ใช้ยิงจากปืนทั้ง 5 กระบอกนี้” พ.ต.ท.ธีรนันต์ กล่าว 

(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2012/07/41623