สหภาพแรงงานใน จ.ลำพูน เสนอมาตรการป้องกันนโยบายค่าจ้าง 300 บาทถูกบิดเบือน
ประธานสหภาพแรงงาน 2 แห่งที่ จ.ลำพูน
เสนอให้รัฐบาลตั้งคณะกรรมการตรวจสอบนโยบายค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท
มีมาตรการป้องกันไม่ให้นายจ้างนำสวัสดิการมารวมกับค่าจ้าง
หรือลดสวัสดิการเดิม
และให้รัฐบาลมีนโยบายปรับค่าจ้างตามส่วนต่างให้กับคนงานที่มีอายุการทำงานมา
นานด้วย
เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. นายวิสิษฐ์ ยาสมุทร
ประธานสหภาพแรงงานอัญมณีและเครื่องประดับสัมพันธ์ และนายชัชวาล แก้วหน่อ
ประธานสหภาพแรงงานอิเลคทรอนิคส์และอุปกรณ์ไฟฟ้าสัมพันธ์
ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง "สนับสนุนนโยบายค่าจ้างขั้นต่ำ 300
บาทและข้อเสนอเพื่อไม่ให้ถูกบิดเบือนและมีประสิทธิภาพ" โดยยื่นต่อ
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผดิมชัย สะสมทรัพย์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ผ่านอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
โดยตอนหนึ่งระบุว่า "การขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทครั้งนี้
ทางผู้ใช้แรงงานพร้อมสนับสนุนในการมีส่วนร่วมเพื่อให้นโยบายมีผลในทาง
ปฏิบัติ มีความเป็นธรรม ไม่ถูกบิดเบือน และมีประสิทธิภาพ
จึงมีข้อเสนอต่อรัฐบาลดังต่อไปนี้" โดยมีข้อเสนอ 5 ข้อได้แก่
1.
ขอให้รัฐบาลจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบติดตามตรวจสอบนโยบายเพื่อให้มีผลทาง
ปฏิบัติ ไม่ถูกบิดเบือนจากกลุ่มทุน และมีประสิทธิภาพ
โดยคณะกรรมการประกอบด้วย ตัวแทนรัฐบาล หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง
นักวิชาการ สื่อมวลชน สหภาพแรงงาน ตัวแทนผู้ใช้แรงงานมีส่วนร่วม
ทั้งระดับชาติและในแต่ละเขตพื้นที่แต่ละจังหวัด
2.ขอให้รัฐบาลยืนยันทำตามนโยบายค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท
โดยต้องไม่นำสวัสดิการมารวมกับค่าจ้าง
และต้องมีมาตรการที่เข้มงวดกับบริษัทไม่ให้นำสวัสดิการมารวมกับค่าจ้าง
หรือตัดลด สวัสดิการเดิมของผู้ใช้แรงงาน
ซึ่งเป็นความผิดตามกฎหมายแรงงานมาตราที่ 5
3.ขอให้รัฐบาลเพิ่มนโยบาย
ปรับค่าจ้างตามส่วนต่างให้กับคนงานเก่าที่มีอายุการทำงานมานานทุกคนที่มีค่า
จ้างมากกว่า 300 บาทอยู่แล้ว
เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับคนงานส่วนนี้ด้วย
4.ขอให้รัฐบาลช่วยคุมราคาสินค้าอุปโภค บริโภค
ไม่ให้ฉวยโอกาสขึ้นราคาเกินความจำเป็น
และจะทำให้ผู้ใช้แรงงานไม่ได้ประโยชน์จากนโยบายค่าจ้างขั้นต่ำอย่างแท้จริง
ตามเจตนารมย์ของรัฐบาล
5.รัฐบาลควรมีการปรับค่าจ้างขึ้นอีก ไม่ใช่ปรับครั้งนี้แล้ว
ก็หยุดไปอีกหลายปี เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้ใช้แรงงานมากขึ้น
เนื่องเพราะแท้จริงแล้วค่าจ้างขั้นต่ำ 300
บาทก็ยังไม่พอค่าครองชีพของผู้ใช้แรงงาน ผู้ใช้แรงงานต้องทำงานงานมากกว่า 8
ชั่วโมง
เพื่อให้ผู้ใช้แรงงานมีชีวิตอยู่รอดและมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เหมือนเช่น
กลุ่มคนอื่นๆ ในสังคมไทย
(ที่มา)
http://www.prachatai.com/journal/2012/12/44273