เสื้อแดงผู้แกร่งกล้า
เสื้อแดงผู้แกร่งกล้า คือมหาประชาชัย
หยัดยืนอย่างเกรียงไกร มิเคยท้อระย่อตาม
หลั่งเลือดราดแผ่นดิน มิยอมสิ้นมิเกรงขาม
เลื่องชื่อระบือนาม นักต่อสู้กู้เสรี
แน่วแน่แม้ม้วยมรณ์ มิโอนอ่อนบ่อนศักดิ์ศรี
เลือดข้นล้นปฐพี เพื่อประชาธิปไตย
ฆ่ากลางบนทางเดิน ราชดำเนินเกินผลักไส
มิถอยด้อยลงไป ยิ่งเข่นฆ่ายิ่งท้าทาย
รถเกราะเจาะกลางวง ราชประสงค์คงสลาย
ร้อยศพล้มเรียงราย ไม่หนีหายหมายมั่นคง
หลายคนทนจำขัง หากใจยังยั่งยืนยง
ศรัทธากล้าดำรง ความประสงค์คงมั่นใจ
ร้อยพาลร้อยศัตรู หมายข่มขู่หมายขับไส
จะหยันทุกวันไป มิค้อมต่อทรชน
เสื้อแดงผู้แกร่งกล้า ยืนทายท้าทุกแห่งหน
ต่อสู้คู่มวลชน จนเสรีมีคืนมา
รำลึกวีระชน 10 มีค 55
ช่วงบ่าย วันที่10เม.ย.53 ที่บนท้องฟ้าเหนือลานอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยที่ชาวเสื้อแดงรวมพลกันอยู่อย่าง สงบ ได้มีแขกไม่ได้รับเชิญ บินผ่านมา
หลังจากนั้น ก็บิน วนไปมา 2-3รอบ
สักพัก แขกไม่ได้รับเชิญบนท้องฟ้า ก็ปล่อยผง สีขาวๆ ลงมา
จากปล่อยทีละน้อยๆ ก็กลายเป็น เท ลงมาอย่างบ้าระห่ำ
และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเท ผงสีขาว ลงมาใส่ผู้คนที่อยู่ข้างล่าง ทั้งผู้หญิง-คนชรา ลุกเล็ก เด็กแดง
กว่าจะรู้ว่าเป็นแก๊สน้ำตา ที่เทลงมาจาก ฟ้า ก็เล่นเอาเด็กๆสำลักไปหลายร้อยคน ต้องรีบพาเด็กๆเข้าที่เพิงกำบัง อย่างโกลาหล
อ้าว นั่น/..ทางภาคพื้นดิน มันก็ดาหน้ามา
หญิงเสื้อแดงใจกล้า ต้องรีบขวางทาง เอาไว้ก่อน
ส่วนอีกด้านหนึ่ง ชาวเสื้อแดงก็ช่วยกัน เตะกระป๋องแก๊ซน้ำตา ที่ทิ้งลงมาจากฟากฟ้า
ช่วยกันรับและเตะๆๆๆ
จนผงสีขาวๆ เกลื่อนพื้นดิน
คืนนั้น เป็นคืน ล็อคเป้า ...ร่มเกล้า... ผู้ขันอาสา มาทำลายพลังมดแดง
รุ่งเช้า ของวันที่11 เม.ย.53
มาเก็บซาก ไปคืน
คืนวันที่10เม.ย.53 ที่เชิงสะพานปิ่นเกล้า ถนนปิ่นเกล้า-นครชัยศรี ทหารจากเมืองกาญจน์ ได้ถูกชาวเสื้อแดง หยุดเอาไว้ที่ตรงจุดนี้ และพอรุ่งเช้าวันที่11เม.ย.53 เสธ แดง ได้มาอำนวยความสะดวก เพื่อคืนรถ ทหารเหล่านี้ ด้วยตัวเอง
เราจะรอ เมื่อท้องฟ้าสีทอง ผ่องอำไพ ประชาชน ต้อง เป็นใหญ่ ในแผ่นดิน
คารวะ หัวใจเธอ ผู้หาญกล้า
เธอทายท้า เผด็จการ ไม่หวั่นไหว
เธอหนอเธอ อยากจะกราบ ที่หัวใจ
ใจของเธอ ใจอะไร ถึงไม่กลัว
เธอทายท้า เผด็จการ ไม่หวั่นไหว
เธอหนอเธอ อยากจะกราบ ที่หัวใจ
ใจของเธอ ใจอะไร ถึงไม่กลัว
คารวะหัวใจนักสู้เพื่อประชาธิปไตยทุกท่าน
ขอร่วมไว้อาลัยและสดุดี เหล่าวีรชนผู้กล้าที่หลั่งเลือดและพลีชีพเพื่อประชาธิปไตย