หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2555

นายแน่มาก 01 มิย 55

นายแน่มาก 01 มิย 55

 

 

(คลิกฟัง)

http://www.youtube.com/watch?list=UL&v=OHPzUUq5LtQ&feature=player_embedded#! 

มูบารัคถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ฐานร่วมสังหารประชาชน

มูบารัคถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ฐานร่วมสังหารประชาชน

 


ศาลอียิปต์ตัดสินให้ อดีตปธน. มูบารัค และอดีตรมต. มหาดไทย ของอียิปต์ต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต ฐานมีส่วนร่วมในการสังหารประชาชนผู้ประท้วงเมื่อปี 2011 แต่ก็มีคนสงสัยว่าเหตุใดถึงไม่มีใครที่ถูกดำเนินคดีฐาน 'ออกคำสั่ง' 

2 มิ.ย. 2012 - สำนักข่าวอัลจาซีร่ารายงานว่า ศาลทางการของอียิปต์ได้ตัดสินให้อดีตประธานาธิบดีฮอสนี มูบารัค มีโทษจำคุกตลอดชีวิต ฐานมีส่วนร่วมในการสังหารผู้ชุมนุมในช่วงที่มีการชุมนุมโค่งล้มเขาเมื่อปี ที่แล้ว

ขณะเดียวกัน อดีตรมต.หมาดไทยสมัยมูบารัค ฮาบิบ เอล-แอดลี ก็ถูกสั่งจำคุกตลอดชีวิตจากข้อหาเดียวกัน ส่วนอดีตผู้บัญชาการตำรวจอีก 6 นาย ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้ถูกตัดสินให้ไม่มีความผิด

ด้านลูกชายสองคนของมูบารัค คืออะลา และ กามาล ที่ต้องคดีทุจริตคอร์รัปชั่น ล่าสุดคดีก็มีการยกฟ้องแล้ว

ในช่วงที่มีการประท้วง 18 วัน ในอียิปต์ มูบารัคได้กระทำผิดฐานสั่งให้สังหารประชาชนผู้ประท้วงอย่างน้อย 800 คน จนกระทั่งในวันที่ 11 ก.พ. 2011 มูบารัคก็ถูกโค่นล้ม จนกระทั่งเขาต้องขึ้นเฮลิคอปเตอร์หนี

อย่างไรก็ตาม ฮอสซัม บากัท อัยการจากองค์กรเคลื่อนไหวด้านสิทธิส่วนบุคคลในอียิปต์กล่าวต่ออัลจาซีร่า ว่าคดียังดูจะไม่จบง่ายๆ มีความเป็นไปได้ที่คำขออุทธรณ์จะเป็นผล

ผู้สื่อข่าวอัลจาซีร่า เชอรีน ทาดรอส รายงานจากศาลอียิปต์ว่าสภาพความผิดของมูบารัคยังไม่แน่ชัด และผู้คนภายนอกศาลก็กำลังพูดกันว่ามันเป็นเรื่องง่ายเพียงใดที่จะสามารถ อุทธรณ์ลดโทษตลอดชีวิตนี้ได้ เพราะการตัดสินในครั้งนี้ดูเป็นการเมืองมากกว่าการตัดสินตามหลักการกฏหมาย

ส่วนกรณีที่มีการยกป้องคดีของสองลูกชายมูบารัคนั้นศาลกล่าวว่าเป็น เพราะคดีเลยอายุความมาแล้ว การก่อคดีของทั้งสองคนนี้เกิดขึ้นเมื่อ 10 ปีที่แล้ว

ใครล่ะ...ที่ออกคำสั่งสังหาร?

(อ่านต่อ)http://www.prachatai.com/journal/2012/06/40819

อดีตคณบดีนิติ มธ. ชี้ ตุลาการ รธน. ละเมิดรธน. เสียเอง เสนอเข้าชื่อถอดถอน

อดีตคณบดีนิติ มธ. ชี้ ตุลาการ รธน. ละเมิดรธน. เสียเอง เสนอเข้าชื่อถอดถอน

 

พนัส ปิยบุตร ชี้ศาลรธน ละเมิดกม เสียเอง
(คลิกฟัง)http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=RXOGuoGKBKc#! 

2012 06 02 DNN อดีตคณบดีนิติฯ พนัส ถีบหน้าศาลรธมแม่งมั่ว ปชชฟ้องร้องได้

(คลิกฟัง)http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=uJ2oSUuCgu0#! 

พนัส ทัศนียานนท์ – ปิยบุตร แสงกนกกุลชี้ ตุลาการรัฐธรรมนูญสั่งสภาผู้แทนราษฎรระงับการแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้ก่อน เป็นคำสั่งที่ละเมิดรัฐธรรมนูญเสียเองและขัดต่อหลักแบ่งแยกอำนาจอธิปไตย เสนอล่าชื่อถอดถอน ด้านพุฒิพงศ์ พงศ์เอนกกุล แจงวุฒิสมาชิกลงคะแนน 3 ใน 5 ถอดตุลาการรัฐธรรมนูญได้

ภายหลังตุลาการรัฐธรรมนูญ มีมติ 5 ต่อ 4 รับคำร้องพิจารณาว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่สภาผู้แทนราษฎรกำลังดำเนินนั้นมี ลักษณะขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ทั้งยังมีคำสั่งให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรแจ้งรัฐสภาระงับการดำเนินเกี่ยว กับการแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้ก่อนจนกว่าศาลมีคำวินิจฉัยด้วย

โดยนายพิมล ธรรมพิทักษ์พงษ์ หัวหน้าคณะทีมโฆษกศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมด้วยนายสมฤทธิ์ ไชยวงศ์ โฆษกศาลรัฐธรรมนูญ ได้ร่วมกันแถลงว่า “เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณา ศาลมีคำสั่งให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรแจ้งรัฐสภาระงับการดำเนินเกี่ยวกับ การแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้ก่อนจนกว่าศาลมีคำวินิจฉัย นอกจากนี้ ให้ ครม. , รัฐสภา, พรรคเพื่อไทย, พรรคชาติไทยพัฒนา, นายสุนัย และนายภราดร มีหนังสือชี้แจงต่อศาลภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งสำเนาคำร้องและนัดคู่กรณีไต่สวนวันที่ 5-6 ก.ค.2555 เวลา 09.30 น. ซึ่งตุลาการจะเป็นการออกนั่งบัลลังก์ และหากไต่สวนได้ข้อเท็จจริงครบถ้วนแล้ว คณะตุลาการก็อาจนัดวันฟังคำวินิจฉัยได้เลย แต่หากข้อเท็จจริงยังไม่ครบถ้วนก็อาจไต่สวนเพิ่มเติมได้"

ปิยบุตร แสงกนกกุล นักวิชาการกลุ่มนิติราษฎร์ แสดงความเห็นต่อกรณีดังกล่าวว่า คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ ส่งผลสะเทือนต่อระบบกฎหมายรัฐธรรมนูญอย่างน้อย 3 ประการคือ

1 ต่อไปนี้ ศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้กุมชะตากรรมของ "การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ" ทุกครั้ง

2 ลำดับชั้นของอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ อำนาจแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ อำนาจที่รับมาจากรัฐ
ธรรมนูญ จะเสียไปทั้งหมด

3 การสั่งให้สภาระงับการแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้ชั่วคราว ไม่มีรัฐธรรมนูญเขียนไว้เลย แต่ศาลรัฐธรรมนูญยังสามารถไปเอาประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้ นั่นหมายความว่า อนาคตอาจมีอีก

“ปัญหาอยู่ที่ว่า เมื่อศาลรัฐธรรมนูญ ที่รัฐธรรมนูญสร้างขึ้นมาเพื่อพิทักษ์รัฐธรรมนูญ กลับเป็นองค์กรที่ละเมิดรัฐธรรมนูญเอง แล้วจะทำอย่างไร?” นักวิชาการกลุ่มนิติราษฎร์ตั้งคำถาม

(อ่านต่อ)http://www.prachatai.com/journal/2012/06/40810

ประชาธิปไตยกำลังถูกโจมตี

ประชาธิปไตยกำลังถูกโจมตี



โดย Robert Amsterdam


เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตัวแทนของประชาชนชาวไทยที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยเมื่อเกือบ ปีหนึ่งที่แล้วถูกกันไม่ให้เข้าไปในรัฐสภาเพื่อทำหน้าที่ภายใต้รัฐธรรมนูญ การขัดขวางโดยมิชอบด้วยกฎหมายเป็นการทำงานของกลุ่มที่เรียกตนเองว่าพรรคประ ชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่พ่ายแพ้การเลือกตั้งมากว่า 20ปี และกลุ่มผู้ประท้วงราวพันคนซึ่งจัดตั้งการเคลื่อนไหวส่วนหนึ่ง นั้นคือกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ซึ่งกลุ่มแกนนำของพันธมิตรเคยเรียกร้องให้ล้มล้างผู้แทนจากระบอบประชาธิปไตย สถาปนาระบอบเทวาธิปไตย ( หรือที่พวกเขาเรียกว่า “ธรรมาธิปไตย”) และปิดประเทศตราบนานจนกว่าจะสามารถ“กวาดล้าง” ศัตรูทางการเมืองของพวกเขาให้สิ้นซากไปได้

นอกจากจะเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ที่คนเพียงไม่กี่ร้อยคนสามารถกระทำการ เช่นนี้ได้ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความบอบบางของสถานการณ์ของรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ของประเทศที่เรียกตนเองว่าเป็นประชาธิปไตย รัฐบาลของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตรควรได้รับคำชื่นชมในเรื่องของการยับยั้งชั่งใจ โดยปกติ ตำรวจควรจะสามารถรับรองสิทธิการชุมนุมของผู้ประท้วงและในขณะเดียวกับก็อำนวย ความสะดวกให้สส.เข้าไปทำงานได้ การที่ไม่มีทางผ่านใดที่ปลอดภัยให้กับสส.ไม่ใช่เพราะเรื่องจำนวนของเจ้าหน้า ที การฝึกฝน หรือทรัพยากรแต่เป็นเพราะความเป็นจริงของการเมืองที่ล้าหลังทารุณ พันธมิตรและพรรคประชาธิปัตย์ใช้ประโยชน์จากการที่ไม่ต้องรับผิดในสิ่งที่พวก เขากระทำจุดชนวนการเผชิญหน้าเพื่อจะได้เป็นข้ออ้างให้ทหารทำรัฐประหารอีก ครั้ง รัฐบาลและตำรวจไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากพยายามหลีกเลี่ยงหายนะนี้


และอีกประเด็นหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกันมากคือ ในวันเดียวกันศาลรัฐธรรมนูญได้สั่งห้ามไม่ให้รัฐสภาอภิปรายเรื่องการแก้ไข รัฐธรรมนูญ โดยให้รอ “ความเห็นชอบตามรัฐธรรมนูญ” ก่อน ภายใต้มาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญ คำร้องที่ศาลรัฐธรรมนูญตั้งใจจะพิจารณาว่าการเสนอการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีเจตนา ที่จะ “ล้มล้างการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข” หรือไม่ การตัดสินดังกล่าวจะให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญในการยุบพรรครัฐบาลเพื่อไทยและถอด ถอนสิทธิทางการเมืองของคณะกรรมการบริหารพรรค เหมือนกับที่ศาลทำกับพรรคไทยรักไทยในปี 2550 และพรรคพลังประชาชน 2551 และนี่นำไปสู่ “ตุลาการรัฐประหาร”

(อ่านต่อ)http://robertamsterdam.com/thai/?p=972 

ปฏิญญาหน้าศาลล้มศาลเตี้ยของชนชั้นสูง

ปฏิญญาหน้าศาลล้มศาลเตี้ยของชนชั้นสูง





ผิดตรงไหนที่รัฐบาลประชาธิปไตยจะลบล้าง คตส.ที่มาจากเผด็จการพบกับปิยบุตร แสงกนกกุล,อ.หวาน

พบกันหน้าศาลอาญารัชดา อาทิตย์ที่ 3 มิถุนายน 55 เวลา 13.00 น.

ร่วมกันรณรงค์ถอดถอน ศาลรัฐธรรมนูญ

ร่วมกันรณรงค์ถอดถอน ศาลรัฐธรรมนูญ





ประชาชนต่างรุมยื้อแย่งขอแบบฟอร์มถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญกันอย่างหนาแน่น บริเวณงานครบรอบ 5 ปี "ความจริงวันนี้" ณ อิมแพค เมืองทองธานี กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2555
(คลิก)http://www.youtube.com/watch?v=JAEBe3XR6wI&feature=share
 
พนัส ปิยบุตร ชี้ศาลรธน ละเมิดกม เสียเอง
(คลิกฟัง)http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=RXOGuoGKBKc#!  

ทักษิณ"แก้ผ้าโชว์"กลางงาน 3 เกลอ

ทักษิณ"แก้ผ้าโชว์"กลางงาน 3 เกลอ


Posted Image

 

"ณัฐวุฒิ"เตือน"ทักษิณ"กลางเวที "อย่าใจดีบ่อยนัก" อดีตนายกฯยอมรับ"ถูกหลอก"

 http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1338634173&grpid=01&catid=&subcatid= 

 

เป็นงัย! เพิ่งรู้??? ยอมรับแล้วเหรอว่าถูกอำมาตย์หลอก"ปรองดอง" อย่าคิดไว้ใจอำมาตย์ๆไม่แน่จริงไม่อยู่ได้นานจนถึงทุกวันนี้

 

** ป๋านะป๋าทำปูได้ **

Posted Image

ก้าวต่อไปของเสื้อแดง

ปัญหาเฉพาะหน้า

ปัญหาสำคัญเฉพาะหน้าที่คนเสื้อแดง ต้องร่วมกันวิเคราะห์ ร่วมกันคิด ในความเห็นผม มีห้าประเด็น ผมจะขอร่วมแสดงความคิดในเรื่องนี้...... ปัญหาเฉพาะหน้าคือ

(1) ภัย จากการ “ปรองดอง” จอมปลอมของอำมาตย์ ที่จะไม่นำไปสู่การมีประชาธิปไตย ความยุติธรรม และความเป็นธรรมทางเศรษฐกิจแต่อย่างใด เพราะความหมายแท้ของ “การปรองดอง” ที่อำมาตย์เสนอ คือการยอมแพ้ยอมจำนนของคนเสื้อแดง ดังนั้นชาวเสื้อแดงทุกคนต้องร่วมกันคิดว่า “การปรองดอง” ของเราจะหมายความว่าอะไร เราต้องมีมาตรฐานของข้อเรียกร้องพื้นฐานเฉพาะหน้าของฝ่ายประชาธิปไตย เพื่อไปเปรียบเทียบกับข้อเสนอของเขา พูดง่ายๆ เราต้องมีเป้าหมายระยะสั้นที่ชัดเจน และเราต้องไม่รอให้ผู้นำเสื้อแดงหรือนักการเมืองพรรคเพื่อไทยเป็นผู้กำหนดมา แต่ฝ่ายเดียว

(2) เรา ต้องไม่ตกหลุมหลงเชื่อว่า “รัฐบาลแห่งชาติ” แบบถาวรจะแก้ปัญหา เพราะ“รัฐบาลแห่งชาติ(หมา)”เป็นรัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งแต่อย่างใด ไม่สะท้อนเสียงประชาชน มันเป็นข้อเสนอเพื่อดึงนักการเมืองพรรคเพื่อไทยเข้ามาร่วม โดยไม่มีอะไรอื่นเปลี่ยนแปลง และเพื่อบังคับให้คนเสื้อแดงหยุดเคลื่อนไหวและยอมจำนน

(3) เสื้อ แดงทุกคน ในทุกชุมชนและกลุ่ม ต้องตั้งคำถามกับตนเองว่า “ถ้านักการเมืองบางคนในพรรคเพื่อไทย หรือแม้แต่คุณทักษิณเอง เลือกที่จะปรองดองแบบยอมแพ้ เรามีการจัดตั้งเพียงพอที่จะเคลื่อนไหวต่อไปอย่างอิสระได้หรือไม่?” ตรงนี้ความสามารถของเราที่จะเคลื่อนไหวอิสระ ขึ้นอยู่กับมุมมองทางการเมืองของเราต่อการปรองดอง การจัดตั้งล่วงหน้าแบบแกนนอน และความมั่นใจว่าเราต้องการอะไร

(4) การ เลือกตั้งที่มีการโกงแบบแนบเนียน ทุกวันนี้อำมาตย์กำลังวางแผนที่จะชนะการเลือกตั้งในอนาคตให้ได้ “ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น” เราต้องรู้ทัน และหาทางข้ามปัญหานี้ และเราไม่ควรตั้งความหวังสูงเกินไปกับการเลือกตั้งภายใต้กติกาสองมาตรฐานของ อำมาตย์

(5) ปัญหา การหมดกำลังใจของคนเสื้อแดง ความท้อและการหมดกำลังใจ มาจากการ “มองไม่ออกว่าเราจะชนะอย่างไร” เช่นถ้าเราตั้งความหวังไว้กับการเลือกตั้ง หรือตั้งความหวังว่าต่างประเทศจะช่วยเรา เราจะท้อ ถ้าเราเพ้อฝันว่าเราสามารถสร้างกองกำลังมาสู้กับทหาร ในที่สุดพอเราพูดเอามันจบไปแล้ว เราก็จะท้อ ถ้าเรามองว่าอำนาจอำมาตย์อยู่ในมือ “คนเดียว” (ซึ่งไม่จริง) เราก็จะท้อและกลัวเช่นกัน เราอาจรอการเกิดแก่เจ็บตายตามธรรมชาติ แต่ถ้าเราไม่มีแผนเคลื่อนไหวก็ท้อได้อีก ในความจริง ประชาธิปไตยจะถูกสร้างได้ก็ผ่านการเคลื่อนไหวของเราคนเสื้อแดง ไม่มีใครคนอื่นสร้างให้ได้ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญคือเราต้องไม่มองข้ามจุดเด่นของเสื้อแดงที่มีอยู่ต่อ หน้าต่อตาเราคือ (๑) เสื้อแดงฟื้นตัวและขยายการจัดตั้งแบบแกนนอนหลังการปราบปรามที่ราชประสงค์ ผ่านกิจกรรมแบบ “วันอาทิตย์สีแดง” และ (๒) เสื้อแดงหมดความศรัทธาในลัทธิอำมาตย์และสถาบันต่างๆ ของอำมาตย์ นี่คือสิ่งที่อำมาตย์กลัว และถ้าเราเข้าใจจุดเด่นของเราตรงนี้ เราจะเข้าใจว่าการเคลื่อนไหวของมวลชนยังมีพลัง มันนำไปสู่ชัยชนะในระยะยาวได้ โดยเฉพาะถ้าเราพัฒนาการเคลื่อนไหว เช่นการขยายการจัดตั้งสู่สหภาพแรงงานให้นัดหยุดงาน และขยายสู่ระดับล่างของกองทัพ

คน ที่ท้อตอนนี้ คือคนที่ไม่ให้ความสนใจ และไม่ร่วมเคลื่อนไหวในกิจกรรมของเสื้อแดงที่เขาจัดกันอย่างต่อเนื่องภายใน ประเทศไทย ซึ่งมักจะเป็นคนที่ฟังแต่ข่าวลือเรื่องคนข้างบน และเล่นแต่อินเตอร์เน็ท หรือเป็นคนที่พอใจที่จะพูดแค่เอามันโดยไม่มีเป้าหมายในการเคลื่อนไหวเป็น รูปธรรม
การ มองว่าอำนาจอำมาตย์อยู่ในมือคนเดียว ตามที่ นปช. ยูเอสเอ หรือ อ.ชูพงษ์ เสนอ มีปัญหามาก เพราะทำให้เรามองว่าอำนาจนี้ใหญ่โตล้นฟ้าจนเราต้องยอมจำนน และทำให้เรามองข้ามความชั่วร้ายและอำนาจดิบของกองทัพ มันนำไปสู่การไม่สนใจที่จะยุบหรือปฏิรูปกองทัพอย่างถอนรากถอนโคน แต่ในความเป็นจริงทหารขึ้นมามีอำนาจสูงสุดในแวดวงอำมาตย์ตั้งแต่หลัง ๒๔๗๕ และยังคงอำนาจนั้นไว้ เพียงแต่ว่าตั้งแต่ยุคสฤษดิ์มีการนำลัทธิกษัตริย์มาใช้เป็นเครื่องมือของ ทหารอย่างเป็นระบบ เราจะสังเกตเห็นว่าคนที่พูดแบบ นปช. ยูเอสเอ หรือ อ.ชูพง์ ไม่ค่อยมีข้อเสนอรูปธรรมเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวประจำวันของเสื้อแดงเลย และเขาจะไม่สนใจเป้าหมายกว้างๆ ในการทำให้ไทยเป็นประชาธิปไตยแท้ เช่นเรื่องสิทธิสตรี สิทธิแรงงาน การแก้ปัญหาภาคใต้ หรือการแก้ความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยกับคนจนเป็นต้น
 
เป้าหมายระยะสั้น (ข้อเรียกร้องพื้นฐานเฉพาะหน้า)
 
1. ปล่อยนักโทษการเมืองเสื้อแดงทุกคน

2. ยกเลิก พรก. ฉุกเฉิน และการเซ็นเซอร์สื่อทุกชนิด ต้องยุบ ศอฉ.และทหารต้องกลับกรมกอง ไม่ยุ่งการเมือง

รัฐบาลต้องลาออก และประกาศวันเลือกตั้งชัดเจน และจัดการเลือกตั้งภายใต้ กกต. ที่เสนอจากทั้งสองฝ่าย เพื่อให้เป็นกลาง
 
3. ต้อง แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนการฆ่าประชาชนที่ผ่านฟ้าและราชประสงค์ ต้องไม่มีการนิรโทษกรรมผู้ฆ่าประชาชน เหมือนที่เคยทำหลัง ๑๔ ตุลา ๖ ตุลา และ พฤษภา ๓๕

4. ต้องประกาศว่าจะร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดยที่ประชาชนทุกฝ่ายมีส่วนร่วมมากกว่ายุคที่เราร่างรัฐธรรมนูญปี ๔๐

เป้าหมายระยะยาวในการสร้างรัฐไทยใหม่ที่เป็นประชาธิปไตย

การ ที่เสื้อแดงจะมีเป้าหมายระยะยาวสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการครองใจประชาชนส่วน ใหญ่ อย่างที่ไทยรักไทยเคยทำ ในอดีต และมันทำให้เราชัดเจนว่าเรากำลังต่อสู้เพื่ออะไรอีกด้วย
 
1. ประเทศไทยควรเป็นรัฐสวัสดิการถ้วนหน้าครบวงจร ผ่านการเก็บภาษีจากคนรวยในอัตราก้าวหน้า

2. ต้องยุบกองทัพและปลดนายพล เพื่อปฏิรูปทหารแบบถอนรากถอนโคนและสร้างใหม่ในรูปแบบ
ประชาธิปไตย

3. ต้องปลดศาลและผู้พิพากษาสองมาตรฐาน เพื่อปฏิรูประบบยุติธรรมอย่างถอนรากถอนโคน โดยนำพลเมืองเข้ามามีส่วนร่วมในระบบลูกขุน

4. ต้อง ส่งเสริมวัฒนธรรมพลเมือง ทุกคนต้องเท่าเทียมกัน ต้องไม่มีกฎหมายหมิ่นเดชานุภาพฯ และประชาธิปไตยต้องปลอดจากอำนาจอำมาตย์หรืออภิสิทธิ์ชนที่ไม่ได้มาจากการ เลือกตั้ง

(ที่มา)

http://redthaisocialist.com/2011-02-21-18-08-14/87-2011-02-21-18-05-39.html 

"ทักษิณ" โฟนอินเผยอ่านบทความ "สมศักดิ์" ขอแดงอย่าแตกแยก เตรียมรับมือสถานการณ์ไม่ปกติ

"ทักษิณ" โฟนอินเผยอ่านบทความ "สมศักดิ์" ขอแดงอย่าแตกแยก เตรียมรับมือสถานการณ์ไม่ปกติ

 

http://www.matichon.co.th/online/2012/06/13386341731338642898l.jpg


ทักษิณโฟนอิน ความจริงวันนี้ 02มิย55

http://www.youtube.com/watch?v=EknwkEw9B-8&feature=player_embedded 

 
"ทักษิณ" โฟนอินขอโทษ"เสื้อแดง" ลั่นไม่คิดย่ำยี เผยอ่านบทความ "สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล" ยอมรับหลายสิ่งที่พูดเป็นเรื่องที่จริงบางเรื่องก็พุดไม่ได้ วอนเสื้อแดงอย่าแตกแยกกับพรรคเพื่อไทย เตรียมรับมือสถานการณ์ไม่ปกติ
 
2 มิ.ย. 55 - มติชนออนไลน์รายงาน ว่าที่ ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี ระหว่างการจัดงาน "ครึ่งทศวรรษ ความจริงวันนี้" เมื่อเวลา 16.50 น. วันที่ 2 มิถุนายน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี  ได้โฟนอินสดข้ามประเทศ  มายังเวทีรายการ พูดคุยกับกลุ่มแนวร่วมประชาชนเพื่อประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)  ท่ามกลางการต้อนรับของ นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ นายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช.  ผู้ดำเนินรายการความจริงวันนี้
 
พ.ต.ท.ทักษิณ   โฟนอินสวัสดี พี่น้องคนเสื้อแดง  พร้อมระบุ วันนี้สัญญาณไม่ดี  ไม่รู้เป็นอะไร มีแต่เสียง อุตส่าห์แต่งตัวหล่อ  จะไปโชว์ ที่เมืองไทยให้พี่น้องเสื้อแดงได้เห็นว่า ยังสบายดีอยู่  หลังจากโดนแล้วโดนอีก 
 
พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวกับนายณัฐวุฒิ   อย่าเป็นหมูให้เขาหลอก  แต่บางทีก็ต้องร้องเพลง  ถึงเขาหลอกก็เต็มใจให้หลอก... บางทีบางครั้งก็โง่จริงบ้าง โง่ปลอมบ้าง ก็ว่ากันไป   พร้อมบอกว่า  พยายามลดโทนให้ไม่เครียดเกินไป  กำลังฝึกอยู่ ถ้าได้กลับเมืองไทย ไม่ว่าจะได้กลับตอนไหนตอน 85 หรือตอน 63 ก็ไม่รู้  ยังไงก็ต้องกลับ  
 
นอกจากนี้ อดีตนายกรัฐมนตรี ยังกล่าวแบบอารมณ์ดีว่า  วันนี้อยากจะใช้คำพูดเบาๆ  แบบอารมณ์ดีบ้าง เพราะวันก่อนมีคนท้วงว่า อารมณ์เสียเกินไป  และเห็นโน้ส อุดม ออกเดี่ยวมาหลายรอบแล้ว  ก็อยากจะออกแฝดบ้าง  เป็นโน้สกับแม้ว  ก่อนจะเข้าเนื้อหาโฟนอิน ดังนี้
 
"คนร้ายเวลาทำแผนประทุษกรรมเหมือนๆ กันหมด  เวลานี้แผนประทุษกรรมเหมือนกันมากสมัยล้มผม  มาตอนนี้เริ่มอาการออกแล้ว แต่วันนั้นต้องอ่านหนังสือแบบเรียนเรื่องเรณูปัญญา  ตอนนั้นคนเรายังโง่อยู่ แต่วันนี้ไม่โง่แล้วนะครับ วันนี้รู้แล้วอะไรเป็นอะไร กระบวนการโค่นอำนาจประชาชนเริ่มอีกแล้ว
 
เมื่อวานนี้ (1 มิ.ย.) ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน...ถ้าคนเข้าใจกฎหมาย  จะรู้ว่าระเบียบต้องอ่อนกว่ากฎหมาย   กฎหมายจะเหนือกว่ารัฐธรรมนูญไม่ได้เพราะเป็นกฎหมายสูงสุด    รองจากกฎหมาย เป็นกฤษฎีกา ซึ่งก็ต้องออกตามกฎหมาย ออกนอกกฎหมายไม่ได้  ระเบียบก็ต้องออกตามกฤษฎีกา หรือกฎหมายนั้นๆ  แต่วันนี้เอาระเบียบมาอยู่เหนือกฎหมาย 
 
วันนี้กติการบ้านเมืองไม่เหลือแล้ว  คนรักษากฎกติกาขาดคุณธรรมมันถึงได้เป็นอย่างนี้จะใช้สองมาตรฐาน มันถึงไม่มีทางเลิกแตกแยกกันได้   ตราบใดที่กระบวนการไม่มีคุณธรรมในการรักษากติการับรองเลยว่าความแตกแยกบ้าน เมืองจะเลวร้ายมากขึ้น
 

(อ่านต่อ)http://www.prachatai.com/journal/2012/06/40816