หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เรื่องของยางพารา

เรื่องของยางพารา



โดย วัฒนะ วรรณ

ยางพารา ถือว่าเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ เช่นเดียวกับ น้ำมัน น้ำตาล ข่าว ที่ผลิตจากที่แหล่งไหน ประเทศใด ก็คล้ายกัน ใช้ทดแทนกันได้

ดังนั้น ราคาตลาดของยางพารา จึงถูกกำหนด โดยตลาดโลก ซึ่งขึ้นตรงต่อภาวะเศรษฐกิจโลก

เหตุผลที่ราคาตกเรื่อยมา เกิดขึ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐ รุกลามไปยุโรป กระทบชิ่งไปญี่ปุ่น เรื่อยมาจนถึงจีน ที่ใครๆ เคยบอกว่าจะเป็นหลุมเพาะจากวิกฤตสหรัฐ แต่จีนกับสหรัฐมีความสัมพันธ์กันทางเศรษฐกิจมาก จึงไม่รอด

เหตุผลที่ราคายางปรับตัวสูงขึ้นก่อนหน้านี้ ก็เป็นผลของการเจริญเติบโต ของเศรษฐกิจจีน เพราะเป็นผู้บริโภคสินค้าโภคภัณฑ์ขนาดใหญ่ ไม่ใช่เฉพาะยางพาราเท่านั้นที่ราคาสูงขึ้น ถ่ายหิน น้ำมัน ฯลฯ ก็สูงขึ้นมากเช่นกัน

ราคายางจะถูกหรือว่าแพง ในภาพใหญ่ จึงมีส่วนเกี่ยวข้องน้อยมาก กับฝีมือการบริหาร ไม่ว่าจะเป็นทักษิณ หรืออภิสิทธิ์ มันขึ้นอยู่กับว่า ใครจะเข้ามารับตำแหน่งในช่วงนี้ไหนเท่านั้น

การบริหารของรัฐแต่ละยุคสมัย กระทำได้เพียงการพยุงราคาไม่ตกต่ำ จนกระทบกับความเดือดร้อนของเกษตรกร เท่านั้น วิธีการหลักๆ ก็ไม่มีอะไรมาก ก็เอาเงินมารับซื้อยางในราคาที่สูงกว่าราคาตลาด จะเก็บไว้ หรือขายขาดทุน ก็สุดแท้แต่

Wake Up Thailand

Wake Up Thailand
 

 
 
Wake Up Thailand ประจำวันที่ 27 สิงหาคม 2556  ตอนที่ 2 
Coffee with : อลงกรณ์ พลบุตร
http://www.dailymotion.com/video/x13pu8j_coffee-with-อลงกรณ-พลบ 

Wake Up Thailand ประจำวันที่ 27 สิงหาคม 2556  ตอนที่ 1
ดราม่าทิ้งทวน พันธมิตรฯร่วมนปช. 
http://www.dailymotion.com/video/x13prz8_ดราม-าท-งทวน-พ-นธม-ตรฯร-วมนปช 
 
Wake Up Thailand ประจำวันที่ 26 สิงหาคม 2556  ตอนที่ 2
'ยิ่งลักษณ์ พบ ป๋า' โบกมือลาพันธมิตร 
http://www.dailymotion.com/video/x13o7zj_ย-งล-กษณ-พบ-ป-า-โบกม-อลาพ-นธม  

Wake Up Thailand ประจำวันที่ 26 สิงหาคม 2556  ตอนที่ 1
พันธมิตรปิดฉากชั่วคราว รอช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่
http://www.dailymotion.com/video/x13o7zb_พ-นธม-ตรป-ดฉากช-วคราว-รอช-วงเปล-ยนผ 

Divas Cafe

Divas Cafe





 
Divas Cafe ประจำวันที่ 27 สิงหาคม 2556
อย่าผูกขาดแม้กระทั่งคำเทศน์ 
http://www.dailymotion.com/video/x13pzke_อย-าผ-กขาดแม-กระท-งคำเทศน 
 
Divas Cafe ประจำวันที่ 26 สิงหาคม 2556
พันธมิตรแกล้งตาย ? 
http://www.dailymotion.com/video/x13o808_พ-นธม-ตรแกล-งตา 

ข้อถกเถียงเรื่องการปฏิรูป "สภาขุนนาง"ในอังกฤษ

ข้อถกเถียงเรื่องการปฏิรูป "สภาขุนนาง"ในอังกฤษ




โดย พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์


ในวาระที่บ้านเมืองของเรากำลังถกเถียงเอาเป็นเอาตาย เรื่องของที่มาของวุฒิสมาชิกกันอยู่นี้ ก็อยากจะนำเอาเรื่องราวที่เขาถกเถียงกันในเรื่องการปฏิรูปสภาขุนนางในอังกฤษ มาเล่าสู่กันฟังสักหน่อย

แต่ก่อนที่จะเล่าเรื่องอังกฤษให้ฟังก็อยาก จะฝากข้อคิดเรื่องเมืองไทยไว้สักนิดว่า ถ้าจะเถียงกันเรื่องการมีอยู่และที่มาของวุฒิสภานั้น ก็คงต้องแยกเรื่องที่จะต้องเถียงกันก่อน ก็คือ

1.เรื่องของหน้าที่ของสถาบันทางการเมืองที่เรียกว่าวุฒิสภา

2.เรื่องของการยึดโยงกับประชาชนของสถาบันที่เรียกว่าวุฒิสภา

ซึ่ง จะพูดถึงทั้งสองประเด็นได้ ก็ต้องตรวจสอบจุดยืนและอคติที่มีในใจก่อนว่า เรามีมุมมองที่ว่าด้วยเรื่องประชาธิปไตยและ "ประชาชน" เช่นไร ไม่เช่นนั้นสิ่งที่เราเถียงกันมันจะเป็นเรื่องของการ "แถ" มากกว่า "เถียง" เพราะมันจะเป็นลักษณะของการที่เราคิดก่อนว่า "ต้องมี" หรือ "ไม่ต้องมี" แล้วเราค่อยไปฟัง หรือหาเหตุผลที่มารองรับสิ่งที่เราต้องการ

ฝากไว้ แค่นี้แหละครับ มาเข้าเรื่องเกี่ยวกับสถาบันทางการเมืองในสังคมที่เป็นหนึ่งในสังคมต้นแบบ สังคมประชาธิปไตย ซึ่งก็คือ ประเทศอังกฤษกันดีกว่าครับ

ประเทศ อังกฤษมักเป็นประเทศที่เรานึกถึงว่าเป็นต้นแบบของประชาธิปไตยแบบรัฐสภา อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข แต่ก็เป็นประเทศที่ไม่มีรัฐธรรมนูญลายลักษณ์อักษร ไม่มีกฎหมายหมิ่นกษัตริย์/หมิ่นรัฐบาล (เพราะถูกยกเลิกไปในช่วง ค.ศ. 2009) และมีระบบสองสภาที่ชัดเจนมากว่าเรียกสภาหนึ่งว่า สภาสามัญชน (House of Commons) และอีกสภาเรียกว่า "สภาขุนนาง" (House of Lords) ... จะเรียกสภาอำมาตย์ซะก็กลัวจะแปลไม่ตรง (นัก)

ความรู้เล็กน้อยของคน บ้านเราที่รับรู้กันมาก็คือ สภาขุนนางนั้นเป็นสภาที่มีมาตั้งแต่โบราณ และมีลักษณะที่สืบทอดกันมาทางสายเลือด แต่สิ่งที่เราควรรับรู้เพิ่มก็มีหลายเรื่อง คือ เดิมนั้นสภาขุนนางนั้นมีอำนาจมาก แต่วันนี้มีอำนาจน้อยลง และมีลักษณะที่ "ด้อยกว่าในทางอำนาจ" เมื่อเทียบกับสภาคนธรรมดา อาทิ ไม่มีสิทธิยกเลิกกฎหมาย (มีแต่ให้คำแนะนำและหยุดยั้งได้ชั่วคราว) แถมในบางกรณีก็มีการกำหนดด้วยว่าในเรื่องนั้นจะอภิปรายได้ไม่เกิน 90 นาที

เราชาวสังคมนิยมคัดค้านการทำสงครามในซิเรียของมหาอำนาจตะวันตก

เราชาวสังคมนิยมคัดค้านการทำสงครามในซิเรียของมหาอำนาจตะวันตก



Turnleft Socialist Thailand องค์กรเลี้ยวซ้าย-สังคมนิยม - Bangkok, Thailand
 
"เราชาวสังคมนิยมคัดค้านการทำสงครามในซิเรียของมหาอำนาจตะวันตก ทั้งๆ ที่อาซัดได้ก่ออาชญากรรมโหดร้ายต่อประชาชน และเราสนับสนุนฝ่ายกบฏ แต่ตะวันตกไม่เคยแทรกแซงทางทหารที่ไหนเพื่อมนุษยธรรม มีแต่กการปกป้องผลประโยชน์และพลเรือนตายเพิ่ม"

พวก กลุ่มจีฮ่าร์ด(มุสลิมสุดขั้ว) ไม่สนใจที่จะปฏิวัติเพื่อเสรีภาพ เขามีพวกกษัตริย์ตะวันออกกลางหนุนหลัง และต้องการสร้างความแตกแยก ความหวังอยู่ที่คณะกรรมการประสานงานในพื้นที่ของฝ่ายกบฏ

The regime and the West are both threats to Syrian Revolution
http://www.socialistworker.co.uk/art/34221/The+regime+and+the+West+are+both+threats+to+Syrian+Revolutio 


'โอบามา' สั่งเผยแพร่หลักฐานการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย ก่อนโจมตีทางทหาร
http://www.prachatai.com/journal/2013/08/48430 

"สหรัฐ"ฟันธงรัฐบาลซีเรีย ใช้อาวุธเคมี!
http://www.nationchannel.com/main/news/foreign/20130827/378382853/ 

วาทะจุดประกาย: ไม่มีธงผืนใดใหญ่พอที่จะปิดบังความน่าอับอายจากการสังหารผู้บริสุทธิ์ได้มิด

วาทะจุดประกาย: ไม่มีธงผืนใดใหญ่พอที่จะปิดบังความน่าอับอายจากการสังหารผู้บริสุทธิ์ได้มิด

 


 
ดาวน์โหลด mp3(คลิกฟัง)

"ไม่มีธงผืนใดใหญ่พอที่จะปิดบังความน่าอับอายจากการสังหารผู้บริสุทธิ์ได้มิด"
“There is no flag large enough to cover the shame of killing innocent people.”

ฮาวเวิร์ด ซินน์ (Howard Zinn)


นักประวัติศาสตร์สายสังคมนิยมของสหรัฐที่พึ่งเสียชีวิตไปในปี 2010 ผู้เขียนหนังสือ “ประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา ฉบับประชาชน (People"s History of the United States)

ที่แสดงให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกาโดยให้ความสำคัญกับบทบาท ของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นกรรมาชีพ เกษตรกร คนพื้นเมือง คนผิวดำ หรือสตรี

เป้าหมายที่ดีงามให้ความชอบธรรมแก่วิธีการที่ต่ำช้า (The End justify the means)

เป้าหมายที่ดีงามให้ความชอบธรรมแก่วิธีการที่ต่ำช้า (The End justify the means)

 

 
โดย ทศพล ทรรศนกุลพันธ์


ในการต่อสู้แบบสันติวิธี ผ่านการใช้เหตุผลและความคิด ด้วยวิธีการสื่อสารนั้น ย่อมต้องคำนึงถึงการให้โอกาสถกเถียงกันอย่างเสมอภาค หรือหลักการให้อาวุธอย่างเสมอภาคกัน (Equal of Weapons Theory) ในการต่อสู้ถกเถียงเพื่อให้ได้มาซึ่ง เหตุผล ที่ดีและตอบกับเงื่อนไขทางสังคมที่มี   ดังนั้นในหลายประเด็นที่มีความเห็นไม่ลงรอยกัน แต่ละฝ่ายจึงได้ทุ่มเทความสามารถและทรัพยากรในการสนับสนุนความคิดและเหตุผล ของตนเอง เพื่อให้ความชอบธรรมกับสิ่งที่ตนต้องการกระทำ

แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง กลับไม่มีความเท่าเทียมระหว่างรัฐใหญ่รัฐกับรัฐเล็ก ฝ่ายรัฐความมั่นคง กับ องค์กรภาคประชาชน    โดยเฉพาะเมื่อเป็นการขับเคี่ยวกันรัฐกำลังพัฒนาที่มีความเหลื่อมล้ำทางอำนาจ สูง   รัฐและฝ่ายความมั่นคงมีอำนาจในการโฆษณาชวนเชื่อผ่านสื่อผสมและช่องทางที่ หลากหลาย เช่น ภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ แผ่น และฉายซ้ำตามความต้องการได้ผ่านอินเตอร์เน็ต ช่องทางที่เข้าถึงได้ไม่ยาก และเนื้อหาที่เข้าใจง่าย เร้าให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกร่วมอย่างแรงกล้า จนกลบทับความจริงอื่น ได้แพร่ไปยังมวลชนวงกว้างจนทำให้ความน่าเชื่อถือของเหตุผลอยู่นอกการรับรู้ ของอารมณ์ความสึกรุนแรงดังกล่าว

ฝ่ายสิทธิมนุษยชนตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเนื่องจากมีทรัพยากร เครื่องมือผลิตเนื้อหา และช่องทางในการสื่อสาร น้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด เพราะฉะนั้น เนื้อหาที่ออกมาจึงอยู่ในลักษณะของข้อเท็จจริง เหตุผล ที่จริงจังจนถึงขั้น เครียด และน่าเบื่อไปสำหรับผู้รับสื่อ และไม่อาจแพร่ไปในวงกว้างเพราะต้องใช้พลังงานในการย่อยข้อมูลเป็นอย่างมาก และฝ่ายรณรงค์ประเด็นสิทธิมนุษยชนจำนวนไม่น้อยก็ติดกับตัวเองโดยคิดว่าจะ ต่อสู้ด้วยเหตุผลโดยพยายามไม่เร้าอารมณ์ความรู้สึก ทั้งที่เรื่องชีวิตมนุษย์นั้นเกี่ยวพันกับจิตวิญญาณ ซึ่งบุคคลทั่วไปอาจจะรับรู้ เข้าถึง เข้าใจ กลุ่มเสี่ยงที่ถูกละเมิดสิทธิได้ผ่านการบอกเล่า ประสบการณ์จริงที่สั่นสะเทือนความรู้สึก มากกว่าเหตุผลที่เข้าใจแต่ไม่ได้สร้างแรงบันดาลใจให้ลุกขึ้นมาทำอะไรเพื่อ เปลี่ยนโลก

วิจารณ์มั่วเรื่องอียิปต์ บทความเรื่องอียิปต์ที่วิจารณ์ “นักวิชาการสังคมนิยมท่านหนึ่ง”

วิจารณ์มั่วเรื่องอียิปต์ บทความเรื่องอียิปต์ที่วิจารณ์ “นักวิชาการสังคมนิยมท่านหนึ่ง”


 
ความยากยิ่งในการพยากรณ์การเมืองอียิปต์
http://www.prachatai.com/journal/2013/08/48396 

อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์ เขียนบทความเรื่องอียิปต์ที่วิจารณ์ “นักวิชาการสังคมนิยมท่านหนึ่ง” เดาว่าเป็นผม แต่ อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์ ไม่มีมาตรฐานวิชาการพอ เพราะไม่กล้าเอ่ยชื่อและไม่กล้าอ้างอิงบทความของ ผมโดยตรง เพื่อให้คนไปอ่านและตัดสินใจเอง เพราะอรรถสิทธิ์ไปบิดเบือนสิ่งที่ผมเขียน เช่นการกล่าวหาผมว่าผมเขียนว่า “มวลชน” เป็นกรรมาชีพหมด เป็นต้น และสิ่งที่ตลกที่สุดคือมองว่าผมเป็นผู้วิเคราะห์สถานการณ์ในอียิปต์ แต่ในความเป็นจริงผมอาศัยการวิเคราะห์ของสหายอียิปต์จากองค์กรสังคมนิยม ปฏิวัติต่างหาก สหายพวกนี้อยู่ในพื้นที่ เคลื่อนไหวมานานก่อนการล้มมูบารักด้วยซ้ำ และถึงแม้ว่ามีบทบาทในการกระตุ้นการต่อสู้ในหลายช่วง เขายอมรับว่าองค์กรของเขาเล็กเกินไปที่จะนำ

สหายสังคมนิยม ปฏิวัติอียิปต์ได้วิเคราะห์ลักษณะของพรรคมุสลิมมานาน ว่ามีแกนนำที่ค่อนข้างอนุรักษ์นิยม ในขณะที่มวลชนของพรรค โดยเฉพาะคนหนุ่มสาว ก้าวหน้ากว่ามากและร่วมในการล้มมูบารักทั้งๆ ที่แกนนำไม่เห็นด้วย และที่สำคัญคือพรรคมุสลิมมิได้เป็นพรรคที่จะนำ “การเมืองอิสลามสุดขั้ว” มาครอบงำสังคมอย่างที่พวกชนชั้นกลางเสรีนิยมชอบอ้าง พรรคมุสลิมในตูรกีก็เช่นกัน

อรรถสิทธิ์ เขียนว่า “ความหวาดกลัวและความเกลียดชังต่ออิทธิพลของพวกเคร่งศาสนาอิสลามย่อมเป็นตัว เร่งขนานใหญ่” แต่นั้นอธิบายไม่ได้ว่าทำไมคนที่ลงคะแนนเสียงให้พรรคมุสลิมมีส่วนในการไล่ มูรซี่ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของมวลชน 17 ล้านคนที่ออกมาในวันที่ 30 มิถุนายน

อรรถสิทธิ์ แสดงความโง่เขลาทางวิชาการเรื่อง “เสรีนิยมกลไกตลาด” เพราะมองว่าต้องเป็นแค่กรรมาชีพเท่านั้นถึงจะไม่พอใจ แต่ในความเป็นจริงนโยบายเศรษฐกิจเสรีนิยมกลไกตลาดทำให้คนจนทั้งหมด รวมถึงเกษตรกร และคนชั้นกลางด้วย เดือดร้อนกันทั้งนั้น และไม่เฉพาะในอียิปต์ ในยุโรปก็เหมือนกัน และประเด็นเศรษฐกิจกลไกตลาดนี้เป็นประเด็นที่จุดประกาย “อาหรับสปริง” แต่แรก และเมื่อเราพิจารณานโยบายเสรีนิยมกลไกตลาด เราไม่สามารถวิเคราะห์อะไรได้ถ้าไม่ใช้กรอบชนชั้น

การใช้กรอบชน ชั้นไม่ได้หมายถึงการพูดถึงกรรมาชีพอย่างเดียว มันเป็นวิธีมองสังคมทั้งหมด อย่างไรก็ตามหลายคนคนที่วิเคราะห์ทุกอย่างโดยเน้นเบื้องบน หรือคนที่ปิดหูปิดตาถึงกรรมาชีพ จะมองไม่เห็นบทบาทของการนัดหยุดงานที่เป็นเรื่องชี้ขาดในการไล่มูบารัก และนี่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทหารอิยิปต์ดึงผู้นำสหภาพแรงงานที่ไร้จิตสำนึก มาเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลทหารปัจจุบัน

แน่นอนสิ่งที่ ผมและอรรถสิทธิ์มองตรงกัน คือความแย่ของพวกชนชั้นกลางเสรีนิยมที่ออกมาสนับสนุนการเข่นฆ่าของทหาร แต่สหายสังคมนิยมปฏิวัติอียิปต์ก็อธิบายว่า ในจำนวน 17 ล้านคนที่ออกมาไล่มูรซี่ คงต้องมีคนธรรมดาที่ใหม่กับเรื่องการเมืองมากมาย และความหวังคือ พวกนี้ ซึ่งไม่ได้เป็นคนชั้นกลางเสรีนิยม จะตาสว่างเกี่ยวกับกองทัพในไม่ช้า แต่ในโลกจริงมันไม่เคยมีหลักประกันอะไร 

(ที่มา) 
Turnleft Socialist Thailand องค์กรเลี้ยวซ้าย-สังคมนิยม    

อียิปต์ : เมื่อการปล่อยตัวฮอสนี มูบารัค สร้างความไม่พอใจแก่นักปฏิวัติปี 2011

อียิปต์ : เมื่อการปล่อยตัวฮอสนี มูบารัค สร้างความไม่พอใจแก่นักปฏิวัติปี 2011

 

 
 
เกิดอะไรขึ้นที่อียิปต์


อัลจาซีราวิเคราะห์ ขณะที่ความขัดแย้งระหว่างฝ่ายรัฐประหารกับกลุ่มต่อต้านรัฐประหารปี 2013 ยังไม่มีข้อยุติ การตัดสินใจปล่อยตัวมูบารัคจากเรือนจำเพื่อรอการพิจารณาคดีก็ทำให้ผู้ที่เคย ต่อต้านโค่นล้มเขาในปี 2011 ไม่พอใจขณะเดียวกันก็เผยให้เห็นความซับซ้อนของหลากกลุ่มก้อนผู้ประท้วงใน อียิปต์

25 ส.ค. 2013 - สำนักข่าวอัลจาซีรากล่าวถึงความเห็นของชาวอียิปต์หลังจากที่มีการปล่อยตัว อดีตผู้นำเผด็จการ ฮอสนี มูบารัค ที่ถูกโค่นล้มหลังจากการปฏิวัติในปี 2011 ออกจากคุก
อดีตผู้นำมูบารัคถูกโค่นล้มหลังจากมีการชุมนุมประท้วง 18 วันในปี 2011 และอยู่ระหว่างการถูกดำเนินคดีเรื่องการทุจริตและการมีส่วนเกี่ยวข้องกับการ สังหารผู้ชุมนุม เขาถูกปล่อยตัวหลังจากการจำคุกช่วงก่อนการพิจารณาคดีจะเสร็จสิ้นเป็นเวลาสอง ปี ซึ่งเป็นเวลาสูงสุดที่ตามกฎหมายอียิปต์อนุญาตไว้ โดยในตอนนี้มูบารัคถูกกักขังอยู่ภายในบริเวณที่กำหนด

วาเอล คาลิล นักกิจกรรมและบล็อกเกอร์ฝ่ายซ้ายที่เข้าร่วมเหตุการณ์ลุกฮือในช่วงปี 2011 กล่าวว่าการปล่อยตัวมูบารัคทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกตบหน้าและคำว่า "การปฏิวัติต้องดำเนินต่อไป" ไม่ใช่แค่เพียงคำพูดโหลๆ เพราะคิดว่ารัฐบาลเผด็จการที่พวกเขาต่อสู้เพื่อโค่นล้มไม่ได้ถูกแตะต้อง


(อ่านต่อ)

นิรโทษกรรมแบบณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ กับละครลิงหลอกเจ้า

นิรโทษกรรมแบบณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ กับละครลิงหลอกเจ้า

 

   
โดย พีระศักดิ์  ชัยธรรม 


ร่าง พรบ.นิรโทษกรรมของนายวรชัย  เหมะ ได้ผ่านการพิจารณาในวาระที่หนึ่งด้วยคะแนนเสียง 300 ต่อ 125 งดออกเสียง 14 ไม่ออกเสียง 2 เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2556 ที่ผ่านมา มีการตั้งคณะกรรมาธิการ 35 คน เพื่อไปลงมติวาระสอง และสามก่อนไปสู่การพิจารณาของวุฒิสภาภายใน 60 วัน ทั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์ทำการคัดค้านทุกรูปแบบทั้งในสภาและนอกสภา โดยอ้างว่าเป็นการนิรโทษกรรมให้กับผู้กระทำความผิดอาญาในคดีเผาบ้านเผาเมือง และคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ รวมทั้งเป็นการลบล้างความผิดให้กับทักษิณ  ชินวัตร ในขณะที่นายณัฐวุฒิ  ไสสเกื้อ ได้อภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2556 ว่าร่าง พรบ.นิรโทษกรรมไม่รวมถึงผู้ต้องหาในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพตามประมวลกฎหมาย อาญามาตรา 112

1. ต้านนิรโทษกรรมประชาชนเพื่อใคร ?
แต่ไหน แต่ไรมานั้นพรรคประชาธิปัตย์อาศัยสถาบันกษัตริย์เป็นเครื่องมือทำลายผู้อื่น และใช้เป็นวิธีการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน หรือไม่ก็ทำตัวเป็นมือ เป็นตีนให้กับเผด็จการทหารเพื่อจะได้เป็นรัฐบาลส้มหล่นอยู่เสมอ


นี่คือพรรคประชาธิปัตย์ที่อ้างนักหนาว่าเทิดทูนประชาธิปไตย และประชาชนต้องมาก่อน แต่ในความเป็นจริงไม่เคยต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมาก่อนเลยในรอบ 60 ปีที่ผ่านมา ในบางสถานการณ์ยังสร้างเงื่อนไขไปสู่การรัฐประหารเสียเอง แม้ได้เป็นรัฐบาลก็มักเอื้อประโยชน์ให้กับเผด็จการทหาร ดังเช่น รัฐบาลนายควง  อภัยวงศ์  ออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้กับผู้ก่อการรัฐประหารในปี่ 2488  และ ปี 2490 สมัยนายชวน  หลีกภัย เป็นพรรคร่วมรัฐบาลพลเอกเปรม  ติณสูลานนท์ ก็เคยนิรโทษกรรมให้กับการรับประหารของกลุ่มยังเตริก หรือล่าสุดในยุคของนายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ ยังสนับสนุนรัฐธรรมนูญ 2550 ซึ่งมาตรา 390 ได้นิรโทษกรรมให้กับคณะรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ดังนั้นการที่พรรคประชาธิปัตย์ทำการต่อต้านการนิรโทษกรรมให้กับประชาชนที่ กระทำความผิดอันเนื่องมาจากการชุมนุม และความขัดแย้งทางการเมือง จึงเป็นการแสดงให้เห็นถึงจุดยืนได้ว่าพรรคประชาธิปัตย์นั้นรักษาผลประโยชน์ ให้กับเผด็จการอย่างไม่ลืมหูลืมตาเลยทีเดียว