หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2556

รัฐบาลอภิสิทธิ์ชน // นสพ.เลี้ยวซ้าย ปีที่ 9 ฉบับที่ 7 ธันวาคม 56

รัฐบาลอภิสิทธิ์ชน // นสพ.เลี้ยวซ้าย ปีที่ 9 ฉบับที่ 7 ธันวาคม 56 


ดาวน์โหลดคลิกอ่าน

เราต้องโทษใครที่ประชาธิปไตยไทยไม่คืบหน้า? กษัตริย์ภูมิพลหรือชนชั้นกลางไทย?

เราต้องโทษใครที่ประชาธิปไตยไทยไม่คืบหน้า? กษัตริย์ภูมิพลหรือชนชั้นกลางไทย? 


 
พอล แฮนลี่ ในบทความล่าสุด ลงวารสาร Foreign Policy วันที่ ๖ ธันวาคม
http://www.foreignpolicy.com/articles/2013/12/06/thailand_dysfunctional_democracy_king_bhumibo
 
โดย  ใจ อึ๊งภากรณ์

 
ตั้ง คำถามว่า “ทำไมประชาธิปไตยไทยถึงชำรุดอย่างนี้?”  เขาตอบทันทีว่า“ต้องโทษกษัตริย์ภูมิพล” ต่อจากนั้นเขาอธิบายว่า “วิกฤตการเมืองไทยสะท้อนการที่กษัตริย์ภูมพลละเลยที่จะสร้างระบบประชาธิปไตย ที่แข็งแกร่งก่อนที่เขาจะจากโลกไป...” “ในทุกก้าว ในทุกวิกฤต กษัตริย์ภูมิพลพึ่งกองทัพเพื่อปราบนักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง และยับยั้งการพัฒนาของประชาธิปไตย”

ผม อ่านแล้วสองจิตสองใจ ในแง่หนึ่งอุ่นใจเมื่อเห็นคนวิจารณ์เผด็จการและนายภูมิพลอย่างตรงไปตรงมา แต่ในอีกด้าน ซึ่งสำคัญกว่า พอล แฮนลี่ วิเคราะห์ผิด เหมือนที่เคยวิเคราะห์ในหนังสือ “กษัตริย์ไม่เคยยิ้ม” เพราะจริงๆ แล้วนายภูมิพลเป็นกษัตริย์ที่อ่อนแอ ไร้ความกล้าหาญ และไม่มีอุดมการณ์ดีๆ ของตนเองเลย ตลอดชีวิตของเขา เขามีส่วนสำคัญในการร่วมมือกับเผด็จการที่ทำให้สังคมไทยล้าหลังและขาด ประชาธิปไตยจนถึงทุกวันนี้ แต่นายภูมิพลถูกทหารและนายทุนใหญ่ใช้มาตลอด เพราะสถาบันกษัตริย์ให้ความชอบธรรมกับทุกอย่างที่ทหารเลือกทำ และให้ความชอบธรรมกับระบบความเหลื่อมล้ำในสังคมด้วยนิยายเรื่อง “เทวดา”

เรา คงหวังอะไรมากไม่ได้จากทหารและนายทุนใหญ่ สันดานพวกนี้คือการใช้อำนาจเผด็จการ แต่เราสามารถโทษคนกลุ่มหนึ่งที่มีบทบาทในการเปิดประตูให้เผด็จการได้ นั้นคือชนชั้นกลางไทย

ตั้งแต่ พวกชนชั้นกลางไทยไปจับมือกับนายทุนหัวเก่าและทหาร เพราะไม่พอใจที่รัฐบาลไทยรักไทยสร้างระบบรักษาสุขภาพถ้วนหน้า และกองทุนหมู่บ้าน และไม่ยอมให้นักการเมืองเก่าๆ ชนะการเลือกตั้งโดยซื้อเสียงเพราะไม่มีนโยบาย ชนชั้นกลางได้ปูทางไปสู่เผด็จการ

การ กล่าวถึง “เผด็จการรัฐสภา” ในสมัยที่ไทยรักไทยชนะเสียงข้างมาก เป็นการเริ่มต้นในแวดวงนักวิชาการที่เป็นคนชั้นกลาง พวกนี้โกหกว่าการมีเสียงข้างมากในรัฐสภา ซึ่งเป็นเรื่องปกติในประชาธิปไตยตะวันตก เป็นเรื่อง “แย่” มีการโกหกกันจนถึงทุกวันนี้ โดยพวกหัวเผด็จการชนชั้นกลางเหล่านี้ ว่าเขากำลังปกป้อง “เสียงข้างน้อย” ในสังคม แต่เขาไม่เคยปกป้องเสียงเรียกร้องของคนชนเผ่า คนมาเลย์มุสลิม คนงานข้ามชาติ คนรักเพศเดียวกัน คนไม่มีศาสนา คนไม่รักกษัตริย์ หรือคนที่จนที่สุดในสังคมแต่อย่างใด ยิ่งกว่านั้นเวลาทหารกับอภิสิทธิ์ชนใช้กษัตริย์เพื่อกระทำความเลว เช่นรัฐประหาร หรือการเข่นฆ่าคนส่วนใหญ่ พวกนี้ไม่เคยสนใจ เพราะเชิดชูเสียงข้างน้อยที่เป็นอภิสิทธิ์ชนเท่านั้น

พวก ชนชั้นกลางเกลียดระบบประชาธิปไตย และให้ความชอบธรรมกับรสนิยมทางการเมืองของเขา ด้วยการดูถูกคนส่วนใหญ่ที่เลือกพรรคของทักษิณว่า “โง่” บ้าง “ขาดการศึกษา” บ้าง หรือ “เข้าไม่ถึงข้อมูล” บ้าง ในขณะเดียวกันชนชั้นกลางคลั่งกษัตริย์จนเชื่อว่าเทวดาบินได้ และแม้กระทั่งหมาเลี้ยงของเขามีความ “ศักดิ์สิทธิ์” 

ใน การทำลายระบบรัฐสภาประชาธิปไตยของชนชั้นกลาง เขาเสนอรูปแบบ “เผด็จการทางเลือก”หลายชนิด เช่นข้อเสนอเรื่อง “สภาอภิสิทธิ์ชน” ของสุเทพ หรือการที่ “ต้อง” มีสว. ที่พวกมันแต่งตั้ง เพื่อ “คาน” อำนาจประชาชน หรือการพูดถึง “ประชาธิปไตยทางตรง” ของพวก เอ็นจีโอ ชนชั้นกลาง ซึ่งเป็นการบิดเบือนความหมายต้นตำหรับของแนวอานาธิปไตยที่เคยเสนอความคิดนี้ แต่แรก มันบิดเบือนเพราะ เอ็นจีโอ จำนวนมากไปน้อมรับอำนาจกองทัพและรัฐเผด็จการ

ใน ทางเศรษฐศาสตร์ นักวิชาการชนชั้นกลางที่เริ่มใช้คำว่า “ระบบทักษิณ” ก็มีส่วนสำคัญในการปูทางไปสู่เผด็จการ เพราะในทางนโยบายเศรษฐศาสตร์ รัฐบาลทักษิณใช้นโยบาย “คู่ขนาน” คือผสมแนวเคนส์ที่อาศัยงบประมาณรัฐในการเพิ่มระดับชีวิตประชาชน บวกกับแนวเสรีนิยมกลไกตลาดในระดับโลก มันไม่ใช่นโยบายพิเศษของคนบ้าอำนาจ อย่างที่พวกนั้นเสนอแต่อย่างใด

ใน ทางสิทธิเสรีภาพ ชนชั้นกลางไทยเพิกเฉยต่อการทำลายสิทธิมนุษยชน โดยรัฐบาลทักษิณ และรัฐบาลทหารกับรัฐบาลเผด็จการของอภิสิทธิ์มาอย่างต่อเนื่อง ไม่มีการออกมาประท้วงเป็นแสนในเรื่อง กฏหมาย 112 การเข่นฆ่าชาวมาเลย์มุสลิม การเข่นฆ่าคนจนในสงครามยาเสพติด หรือการเข่นฆ่าคนเสื้อแดงที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย และคณะกกรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติก็เป็นเพียงเด็กรับใช้ของเผด็จการ

ทั้ง หมดนี้คือบาปอันใหญ่หลวงของชนชั้นกลางไทยในวิกฤตปัจจุบัน ซึ่งไม่นับเรื่องการเชียร์การเข่นฆ่านักศึกษาและฝ่ายซ้ายในวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙

แต่ การวิเคราะห์นี้จะไม่ครบ ถ้าไม่กล่าวถึงความอ่อนแอทางการเมืองของกรรมาชีพและเกษตกร ซึ่งมีมาตั้งแต่การล่มสลายของพรรคคอมมิวนิสต์ มันถึงเวลานานแล้วที่คนส่วนใหญ่ที่เป็นกรรมาชีพคนทำงานและเกษตรกร จะต้องมีพรรคของชนชั้นตนเอง ในยุโรปประชาธิปไตยไม่เคยเกิดจากคนชั้นกลาง คนชั้นกลางยุโรปสนับสนุนฮิตเลอร์และพวกฟาสซิสต์ต่างหาก ขบวนการที่สร้างพื้นที่ประชาธิปไตยอย่างจริงจังในยุโรปคือขบวนการแรงงานและ พรรคการเมืองของเขา และถ้าเรามีองค์กรทางการเมืองของคนระดับล่าง แทนที่จะมีแต่พรรคเพื่อไทยของนายทุนใหญ่ เราจะต่อสู้เพื่อพัฒนาประชาธิปไตยได้ แทนที่จะนั่งแบบมือไม้อ่อนแค่ดูพรรคเพื่อไทยประนีประนอมกับมารเผด็จการ รอบนี้หลังจากการตั้งม็อบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของสุเทพ และการลาออกจากสภาของประชาธิปัตย์ แนวโน้มเรื่องจะไม่จบลงด้วยการขยายพื้นที่ประชาธิปไตยแต่อย่างใด

(ที่มา)

กาลียุค จลาจล นองเลือด

กาลียุค จลาจล นองเลือด


 

กาลียุค จลาจล นองเลือด
โปรดระวัง 9 ธันวา 9 นาฬิกา 9 นาที 9 วินาที



หนึ่ง. ต้องมีม็อบเป็นหมื่น เป็นแสน
สอง. ต้องเกิดนองเลือด จลาจล กระสุน ระเบิด เผา
สาม. ต้องมีขุนทหาร เคลื่อนรถถัง ออกมายึดอำนาจ
สี่. เกิดสูญญากาศ มี นรม พระราชทาน ซึ่งเป็นชาย  


สูตรนี้ จะสำเร็จ หรือไม่ ในครั้งนี้ 
 
ในเมื่อมี นรม เป็นหญิง มาจากการเลือกตั้ง ไม่ได้เป็นขุนทหาร
ในเมื่อมีนานาชาติจ้องดู (สหรัฐ จีน อียู)
ในเมื่อมี คนเสื้อแดง
ในเมื่อ ข้อมูลข่าวสาร เป็นของประชามหาชน


Will Yingluck Survive ? 


Charnvit Ks    

ไม่ยุบสภา ไม่ลาออก

ไม่ยุบสภา ไม่ลาออก



โดย พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์


การที่สส.ปชป.ลาออกทั้งพรรค ตาม "สัญญาณ" ที่ได้รับมา ก็เพื่อบีบให้นายกฯยิ่งลักษณ์ยุบสภา แล้วก็บอยคอยเลือกตั้ง มุ่งสร้างสูญญากาศทางการเมืองให้จง ได้ เมื่อไม่มีสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ก็จะเหลือแต่วุฒิสภา ซึ่งตามบทบัญญัติ รธน. จะถือว่า วุฒิสภาทั้งหมดเป็นรัฐสภา จนกว่าจะมีการเลือกตั้งสภาผู้แทนชุดใหม่ (แต่ก็จะไม่มีเลือกตั้ง)

แต่เมื่อปชป.ลาออก แถมบอยคอยเลือกตั้ง ปปช.เงื้อดาบฟันนายกฯยิ่งลักษณ์และครม.ทั้งคณะในคดีต่าง ๆ ที่เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่มีสภาผู้แทน ไม่มีรัฐบาล มีแต่วุฒิสภาทำหน้าที่รัฐสภา ก็กลายเป็นความชอบธรรมที่วุฒิสภาจะอ้าง ม.7 เสนอให้ตั้งนายกฯ "คนกลาง" และรัฐบาลใหม่ที่ไม่เป็นไปตามรธน.50 เอง

คราว นี้ พวกเผด็จการถึงกับลงทุน "ฉีก" รธน.50 ของตัวเอง แปรรูปเป็นเผด็จการเต็มรูป เพื่อขจัดตระกูลชินวัตร พรรคเพื่อไทย และจัดการกับคนเสื้อแดงทั่วประเทศ ในคราวเดียว โดยไม่สนใจเสียงคัดค้านจากนานาประเทศที่สนับสนุนนายกฯยิ่งลักษณ์!!! 

นายกฯยิ่งลักษณ์ต้องไม่ยุบสภา ไม่ลาออก เราจะไม่เป็นฝ่ายยุบสภา แล้วเปิดเงื่อนไขให้พวกเผด็จการใช้เป็นข้ออ้างอย่างเด็ดขาด! ถ้าพวกนั้นอยากได้เผด็จการเต็มรูป ก็ต้องให้พวกนั้นลงมือยุบเลิกทั้งสภาและครม. ด้วยตัวเองโดยใช้ ปปช. ตุลาการ หรือทหาร! อยากได้ก็ต้องทำเอง เราจะไม่ใส่พานให้! 

ปุจฉา-วิสัจนา: ทำไมไม่สู้กับรัฐบาลเสียงข้างมากที่ทุจริตฉ้อฉลไม่ชอบธรรม?

ปุจฉา-วิสัจนา: ทำไมไม่สู้กับรัฐบาลเสียงข้างมากที่ทุจริตฉ้อฉลไม่ชอบธรรม?



 
 
(มีผู้ถามผมมา ดูภาพประกอบ ผมขออนุญาตเอาคำถามและคำตอบมาเล่าต่อโดยสงวนนามผู้ถามไว้ เพราะอาจเป็นประโยชน์แก่ผู้สนใจท่านอื่นนะครับ)


โดย อ.เกษียร เตชะพีระ
 
๑) นักศึกษาที่ไปย่อม เป็นสิทธิของเขา แน่นอนเขาควรเข้าใจด้วยว่าเขากำลังละเมิดกฎหมายอาญามาตรา ๑๑๓ และเสี่ยงต่อข้อกล่าวหาร่วมกบฎ แต่เมื่อรับรู้แล้ว เขายังเชื่อโดยมโนธรรมสำนึกว่าเขาทำถูกและพร้อมรับโทษ และรู้ว่าสิ่งที่ทำอาจก่อผลเสียหาย/มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตเกิดขึ้นได้ แล้ว ยังปักใจทำ ก็เชิญครับ
 
๒) ขอบคุณที่เตือนผม ผมเริ่มด่ารัฐบาลเสียงข้างมากของทักษิณก่อนใครเพื่อน (เชื่อผมสิ) มาตั้งแต่สนธิ ลิ้มฯกับพวกยังร้องเชียร์รัฐบาลทักษิณเย้ว ๆ ทางทีวีอยู่, ผมเริ่มเตือนรัฐบาลยิ่งลักษณ์ตั้งแต่แกไม่ทันตั้งเรียบร้อยด้วยซ้ำให้ระวัง สิ่งที่ทำไปแล้วจะขัดแย้งผลประโยชน์กับส่วนรวม เพื่อส่วนตัว/ครอบครัวพวกพ้อง โดยเฉพาะในประเด็นนิรโทษกรรม คืนทรัพย์สิน ดังนั้น ผมทราบเรียบร้อย ขอบคุณอีกทีที่เตือน
 
แต่ การต่อต้านคัดค้านรัฐบาลเสียงข้างมากด้วยวิธีกบฎนอกระบบ ทำลายกฎกติกาประชาธิปไตยนั้น ผมบอกตรง ๆ นะ "โง่" ครับ "โง่" อย่างไรหรือ? แทนที่คุณจะแยกสลายทักษิณกับพวกออกจากประชาชนเสียงข้างมากที่เขารักหวงแหน ประชาธิปไตย คุณกลับตีทักษิณโดยทำลายประชาธิปไตยไปด้วย แล้วใครจะไปเอากับคุณ คุณผลักคนมหาศาลที่คุณสามัคคีได้ถ้าคุณใช้วิธีที่ฉลาดในกรอบประชาธิปไตยไป สู้ แต่กลับผลักพวกเขาไปตรงข้ามกับคุณ ไปยืนอยู่ข้างเดียวกับรัฐบาลและทักษิณ อย่างนี้ฉลาดหรือครับ? ได้ผลหรือครับ? ทำไมไม่สู้ในกรอบโดยดึงเสียงข้างมากมาเป็นพวกคุณ ว่าคุณก็เป็นประชาธิปไตยเหมือนกัน เคารพเสียงข้างมากเหมือนกัน และทักษิณต่างหากทำลายผลประโยชน์ของชาติและเสียงข้างมากเอง ตอนกม.นิรโทษกรรมเหมาเข่งเป็นโอกาสทองที่จะทำลายฐานความชอบธรรมของรัฐบาล ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์กับพวก แล้วเดินหน้าสู้ต้อในเกมประชาธิปไตย แต่เปล่า พวกสุเทพไม่เอา กลับเดินแนวเก่า ทำลายประชาธิปไตยอีก
 
ถึง ตรงนี้ผมสงสัยแล้วว่าเขาไม่เอาทักษิณ หรือไม่เอาประชาธิปไตยกันแน่ ถ้าไม่เอาทักษิณ ผมไม่เอามาตั้งนานแล้ว ถ้าจะต่อสู้เพื่อปรับปรุงระบบให้ป้องกันทรราชย์ของเสียงข้างมากในกรอบ ประชาธิปไตย ผมเอาด้วย แต่ถ้าคุณทำลายประชาธิปไตย ผมไม่เอาด้วยล่ะครับ และผมก็สู้กับคุณเท่านั้นเอง เพราะผมก็สู้กับทักษิณมาแล้วเพราะเหตุนี้

รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เกรงใจ "กษัตริย์" มากกว่า "ประชาชน"

รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เกรงใจ "กษัตริย์" มากกว่า "ประชาชน"





นายกฯขอพระบรมราชานุญาต ถอนร่าง รธน.ที่มาส.ว.
http://www.prachatai.com/journal/2013/12/50271


"ข่าวรายงานว่า "นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ...ได้กราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาตถอนร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าวทันที และได้ขอพระราชทานอภัยหากการใดที่เป็นที่ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท"

รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เกรงใจ "กษัตริย์" มากกว่า "ประชาชน" นะครับ ในเรื่องที่ "รัฐบาล" นำร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ไปให้กษัตริย์ลงปรมาภิไธย ไม่ได้ทำผิดอะไรเลย แต่กุลีกุจอ ไป "ขอโทษ" กษัตริย์

ทว่า ในเรื่องที่ "รัฐบาล" ทำผิดมากๆ ในการ "ยัดไส้ - เหมาเข่ง ทักษิณ" ทำให้นักโทษการเมืองที่อยู่ในคุก "ไม่ได้รับการนิรโทษกรรม" และการ "ยัดไส้ของรัฐบาล" ทำให้เกิดสถานการณ์เลวร้ายต่อระบอบ ประชาธิปไตยในประเทศ (เพราะการไป "ซูเปอร์ดีล" ยอมนิรโทษกรรมให้ฆาตกรปี ๕๓ และเลยเถิดไปนิรโทษกรรมปี ๔๗ แลกกับ "ทักษิณกลับบ้าน") ทำให้ "กบฏสุเทพ" มาลอยหน้าลอยตา และ กดสวิตซ์ "กษัตริย์เชิงเครือข่าย" ให้ออกมาทำงาน ล้มรัฐบาล และประชาชนต้องตกชะตากรรม มาต่อสู้ปกป้องรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอีก
 

รัฐบาลทำผิดมากๆ ต่อประชาชนขนาดนี้ "ยังไม่เคยขอโทษสักคำ" ครับ

แต่การกระทำที่ "ไม่ผิดอะไรเลย" คุณรีบแจ้นไปขอโทษกษัตริย์

รัฐบาลไร้มโนสำนึกต่อประชาชนเอามากๆ ครับ."  
 
เวลานี้ในทางการเมือง รัฐบาลสมควรยุติการสร้างเงื่อนไขให้ "ฝ่ายกบฏเทือก" นำมาเป็นประเด็นมา "กระทืบคุณ" แต่นี่คุณไป "ถอนร่างรัฐธรรมนูญ" ที่ค้างคาอยู่ ซึ่งคนทั้งบ้านทั้งเมืองเขาแทบจะลืม/ไม่ มีการพูดถึงกันแล้ว แทนที่จะปล่อยให้ "ตกไป" เมื่อพ้น ๙๐ วันคือสิ้นผลไปเอง แต่นี่ คุณกลับไป "ประเคนประเด็น" ให้ฝ่ายกบฏเทือก ซึ่งจะชุมนุมปิด กทม.ในวันพรุ่งนี้ เอาไป เล่นได้ต่อ

มิหนำซ้ำ ผลในทางกฎหมาย การกระทำแบบนี้คุณไป "สร้างความชอบธรรม" ให้ ปปช. ชี้มูลความผิดโดยยึดใบปลิวทางการเมือง (คำวินิจฉัย) ของศาลรัฐธรรมนูญไปเป็นฐานการสั่งให้คุณทั้งรัฐสภาหยุดปฏบัติหน้าที่ ได้อีก 


จะ เชียร์นี่เหนื่อยใจเลยครับ อุบาทว์จริงๆ เดินแบบนี้มันเหนื่อย ไม่มีประโยชน์ที่จะไปถอนตอนนี้ (ในทางการเมือง) --- นอกจากนี้และในทางกฎหมาย มันถอนไม่ได้ด้วย

แผนอุบาทว์ มาตามนัด

แผนอุบาทว์ มาตามนัด

 

อาการอ้าขาผวาปีกกระเหี้ยนกระหือรือของผู้ต่อต้านประชาธิปไตย
สนธิคั่วจนเหงือกแห้ง
สุเทพชง
พรุ่งนี้เตรียมซด... อำนาจสมบูรณาญาสิทธิ์เหนือแผ่นดิน


 
อ.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
คนดี ในกรุงเทพ เลือกอนาธิปัตย์ ความรุนแรง จลาจล ไม่เอาเลือกตั้ง ไม่เอาประชามติ
คนบ่ดี ทั่วไทย เลือกประชาธิปไตย ขันติ อหิงสา เอาเลือกตั้ง เอาประชามติ

cK@PattayaSiam

Good People in Bangkok
are for Anarchy, Violence & No Election-No Referendum.
Bad People in Thailand
are for Democracy, Non Violence + Election-Referendum. 

I wish you all luck, Yingluck
ทำประชามติ ครับ
ประชามติ รัฐธรรมนูญใหม่ หรือ รัฐธรรมนูญเก่า
ประชามติ เอาเลือกตั้ง หรือ ไม่เอาเลือกตั้ง
ประชามติ เอาประชาธิปไตย หรือ เอาอนาธิปไตย
ประชามติ เอาสุเทพ/อภิสิทธิ์ หรือ เอายิ่งลักษณ์

ปล
ไอเดียจาก เสื้อยืด
Good People to go Heaven
Bad People go to Pattaya ครับ


Charnvit Ks

แผนอุบาทว์ มาตามนัด สุรพล - สมคิด และแก๊งค์อธิการบ่ดี

แผนอุบาทว์ มาตามนัด สุรพล - สมคิด และแก๊งค์อธิการบ่ดี
 
 
โดย พุฒิพงศ์ พงศ์เอนกกุล


[๓ ธ.ค.๒๕๕๖] สมคิด เลิศไพฑูรย์ ในนามที่ประชุมอธิการบดี[๑] เสนอให้นายกรัฐมนตรี ยุบสภา เป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการ แล้วดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีรักษาการ หลังจากนั้นก็ให้ "นายกรัฐมนตรีรักษาการ" ลาออก

[ข้อเสนอนี้เป็นส่งผลให้ "รัฐมนตรีรักษาการ" ที่เหลือต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ นั่นเองครับ

และผลของการยุบสภาก็คือ วุฒิสภาทำหน้าที่แทนสภาผู้แทนราษฎร]

เพื่อทำให้เกิดสุญญากาศทางการเมือง โดย สมคิดฯ เสนอให้มี "นายกรัฐมนตรีรักษาการ" (พระราชทาน?) ซึ่งไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ทำหน้าแทนคุณยิ่งลักษณ์ ครับ

จากข้อเสนอของสมคิดฯ ไม่ใช่เรื่องที่เกินความคาดหมายตามที่ผมเคยคาดไว้เมื่อวันที่ ๒๙ พ.ย.ที่ผ่านมา[๒] และส่อเค้าว่า เมื่อวุฒิสภาทำหน้าที่รัฐสภาแล้วอำนาจในการประกาศการเข้าสู่ตำแหน่งของ กษัตริย์องค์ใหม่ย่อมตกเป็นของประธานวุฒิสภา นั่นเอง และไม่พึงลืมว่า คดีที่ค้างคาอยู่ใน ป.ป.ช. หาก ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดบรรดาสมาชิกรัฐสภา ๓๑๒ คน นั่นหมายรวมถึงเกินกึ่งหนึ่งของวุฒิสภาทั้งหมด (พวกวุฒิสภาที่มาจากการเลือกตั้ง) ต้อง "หยุดปฏิบัติหน้าที่" ไปด้วย (แต่ไม่พ้นจากตำแหน่ง) อำนาจเบ็ดเสร็จจะอยู่ที่ "วุฒิสภาสรรหา" ปฏิบัติหน้าเป็น "รัฐสภา" ครับ

ไม่พึงลืมว่า การกระทำใด ๆ ของ วุฒิสภาสรรหา ในระหว่างนี้ จะได้รับ "ไฟเขียว" จากศาลรัฐธรรมนูญ

พวกเอลิทกำลังเดินไปในวิถีทาง "งดใช้รัฐธรรมนูญบางมาตรา" ให้ได้.
____________________
[๑] ดู มติชนออนไลน์, "ทปอ.ออกแถลงการณ์ ย้ำต้อง"ยุบสภา-ตั้งรัฐบาลกลาง" เรียกร้องทุกฝ่ายยุติใช้ความรุนแรง,"
ใน http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1386033449&grpid=00&catid&subcatid
[๒] ดูรายละเอียดใน https://www.facebook.com/photo.php?fbid=704650576214278&set=a.100136853332323.77.100000080251932&type=1
 
(ที่มา)จากที่โพสต์สเตตัสFBPhuttipong Ponganekgu

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับมาตรา 7 และนายกฯ พระราชทาน

ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับมาตรา 7 และนายกฯ พระราชทาน

 

Photo 
อ.สมชาย ปรีชาศิลปกุล


“มาตรา 7 ในเมื่อไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้บังคับแก่กรณีใด ให้วินิจฉัยกรณีนั้นไปตามประเพณีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหา กษัตริย์ทรงเป็นประมุข” 

นายกฯ พระราชทานตามมาตรา 7 แห่งรัฐธรรมนูญฯ ได้กลายมาเป็นข้อเสนอให้กับความขัดแย้งทางการเมืองอีกครั้งหนึ่ง ในการเคลื่อนไหวของ กปปส. ซึ่งนำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ทั้งนี้ข้อเสนอเรื่องมาตรา 7 ได้เคยปรากฏขึ้นในการเคลื่อนไหวของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อ พ.ศ. 2549 โดยในครั้งนั้นได้มีการเรียกร้องให้มีนายกฯ พระราชทานขึ้นในท่ามกลางการเคลื่อนไหวเพื่อขับไล่ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในห้วงเวลาดังกล่าว

ทั้งนี้ การเรียกร้องให้มี “นายกฯ พระราชทาน” ได้มีคำอธิบายว่าเป็นสิ่งที่พระมหากษัตริย์ทรงมีพระราชอำนาจที่จะกระทำได้ โดยการอ้างอิงถึงการแต่งตั้งนายสัญญา ธรรมศักดิ์ ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีภายหลังจากเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 เมื่อจอมพลถนอม กิตติขจร ได้ลาออกตำแหน่ง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงแต่งตั้งนายสัญญา ขึ้นดำรงตำแหน่งแทน ซึ่งในภายหลังได้มีการเรียกขานกันทั่วไปว่านายสัญญาเป็น “นายกฯ พระราชทาน”

อย่างไรก็ตาม มีลักษณะสำคัญบางประการในแง่มุมทางรัฐธรรมนูญซึ่งจำเป็นต้องตระหนักเป็นอย่างยิ่ง ดังต่อไปนี้

ตามความคาดหมายบทวิเคระห์ ของ อ.ปิยะบุตร แสงกนกกุล

ตามความคาดหมายบทวิเคระห์ ของ อ.ปิยะบุตร แสงกนกกุล
 
 
             
อ.ปิยบุตร แสงกนกกุล


สัปดาห์นี้... เป็นไปได้ว่าเราอาจเห็น

๑.) สส พรรคประชาธิปัตย์ลาออกทั้งหมด

๒.) สส พรรคฝ่ายค้าน และ สว บางส่วนได้ยื่นคำร้องถอดถอนสมาชิกรัฐสภา ๓๑๒ คน (ที่ลงมติให้ความเห็นชอบแก้ รธน) แก่ประธานวุฒิสภา ซึ่งประธานวุฒิสภาต้องส่งเรื่องให้ ปปช พิจารณาต่อตามมาตรา ๒๗๒

๓.) ศาลรัฐธรรมนูญเผยแพร่คำวินิจฉัยที่อ่านไปเมื่อวันที่ ๒๐ พ.ย. ออกมา

๔.) สุเทพและพวกเดินขบวน ยึดสถานที่ ทำให้ดูเหมือนว่าบ้านเมืองชิบหายหมดแล้ว

๕.) อธิการบดีทั้งหลายออกแถลงการณ์เสนอทางให้รัฐบาล สารพัดมหาวิทยาลัยร่วมด้วย

๖.) ปปช นำคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญนั้นมาใช้พิจารณาคำร้อง

๗.) ปปช พิจารณาว่าข้อกล่าวหามีมูล สมาชิกรัฐสภา ๓๑๒ คน ที่ลงมติให้ความเห็นชอบร่าง รธน แก้ไขเพิ่มเติม ต้องหยุดพักการปฏิบัติหน้าที่ (ผมไม่แน่ใจว่า นายกฯยิ่งลักษณ์ ลงมติด้วยหรือไม่)

๘.) สภาแทบจะไม่เหลือสมาชิก และจะมีผู้ออกมาตีความอธิบายว่า สภาไม่ครบองค์ประกอบ ทำงานไม่ได้

๙.) หากระหว่างนั้น นายกฯถูก ปปช ชี้มูลอีกเรื่อง ส่งผลให้นายกฯต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่อีก

ที่มาFB Piyabutr Saengkanokkul