นักศึกษา PERMAS สนับสนุนการเจรจา แต่ต้องสากล ยื่นหนังสือแก่รัฐไทย-มาเลย์ ทบทวนบทบาท
ผลสืบเนื่องจากงานเวที BicaraPatani (เสวนาปาตานี) ครั้งที่ 2 ในหัวข้อ
"28 กุมภา: สัญญาณบวกหรือลบต่อกระบวนการเจรจาสันติภาพที่ปาตานี"เมื่อวันที่
23 มีนาคมที่ผ่านมา ณ มอ.ปัตตานี โดยมีประชาชนเข้าร่วมกว่า 7,000 คน
และได้มีฉันทามติร่วมกันเป็นข้อเสนอจากคนในพื้นที่เพื่อยื่นให้แก่รัฐบาลไทย
และมาเลเซีย
เพื่อให้รัฐทบทวนถึงบทบาทของตนเองให้กระจ่างและชัดเจนอย่างตรงไปตรงมา
26 มี.ค. 56 เครือข่ายภาคประชาชนปาตานี
นำโดยสหพันธ์นิสิตนักศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ [PERMAS]
และองค์กรเครือข่ายเดินทางยื่นหนังสือจดหมายเปิดผนึกให้กับ ฯพณฯ ยิ่งลักษณ์
ชินวัตร
นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทยผ่านทำเนียบรัฐบาลและศูนย์อำนวยการบริหาร
จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และยื่นหนังสือจดหมายเปิดผนึกให้กับ ฯพณฯ
นาจิบ ราซัก
นายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซียผ่านสถานเอกอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย
และสถานกงสุลใหญ่มาเลเซีย ประจำจังหวัดสงขลา
PERMAS ในพื้นที่ยื่นจดหมายแก่รัฐไทยผ่าน ศอ.บต. และรัฐมาเลย์ผ่านกงสุลมาเลย์ สงขลา
สถาบันกษัตริย์กับการเมืองไทย
File เสียง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2013 ดาวน์โหลดที่นี่
โดย รศ. ดร. ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์
ดั่งที่ได้เคยเกริ่นไว้ก่อนหน้าแล้วว่า เนื้อหาสาระในการพบปะเสวนาของ RED
USA ที่จัดขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2013 ที่ผ่านมา
เต็มไปด้วยความเข้มข้นเร่าร้อนไปตามความร้อนแรงของปรอทการเมืองไทย โดย
อาจารย์ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ในหัวข้อ "สถาบันกษัตริย์กับการเมืองไทย" ซึ่งเป็นการตอบโจทก์ข้อกังขาว่า เหตุใดประเทศไทยจึงแตกแยกร้าวลึกในปัจจุบัน
ข้อกังขาที่ก่อเกิดเป็นคำถามว่าความวุ่นวายและความแตกแยกที่มีมาก่อนการรัฐ
ประหารเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2549
ผ่านมาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลานานกว่า 6 ปี
เหตุใดจึงไม่โรยรานอกจากไม่โรยราแล้ว ความวุ่นวาย แตกแยกยังเพิ่มแรงสั่นไหวและขยายบริบทของความเกลียดชังไปสู่ทุกหลักเขตของสังคมไทย
เมื่อมี "ผล" ก็ต้องมี "เหตุ" ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ที่แยกออกจากกันไม่ได้ ตามหลักคำสั่งสอนขององค์ตถาคต