"ศตวรรษนี้ UN อย่าเสือก USA อย่าจุ้น"

 

เชิญสนับสนุนนักโทษการเมืองเสื้อแดงและครอบครัว

โอนเงินทุกเดือนไปที่บัญชีธนาคารนี้ได้ (ผ่าน ทนายอานนท์ นำภา)

Support Red Shirt Political Prisoners and their families

Regular payments are helpful.

You can send money via the lawyer Anon Numpa to:

 

บัญชี:

Account Names: Mr.Yuttakan Sopunna and/or Mr.Arnon kamsanit and/or Mr.Anon Numpa Bank Name: Siam Commercial Bank Public Company Limited, Bank Branch: Sriwara , Account Number: 140-256597-9 , Swift Code: SICOTHBK

แฉ"เผด็จการ"ตายธรรมชาติไม่ใช่เรื่องแปลก ส่วนใหญ่"ลาโลก"อย่าง"สงบสุข"

การ เสียชีวิตจากอาการหัวใจวาย หรือเสียชีวิตทางธรรมชาติ ของนายคิม จอง อิล ผู้นำเกาหลีเหนือ ได้ชูภาพของความเป็นจริงที่ไม่น่าอภิรมย์เกี่ยวกับชะตากรรมบทสุดท้ายของ เผด็จการผู้กดขี่ แต่จริงๆ แล้ว ในโลกความเป็นจริงพบว่า เผด็จการจำนวนมาก มักจะมีชีวิตยืนยาวและตายอย่างสงบสุข โดยบุคคลที่กดขี่ผู้อื่นไม่จำเป็นจะต้องเสียชีวิตด้วยคมหอกคมดาบหรือเผชิญ ความรุนแรงเหมือนที่เขากระทำต่อผู้อื่น ทั้งนี้ หนังสือชื่อ"The Great big Book of Horrible Things": The Definitive Chronicle Of History′s Worst Atroticies"ได้ติดตามชะตากรรมของผู้นำส่วนใหญ่ที่รับผิดชอบต่อเหตุการณ์การ เสียชีวิตของมนุษย์ 100 บุคคล และพบว่า เผด็จการเหล่านี้ส่วนใหญ่ ส่วนมีอายุขัยยืนยาวและเสียชีวิตอย่างสงบสุข โดย 60 % ของผู้กดขี่และผู้กระหายสงครามที่รับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของเหตุการณ์การ เสียชีวิตหมู่ของมนุษย์ชาติ มักมีชีวิตอย่างมีความสุขหลังจากก่อเหตุสังหารหมู่ หนังสือดังกล่าวระบุว่า ตัวอย่างของเผด็จการเหล่านี้ คือ โจเซฟ สตาลิน เผด็จการแห่งสหภาพโซเวียต และว่า เผด็จการ 49 % เปอร์เซนต์ ที่รับผิดชอบต่อเหตุการณ์สังหารหมู่ จะปกครองประเทศและเสียชีวิตด้วยอาการธรรมชาติ 11 % ก้าวลงจากอำนาจอย่างสงบ ขณะที่ 8 % ต้องลี้ภัยก่อนเสียชีวิตด้วยอาการทางธรรมชาติ ในส่วนของเผด็จการที่เสียชีวิตไม่ดีหรืออย่างอนาถ 9 % ถูกไต่สวนและถูกประหาร 8 %  ถูกลอบสังหาร  7 % เสียชีวิตระหว่างการสู้รบ และ 4 % ฆ่าตัวตาย (อ่านต่อ) http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1324447801&grpid=&catid=06&subcatid=0600

คุยเรื่องเพศวิถีกับชลิดาภรณ์(1) : ที่เราเป็นทุกข์เพราะรักเดียวใจเดียว

 

 

รับชมข่าว VDO
http://www.matichon.co.th/mtc-flv-window.php?newsid=1324524063


"...ชนชั้นกลางจึงให้คุณค่ากับรักเดียวใจเดียวสูงมาก ดังนั้นคนจึงตกใจเพราะผลสำรวจนี้ไม่สอดคล้องกับสิ่งที่สังคมบอกว่าดี"

"ดังนั้นเราจึงโมโหเมื่อจับว่าแฟนเรามีกิ๊ก ขณะที่มันตีหน้าซื่อเพราะงงว่า มันทำผิดอะไร นี่คือปัญหาส่วนหนึ่งเพราะเราต่างคิดว่า คำว่านอกใจของเธอและฉันต้องเหมือนกัน ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วเรื่องเพศวิถีไม่มีทางที่ทุกคนจะคิดหรือรู้สึกเท่า กันได้ ไม่มีทาง (เน้นเสียง)"

"ถ้าเราไม่รักเดียวใจเดียวกลายเป็นว่า เราผิดทำศีลธรรม ทั้งที่ความเป็นจริงเราเพียงทำผิดกติกาที่สังคมวางไว้ แล้วเครื่องมือที่ทำให้มนุษย์ปฎิบัติตามศีลธรรมก็คือ การกลัวถูกประนาม นั่นจึงเป็นคำตอบว่าทำไมสังคมชอบรุมประณามดาราที่ทำผิดศีลธรรม  มันทำให้คนที่ประณามดาราอยู่นั้นรู้สึกดี รู้สึกว่า ฉันเนี่ยเป็นคนดีนะ"

"เวลาเกิดเหตุการณ์นอกใจมันกระทบหัวใจทุกเศร้าในรักสามเศร้าเลย ทุกคนเจ็บปวดเหมือนกันหมด นั่นก็เพราะกรอบกติกาที่สังคมบอกว่ามนุษย์ควรจะรักเดียวใจเดียว ไม่เคยมีใครตั้งคำถามกับกรอบกติกานั้น แม้ว่ามันจะทำให้มนุษย์ต้องเจ็บปวดกันอยู่ตั้งมากมาย"

---

แม้ปฎิกิริยาที่แต่ละคนที่มีต่อผลสำรวจนี้จะแตกต่างกันไป แต่กลับไม่มีใคร "ตั้งคำถาม" ถึงแนวคิด "รักเดียวใจเดียว"

(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1324524063&grpid=01&catid=&subcatid= 

"เกาหลีเหนือ"ข้อเท็จจริงบางประการ ที่คุณ (อาจจะ) ยังไม่รู้

ต่อไปนี้เป็น ความจริงบางประการเกี่ยวกับประเทศที่ชื่อ "สาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนเกาหลี" (Democratic People′ s Republic of Korea: DPRK) หรือ "เกาหลีเหนือ":

-เกาหลีเหนือมีกองกำลังทหารจำนวน 1 ล้านคนจากประชากรทั้งหมด 23 ล้านคนในประเทศ โดยรัฐบาลใช้งบประมาณร้อยละ 25 ของจีดีพีไปกับการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับกองทัพ เกาหลีเหนือยังจัดเป็นประเทศที่มีแสนยานุภาพทางทหารใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลก

-ขณะเดียวกัน เกาหลีเหนือก็เป็นประเทศที่ประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรง ประชากรส่วนใหญ่ในประเทศไม่ได้รับอาหารเพียงพอในแต่ละวัน

เมื่อกลางทศวรรษที่ 1990 ซึ่งเป็นช่วงที่เกาหลีเหนือประสบกับความผิดพลาดในการบริหารประเทศของรัฐบาล และต้องประสบกับภาวะน้ำท่วมนั้น ยูเอ็นได้ประมาณการว่า ประชาชนเกาหลีเหนือประมาณ 5 แสนถึง 2 ล้านคนต้องเสียชีวิตจากภาวะทุพโภชนาการ
(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1324524863&grpid=&catid=02&subcatid=0202

คุณปลื้มบอก"คุณไม่ต้องพยายามทำให้เหลืองกับแดงรักกัน เพราะ...."




 
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=224031087671844&set=a.102699386471682.5450.100001948626532&type=1&theater

ดร.สุเมธ ถามทำไมต้องแก้ม.112 ชี้ถ้าไม่ผิดใครก็จับเข้าคุกไม่ได้



กฎหมายออกแบบไว้สำหรับคนทุกคนไม่ใช่ไปแก้เพื่อคนใดคนหนึ่ง

ผู้ สื่อข่าว Mthai News รายงานจาก หน่วยบัญชาการทหารพัฒนากองบัญชาการกองทัพไทย จ.ปทุมธานี ว่า ดร. สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา บรรยายพิเศษเรื่องการปฏิบัติตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยพระยุคลบาท โดยมี พล.อ.ดุลกฤต รักษ์เผ่า ผู้บัญชาการหน่วยทหารพัฒนาให้การต้อนรับ

ทั้ง นี้ ดร. สุเมธ ให้สัมภาษณ์เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงว่า ไม่ว่าอาชีพใด เช่น นักการเมือง ครู อาจารย์ พ่อค้า นำไปใช้ได้ทั้งนั้น ซึ่งมีหลักคิด 3 ประการ คือ ความพอประมาณของตัวเอง จนรู้จักตัวเอง เรื่องเงินทอง การดำเนินการไปข้างหน้าจึงใช้เหตุผลเป็นเครื่องนำทาง อย่าใช้กิเลสตัณหา เพราะถ้าใช้กิเลสก็จะเกิดความพินาศระดับประเทศจนถึงตัวบุคคลจนไม่สามารถเดินหน้าได้ ให้ใช้เหตุผล สติและปัญญาเป็นเครื่องนำทาง และมีธรรมะข้อที่ 3 คืออย่าประมาท ถึงแม้จะทำอะไรเกินตัวแต่ความไม่แน่นอนก็มีเหมือนกันพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้น ก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นต้องระมัดระวังสร้างภูมิคุ้มกันตั้งแต่บัดนี้

การ จะดำเนินการใดๆก็ตามเราไม่ได้ปิดประตูไม่คบหาใครเราต้องรอบรู้เหตุการณ์รอบๆ บ้านและรอบโลก เขามีความเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน เราจะได้ปรับให้เข้ากับยุคสมัยได้ สำหรับเรื่องคุณธรรม ธรรมาภิบาล จริยธรรม ต้องมีศีลธรรมและคุณธรรม อย่ากิน อย่าโกง อย่าทุจริตครรัปชั่นจะมีชีวิตที่สมดุลและยั่งยืนทั้ง นี้ มองว่หากรัฐบาลซึ่งมีอำนาจในการบริหารบ้านเมืองควรนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาใช้หรือนั้นก็มองว่าใครจะมีอาชีพอะไรใช้ได้ทั้งนั้น และต้องใช้ด้วย ถ้าหากจะยึดธรรมะเป็นที่พึ่ง ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง สื่อ ประชาชน หาก ใครไม่ใช้ธรรมะ ตนคิดว่าเสี่ยง ขณะที่ ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในขณะนี้จะเกิดปัญหาขึ้นมา เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรืออีกหลายเรื่องที่มองว่าทำ เพื่อคนๆเดียวนั้นควรใช้เศรษฐกิจพอ เพียง เหตุผลเป็นเครื่องนำทาง คำว่ามีเหตุมีผลอะไรที่ถูกต้อง อะไรที่เป็นธรรมะโดยมีความยุติธรรม และถ้าทุกอย่างดำเนินการถูกต้องปัญหาไม่น่าจะมี ส่วน การแก้ไขกติกาสูงสุดของประเทศเพื่อคนๆเดียวถูกต้องหรือนั้น ตนคิดว่านั่นคือหลักสากลสำหรับคนทั่วไป กฎหมายออกแบบไว้สำหรับคนทุกคนไม่ใช่ไปแก้เพื่อคนใดคนหนึ่ง ก็แน่นอนที่สุด

ขณะ เดียวกัน การแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้นมองว่ากฎหมายอาญามีตั้งกี่ร้อย กี่พันมาตรา ทำไมจำเพาะเจาะจงถึงต้องแก้อันนี้ กฎหมายคือกฎหมาย ถ้าเราไม่ทำผิดเขาก็อยู่ในกระดาษเท่านั้นเอง ก็อย่าทำผิดก็เท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายอาญาหรือกฎหมายอะไรต่างๆเราต้องแก้ด้วยหรือ หากเราไม่ไปฆ่าใคร ก็คงไม่มีใครมาจับไปขังเข้าคุก แต่ตราบใดที่เราทำผิดกฎหมายนั้นถึงออกมาใช้ได้ ซึ่งเหมือนกันหมด

เมื่อ2-3วัน ที่ผ่านมาเพื่อนมาเล่าให้ฟังว่า มีคนแต่งโคลงกลอนล้อประธานาธิบดี ถูกติดเข้าคุกเลย ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเป็นมาตราอะไร ของฝรั่งเขาตนไม่ได้สนใจอะไรหรอก แต่เขาก็โดนลงโทษที่ไหนในโลกนี้เขาก็มีกันทั้งนั้น ก็ไม่รู้มีเหตุผลหรือเปล่า ถ้ามีเหตุผลพอฟังได้ ถ้าไม่มีเหตุผลก็ไม่ต้องฟัง

นอก จากนี้ เรื่องอาจจะทำให้ถูกปลุกปั่นจนเกิดเผชิญหน้าของประชาชน 2 กลุ่ม หรือไม่นั้น ส่วนตัวมองว่าไม่รู้ต้องไปถามคนปลุกปั่น ตนไม่ได้ปลุกไม่ได้ปั่น และก็ไม่เคยถูกปลุกถูกปั่นก็เลยไม่รู้
 


(ที่มา)
http://news.mthai.com/politics-news/146622.html

ไอ้เมธนี่มันได้ ดร.มาแบบไหนฟ๊ะ 
เบื่อกับคำว่า "คุณธรรม" "จริยธรรม" "พอเพียง" "ศิลธรรม" "จรรยาบรรณ" จากปากพวกเอ็งจริงๆฟ่ะ มันเฟ้อเสียจนเลี่ยน
สิ่ง พี่พวกเอ็งทำคือ ยกย่องกลุ่มคนเหนือกฏหมาย และเหยียบย่ำบุคคลใต้กฏหมาย แบบนี้ยังมีหน้ามาพูดคำพูดแบบนี้อีกเร๊อะ อย่าคิดว่าคนไทยโง่แล้วเอ็งจะจูงจมูกได้ตลอดไป อีกไม่นานตำแหน่งหัวโขนของเอ็งก็คงไม่จำเป็นต้องมี (เพราะไม่เห็นมีประโยชน์ตรงไหนนอกจากออกมาเสนอหน้าโพรพากานดา พวกเดียวกันเอง)
ไม่ต้องถามว่าทำไมต้องแก้ ทั้งๆที่เอ็งก็รู้อยู่เต็มอก แต่แกล้งปัญญาอ่อนทำไม่รู้

ขอตอบตามที่คณะนิติราษฎร ตอบ
กฎหมายนี้มีปัญหาตั้งแต่หลักการ
โทษที่หนักเกินไป
และการฟ้องคดีที่ใครก็ฟ้องได้
กฎหมายนี้มีปัญหาในตัวของมันเองอยู่แล้ว 
ไม่อย่างนั้นก็คงไม่มีใครต่อต้าน
หากกฎหมายมันดีจริงๆ อย่างที่โฆษณากัน คงไม่มีคนออกมาต่อต้านมากมายขนาดนี้