หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2555

"ต่อต้านวอลล์สตรีท"ในโอ๊กแลนด์เดือดอีกรอบ สหรัฐรวบผู้ประท้วงกว่า 400 คน

"ต่อต้านวอลล์สตรีท"ในโอ๊กแลนด์เดือดอีกรอบ สหรัฐรวบผู้ประท้วงกว่า 400 คน






 

เจ้าหน้าที่ตำรวจเมืองโอ๊กแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ รวบตัวผู้ประท้วงต่อต้านวอลล์สตรีทได้มากกว่า 400 คน หลังการปะทะกับตำรวจที่ฉีดแก๊สน้ำตาและยิงถุงถั่วสลายฝูงชน เป็นการจับกุมครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งตั้งแต่การประท้วงต่อต้านวอลล์สตรี ทถือกำเนิดขึ้นเมื่อปีก่อน 


 

เมืองโอ๊กแลนด์กลายเป็นจุดปะทะรุนแรงในการประท้วงต่อต้าน วอลล์สตรีทเพื่อต่อต้านความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจระหว่างคนจนและคนรวย ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากย่านวอลล์สตรีทในนครนิวยอร์ก และลุกลามไปตามเมืองใหญ่ทั่วประเทศ ซึ่งการประท้วงเป็นไปด้วยความสงบ และก่อให้เกิดการถกเถียงกันถึงประเด็นที่คนร่ำรวยที่มีเพียง 1% สามารถครอบครองกิจการส่วนใหญ่ของประเทศ

ทั้งนี้ ผู้ประท้วงยังคงเรียกร้องให้มีการค้นหาความจริง หลังจากอดีตนาวิกโยธินนายหนึ่งบาดเจ็บสาหัสจากการประท้วงเมื่อเดือนตุลาคม ผู้ประท้วงระบุว่า เขาถูกกระป๋องแก๊สน้ำตาขว้างมาถูกศีรษะอย่างจัง ขณะที่ทางการไม่เคยชี้แจงว่าเกิดอะไรขึ้น


(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1327892159&grpid=&catid=06&subcatid=0600

ปิดฉาก"ดาวอส" คาดหนี้ยุโรปอยุ่ในวิสัยควบคุมได้ ยึดดาวอสกระแนะกระแหน"มีทติ้งคนรวย1%"

ปิดฉาก"ดาวอส" คาดหนี้ยุโรปอยุ่ในวิสัยควบคุมได้ ยึดดาวอสกระแนะกระแหน"มีทติ้งคนรวย1%"




เสียงวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มยึดดาวอสว่า การประชุมดาวอสในครั้งนี้เป็นการพบปะกันของ "กลุ่มคนที่รวยที่สุดในโลก 1%" ทั้งนี้ จากศัพท์ที่กลุ่มยึดวอลล์สตรีทมักใช้เรียกนักธุรกิจชั้นนำและผู้ทรงอิทธิพล ทางเศรษฐกิจของโลก


(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1327909851&grpid=&catid=06&subcatid=0600

"ตู้ทิ้งเด็ก" ทางเลือกไม่น่าพิสมัยสำหรับแม่"ผู้ไม่พร้อม"ในรัสเซีย

"ตู้ทิ้งเด็ก" ทางเลือกไม่น่าพิสมัยสำหรับแม่"ผู้ไม่พร้อม"ในรัสเซีย


เพื่อหาทางแก้ปัญหาทารกเกิดใหม่ถูกทอดทิ้งตามถังขยะ จากแม่ที่ยังไม่มีความพร้อม หลายเมืองในรัสเซียเริ่มใช้วิธีการใหม่ โดยใช้"ตู้ทิ้งเด็ก" (baby drop boxes) เพื่อให้เด็กๆเหล่านั้นยังคงปลอดภัยแม้ไม่มีใครดูแล





จากปัญหาเศรษฐกิจ ที่เป็นปัจจัยบีบบังคับให้จำนวนทารกที่ถูกทอดทิ้งไว้ตามที่ทิ้งขยะและหน้า ประตูบ้านมีจำนวนมากขึ้น จากมารดาที่เกรงว่าตนเองจะไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรได้

จากประเด็นดังกล่าว ทำให้สำนักงานสาธารณสุขท้องถิ่นของรัสเซียริเริ่มโครงการใหม่นั่นคือ ตู้รับทารกแรกเกิด หรือ "ตู้ทิ้งเด็ก" รายงานระบุว่า เริ่มมีการติดตั้งตู้ดังกล่าวเมื่อเดือนพฤศจิกายนตามเมืองต่างๆ อาทิ โซชี, โนโวรอสซิสก์ และอาร์มาเวีย ในเขตปกครองคราสโนดาร์ โดยภายในระยะเวลาเพียงเดือนเดียวหลังจากติดตั้ง มีเด็กที่ถูกทิ้งแล้ว 1 คน เป็นทารกเพศหญิง ซึ่งยังคงมีสุขภาพดี และถูกส่งต่อไปยังเจ้าหน้าที่หน่วยรับเลี้ยงเด็กแล้ว ซึ่งเชื่อว่าจะมีผู้ใจบุญรับอุปการะเธอต่อไป
 
(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1327922122&grpid=&catid=06&subcatid=0600
Anti REDUDD ประจำวันที่ 30-01-55 ฝากคำเตือนถึงเพื่อไทย


http://www.ustream.tv/recorded/20112710 

"ทุนนิยม" ความล้มเหลวของตลาดเสรี ถึงเวลาหรือยังสำหรับ"โมเดลเศรษฐกิจ"แบบอื่น?

"ทุนนิยม" ความล้มเหลวของตลาดเสรี ถึงเวลาหรือยังสำหรับ"โมเดลเศรษฐกิจ"แบบอื่น?

 


 

แกรมม์ แม็กซ์ตัน (Graeme Maxton) หนึ่งในนักวิชาการแห่งเดอะคลับออฟโรม (the Club of Rome) ซึ่งเป็นองค์การไม่แสวงหากำไรที่ทำหน้าที่วิจัยและผลิตองค์ความรู้ในประเด็น การเมืองระหว่างประเทศได้เขียนบทความที่ชื่อ Free market failure: Isn′t it time to consider a different model? (ความล้มเหลวของตลาดเสรี: ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะหันมาคิดถึงโมเดลเศรษฐกิจแบบอื่น) ในเว็บไซต์บีบีซี แม็กซ์ตันกล่าวว่า ขณะที่ทั้งนักการเมือง นักการธนาคาร และนักเศรษฐศาสตร์ตะวันตกต่างก็พร่ำบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เราจะต้องออกไปช้อปปิ้ง เราควรจะจ่ายภาษีน้อยๆ และพิมพ์ธนบัตรเพิ่ม ทั้งนี้เพื่อที่จะแก้ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำที่กำลังเกิดขึ้น


ทว่า วิธีคิดเหล่านี้รังแต่จะทำให้ปัญหาเลวร้ายลงไปอีก อันจะเห็นได้จากสิ่งที่ยุโรปและสหรัฐอเมริกากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ นอกจากนี้แล้ว นักการเมืองและผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ยังไม่มีความจริงใจในการนำเสนอนโยบาย พวกเขาปฏิเสธที่จะพิจารณาถึง "ทางเลือกอื่นๆ" แม้ว่าทางเลือกเหล่านั้นดูจะให้คำตอบที่ดีกว่า


(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1327902515&grpid=&catid=06&subcatid=0600

"เกษียร เตชะพีระ" แย้ง "นิติมธ.2501" ถามใจคอจะไม่ให้คณะก้าวหน้าจากยุคสฤษดิ์เลยหรือ?



ภาพที่โพสต์

จากกรณีชมรมนิติมธ.2501 ออกแถลงการณ์และทำจดหมายเปิดผนึกเรียกร้องอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดำเนินการห้ามไม่ให้มีการใช้สถานที่ของม.ธรรมศาสตร์รณรงค์ยกเลิกหรือแก้ไข รัฐธรรมนูญมาตรา 8 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 อันเป็นพฤติกรรมเหิมเกริมจาบจ้วงต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบใด และให้กลุ่มอาจารย์นิติราษฎร์ ซึ่งประกอบด้วยอาจารย์ชายหญิงคณะนิติศาสตร์ 5 คน และคณะอื่นอีกบางคณะ ให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่อาจารย์ทันที เพื่อไม่ให้นักศึกษารับความคิดมิจฉาทิฐิมาเป็นแบบอย่างต่อไป พร้อมทั้งให้มีการดำเนินการสอบสวนเพื่อลงโทษทางวินัยกลุ่มอาจารย์นิติราษฎร์ ซึ่งมีการแสดงออกอย่างชัดเจนว่า เป็นผู้ไม่นิยมเลื่อมใสการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรง เป็นพระประมุข ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ข้าราชการไทยทุกคนจะต้องมี

นายเกษียร เตชะพีระ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้แสดงความเห็นต่อกรณีดังกล่าวผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ก ดังนี้


มาตรา 50 บุคคลย่อมมีเสรีภาพในทางวิชาการ การศึกษาอบรม การเรียนการสอน การวิจัยและการเผยแพร่งานวิจัยตามหลักวิชาการย่อมได้รับความคุ้มครอง ทั้งนี้เท่าที่ไม่ขัดต่อหน้าที่ของพลเมืองหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน - เปิดดีเบตกันเลยว่าสิ่งที่นิติราษฎร์ทำขัดต่อหน้าที่ของพลเมืองหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนหรือไม่? ถ้าไม่ ก็มีสิทธิทำได้ตามม.50 ของรธน.ปัจจุบัน คนที่จบนิติศาสตร์เชิญแสดงความเคารพรัฐธรรมนูญให้สมเป็นศิษย์เก่าหน่อย


(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1327904566&grpid=&catid=03&subcatid=0305

รายงาน: 10 ปีทวงคืนสัญชาติไทย ใครจะเป็นประชาชนอาเซียน...เมื่อคนไทยยังไร้สัญชาติ

รายงาน: 10 ปีทวงคืนสัญชาติไทย ใครจะเป็นประชาชนอาเซียน...เมื่อคนไทยยังไร้สัญชาติ

 


ตัวแทนคนไทยพลัดถิ่นไปจำนวน 6 คนเดินทางไปพบกับสื่อต่างๆ ด้วยตัวเอง เช่น เนชั่น คมชัดลึก เดลินิวส์ แนวหน้า มติชน ช่อง 5 ช่อง 3 ช่อง 7 ช่อง 11 เพื่อบอกเล่าเรื่องราวชีวิตของตนเอง ให้สื่อมวลชนเห็นถึงปัญหาจากร่างพระราชบัญญัติสัญชาติฯ มาตรา 3 ที่จะส่งผลต่อพี่น้องไทยพลัดถิ่น 90 เปอร์เซ็นที่อยู่ในเครือข่ายฯ จะไม่สามารถเข้ารับสิทธิตามพระราชบัญญัติฉบับนี้ ที่กำลังจะผ่านที่ประชุมวุฒิสภา ในวันจันทร์ที่ 30 มกราคม 2555 นี้

“อีกสองเดือนหนูก็จะจบ ม.3 แล้ว หนูก็ยังไม่รู้เลยว่าจะไปเรียนต่อที่ไหน อนาคตหนูจะเป็นอย่างไร ฐานะทางบ้านหนูก็ยากจนเสียเหลือเกิน ปัญหาใหญ่ระดับประเทศก็รุมเร้าจนหนูเองเกือบจะหมดหวังกับผู้ใหญ่ในบ้านเมือง นี้แล้ว หนูเป็นคนไร้สัญชาติ มันทำให้หนูมองไม่เห็นอนาคตตัวเองเลย ความฝันหนูคงต้องพังทลายลงแน่ เส้นทางชีวิตที่หนูฝันไว้ หนูอยากเป็นนักพัฒนาชุมชน อยากนำความรู้ไปพัฒนาหมู่บ้าน” ชาลิด้า ขุนภักดี กล่าวอย่างสิ้นหวัง

“ถ้ายายมีโอกาสได้บัตรประชาชนแล้วยายตาย ไม่ต้องไปแจ้งตายหรอก...ให้เผาบัตรประชาชนพร้อมไปกับยาย เผื่อเกิดชาติหน้า..ยายจะได้เกิดเป็นคนมีบัตรประชาชน” ยายบี วัย 63 ปี ตอกย้ำอีกคน

 

(อ่านต่อ) 

http://www.prachatai.com/journal/2012/01/39001