หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ส่งท้ายปี ข่าวย่ำอยู่กับที่

ส่งท้ายปี ข่าวย่ำอยู่กับที่




ส่งท้ายปี ข่าวย่ำอยู่กับที่ ตอนที่ 1: การคว่ำบาตรการเลือกตั้งครั้งที่ 3 ของพรรคประชาธิปัตย์
 
"พฤติกรรมของพรรคประชาธิปัตย์ นำมาสู่คำถามว่า การเมืองไทยถอยหลัง หรือพรรคประชาธิปัตย์ต่างหากที่ไม่เดินหน้า จึงทำให้เกิดการตัดสินใจที่วนลูป ประชาไทคุยกับ ประจักษ์ ก้องกีรติ อาจารย์รัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถึงการตัดสินใจครั้งนี้ของพรรคการเมืองที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย การเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นเช่นไร พรรคประชาธิปัตย์จะตายจากการเมืองไทยไปหรือไม่ และอะไรทำให้พรรคประชาธิปัตย์เดินเกมสุดโต่งเช่นนี้"

(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2013/12/50767 


ส่งท้ายปี ข่าวย่ำอยู่กับที่ตอน 2: นักโทษการเมือง-112 ฉลองปีใหม่ในเรือนจำ..ปีที่เท่าไร
 
รวมคดีนักโทษการเมืองหลังสลายการชุมนุม พ.ค.53 ที่พลาดหวังจากพ.ร.บ.นิรโทษกรรม และรายละเอียดคดีมาตรา 112 ในรอบปี 2556

ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ปกติจะมีการจัดอันดับสุดยอดด้านต่างๆ โดยสื่อหลากสำนัก และประชาไทได้พยายามหาประเด็นมานำเสนอทุกๆ ปี อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ กองบรรณาธิการเห็นว่า ในรอบหลายปีที่ผ่านมา หลายสิ่งหลายอย่างในประเทศไทยมีเพียงประเด็นวนเวียนและย่ำเท้าอยู่กับที่ จึงได้ทำการคัดเลือกประเด็นย่ำอยู่กับที่-วนลูป ของชาติมานำเสนอทดแทนการจัดอันดับพิเศษ

(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2013/12/50825 


ส่งท้ายปี ข่าวย่ำอยู่กับที่ ตอน 3: การต่อสู้ภาคประชาชน กับข้อเสนอการปฏิรูป... เหล้าเก่าในขวดใหม่?!?

"ปฏิรูปการเมือง ปฏิรูปโครงสร้างอำนาจ ปฏิรูประบบรัฐสภา ปฏิรูปการปกครองส่วนท้องถิ่น ปฏิรูประบบการเงินการคลังของประเทศ ปฏิรูปการจัดการและการเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติ ปฏิรูปที่ดิน ปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ ปฏิรูปการศึกษา ปฏิรูประบบสุขภาพ ปฏิรูปอำนาจตุลาการและกระบวนการยุติธรรม ปฏิรูปกฎหมายต้านคอรัปชั่น ฯลฯ หลากหลายข้อเสนอการปฏิรูประรอกล่าสุดของภาคประชาสังคม ซึ่งไม่ใช่ไม่เคยเกิดขึ้น

ในสายตาคนนอก ประเด็นของภาคประชาสังคมดูเหมือนไม่ขยับขับเคลื่อนไปมากนัก จากข้อเรียกร้องหลายกรณีที่เกิดขึ้นซ้ำๆ กับปัญหาเดิมๆ ที่แก้ไขไม่ได้หากไม่มีการปฏิรูปโครงสร้างอย่างแท้จริง ตามที่เป็นข่าวรายวันรายปีให้เห็นจนชินตา เพียงแต่หนักหนาสาหัสมากน้อยแล้วแต่กรณี ดูเหมือนวิกฤติการณ์การเมืองจะกลายเป็นจังหวะให้ภาคประชาสังคมได้ฉกฉวยมา เป็นเครื่องมือเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลง แต่ขณะเดียวกันข้อเสนอ ‘ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง’ ก็กลายมาเป็นเงื่อนล็อกทางการเมือง"

(อ่านต่อ)
http://prachatai.com/journal/2013/12/50837

ส.ค.ส. 2557 Happy New Year 2014

ส.ค.ส. 2557 Happy New Year 2014


+1cd+1cd



Pete Seeger - We shall overcome
http://www.youtube.com/watch?v=QhnPVP23rzo
 

สวัสดีปีใหม่แด่ทุกๆท่านครับ
 
We Shall Overcome.

เราจะฝ่าข้ามไปไม่ท้อแท้
เราฝ่าข้ามพ้นแน่ สักวันหนึ่ง
เชื่อมั่นโดยรู้สึกอันลึกซึ้ง
เราจักข้ามไปถึงโดยทั่วกัน

เดินกุมมือกันมั่นไม่หวั่นไหว
เรากุมมือกันไปไม่ไหวหวั่น
ลึกลงในหัวใจไม่กี่วัน
เราจะฝ่าข้ามมันอย่างแน่นอน

เราจะพบคืนวันสันติภาพ
ภาพสันติฉายฉาบรังสีสะท้อน
หัวใจเชื่อมั่นว่าภราดร
สันติภาพสถาพรจะเป็นจริง

เราไม่กลัวอะไรและไม่หนี
ไม่กลัวแล้ววันนี้ในทุกสิ่ง
ทั้งเชื่อมั่นสุดใจไม่ทอดทิ้ง
เดินและวิ่งรุดหน้าฝ่าข้ามไป

หมดทั้งโลกกว้างใหญ่อันไพศาล
โจนทะยานสง่างามข้ามไปได้
ต้องมีสักวันหนึ่งถึงเส้นชัย
เราจะฝ่าข้ามไปได้แน่นอน.

We shall overcome, we shall overcome
We shall overcome someday
Oh deep in my heart, I do believe
That we shall overcome someday

We'll walk hand in hand, we'll walk hand in hand
We'll walk hand in hand someday
Oh deep in my heart, I do believe
That we shall overcome someday

We shall live in peace, we shall live in peace
We shall live in peace someday
Oh deep in my heart, I do believe
That we shall overcome someday

We shall brothers be, we shall brothers be
We shall brothers be someday
Oh deep in my heart, I do believe
That we shall overcome someday

The truth shall make us free, truth shall make us free
The truth shall make us free someday
Oh deep in my heart, I do believe
That we shall overcome someday.

We are not afraid, we are not afraid
We are not afraid today
Oh deep in my heart, I do believe
That we shall overcome someday
.....
 
 
 

วันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2556

เราอาจเข้าสู่โหมด เลือดล้างแผ่นดิน ด้วยกัน อะไรจะเกิด ก็ต้องเกิด!?!

เราอาจเข้าสู่โหมด เลือดล้างแผ่นดิน ด้วยกัน อะไรจะเกิด ก็ต้องเกิด!?!



Photo


ฝ่ายทหาร มองเกมไว้แล้วว่า ต้องเป็นคนปิดฉาก ปิดบนซากศพ ที่อาจจะมากกว่า 6 ตค.19 และ 19 พค 53

บทวิเคราะห์ โดย อ.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์

แนวทางของนายกฯยิ่งลักษณ์ก็คือ จะยอมถอยทุกอย่าง ยอมให้ทุกเรื่อง และจะไม่ใช้กำลังกับม็อบเถี่อนโดยเด็ดขาดไม่ว่าตำรวจจะสูญเสียสักเท่าไร แต่จะไม่ยอมอยู่เรื่องเดียวคือ การลาออกจากตำแหน่งรักษาการนายกฯ ถ้าอยากให้ออกไป ก็ต้องมาปลดหรือทหารยึดอำนาจเท่านั้น

ฉะนั้น ฉากต่อไปที่เราจะได้เห็นจึงเป็นการจัดการกับนายกฯยิ่งลักษณ์โดยตรงด้วยการใช้เครื่องมือ เช่น ปปช.หรือศาลรธน. ให้นายกฯยิ่งลักษณ์ต้องหยุดหรือต้องพ้นสภาพไป ผมคาดว่า สิ่งนี้จะเกิดขึ้นอย่างช้าปลายเดือนมกราคม

ขั้นต่อไป ให้ปปช.ฟันสส.และสว.300 กว่าคน ให้วุฒิสภาเหลือแต่พวกสว.ลากตั้งและสว.เลือกตั้งที่รับใช้เผด็จการ (สว.ภาคใต้และกทม.)

ส่วนการจัดการกับคณะรัฐบาลนั้น อาจใช้ปปช.ไล่ฟันรัฐมนตรีไปเรื่อยจนหมดทั้งครม. แต่วิธีการนี้อาจช้าไม่ทันใจ ก็อาจใช้วิธีรัฐประหารด้วยทหารอย่างแนบเนียน เช่น ให้ม็อบติดอาวุธเข้าจับกุมขับไล่คณะ รัฐบาลทั้งหมด อ้างเป็น "การปฏิวัติโดยประชาชน" แต่ที่จริงแล้วคือ เป็นทหารนอกเครื่องแบบ รับคำสั่งมาจากหน่วยเหนือ ล้มรัฐบาลสำเร็จ 

ตระกูลชินวัตรและเครือข่ายจะหนีกันอุตลุดไปนอกประเทศ

ขั้นต่อไป สว.ลากตั้งและเลือกตั้งที่เหลือ "ทำหน้าที่แทนรัฐสภา" เสนอชื่อนายกฯคนใหม่เข้ามา จัดตั้งรัฐบาลเผด็จการ ใช้มาตรการพิเศษกวาดล้างเสื้อแดงทั่วประเทศ

สมาชิกวุฒิสภาที่เหลือทำหน้าที่รัฐสภาต่อ หรือแก้ไขรธน.ให้มีสภานิติบัญญัติแต่งตั้งทั้งหมด เหมือนระบอบรัฐประหารทุกประการ แต่คราวนี้ไม่มีรถถังให้เห็นบนถนน

ผมเชื่อว่า เราต้องเตรียมตัวสำหรับวันเวลานั้น เมื่อนายกฯยิ่งลักษณ์ ตระกูลชินวัตร และพรรคเพื่อไทยพ้นไปแล้ว ต้องคิดอย่างจริงจังและเตรียมตัวตั้งแต่บัดนี้ 

(ที่มา)FB      

มติชนวิเคราะห์ ...ไฟ"การเมือง"ลามข้ามปี รัฐบาล"ตั้งรับ"-ป.ป.ช."รุก" "แดง"เริ่มทนไม่ได้

มติชนวิเคราะห์ ...ไฟ"การเมือง"ลามข้ามปี รัฐบาล"ตั้งรับ"-ป.ป.ช."รุก" "แดง"เริ่มทนไม่ได้




วันอาทิตย์สุดท้ายของปี 2556

ปี 2556 เป็นปีที่ประเทศไทยฟันฝ่าอุปสรรคมานานัปการ โดยเฉพาะประเด็นเสียวไส้อย่างความขัดแย้งในข้อพิพาทพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร กรณีเขาพระวิหาร ที่ศาลโลกมีกำหนดตัดสินนั้น...หลายฝ่ายเกรงว่าจะก่อเกิดความวิบัติให้ไทยและกัมพูช

หากแต่ด้วยทีมงานฝ่ายไทยที่มีนายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในการต่อสู้คดีสามารถคลี่คลายความอึมครึมลงไป ด้วยการแจกแจงข้อต่อสู้ในชั้นศาล กระทั่งผู้พิพากษาศาลโลกยอมรับ

ผลการพิจารณาของศาลโลกจึงออกมาในลักษณะเป็นคุณมากกว่าเป็นโทษ

ชายแดนกลับคืนสู่ความสงบ การค้าการขายเป็นไปตามปกติ ความบาดหมางระหว่างชาติลดน้อยถอยลงไป

แต่ขณะเดียวกัน การเมืองภายในประเทศไทยกลับปะทุขึ้นถึงระดับจุดเดือด !

เมื่อ พรรคเพื่อไทยเปลี่ยนแปลงเนื้อหาในร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จากนิรโทษกรรมเฉพาะชาวบ้านให้กลายเป็นฉบับสุดซอย ...นิรโทษกรรมเหมาเข่ง ทำให้ฟืนที่เคยเปียกกลับชุ่มโชกไปด้วยน้ำมัน และปะทุกลายเป็นม็อบจำนวนมากออกมาไล่ต้อนรัฐบาล จน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ต้องยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่

แต่เหตุการณ์ความวุ่นวายก็ไม่ยุติ เพราะม็อบในนาม กปปส. ที่นำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ขับเคลื่อน "เป่านกหวีด" ไล่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้พ้นจากตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี กดดัน บีบคั้นจน น.ส.ยิ่งลักษณ์ถึงกับร้องไห้ และเปลี่ยนท่าทีจาก "ถอย" มาเป็นการ "ตั้งรับ"

"ตั้งรับ" ด้วยความเป็นไปตามกติการัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันให้มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ตามพระราชกฤษฎีกา หรือการแต่งตั้งคณะกรรมการคัดเลือกสมาชิกสภาปฏิรูปประเทศ  

น.ส.ยิ่งลักษณ์ประกาศว่าต้องทำเพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตร

ความ ตั้งใจที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ประกาศเอาไว้นั้น อาจจะไม่สามารถขับเคลื่อนได้สะดวกนัก เพราะแม้จะมีพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ 2557 แต่กลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านรัฐบาลก็พยายามทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องมีอัน เป็นไป...เลื่อนออกไปก่อน 

ดังนั้น ความวุ่นวายจึงเริ่มต้นตั้งแต่วันที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เปิดรับสมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อ เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม เพราะกลุ่มผู้ชุมนุมยกขบวนเข้าปิดล้อมสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดงไว้ กระทั่งต้องเปิดทางให้ผู้สมัครเข้าแจ้งความต่อ สน.ดินแดง เป็นหลักฐานว่ามาสมัครและหาทางจับสลากเลขหมายผู้สมัคร 

ความ รุนแรงเพิ่มดีกรีขึ้นเมื่อ กลุ่ม คปท.เข้าล้อมสนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่นดินแดง แทนกลุ่มม็อบราชดำเนิน และเปิดฉากบุกและเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้มีต

ผิดคิว "ลูกพี่ๆ ผมเผารถมันแล้ว" (ชมคลิป)

ผิดคิว "ลูกพี่ๆ ผมเผารถมันแล้ว" (ชมคลิป)



เข้าแก๊งค์ไหนหัวหน้าตายหมด


เป็นคลิปที่มีผู้ใช้ชื่อว่า โดยผู้ใช้ชื่อว่า สัญชาติไทย เชื้อชาติไทย โพสต์ลงบนยูทูบ ใช้ชื่อว่า"เข้าแก๊งค์ไหนหัวหน้าตายหมด" ที่กำลังส่งต่อกันในโลกออนไลน์
คลิปดังกล่าวเป็นเหตุการณ์เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. มีผู้ชุมนุมรายหนึ่งกำลีงบอกกับนักข่าวว่ารถของเขาถูกตำรวจทำลาย ข้าวของถูกไฟไหม้เสียหายหมด โดยอ้างว่าถูกตำรวจทำ ไม่ใช่มือที่สาม

สักพักมีผู้ชายอีกคน สำเนียงหนุ่มเมืองใต้ออกเสียงทองแดงเดินมาจับไม้จับมือ พร้อมบอกชายคนดังกล่าวว่า

"ลูกพี่ ๆ ผมเผารถมันแล้ว ไม่พรื้อ(ไม่เป็นไร)"

(ที่มา)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1388297952&grpid=00&catid=&subcatid=  

แถลงการณ์องค์กรเลี้ยวซ้าย ต่อต้านเผด็จการ เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง 2 กุมภา 2557

แถลงการณ์องค์กรเลี้ยวซ้าย ต่อต้านเผด็จการ เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง 2 กุมภา 2557 


 


รัฐบาลพรรคเพื่อไทยหมดสภาพที่จะปฏิรูปสังคมไทยให้เป็นประชาธิปไตย ยอมจำนนต่ออำนาจปฏิกิริยาด้วยนโยบายปรองดองสุดซอยจนเพลี่ยงพล้ำทางการเมือง ปล่อยให้พวกปฏิกิริยาสามารถนำเป็นข้ออ้างระดมคนชั้นกลางในเมืองหลวง และคนใต้ อ้างวาทกรรมมวลมหาประชาชนเข้ามาชุมนุมขนานใหญ่ โหนเจ้ากล่าวหาคนที่คิดต่างว่าเป็นพวกไม่รักชาติ  อ้างสันติอหิงสา แต่ข่มขู่คุกคามปล่อยอันธพาลออกเพ่นพ่านทั่วกรุง มุ่งแช่แข็งประเทศไทย แม้นายกรัฐมนตรีจะยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน ประกาศการเลือกตั้ง 2 กุมภา 2557 แล้ว ฝ่ายปฏิกิริยาที่นำโดยสุเทพ เทือกสุบรรณก็ไม่มีทีท่าว่าจะยุติ นับวันยิ่งชัดเจนว่า การล้มกฎหมายนิรโทษกรรม โค่นระบอบทักษิณ จัดตั้งสภาประชาชน ปฏิรูปประเทศไทยล้วนเป็นการอ้างเพื่อทำการรัฐประหารยึดอำนาจ ที่เอาพลเรือนออกหน้า มีขุนทหาร กลุ่มอำมาตย์หนุนหลังอย่างเต็มที่ มีองค์กรอิสระเรียงหน้าออกมาขวางการเลือกตั้ง 

ในการโจมตีขบวนการปฏิกิริยาของสุเทพ และปกป้องประชาธิปไตยรัฐสภาทุนนิยม องค์กรเลี้ยวซ้ายขอย้ำว่า ฝ่ายก้าวหน้าและผู้รักประชาธิปไตยยังคงต้องยืนหยัดยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2550  ต้องปล่อยนักโทษการเมืองทุกคน ต้องยกเลิกกฎหมายมาตรา 112 และต้องนำทหารอำมาตย์กับนักการเมืองมือเปื้อนเลือดมาลงโทษ  ต้องปฏิรูปศาล และยกเลิกองค์กรอิสระทั้งปวงที่เป็นมือเป็นเท้าให้กับระบบอำมาตย์  องค์กรด้านบริหารการศึกษา พวกปฏิกิริยาที่ครอบงำทุกมหาวิทยาลัยต้องถูกปลดพ้นไปพร้อมๆกัน  

ในการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้น เราต้องกล้าสร้างความมั่นใจในการเสนอนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนคนชั้นล่างเพื่อแข่งแนวทางกับพรรคเพื่อไทย จะต้องไม่หวังพึ่งพรรคการเมืองที่ยอมคุกเข่า ศิโรราบให้กับศัตรูและ ต้องไม่หวังการนำจาก นปช.ที่รอเสวยตำแหน่งต่างๆในคณะรัฐมนตรีอย่างที่ผ่านมา   ต้องศึกษาแนวทาง และสร้างแนวร่วมกับพรรคเล็กที่ก้าวหน้า นักสหภาพแรงงานผู้รักประชาธิปไตย และมวลชนคนเสื้อแดงผู้รักความเป็นธรรม แต่ไม่ควรหลงลืมว่าการเมืองมีองค์ประกอบมากมาย ทั้งการเลือกตั้งและการเคลื่อนไหวนอกสภา องค์กรเลี้ยวซ้ายเชื่อว่า “สังคมนิยม” ต้องมาจากการกระทำของชนชั้นกรรมาชีพเอง ไม่ใช่มาจากการวางแผนโดยผู้นำคนเดียว กลุ่มคนชั้นสูงในวงแคบ ๆ ผู้นำพรรค หรือกองทัพ  มันเป็นเรื่องของรากหญ้า ดังนั้นสังคมพึงปรารถนาต้องออกแบบและสร้างสังคมจากล่างสู่บนโดยคนรากหญ้าเอง “สภาประชาชน” ของสุเทพล้วนเป็นสิ่งโกหกหลอกลวงที่ไม่ยึดโยงกับประชาชนคนส่วนใหญ่ของประเทศ และหลอกลวงซ้ำด้วย “การปฏิรูป” ที่ไม่สามารถคาดเดาอนาคตได้
  
ขณะที่ ผบ.ทบ.หรือขุนทหารที่หนุนหลังสุเทพ ตบตามวลชนด้วยการวางตัวเป็นกลางระหว่างกบฎที่ขัดขวางการเลือกตั้ง กับ ปวงชนชาวไทยทั้งประเทศที่ต้องการการเลือกตั้ง 

องค์กรเลี้ยวซ้ายมีข้อเสนอเฉพาะหน้า 5 ประการดังนี้ คือ

1. กลุ่มเผด็จการปฏิกิริยาสุเทพ เทือกสุบรรณต้องยุติการชุมนุม โดยทันที

2. กกต. และกระบวนการเลือกตั้งต้องเดินหน้าตามกำหนด ไม่มีการเลื่อนออกไปโดยเด็ดขาด

3. การแทรกแซงของทหาร ศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระ จะต้องถูกต่อต้านทั่วประเทศ

4. รักษาการรัฐบาลจะต้องปล่อยนักโทษการเมืองทุกคนอย่าง    ไม่มีเงื่อนไข และยกเลิกกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่เป็นเครื่องมือคุกคามประชาชน

5. ฆาตกรมือเปื้อนเลือดในเหตุการณ์ เมษา-พฤษภา 53 จักต้องถูกลงโทษ

ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยที่ประชาชนมีวุฒิภาวะในการตัดสินใจและปกครองตัวเองได้ ระบบเศรษฐกิจการผลิตแบบใหม่จะถูกควบคุมโดยพลเมืองทุกคน และมีความเสมอภาคเต็มที่ ไม่มีคนรวย ไม่มีคนจน ไม่มีการกดขี่ทางเพศหรือเชื้อชาติ  ไม่มีเจ้านาย ไม่มีชนชั้น บริหารกันเองประสานกับส่วนอื่นของสังคม ทรัพยากรของโลกจะเป็นของส่วนรวม มนุษย์จะสามารถพัฒนาตนเองได้เต็มที่ พลเมืองทั้งสังคมจะได้มีศักดิ์ศรีและได้รับความเคารพรักซึ่งกันและกัน

ประชาชน ชนชั้นกรรมาชีพ ผู้รักประชาธิปไตย จงรวมกันเข้า !!!เดินหน้าสู่การเลือกตั้ง 2 กุมภา 2557

องค์กรเลี้ยวซ้าย                                                                           
28 ธันวาคม 2556

(ที่มา)
http://turnleftthai.blogspot.dk/2013/12/2-2557.html  

วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2556

บูชายัญ

บูชายัญ



โดย จักรภพ เพ็ญแข
   
เท่า ที่ทราบมา กองกำลังอาชญากรมืออาชีพที่ฆ่าและทำร้ายเจ้าหน้าตำรวจกลางกรุงเทพฯ เมื่อวานนี้ เป็นกองกำลังเดียวกันที่วางแผนก่อกวนมาล่วงหน้า ไม่ใช่ฝูงชนที่โมโหเจ้าหน้าที่และกระทำการอย่างบันดาลโทสะเช่นที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ โกหกกลางเมืองอยู่ เขาเรียกตัวเองว่า “กระเบนธงชลบุรี” นำเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพฯ ตามข่าวที่ลอยมาว่าโดยฝีมือของ พลตำรวจโทอัศวิน ขวัญเมือง อดีตนายตำรวจฝ่ายเหลืองที่เป็นรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหนึ่งในสี่คนของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร อยู่ในขณะนี้ “กระเบนธงชลบุรี” ถูกนำมาแทนที่กลุ่มเดิมที่ชื่อเสียไปแล้วคือ นักรบศรีวิชัย หรือ กองทัพศรีวิชัย ซึ่งแสดงความเป็นชาวใต้มากเกินไปหน่อย คนที่มีคนเชื่อกันมากว่าอยู่เบื้องหลังแท้ๆ อย่าง นายชวน หลีกภัย จึงขอให้แปลงร่างเป็นอีกชื่อหนึ่ง แต่ก็คงเป็นสายพันธุ์เดิม วลีทีติดปากว่า อันธพาลครองเมือง จึงนำมาใช้ได้อย่างตรงต่อความหมายที่สุดในขณะนี้ แต่สิ่งที่เราต้องเตือนตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าคือ ใครมันอนุญาตให้คนเหล่านี้มากระทำการเยี่ยงนี้ได้ คนใหญ่ที่สุดในประเทศนี้คือใคร เคยประกาศธรรมของผู้ครองอำนาจไว้อย่างไร เมื่อมีเรี่ยวแรงจะออกมาดูหมูหมากาไก่ได้ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าทำไมไม่ดูคน หรือพอใจเสียแล้วที่บ้านเมืองเป็นเช่นนี้ การที่เราเขม้นมองแต่ตัวผู้ปฏิบัติการภาคสนามอย่างเดียวย่อมไม่เพียงพอ เพราะกุ๊ย อันธพาล และเหล่าร้ายข้างถนน ย่อมอยู่ใต้อาณัติของมาเฟียใหญ่อีกต่อหนึ่ง ไม่มีสุญญากาศแห่งอำนาจในวงการใต้ดิน เราจึงต้องมองสองระดับนี้ไปพร้อมกันเสมอ จึงจะเห็นปัญหาประเทศไทยได้ชัด

ชนชั้นกลางคือมวลชนหลักของขบวนการฟาสซิสต์

ชนชั้นกลางคือมวลชนหลักของขบวนการฟาสซิสต์


 

ทุกวันนี้เราเห็นบทบาทของชนชั้นกลางในการทำลายประชาธิปไตยอย่างชัดเจน ท่าทีและพฤติกรรมของชนชั้นกลางนี้ ควรจะปิดปากอย่างถาวร พวกที่เคยอ้างถึงความก้าวหน้าของชนชั้นกลางในการสร้างประชาธิปไตย เช่นหลังเหตุการณ์พฤษภา ๒๕๓๕ คนอย่าง เอนก เหล่าธรรมทัศน์ เคยเชิดชูชนชั้นกลางในบทความ “ม็อบมือถือ” นอกจากนี้กระแสหลักฝ่ายขวาทั่วโลก มักมองอย่างผิดๆ ว่า “ประชาสังคม” อันประกอบไปด้วยชนชั้นกลางและเอ็นจีโอ เป็นพลังหลักในการสร้างประชาธิปไตยอีกด้วย
 
การอธิบายขบวนการฟาสซิสต์ของตรอทสกี้
ในยุคที่ขบวนการฟาสซิสต์ของฮิตเลอร์ขึ้นมามีอำนาจเผด็จการในเยอรมัน นักมาร์คซิสต์รัสเซีย ชื่อ ลีออน ตรอทสกี้ ได้อธิบายว่าทำไมชนชั้นกลางเป็นมวลชนหลักของพวกฟาสซิสต์[1]

ตรอทสกี้ เขียนว่า “ขบวนการฟาสซิสต์จัดตั้งชนชั้นกลางที่อยู่เหนือกรรมาชีพ... ชนชั้นกลางที่เต็มไปด้วยความเกรงกลัวว่าจะจมลงไปเป็นคนงานท่ามกลางการล่มสลายของเศรษฐกิจ มันจัดตั้งชนชั้นนี้ในรูปแบบกองทัพ โดยอาศัยเงินทุนจากทุนใหญ่และความเห็นชอบจากรัฐ เพื่อทำลายทุกส่วนของขบวนการแรงงาน จากซีกปฏิวัติถึงซีกที่อนุรักษ์นิยมที่สุด 

ตรอทสกี้อธิบายว่าทำไมเราไม่ควรเรียกกลุ่มฝ่ายขวาทุกกลุ่มว่าเป็น “ฟาสซิสต์” โดยไม่ตรวจสอบพิจารณาให้ดีก่อน... “ระบบฟาสซิสต์ไม่ใช่เผด็จการธรรมดา การทำลายองค์กรจัดตั้งของกรรมาชีพไม่พอ ต้องมีการทำลายความอิสระทั้งปวงของกรรมาชีพด้วย และชนชั้นนายทุนชนชั้นเดียวไม่มีพลังเพียงพอที่จะกำจัดการจัดตั้งของกรรมาชีพได้ เลยต้องอาศัยพลังมวลชนฟาสซิสต์ของชนชั้นกลางด้วย .... แต่วิธีการนี้เต็มไปด้วยภัยสำหรับนายทุนใหญ่ เพราะถึงแม้ว่านายทุนใหญ่พร้อมจะใช้พวกฟาสซิสต์เขาก็เกรงกลัวและเหยียดหยามมันในเวลาเดียวกัน …… ชนชั้นนายทุนใหญ่ 'ชอบ' ฟาสซิสต์เหมือนคนปวดฟัน 'ชอบ' ให้หมอฟันถอนฟัน ….มันเป็นความจำเป็น

 ชนชั้นกลางที่เป็นฟาสซิสต์คือ “ผู้ประกอบการรายย่อยที่ใกล้จะล้มละลายลูกหลานของเขาที่จบมหาวิทยาลัยและไม่มีงานทำพวกนี้ยินดีรับฟังข้อเสนอของพวกสร้างวินัยด้วยกองกำลัง ….ข้อเสนอของพวกนี้คืออะไร? ในประการแรกต้องบีบคอผู้ที่อยู่ข้างใต้ ชนชั้นนายกลางที่ก้มหัวต่อนายทุนใหญ่หวังจะกู้ศักดิ์ศรีทางสังคมด้วยการปรามชนชั้นกรรมาชีพและคนจนนิยาย เก่าๆ (เรื่องเทวดา) ที่ลอยอยู่เหนือความจริงคือแหล่งที่พึ่งของพวกนี้ การเริ่มต้นใหม่ที่กล้าหาญของฟาสซิสต์ต้องอาศัยวิธีคิดที่ย้อนยุคย้อนสมัย ชนชั้นกลางหรือนายทุนน้อยมอมเมาตนเองในนิยายเกี่ยวกับความเลิศของเชื้อชาติ ตนเอง (หรือชาติศาสนาพระมหากษัตริย์)”

“ในยามที่อาวุธ 'ปกติ' ในรูปแบบตำรวจและทหารของเผด็จการชนชั้นนายทุน พร้อมกับฉากบังหน้าของระบบประชาธิปไตยรัฐสภา ไม่สามารถคุมสังคมให้อยู่ในสภาพสมดุลได้ ยุคของการปกครองแบบฟาสซิสต์ก็มาถึง ระบบทุนนิยมใช้ระบบฟาสซิสต์เพื่อปลุกระดมความบ้าคลั่งของชนชั้นกลางและชนชั้นกรรมาชีพจรจัดที่ตกงาน มวลมนุษย์นับไม่ถ้วนทั้งหลายที่ถูกระบบการเงินของทุนนิยมกดดันจนหาทางออกไม่ได้นั้นเอง นายทุนเรียกร้องผลงานสมบูรณ์ด้วยวิธีการของสงครามกลางเมืองเพื่อสร้างสันติภาพทางชนชั้นเป็นปีๆ การปกครองแบบฟาสซิสต์ใช้ชนชั้นกลางเป็นไม้กระบองใหญ่เพื่อพังทลายทุกอย่างที่เป็นอุปสรรค” 

“หลัง จากชัยชนะของฟาสซิสต์ ทุนการเงินจะรวบอำนาจทั้งหมดในกำมือเหล็ก จะควบคุมทุกสถาบัน ทุกองค์กร ทุกบทบาทของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอำนาจอธิปไตย การบริหาร หรือระบบการศึกษา ทุกส่วนของรัฐและ กองทัพ เทศบาล มหาวิทยาลัย โรงเรียน สื่อมวลชน สหภาพแรงงานและแม้แต่สหกรณ์จะตกอยู่ภายใต้การควบคุม เมื่อรัฐหนึ่งแปรตัวเป็นรัฐฟาสซิสต์ ใช่ว่าจะเปลี่ยนแปลงแค่รูปแบบของรัฐบาลเท่านั้น แต่ที่สำคัญที่สุดคือต้องมีการสลายองค์กรต่างๆ ของชนชั้นกรรมาชีพให้สิ้นซากไป ต้องมีเครือข่ายอำนาจรัฐที่ฝังรากลึกลงไปในทุกระดับของมวลชน เพื่อให้ชนชั้นกรรมาชีพแปรสภาพไปเป็นอะไรที่ไร้การจัดตั้งอิสระอย่างสิ้น เชิง นั้นคือประเด็นหลักของระบบฟาสซิสต์”

สรุปข่าวสำคัญของโลกแห่งปี 2556 ส่งท้ายปีเก่า 10 อันดับ

สรุปข่าวสำคัญของโลกแห่งปี 2556 ส่งท้ายปีเก่า 10 อันดับ




Go Global ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ 28-12-2013
https://www.youtube.com/watch?v=dbbiPgZtkTQ


สรุปข่าวสำคัญของโลกแห่งปี 2556 ส่งท้ายปีเก่า 10 อันดับ
 
1. สงครามกลางเมืองซีเรีย
2. เผยข้อมูลสหรัฐฯ ดังฟักและล้วงข้อมูลจากหลายประเทศโดยเอ็ดเวิร์ด สโนเดน
3. โศกนาฏกรรมที่มากับพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน
4. พระสันตปะปาเบเนดิคที่ 16 ลงจากตำแหน่ง แทนที่ด้วยพระสันตปะปาฟรานซิส
5. นายเนลสัน แมนเดลา อดีตประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ถึงแก่อสัญกรรม
6. คดีข่มขืนสตรีชาวอินเดียจนถึงแก่ชีวิตและการเปลี่ยนแปลงของระบบกฏหมายอินเดีย
7. รัฐประหารในอียิปต์
8. เนื้อม้าถูกลวงเป็นเนื้อวัววางขายในยุโรป
9. อาคารพาณิชย์ 8 ชั้นถล่มในปากีสถาน
10. การเพิ่มศักยภาพทางทหารต่อจันและผลกระทบต่อความมั่นคงในเอเชีย-แปซิฟิก

วิวาทะ

วิวาทะ



(คลิกฟัง)
http://www.youtube.com/watch?v=Hfyy2jnBLwk&feature=youtu.be

"มันไม่มีเหตุผลที่จะแยกการปฏิรูปต่างหากจากการเลือกตั้ง เพราะที่จริงแล้วมันเป็นกระบวนการอันเดียว­กัน เป็นกระบวนการที่ขาดไม่ได้เลยในการปฏิรูป"

ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์
นักประวัติศาสตร์

เวทีสัมมนาวิชาการสหพันธ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ครั้งที่ 1

เวทีสัมมนาวิชาการสหพันธ์ประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ครั้งที่ 1



สหพันธ์ประชาชนเสรีเพื่อประชาธิปไตย-สปป.'s photo.

ปิยบุตร แสงกนกกุล 1 สปป.สัมมนาสัญจร ขอนแก่น 26-12-2013
https://www.youtube.com/watch?v=GbO2z_AiOlg#t=18 

สมชัย ภัทรธนานันท์ สัมมนาวิชาการ สปป.ครั้งที่ 1
https://www.youtube.com/watch?v=THSvEEtUHq8 

พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ สัมมนาวิชาการ สปป.ครั้งที่ 1 (ขอนแก่น)
https://www.youtube.com/watch?v=Mivu5htNRSY

บัวพันธ์ พรหมพักพิง สัมมนาวิชาการ สปป.ครั้งที่ 1 (ขอนแก่น)
https://www.youtube.com/watch?v=HmMpk2VEGpY


ขอนแก่น: สปป.อภิปราย“รัฐบาลพระราชทาน สภาประชาชน อุปสรรคการพัฒนาประชาธิปไตย"

สหพันธ์ประชาชนเสรีเพื่อประชาธิปไตย (สปป.) ผนึก สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย (สปป.) เดินสายเสวนาวิเคราะห์กำหนดแนวทางเคลื่อนไหวมวลชนผู้รักประชาธิปไตยภาคอีสาน แถลงข้อเสนอต่อรัฐบาล,ทหาร ประกาศท่าทีทางการเมือง ยืนยันต้องแก้ปัญหาโดยการเลือกตั้ง


วันพฤหัสบดี ที่ 26 ธันวาคม 2556 สหพันธ์ประชาชนเสรีเพื่อประชาธิปไตย ได้จัดเวทีสัมมนาวิชาการ ครั้งที่ 1  ในหัวข้อ “รัฐบาลพระราชทาน สภาประชาชน อุปสรรคการพัฒนาประชาธิปไตย : ประชาชนไทยต้องการเลือกตั้ง” ณ อาคารขวัญมอ มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยเป็นการร่วมจัดกิจกรรมระหว่าง 2 องค์กร คือ สหพันธ์ประชาชนเสรีเพื่อประชาธิปไตย (สปป.) และ สมัชชาปกป้องประชาธิปไตย (สปป.) ซึ่งมีนักวิชาการร่วมอภิปรายทั้งหมด 4 คน ได้แก่ 1.อาจารย์ ดร.ปิยบุตร แสงกนกกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 2. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สมชัย ภัทรธนานันท์ อาจารย์ประจำคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม 3.รองศาสตราจารย์ ดร.บัวพันธ์ พรหมพักพิง อาจารย์ประจำคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และ 4. รองศาสตราจารย์ ดร.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยมีประชาชนชาวจังหวัดขอนแก่น และจังหวัดใกล้เคียงให้ความสนใจร่วมรับฟังแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเป็น จำนวนมาก

นักวิชาการทั้ง 4 ท่านมีความเห็นร่วมกันว่าหากไม่มีการเลือกตั้งในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557 ตามกำหนดการเดิม อาจจะนำไปสู่เงื่อนไขให้เกิดความรุนแรงได้ เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ต้องการการเลือกตั้ง นอกจากนี้ได้นำเสนอผลวิจัยที่ชี้ว่าคนชนบทมีความตื่นตัวทางการเมืองและมี ความเข้าใจประชาธิปไตยมากกว่าคนชั้นกลาง และเกิดความหวังการเปลี่ยนแปลงไปสู่ประชาธิปไตยที่โดยมีคนชั้นล่างเป็นตัว แสดงที่สำคัญในการเปลี่ยนแปลง
 
(อ่านต่อ)

27-12-56 ข่าวเที่ยงDNN รายงานพิเศษ สปป.เดินหน้ารณรงค์ ปกป้องประชา

27-12-56 ข่าวเที่ยงDNN รายงานพิเศษ สปป.เดินหน้ารณรงค์ ปกป้องประชา



สหพันธ์ประชาชนเสรีเพื่อประชาธิปไตย-สปป.'s photo.




 
ข่าวเที่ยงDNN รายงานพิเศษ สปป.เดินหน้ารณรงค์ ปกป้องประชา
http://www.youtube.com/watch?v=09Vcjc8GhTw

The Daily Dose

The Daily Dose


'อภิสิทธิ์/สุเทพ' ควรออกจากพรรคเเล้วสู้คดีได้เเล้ว

The Daily Dose  ประจำวันที่ 27 ธันวาคม 2556 
ความทรงจำที่เป็นฝันร้ายจากปี 2556
https://www.youtube.com/watch?v=29y0IhL1j-k 

The Daily Dose ประจำวันที่ 23 ธันวาคม 2556
กลัวการเลือกตั้งคือโรคเดิมที่เรื้อรังรักษาไม่ได้
http://www.dailymotion.com/video/x18rhdy_กล-วการเล-อกต-งค-อโรคเด-มท-เร-อร-งร-กษาไม 

เจาะข่าวเด่น (27 ธ.ค. 2556)

เจาะข่าวเด่น (27 ธ.ค. 2556)




ดร.ประจักษ์ ก้องกีรติ Vs ปณิธาน วัฒนายากร 27 ธ.ค.56
http://www.youtube.com/watch?v=CDFIsAKvjpc 

Wake Up Thailand

Wake Up Thailand




Wake Up Thailand ประจำวันที่ 27 ธันวาคม 2556 ตอนที่ 2
การกลับมาของ3หนา 5ห่วง 
http://www.dailymotion.com/video/x18waon_การกล-บมาของ3หน 
 
Wake Up Thailand ประจำวันที่ 27 ธันวาคม 2556 ตอนที่ 1
ไม่เห็นด้วยม็อบมีสิทธิ์ถูกกระทืบเหมือนแท็กซี่
http://www.dailymotion.com/video/x18w8zi_ไม-เห-นด-วยม-อบม-ส-ทธ 

Divas Cafe

Divas Cafe


 
 
Divas Cafe ประจำวันที่ 27 ธันวาคม 2556
ชวนดูนิทรรศการ 'การเลือกตั้งแห่งความเกลียดชัง' 
http://www.dailymotion.com/video/x18wfo4_ชวนด-น-ทรรศการ-การเล