หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ร่วมพิธี รำลึก 39ปี 14 ตุลาคม 16

ร่วมพิธี รำลึก 39ปี  14 ตุลาคม 16  



Photo
14 ตุลาคม 2516 (The 1973 democracy movement : October 14th )
http://www.youtube.com/watch?v=NoZdhZRxZwI 


(ภาคเช้า ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว)

07.00-10.00 น. พิธีรำลึกและสดุดี

10.30-11.50 น. ปาฐกถา 14 ตุลา หัวข้อ "ประชาธิปไตยกับการปกป้องทรัพยากร" โดย จินตนา แก้วขาว

(แกนนำกลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบ้านกรูด จ.ประจวบคีรีขันธ์)

11.50-12.00 น. ปัจฉิมกถา โดย ดร. นฤมล ทับจุมพล คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
.........................................................................
(ภาคบ่าย -- ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์)

13.30 -15.00 น. เสวนา หัวข้อ “มรดก 14 ตุลา ในมุมมองคนหลากรุ่น”
วิทยากร :
ศ. ดร. ธเนศ อาภรณ์สุวรรณ
คุณวัฒนชัย วินิจจะกูล
คุณนภาวัลย์ สิทธิศักดิ์
ดำเนินรายการโดย คุณสินธุ์สวัสดิ์ ยอดบางเตย

15.00-15.45 น. พิธีประกาศรับรองวันที่ 14 ตุลาคมของทุกปีเป็นวันสำคัญของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเปิดตัว ปฏิมากรรม “หมุด 14 ตุลา”
ณ บริเวณลานโพ หน้าตึกคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์


โดย : อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์หรือตัวแทน, นพ. วิชัย โชควิวัฒน (ประธานมูลนิธิ 14 ตุลา) , นางละเมียด บุญมาก (ตัวแทนญาติวีรชน 14 ตุลา)และตัวแทนองค์กรนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

15.45-16.00 น. พักรับประทานอาหารว่าง
16.00 -17.00 น. 14 ตุลา Walking Tour
วิทยากร:
คุณวิภา ดาวมณี
คุณศิริวุฒิ บุญชื่น
คุณตะวัน มานะกุล
[ตามเส้นทางดังนี้ (1) ลานโพ (2) สนามฟุตบอล (3)ลานปรีดี (4) สวนประติมากรรม หน้าหอประชุมใหญ่]

(คลิกฟัง)
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=tPWL5Suew5M#!

สนทนากับหนึ่งในบล็อกเกอร์ที่ทางการเวียดนามต้องการตัว 

 



 
เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เหงียน เติ๋น สุง นายกรัฐมนตรีของเวียดนามออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์รัฐบาล สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนและจัดการกับผู้อยู่เบื้องหลังบล็อกภาษา เวียดนาม 3 แห่งที่เขียนโจมตีรัฐบาล โดยระบุว่านี่เป็นแผนชั่วร้ายของกองกำลังฝ่ายศัตรู พวกเขาเหล่านั้นจะต้องโทษอย่างหนัก รวมถึงสั่งห้ามไม่ให้ข้าราชการเข้าไปอ่านหรือแชร์บล็อกเหล่านี้ด้วย

องค์การผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน (RSF) รายงานว่า ปัจจุบัน มีผู้สื่อข่าวอย่างน้อย 5 คนและพลเมืองเน็ต 19 คนถูกจับกุมตัวในเวียดนาม ทั้งนี้ เวียดนามเป็นประเทศที่มีการคุมขังบล็อกเกอร์และผู้เห็นต่างในโลกไซเบอร์ มากเป็นอันดับสามของโลก รองจากจีนและอิหร่าน รวมถึงติดอยู่ใน 1 ใน 12 ประเทศที่องค์การผู้สื่อข่าวไร้พรมแดนจัดให้เป็น "ศัตรูอินเทอร์เน็ต" ด้วย

"ประชาไท" มีโอกาสได้สัมภาษณ์ "D." ชาวเวียดนามวัย 25 ปี หนึ่งในบล็อกเกอร์ของบล็อก Dan Lam Bao (แปลว่านักข่าวพลเมือง) หนึ่งในสามบล็อกที่รัฐบาลเวียดนามต้องการตัว เขาเล่าว่าแถลงการณ์นั้นเป็นครั้งแรกที่มีการกล่าวถึงบล็อกของเขา แม้ว่าบล็อกของเขาจะถูกบล็อคมาตลอดนับแต่เปิดตัวได้ไม่นาน นั่นเพราะที่ผ่านมา การจับกุมผู้เห็นต่างจากรัฐบาล ปัญหาคอร์รัปชั่น และการจับกุมนักสิทธิมนุษยชนเพิ่มมากขึ้นภายใต้การบริหารของรัฐบาลชุดนี้

ประชาไท: คุณทำอะไรบ้าง
D.: มอนิเตอร์เว็บไซต์ โพสต์ข่าว ตรวจแก้บทความ และดูแลความปลอดภัยของเว็บไซต์


ข่าวและบทความมาจากไหน
มา จากในเวียดนาม บางทีมาจากคนในรัฐบาล บางทีก็มาจากชาวนา หลากหลายอาชีพ บางครั้งก็มาเป็นข่าวแล้ว บางครั้งก็ต้องตรวจแก้และตรวจข้อเท็จจริง


บล็อกของคุณเปิดมานานแค่ไหนแล้ว
เกือบ สองปีแล้ว เนื่องจากประเทศของผม รัฐบาลไม่อนุญาตให้มีสื่ออิสระ แม้จะมีสื่อกว่า 700 สื่อแต่เกือบทั้งหมดก็ทำงานให้รัฐบาลพรรคเดียว คนในประเทศไม่มีเวทีสำหรับแสดงความเห็น ทำให้ผมกับเพื่อนๆ เริ่มทำบล็อกนี้ขึ้น เป็นสื่อพลเมือง


(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2012/10/43139

เมื่อคนทำงานด้าน "สิทธิมนุษยชน" เรียกร้อง "สิทธิแรงงาน"

เมื่อคนทำงานด้าน "สิทธิมนุษยชน" เรียกร้อง "สิทธิแรงงาน"

 

การหยุดงานประท้วงของเจ้าหน้าที่ AIUK เมื่อวันที่ 12 ต.ค. ที่ผ่านมา (ที่มาภาพ: http://www.socialistworker.co.uk)


สำหรับงานองค์กรพัฒนาเอกชน บ่อยครั้งเรามักจะมองภาพคนทำงานให้อุตสาหกรรมนี้ว่าจะต้องมีคุณลักษณะ "จิตอาสา" เป็นสำคัญ ...แต่กระนั้นสิทธิพื้นฐานในการทำงานก็เป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แอมนาสตี้สากลสหราชอาณาจักร หยุดงานประท้วงนโยบายรัดเข็มขัดของผู้บริหารองค์กร ที่จะทำให้พนักงานตกงานร่วมสองร้อยคน

สำหรับงานองค์กรพัฒนาเอกชน บ่อยครั้งเรามักจะมองภาพคนทำงานให้อุตสาหกรรมนี้ว่าจะต้องมีคุณลักษณะ "จิตอาสา" เป็นสำคัญ ...แต่กระนั้นสิทธิพื้นฐานในการทำงานก็เป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้

เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 55 ที่ผ่านมาเว็บไซต์ unitetheunion.org รายงานว่าเจ้าหน้าที่แอมนาสตี้สากลสหราชอาณาจักร (Amnesty International UK - AIUK) ซึ่งเป็นสมาชิกของ Unite จะทำการหยุดงานประท้วงเป็นเวลา 2 วัน ตั้งแต่วันที่ 10 ต.ค. เป็นต้นไป ซึ่งการหยุดงานประท้วงครั้งนี้เป็นผลมาจากนโยบายการตัดงบประมาณถึง 2.5 ล้านปอนด์ของผู้บริหารระดับสูงของ AIUK ซึ่งจะทำให้พนักงานกว่า 204 คนต้องตกงาน

ทั้งนี้อลัน สก๊อตต์ (Alan Scott) เจ้าหน้าที่ส่วนภูมิภาคของ Unite ระบุว่านโยบายดังกล่าวสวนทางกับรายได้ของ AIUK จากการรับบริจาคที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าสภาวะเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรจะตกต่ำเช่นเดียวกับภูมิภาคยุโรปใน ส่วนอื่นๆ

สก๊อตต์กล่าวต่อไปว่าเจ้าหน้าที่ AIUK ที่เป็นสมาชิกของ Unite ไม่มีความเชื่อมั่นในการบริหารแบบนี้
 
(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2012/10/43152

ความเหลื่อมล้ำสุดโต่งในโลก: โลกาภิวัตน์น่ะรึจะนำไปสู่ประชาธิปไตยและความเป็นธรรมทางสังคม?

ความเหลื่อมล้ำสุดโต่งในโลก: โลกาภิวัตน์น่ะรึจะนำไปสู่ประชาธิปไตยและความเป็นธรรมทางสังคม?


โดย อาจารย์เกษียร เตชะพีระ


มีนักคิดปัญญาชนบางท่านที่ต่อต้านรัฐ ประหารของ คปค. เสนอว่า โลกาภิวัตน์ ไปกันได้กับ ประชาธิปไตย และ ความเป็นธรรมทางสังคม และเสนอให้ชูธงชาติไทย ๓ ผืนนี้ควบคู่กันไป http://prachatai.com/journal/2006/10/10014


แต่นี่เป็นความจริงหรือความฝันกันแน่?

Credit Suisse Research Institute ได้เผยแพร่รายงานประจำปีล่าสุดเ
รื่อง Global Wealth Report 2012 เผยให้เห็นความเหลื่อมล้ำสุดโต่งในโลกปัจจุบันภายใต้เศรษฐกิจทุนนิยมโลกาภิวัตน์ราว ๓ ทศวรรษกว่าที่ผ่านมาว่า:

หากดูจากยอดบัญชีโภคทรัพย์ (wealth) หรือนัยหนึ่งทรัพย์สิน เงินลงทุนและหนี้สินของครัวเรือ
นทั่วโลก ก็จะพบการกระจายตัวของโภคทรัพย์ในหมู่ประชากรผู้ใหญ่ (adults) ในโลกเหลื่อมล้ำเป็นรูปพีระมิดดังนี้

-สีดำตรงยอดสุดแทนคน ๒๙ ล้านคน คิดเป็น ๐.๖% ของประชากรโลก แต่ละคนถือครองโภคทรัพย์มูลค่าก
ว่า ๑ ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯขึ้นไป รวมแล้วเป็นยอดมูลค่าโภคทรัพย์ ๘๗.๕ ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง ๓๙.๓% ของโภคทรัพย์ในโลก

-สีเทารองลงมาแทนคน ๓๔๔ ล้านคน คิดเป็น ๗.๕% ของประชากรโลก แต่ละคนถือครองโภคทรัพย์มูลค่าร
ะหว่าง ๑ แสน --> ๑ ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ รวมแล้วเป็นยอดมูลค่าโภคทรัพย์ ๙๕.๙ ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ คิดเป็น ๔๓.๑% ของโภคทรัพย์ในโลก

-สีฟ้าอันดับที่สามแทนคน ๑,๐๓๕ ล้านคน คิดเป็น ๒๒.๕% ของประชากรโลก แต่ละคนถือครองโภคทรัพย์มูลค่าร
ะหว่าง ๑ หมื่น --> ๑ แสนดอลล่าร์สหรัฐฯ รวมแล้วเป็นยอดมูลค่าโภคทรัพย์ ๓๒.๑ ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ คิดเป็น ๑๔.๔% ของโภคทรัพย์ในโลก

-สีเขียวฐานล่างสุดแทนคน ๓,๑๘๔ ล้านคน คิดเป็น ๖๙.๓% ของประชากรโลก แต่ละคนถือครองโภคทรัพย์มูลค่าต่ำ
กว่า ๑ หมื่นดอลล่าร์สหรัฐฯ รวมแล้วเป็นยอดมูลค่าโภคทรัพย์ ๗.๓ ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ คิดเป็นแค่ ๓.๓% ของโภคทรัพย์ในโลก

ในระบอบเสรีประชาธิปไตยจากการเลื
อกตั้ง เงินเป็นปัจจัยสำคัญมากในการก่อตั้งพรรคและรณรงค์หาเสียง ด้วยความเหลื่อมล้ำทางโภคทรัพย์เช่นนี้ อำนาจเสียงข้างมาก (เกือบ ๗๐% ของประชากรฐานล่าง) ย่อมถูกกีดขวางทัดทานจากอำนาจทุนมหาศาล (เกือบ ๔๐% ของโภคทรัพย์ในโลก) ของคนไม่ถึง ๑% ของประชากรในโลกบนสุด

กระบวนการเศรษฐกิจทุนนิยมโลกาภิ
วัตน์ดังที่เป็นอยู่ จึงก่อผลสำคัญด้านความเหลื่อมล้ำทางโภคทรัพย์ที่เป็นอุปสรรคต่อประชาธิปไตย ไม่ใช่อุดหนุนเกื้อกูล, พลังประชาธิปไตยบนฐานอำนาจเสียงข้างมากของคนที่ขาดด้อยโภคทรัพย์ต้องหาทางคะคานถ่วงดุลอำนาจทุนมหาศาลของคนมั่งมีโภคทรัพย์เสียงข้างน้อยไว้ มิฉะนั้นประชาธิปไตยก็จะหมดความหมายในทางเป็นจริงไปในที่สุด

ระบบทุนนิยมประชาธิปไตย (Democratic Capitalism) ที่แพร่หลายในโลกตะวันตกหลังสงค
รามโลกครั้งที่สอง เอาเข้าจริงจึงตั้งอยู่บนเงื่อนไขแห่งความตึงเครียดขัดแย้ง ไม่ใช่อุดหนุนคล้องจองกัน และเต็มไปด้วยวิกฤตเศรษฐกิจการเมืองครั้งแล้วครั้งเล่า จนดุลอำนาจเปลี่ยนภายใต้แนวนโยบายเสรีนิยมใหม่/โลกาภิวัตน์ กลายเป็นทุนนิยมอยู่เหนือประชาธิปไตย เป็นประชาธิปไตยที่นับวันไม่เต็มใบหรือครึ่งใบซึ่งเบ้ไปทางทุน ดังที่เห็นอยู่ในหลายประเทศที่ประสบวิกฤตเศรษฐกิจทุกวันนี้

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความเป็นธรรมใ
นสังคม ภายใต้ความเหลื่อมล้ำทางโภคทรัพย์ในโลกแบบนี้ มันจะมีได้อย่างไร? เป็นฝันกลางวันแสก ๆ โดยแท้!

(ที่มา)
http://www.facebook.com/kasian.tejapira 

นักข่าวอัลจาซีรา รุดให้การดีเอสไอ-ยันไม่เห็นชายชุดดำคืน10เม.ย.

นักข่าวอัลจาซีรา รุดให้การดีเอสไอ-ยันไม่เห็นชายชุดดำคืน10เม.ย.






นักข่าวอัลจาซีรา รุดให้การดีเอสไอ-ยันไม่เห็นชายชุดดำคืน10เม.ย. เมื่อ 11 ต.ค.ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายเวย์น์ เฮย์ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอัลจาซีรา ประจำกรุงเทพ เดินทางเข้าพบพ.ต.อ.ประเวศน์ มูลประมุข รองอธิบดีดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดี 98 ศพ เพื่อให้ปากคำคดีเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่บริเวณสี่แยกคอกวัว

(ที่มา)
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNME9UazFOekUzTVE9PQ%3D%3D