หน้าเว็บ

วันพุธที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ไฟไหม้โรงงานนรก ใครได้ประโยชน์?

ไฟไหม้โรงงานนรก ใครได้ประโยชน์? 

 

 
โรงงานนรกที่บังกลาเทศที่พึ่งไฟไหม้และคนงานเสีย ชีวิตไป 110 คน ผลิตเสื้อผ้าสำหรับห่างวอล์มาร์ทในสหรัฐ โรงงานอื่นๆ จะส่งสินค้าให้ร้านค้าในประเทศพัฒนาทั่วโลก และกลุ่มทุนใหญ่เหล่านี้ในตะวันตก ได้กำไรมหาศาล

โดย ใจ อึ๊งภากรณ์ 

ข่าวไฟไหม้โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า หรือโรงงานทำของเล่นในประเทศต่างๆ ของเอเชีย เช่นไทย ปากีสถาน และล่าสุดบังกลาเทศ ทำให้เราต้องตั้งคำถามว่าใครได้ประโยชน์ เพราะถ้าเราไม่วิเคราะห์จากมุมมองชนชั้นเราจะไม่ค้นพบอาชญากรที่แท้จริง

ไฟไหม้โรงงานนรกไม่ใช่
“อุบัติเหตุ” แต่เป็นการจงใจบังคับให้คนงานต้องเสี่ยงภัย เพราะโรงงานดังกล่าวมักจะไม่มีทางหนีไฟตามมาตรฐานความปลอดภัย ไม่มีวิธีการป้องกันไฟไหม้จากปัญหาไฟช๊อต ไม่มีกระบวนการลดภัยจากไฟไหม้ ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาด การจัดสินค้าให้เป็นระบบ และการอบรมพนักงานในความปลอดภัย และทั้งหมดนี้เป็นเพราะนายทุนที่เป็นเจ้าของโรงงานไม่ต้องการลดกำไรของตนเอง ในกระบวนการผลิต และมองว่าคนงานเป็นแค่ผักปลา

แต่อาชญากรที่ฆ่าคนงานในโรงงานนรกไม่ใช่แค่นายทุนพื้นเมือง กลุ่มทุนใหญ่ในตะวันตกที่สั่งสินค้านำเข้าจากโรงงานนรก พยายามกดราคาตลอดเวลาเพื่อเพิ่มกำไรให้ตนเองด้วย


โรงงานนรกที่บังกลาเทศที่พึ่งไฟไหม้และคนงานเสียชีวิตไป 110 คน ผลิตเสื้อผ้าสำหรับห่างวอล์มาร์ทในสหรัฐ โรงงานอื่นๆ จะส่งสินค้าให้ร้านค้าในประเทศพัฒนาทั่วโลก และกลุ่มทุนใหญ่เหล่านี้ในตะวันตก ได้กำไรมหาศาล


แต่ เอ็นจีโอตะวันตก และสื่อมวลชนบางกลุ่ม มักมองว่าประชาชนผู้บริโภคในตะวันตกมีส่วนในการขูดรีดคนงานในโรงงานนรก มีการพูดว่า “ต้องให้การศึกษากับผู้บริโภคให้เลิกซื้อเสื้อผ้าราคาถูก” อันนี้เป็นมุมมอง “ตะวันตก-ตะวันออก” หรือมุมมองแนว “พึ่งพา” ที่ปฏิเสธชนชั้น 

และมองว่าการแบ่งแยกหลักในโลกคือระหว่างประเทศรวยทางเหนือ และประเทศยากจนทางใต้ นอกจากนี้มันเป็นมุมมองที่เน้นพลังผู้บริโภค มันนำไปสู่การเข้าใจผิด


เมื่อไม่กี่วันก่อนไฟไหม้ที่โรงงานในประเทศบังกลาเทศ พนักงานที่เป็นสมาชิกสหภาพแรงงานในห่างวอล์มาร์ท ออกมานัดหยุดงานประท้วงปัญหาค่าจ้างต่ำและสวัสดิการแย่ๆ ของบริษัท ห่างขายเสื้อผ้าราคาถูกในยุโรปที่นำเข้าสินค้าจากโรงงานนรก ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นนายจ้างคุณภาพแย่ เราเริ่มเห็นภาพของการกดขี่ขูดรีดทั้งในประเทศพัฒนาของตะวันตก และประเทศยากจนในตะวันออก เราเริ่มเห็นการแบ่งแยกแท้ตามชนชั้นทั่วโลก
 

พวกที่เรียกร้องให้ผู้บริโภคในตะวันตกเลิกซื้อเสื้อผ้าราคาถูก จะปิดหูปิดตาถึงการที่ชนชั้นปกครองในยุโรปและสหรัฐ กดค่าแรง เลิกจ้าง และตัดสวัสดิการประชาชน เพื่อโยนภาระในการแก้วิกฤตเศรษฐกิจให้กรรมาชีพหรือคนทำงานธรรมดา มันไม่ใช่ว่าผู้บริโภคเป็นคนรวยที่แค่อยากได้สินค้าถูก ความจริงคือผู้บริโภคจำนวนมากเป็นคนจน ถ้าไม่ซื้อเสื้อผ้าราคาถูกก็ไม่มีเพื่อใส่ ยิ่งกว่านั้นกลุ่มทุนใหญ่ที่ขายเสื้อผ้าราคาถูก มักหาทางโกงและหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษี ซึ่งกลายเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่รัฐขาดรายได้ แล้วไปตัดค่าจ้าง ปลดคนงาน และลดสวัสดิการคนงานในภาครัฐ ซึ่งมีผลพวงต่อไปในการกดเศรษฐกิจ
 

ทางออกไม่ใช่การฝันว่าผู้บริโภคมีอำนาจที่สามารถเลิกซื้อสินค้าจากโรงงานนรก ได้ ทางออกคือการจัดตั้งสหภาพแรงงานที่เข้มแข็งในห่างใหญ่ๆ ของตะวันตก และการสร้างพลังขบวนการแรงงานเพื่อล้มรัฐบาลตะวันตกที่ทำลายชีวิตประชาชน ด้วยนโยบายเสรีนิยมจัด และในประเทศต่างๆ ของเอเชีย ทางออกก็ไม่ต่าง คือต้องพยายามจัดตั้งสหภาพแรงงานที่เข้มแข็ง เพื่อบังคับให้นายจ้างใช้มาตรการความปลอดภัยที่ถูกต้อง และการรณรงค์ทางการเมือง เพื่อไม่ให้อิทธิพลของกลุ่มทุนครอบงำรัฐบาลและพรรคการเมืองทุกพรรค พูดง่ายๆ ต้องสมานฉันท์แรงงานข้ามพรมแดน
 
(ที่มา)
http://turnleftthai.blogspot.dk/2012/11/blog-post_27.htm

Wake Up Thailand

Wake Up Thailand
 

ฝ่ายต้านรัฐบาลเริ่มยุทธการฝังชิพ

Wake Up Thailand ประจำวันพุธ ที่ 28 พฤศจิกายน 2555 
ฝ่ายต้านรัฐบาลเริ่มยุทธการฝังชิพ
http://www.youtube.com/watch?v=Z8esgTMsg0M&feature=player_embedded


น้ำตาจะไหลเพราะกสม.โวยแก๊สน้ำตา 

Wake Up Thailand ประจำวันอังคาร ที่ 27 พฤศจิกายน 2555
น้ำตาจะไหลเพราะกสม.โวยแก๊สน้ำตา

The daily Dose

The daily Dose

 
 
The daily Dose ประจำวันที่ 28 พฤศจิกายน 2555
กสม.โผล่มาให้ภาคประชาชนหัวเราะเล่น
http://www.dailymotion.com/video/xvg0xa

 
The Daily Dose ประจำวันที่ 27 พฤศจิกายน 2555
อภิปรายไม่ไว้วางใจไร้รสชาติ
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=rq4k26_3wSY 

Divas Cafe

Divas Cafe


ความสุขของ 'TDRI' 
 
Divas Cafe ประจำวันที่ 28 พฤศจิกายน 2555
ความสุขของ 'TDRI'
http://www.dailymotion.com/video/xvfrhe 

 
อภิปรายไม่ไว้วางใจ วิถีทางการเมืองในรัฐสภา 

Divas Cafe ประจำวันที่ 27 พฤศจิกายน 2555
อภิปรายไม่ไว้วางใจ วิถีทางการเมืองในรัฐสภา
http://www.youtube.com/watch?v=oraUeHi4dzw&feature=player_embedded 

ที่นี่ความจริง

ที่นี่ความจริง 27-11-2012


ที่นี่ความจริง อ หวาน อ ตุ้ม 11มิย55 


(คลิกฟัง)
http://www.youtube.com/watch?v=fHreUEG6RtQ&list=UUhvJC14U9cSNzbQNtP_MXYQ&index=3&feature=p

ตามคาด! "ปู-เหลิม-บิ๊กโอ๋-ชัจจ์" ฉลุยผ่านผลลงมติที่ประชุมสภาฯ ไว้วางใจให้ทำหน้าที่บริหารต่อ

ตามคาด! "ปู-เหลิม-บิ๊กโอ๋-ชัจจ์" ฉลุยผ่านผลลงมติที่ประชุมสภาฯ ไว้วางใจให้ทำหน้าที่บริหารต่อ 




เมื่อเวลา 10.20  น. วันที่ 28 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อลงมติตามญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นราย บุคคล ได้แก่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม และ พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.มหาดไทย ที่พรรคฝ่ายค้านเป็นผู้เสนอ โดยก่อนการลงมตินายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม ได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าเนื่องจากวันนี้ฝนตกทำให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก ทำให้ต้องเลื่อนเวลาการลงมติจากเดิมที่นัดไว้ตอน 09.30 น. เลื่อนออกไปก่อน

เมื่อเริ่มประชุมอีกครั้งประธานฯได้ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า จะขอลงมติญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯก่อน จากนั้นจึงเป็นญัตติอภิปรายฯรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ใช้วิธีกดบัตรแสดงตน ซึ่งนายกฯและรัฐมนตรีทุกคนไม่มีสิทธิลงคะแนนให้ตัวเอง ขณะนี้มีจำนวน ส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ทั้งสิ้น 493 คน เสียงกึ่งหนึ่งต้องได้ 247 คนขึ้นไป

ผลที่ประชุมลงมติให้ความไว้วางใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ด้วยคะแนน 308 ต่อ 159 เสียง งดออกเสียง 4 ไม่ลงคะแนน 9  มีมติไว้วางใจ 

ร.ต.อ.เฉลิม ด้วยคะแนน 287 ต่อ 157 เสียง งดออกเสียง 25 ไม่ลงคะแนน 11

ขณะที่มีมติไว้วางใจ พล.อ.อ.สุกำพล ด้วยคะแนน 284 ต่อ 160 เสียง 25 งดออกเสียง 11 ไม่ลงคะแนน

สำหรับ พล.ต.ท.ชัจจ์ ได้รับคะแนนไว้วางใจ 284 ต่อ 182 เสียง งดออกเสียง 5 ไม่ลงคะแนน 10  

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทั้ง 3 คน มีคะแนนเสียงไม่ไว้วางใจไม่ถึงกึ่งหนึ่ง ทำให้ยังสามารถทำหน้าที่ต่อไปได้

จากนั้นเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้อ่านพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯปิดสมัย ประชุมสมัยสามัญทั่วไป และประธานสั่งปิดประชุมเมื่อเวลา 10.55 น. ซึ่งหลังจากทราบผลการลงคะแนน นายกฯและรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายต่างมีสีหน้ายิ้มแย้ม เมื่อประธานสั่งปิดประชุมน.ส.ยิ่งลักษณ์ได้เดินเข้าไปยกมือไหว้ประธานฯและ รองประธานฯ โดยมีรัฐมนตรีเข้าไปจับไม้จับมือแสดงความยินดี

(ที่มา)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1354074353&grpid=03&catid=01&subcatid=0100

เสธ อ้าย ม้วนเดียวจบ ตอบโจทย์ 28พ.ย.55

เสธ อ้าย ม้วนเดียวจบ ตอบโจทย์ 28พ.ย.55




(คลิกฟัง)
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=_-DrWzxMhVc

ประชาชนอียิปต์ หวนคืนจัตุรัสทาห์รีร์ ชุมนุมต้านมอร์ซี

ประชาชนอียิปต์ หวนคืนจัตุรัสทาห์รีร์ ชุมนุมต้านมอร์ซี

 

Mass anti-Morsi rally in Egyptian capital


หลัง ปธน. โมฮาเม็ด มอร์ซี ออกประกาศกฤษฎีกาให้อำนาจเหนือการตรวจสอบอ้างปกป้อง 'การปฏิวัติ' ปชช. ที่ไม่พอใจหลายพันคนก็พากันมาชุมนุมที่จัตุรัสทาห์รีร์ ซึ่งเป็นพื้นที่แห่งประวัติศาสตร์ขับไล่ผู้นำเผด็จการคนก่อนหน้านี้ ด้านมอร์ซีเข้าหารือกับฝ่ายตุลาการ ยันไม่เปลี่ยนแปลงคำประกาศ

วันที่ 27 พ.ย. 2012 ประชาชนชาวอียิปต์หลายพันคนกลับมารวมตัวกันที่จัตุรัสทาห์รีร์ในกรุงไคโรอีก ครั้งเพื่อประท้วงโมฮาเม็ด มอร์ซี ประธานาธิบดีคนล่าสุดที่มาจากการเลือกตั้ง จากการที่มอร์ซีประกาศกฤษฎีกาที่มอบอำนาจเด็ดขาดให้กับตนเอง

อัลจาซีร่ารายงานว่า มีการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงและตำรวจปราบจลาจล ที่จัตุรัสทาห์รีร์ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดการประท้วงลุกฮือเพื่อโค่นล้มอดีตปธน.ฮอสนี มูบารัค เมื่อเดือน ก.พ. 2011 และมีนักกฏหมายจำนวนหนึ่งออกจากอาคารสมาคมมาร่วมชุมนุมโดยเปล่งคำขวัญว่า "ประชาชนต้องการให้รัฐบาลนี้ล่มสลาย" ซึ่งเป็นคำขวัญเดียวกับที่เคยเป็นสัญลักษณ์ของการโค่นล้มมูบารัคมาก่อน

ในเมืองอเล็กซานเดรีย มีประชาชนหลายร้อยคนรวมตัวกันที่จัตุรัสคาอีทเบย์ พากันตะโกนคำขวัญว่า "ขอให้ผู้นำสูงสุดจงออกไป" โดยที่ 'ผู้นำสูงสุด' หรือ Supreme Guide เป็นคำที่ใช้เรียกผู้นำของกลุ่มภราดรภาพมุสลิม กลุ่มที่สนับสนุนมอร์ซีจนได้เป็นรัฐบาลอียิปต์

ขณะเดียวกันกลุ่มมวลชนของภราดรภาพมุสลิมซึ่งให้การสนับสนุนมอร์ซี ก็หมายจะชุมนุมแสดงจุดยืนของตนแต่ก็ถูกบอกเลิกชุมนุมเนื่องจากเกรงว่าจะเกิด เหตุการณ์ไม่สงบ แต่นั่นก็ไม่ทำให้ความขัดแย้งระหว่างสองกลุ่มนี้ลดน้อยลง

ในการชุมนุมที่จัตุรัสทาห์รีร์มีการเขียนป้ายต่อว่า "กลุ่มภราดรภาพมุสลิมช่วงชิงการปฏิวัติไป" อีกป้ายหนึ่งเขียนว่า "กลุ่มภราดรภาพมุสลิมเป็นพวกโกหก" และมีป้านที่เขียนว่าประธานาธิบดี "บีบบังคับให้ประชาชนต้องอารยะขัดขืน"

(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2012/11/43929

เสธอ้าย"กลับลำ พร้อมนำอพส.ก่อม็อบต่อ "เฉลิม"ชี้แค่พักยก-เชื่อคดี99ศพตัวเร่ง

เสธอ้าย"กลับลำ พร้อมนำอพส.ก่อม็อบต่อ "เฉลิม"ชี้แค่พักยก-เชื่อคดี99ศพตัวเร่ง


Posted Image

"เต้น-เฉลิม"แฉขบวนการล้มรบ.ยังอยู่แค่พักยก ชี้คำสั่งศาลชันสูตรคดี 99 ศพตัวเร่ง เลขาฯสมช."ชี้ อพส.ฟังซักฟอกหาประเด็นโค่นรัฐบาล

"อ้าย"คุยพร้อมนำม็อบอีก

อดีต นักเรียนเตรียมทหารรุ่น 1 พร้อมภรรยากว่า 30 คน และ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำเสื้อหลากสี เข้าพบ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือเสธ.อ้าย ประธานองค์การพิทักษ์สยาม (อพส.) ที่สนามม้านางเลิ้งเมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 27 พฤศจิกายน เพื่อให้กำลังและมอบช่อดอกไม้ หลังจากที่ พล.อ.บุญเลิศประกาศยกเลิกการ ชุมนุมและประกาศยุติทุกบทบาทเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

จากนั้น พล.อ.บุญเลิศกล่าวถึงแนวทางการเคลื่อนไหวของ อพส.ว่า ยังไม่มีกำหนดว่าจะเคลื่อนไหวอย่างไร ต้องการประชุมกันอีกที หากมีการระดมมวลชนอีก เชื่อว่าจะมีผู้ชุมนุมเข้าร่วมจำนวนมาก "ทั้งนี้ ไม่ขอเป็นแกนนำแล้ว ส่วนใครจะขึ้นมาแทนนั้นยังไม่ทราบ ยังไม่ได้คุยกันภายใน อพส.ว่าใครจะเป็นแกนนำ ซึ่งอาจจะเป็น พล.อ. ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ หรือ น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ ก็ได้ แต่หากประชาชนเรียกร้องให้ผมเป็นผู้นำในการชุมนุมครั้งต่อไปก็พร้อมรับ หน้าที่ต่อ" พล.อ. บุญเลิศกล่าว

เผยได้เงินบริจาคไม่เกิน2ล.

ลอยกระทงไล่ส่งเผด็จการ

ลอยกระทงไล่ส่งเผด็จการ





ลอยอังคารเสธ.อ้าย

(คลิก) 
http://www.youtube.com/watch?v=yZdYoj5EQUk&feature=player_embedded#!

เรารู้จักลอยกระทงกันครั้งแรกเมื่อไร?

เรารู้จักลอยกระทงกันครั้งแรกเมื่อไร?

 


ค่ำคืนพรุ่งนี้ก็จะเป็นวันสำคัญของชาววัยรุ่นและเด็กๆ กันแล้วนะครับ

ใช่ครับ พรุ่งนี้เป็นวันลอยกระทง หัวโบราณจึงมาขอเล่าเรื่องลอยกระทง เพราะว่าประเพณีลอยกระทงยังถูกบิดเบือน หรือเข้าใจผิดกันอยู่(อีกแล้ว)

ปุจฉา เรารู้จักลอยกระทงกันครั้งแรกเมื่อไร? วิสัชนา... ประเพณีลอยกระทงปรากฏขึ้นครั้งแรกในวรรณคดีเรื่องนางนพมาศ พิมพ์ครั้งแรกเมื่อ 1 พ.ค. 2457 ผู้แต่งคือ นางนพมาศ ทำงานในสมัยสุโขทัย จนได้เลื่อนขึ้นเป็น ท้าวศรีจุฬาลักษณ์ ผลงานอันเอกอุคือ การประดิษฐ์โคมลอยรูปดอกกระมุท อันเป็นที่มาของการลอยกระทงนั่นเอง

ประวัติศาสตร์วรรณคดีไทย, แบบเรียนของเด็ก, แม้กระทั่งวรรณกรรมสุโขทัยของกรมศิลปากร ก็กล่าวว่า ประเพณีลอยกระทง เริ่มแรกขึ้นตั้งแต่สมัยสุโขทัย ???? !!!!

นี่คืออีกหนึ่งตัวอย่างในการสร้างข้อเท็จ(จริงหรือ?) ให้กับเราๆ ท่านๆ อย่างมาก เพราะแนวคิดปัจจุบันก้าวล้ำคู่ขนานกับโลกาวิวัฒน์ไปนานแล้วว่า “ลอยกระทงไม่ได้เริ่มต้นขึ้นที่สุโขทัย และเรื่องนางนพมาศก็ไม่ได้แต่งในสมัยนี้เช่นกัน”

บรมครูแห่งด้านประวัติศาสตร์ไทยอย่าง กรมพระยาดำรงราชานุภาพ มั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่า ไม่ได้แต่งในสมัยสุโขทัยอย่างแน่นอน และน่าจะแต่งขึ้นในสมัย ร.3 รวมไปถึงนักวิชาการแนวหน้าของไทย นิธิ เอียวศรีวงศ์ พระยาอนุมานราชธน ฯลฯ ก็เห็นพ้องต้องกันกับเรื่องนี้

นอกจากนี้ยังมีหลักฐานที่วิเคราะห์ยืนยันได้ ชัดๆ จะๆ อีกครับ

สุโขทัยเป็นเมืองที่แห้งแล้งมาก(ไม่เหมือนสมัยนี้ ฝนตกทีหนีน้ำแทบไม่ทัน) เนื่องจากภูมิศาสตร์ที่ไม่เอื้ออำนวยเท่าที่ควรตั้งอยู่บนที่ราบเชิงเขา กว่าจะมีทางน้ำไหลผ่านก็ร่วม 10 กว่ากิโล จึงต้องมีการสร้าง “สรีดภงส” และ “ตระพัง” สำหรับกั้นน้ำขึ้นมา เพื่อเก็บน้ำไว้ในด้านชลประทานและตอนแห้งแล้ง ดั่งจารึกที่กล่าวไว้ว่า

“เมืองสุโขทัยนี้มีน้ำตระพังโพยสีใสกินดี ดั่งกินน้ำโขงเมื่อแล้ง”

เมื่อกล่าวถึงเรื่องจารึก จารึกสมัยสุโขทัยทุกชิ้น ไม่มีกล่าวถึงประเพณีอะไรเยวกับการบูชาน้ำเลย และแน่นอนไม่มีกล่าวถึงการลอยกระทง

ทั้งแล้ง ทั้งแห้ง จะใช้น้ำทีคิดแล้วคิดอีก แล้วจะเอาตระพังสระน้ำไปใช้ให้กระทงลอยน้ำเนี่ยนะ เป็นไปบ่ได้ดอก

เรื่องนางนพมาศและการลอยกระทงจึงเป็นแค่ “นิยาย” ที่สมมติขึ้นจากความชื่นชอบในสมัย ร.3

แต่ความจริงลอยกระทงก็อาจไม่ได้เริ่มทำกันตั้งแต่สมัย ร.3 เสมอไป

หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่กล่าวถึงการลอยกระทงที่เก่าแก่ที่สุด เห็นจะเป็น พระราชพงศาวดารฉบับขุนหลวงหาวัด กล่าวถึงในสมัยพระเจ้าเอกทัศว่า “... พระองค์เสด็จทรงประทีปอยู่บนเรือขนาน แล้วถวายธูปเทียนดอกไม้และกระทงกระดาษตามเทียนและเรือต่างๆ เป็นจำนานมาก...”

การลอยกระทงอย่างน้อยจึงน่าจะมีขึ้นในสมัยอยุธยาแล้ว ซึ่งก็เข้ากันได้ดีกับสภาพวิถีชีวิตของชาวอยุธยาที่อยู่กับ “น้ำ” มายาวนาน

แต่แม้จะมีหลักฐานในช่วงสมัยอยุธยา ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเริ่มทำครั้งในในสมัยอยุธยา เพราะความจริงแล้ว ประเพณีลอยกระทงเป็นวัฒนธรรมร่วมในอุษาคเนย์ ในฐานะ "ประเพณีขอขมาดินและน้ำ" ตามลัทธิการบูชาผีและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามธรรมชาติตั้งแต่สมัยโบราณนานมากๆ แล้ว ซึ่งเดิมทีก็คงใช้ของตามธรรมชาติในอาเซียนทั่วไปเช่น ไม้ไผ่

ประเพณีลอยกระทงจึงเป็นประเพณีในอาเซียนที่ทำทุกประเทศ “ไม่ใช่ของไทย” อย่างเดียว

และที่สำคัญ “ประวัติศาสตร์ปลอมเริ่มต้นที่สุโขทัย นั้นไม่จริง” แต่เริ่มมานานแล้ว เพิ่งจะมา “บูม” เอาช่วง ร.3 นี่เอง

คลิปนี้แหล่ะครับ เป็นคลิปที่ทำให้ม๊อบฟายบุญเลิศแตกกระเจิง

คลิปนี้แหล่ะครับ เป็นคลิปที่ทำให้ม๊อบฟายบุญเลิศแตกกระเจิง





เห็นคลิปนี้ที่ประชาทอล์ค แว่บหนึ่ง
สักครู่ กระทู้ที่วางคลิปนี้ ก็อันตธานหายไปคลิปนี้แหล่ะครับ เป็นคลิปที่ทำให้ม๊อบฟายบุญเลิศแตกกระเจิง แสดงว่า มีการไล่ล่าคลิปนี้ .. อย่างนี้ต้อง Save เก็บ

คลิปนี้แหล่ะครับ เป็นคลิปที่ทำให้ม๊อบฟายบุญเลิศแตกกระเจิง
เล่ากันว่า .. ฟายบุญเลิศหมายมั่นปั้นมือว่าจะใช้คลิปนี้เป็นหมัดเด็ด ปลุกปั่นกระแสคลั่งเจ้า ให้ลุกฮือขึ้นมา หลังจากนั้น ก็น่าจะเกิดความวุ่นวาย ควบคุมไม่ได้ .. และแล้วขบวนรถถัง ก็จะออกมาเพล่นพล่านบนท้องถนน

แต่ฟายบุญเลิศคิดผิดถนัด เหตุการณ์กลับตาลปัตร
หลังจากเปิดคลิปนี้ได้ไม่นานนัก ก็มีโทรศัพท์ต่อสายเข้ามาฟายบุญเลิศระหว่างคุยสาย .. ฟายบุญเลิศหน้าซีด เหงื่อต หลังวางสาย .. ฟายบุญเลิศถึงกับพูดกับคนรอบข้างว่า "ไอ้ฟายตัวที่ชื่อบุญเลิศ มันได้ตายไปแย้ว" เหตุการณ์ต่อจากนั้น คือ ฟายบุญเลิศเดินคอตก ขึ้นไปประกาศสลายม๊อบบนเวที

ทีเด็ดเสธอ้าย พวกโง่แต่ขยัน - YouTube.flv

(คลิกฟัง)
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=RsvgtNO7Za4#!