หน้าเว็บ

วันพุธที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ความสำคัญของ “การปฏิวัติถาวร” ในโลกปัจจุบัน

ความสำคัญของ “การปฏิวัติถาวร” ในโลกปัจจุบัน

 


 
Leon Trotsky

โดย ใจ อึ๊งภากรณ์


คำว่า “การปฏิวัติถาวร” เป็นคำที่คาร์ล มาร์คซ์ เริ่มใช้ในปี ค.ศ. 1848 เมื่อเขาเห็นว่าชนชั้นนายทุนในยุโรปหมดสภาพในการเป็น “ชนชั้นก้าวหน้าปฏิวัติ” ที่จะล้มซากของระบบฟิวเดิลที่ยังหลงเหลืออยู่ก่อนหน้านั้นในปี 1640-1688 ในอังกฤษ ในปี 1776 ที่อเมริกา และในปี 1789 ที่ฝรั่งเศส

ชนชั้นนายทุนเป็นหัวหอกในการนำการปฏิวัติที่ล้มอำนาจเก่า แต่พอมาถึง ค.ศ. 1848 ชนชั้นนายทุนเกรงกลัวชนชั้นใหม่ที่ยืนอยู่ข้างหลัง นั้นคือชนชั้นกรรมาชีพ นายทุนกลัวว่าถ้าปลุกกระแสปฏิวัติ กรรมาชีพจะไม่หยุดง่ายๆ และจะต่อสู้ต่อไปเพื่อกำจัดการกดขี่ขูดรีดของนายทุนและอำนาจเก่าที่เป็นซาก ระบบขุนนางด้วยพร้อมๆ กัน ดังนั้นการลุกฮือปฏิวัติถาวรของกรรมาชีพคือสิ่งที่คาร์ล มาร์คซ์หันมาสนับสนุนเต็มที่ตั้งแต่ 1848


ในปี ค.ศ. 1906
ลีออน ตรอทสกี เริ่มฟื้นฟูความคิดปฏิวัติถาวรของมาร์คซ์ในรัสเซีย เพื่อเสนอว่ากรรมาชีพรัสเซียต้องต่อสู้อิสระจากนายทุนชาตินิยม และควรก้าวข้ามขั้นตอนประชาธิปไตยทุนนิยมหลังล้มกษัตริย์ซาร์ เพื่อไปสู่การปฏิวัติสังคมนิยมและอำนาจของรัฐกรรมาชีพทันที และเราก็เห็นว่าในปี 1917 การล้มกษัตริย์ซาร์ในเดือนกุมภาพันธ์ ตามมาด้วยการปฏิวัติสังคมนิยมในเดือนตุลาคม โดยที่พรรคบอล์เชวิคเป็นหัวหอกของกรรมาชีพผู้ปฏิวัติ และเลนินมีข้อสรุปตรงกับมาร์คซ์และตรอทสกี มาตั้งแต่เดือนเมษายน 1917 อีกด้วย

หลังการปฏิวัติรัสเซีย ประเด็นเรื่อง
“การปฏิวัติถาวร” กลายเป็นเรื่องชี้ขาดในการปฏิวัติจีนและสเปน แต่พรรคคอมมิวนิสต์สากลสมัยนั้นเริ่มตกอยู่ในมือของพรรคพวกของสตาลิน ที่ขึ้นมาปฏิวัติซ้อนและระงับความก้าวหน้าของรัสเซีย สตาลินเน้นเสถียรภาพของรัสเซียและของรัฐบาลข้าราชการแดงเป็นหลัก จึงไม่อยากให้การปฏิวัติในที่อื่นๆ มารบกวนการคานอำนาจทั่วโลก เพราะเขาต้องการเอาใจมหาอำนาจทุนนิยมตะวันตก

ดังนั้นพรรคคอมมิวนิสต์สายสตาลินเหมาในจีน และสายสตาลินในสเปน เริ่มปฏิเสธแนวปฏิวัติถาวร เพื่อทำแนวร่วมกับนายทุนชาตินิยมแทน ผลคือนายทุนชาตินิยมในพรรคก๊กหมินตั๋งจีน จัดการปราบและสลายพวกคอมมิวนิสต์ จนสหายที่รอดตายต้องหนีออกจากเมือง และในสเปนการยอมจำนนต่อทุนนิยมทำให้กระแสปฏิวัติพ่ายแพ้และฟาสซิสต์ขึ้นมา ครองประเทศได้


หลังจากนั้น จนถึงยุคพังทลายของกำแพงเมืองเบอร์ลินและการสิ้นสุดของสงครามเย็น องค์กรหลักที่คัดค้านการปฏิวัติถาวร เพื่อระงับการต่อสู้ไม่ให้ไปถึงสังคมนิยม คือพรรคคอมมิวนิสต์ทั่วโลก และพรรคเหล่านี้ ไม่ว่าจะในตะวันออกกลางหรือในอินโดนีเซียหรือไทย ก็เสนอให้ฝ่ายซ้ายจับมือกับผู้นำชนชั้นนายทุน เช่น นาเซอร์ในอียิปต์ ซะดัมในอิรัก ซุการ์โน ในอินโดนีเซีย หรือสฤษดิ์ ในไทย และทุกครั้งโดยไม่มีข้อยกเว้น ผู้นำเหล่านั้นจะหักหลังพรรคคอมมิวนิสต์ และการต่อสู่ก็จบลงด้วยความพ่ายแพ้และการนองเลือด


หลังจากที่พรรคคอมมิวนิสต์ล่มสลายทั่วโลก ประเด็นการปฏิวัติถาวรไม่ได้จบไป เมื่อต้นปี ค.ศ. 2011 ในตะวันออกกลาง มีการลุกฮือล้มเผด็จการ และเรื่อง
“การปฏิวัติถาวร” กลายเป็นเรื่องแหลมคมอีกครั้ง เพราะคนที่คัดค้านการปฏิวัติถาวรไปสู่อำนาจกรรมาชีพและสังคมนิยม กลายเป็นรัฐบาลทหารอียิปต์และพรรคมุสลิม เพราะสองกลุ่มอำนาจนี้ต้องการรักษาโครงสร้างเดิมในอียิปต์ไว้แต่เปลี่ยนแค่ ผู้นำ จากผู้นำเผด็จการมูบารัก ไปสู่ผู้นำที่มาจากการเลือกตั้ง โดยที่สภาพความเป็นอยู่ของคนส่วนใหญ่ไม่เปลี่ยนแปลงเลย ดังนั้นเราจะเห็นว่าคนหนุ่มสาวและนักสังคมนิยมที่ออกมาต่อสู้กับรัฐบาลทหาร ในอียิปต์เมื่อปลายปีเดียวกัน เป็นพวกที่ต้องการให้ปฏิวัติถาวร


ในลิบเบีย มหาอำนาจตะวันตกเข้ามาแทรกแซงการปฏิวัติเพื่อล้มเผด็จการกาดาฟี เพื่อไม่ให้นักสู้รากหญ้าเดินตามแนวปฏิวัติถาวร ตะวันตกต้องการเปลี่ยนผู้นำ แต่ต้องการรักษาโครงสร้างที่พร้อมจะขายน้ำมันให้บริษัทข้ามชาติ

ในไทย หลังจากที่พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง รัฐบาลเพื่อไทย และแกนนำ นปช. ต้องการที่จะให้โครงสร้างเก่าคงอยู่ เพียงแต่เปลี่ยนรัฐบาล จากรัฐบาล “พรรคทหาร” ไปสู่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เราเห็นชัดในกรณีที่เพื่อไทยและ นปช. ไม่ยอมแตะอำนาจทหาร และกฎหมายเผด็จการต่างๆ เช่น 112 เป็นต้น และถ้าเราต้องการให้ไทยเป็นประชาธิปไตยแท้ และต้องการเปลี่ยนสภาพความเป็นอยู่ของคนส่วนใหญ่ในสังคม เพื่อยุติการกดขี่ขูดรีด เราต้องสู้ต่อไป ไม่ใช่หยุดอยู่แค่ขั้นตอนการมีรัฐบาลจากการเลือกตั้งเท่านั้น

ทั้งหมดนี้แสดงให้เราเห็นความสำคัญของ “การปฏิวัติถาวร” ในโลกปัจจุบัน

(ที่มา)
http://turnleftthai.blogspot.dk/2011/12/blog-post_06.html

Wake up Thailand ประจำวันพุธที่ 31 ตุลาคม 2555

Wake up Thailand ประจำวันพุธที่ 31 ตุลาคม 2555
       


รำลึกนวมทอง ไพรวัลย์

(คลิกฟัง)
http://www.dailymotion.com/video/xuq6e9

The Daily Dose ประจำวันที่ 31 ตุลาคม 2555

The Daily Dose ประจำวันที่ 31 ตุลาคม 2555


  
ธนาคารยุโรปรับผิดชอบตนเอง

(คลิกฟัง)
http://www.dailymotion.com/video/xuqkvy

Divas Cafe ประจำวันที่ 31 ตุลาคม 2555

Divas Cafe ประจำวันที่ 31 ตุลาคม 2555


 
รำลึก 6 ปี นวมทอง ไพรวัลย์ แท๊กซี่ผู้พลีชีพเพื่อต้านรัฐประหาร

(คลิกฟัง)
http://www.dailymotion.com/video/xuqdl2_yyy-y-6-

วิกฤติศีลธรรมบีบีซี: เมื่อความเชื่อมั่นของสาธารณะสั่นคลอน

วิกฤติศีลธรรมบีบีซี: เมื่อความเชื่อมั่นของสาธารณะสั่นคลอน

 


 
เซอร์ เจมส์ วิลสัน วินเซนท์ เซวิลล์ หรือ "จิม เซวิลล์"
 
'จิม เซวิลล์' อดีตผู้ดำเนินรายการชื่อดังของบีบีซีผู้เสียชีวิตเมื่อปีที่แล้ว ได้สร้างความสั่นสะเทือนในสังคมอังกฤษ เมื่อพบหลักฐานเร็วๆ นี้ว่าเขาอาจล่วงละเมิดเด็กทางเพศกว่า 300 คนตลอดการทำงาน 40 ปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดวิกฤติความเชื่อมั่นต่อบีบีซีที่รุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี


"จิม เซวิลล์" เป็นที่รู้จักในฐานะนักจัดรายการวิทยุชื่อดังของสถานีข่าวบีบีซี เขาเป็นผู้ดำเนินรายการจัดชาร์ตเพลงอังกฤษ "Top of the Pops" คนแรกและคนสุดท้าย และยังทำรายการ "Jim'll Fix It" มาต่อเนื่องกว่า 40 ปี รายการดังกล่าวคล้ายกับรายการ "ฝันที่เป็นจริง" บ้านเรา คือ ให้เด็กๆ (และคนทั่วไป) เขียนขอพรมายังรายการ และ "ลุงจิม" ก็จะเดินทางไปทำคำขอดังกล่าวให้เป็นจริง


จิม เซวิลล์ ผู้เสียชีวิตเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ยังได้รับมอบตำแหน่ง "ขุนนาง" จากกษัตริย์อังกฤษในปี 1990 จากการทำงานเพื่อมูลนิธิสำหรับเด็กและเยาวชน นอกจากนี้ เขายังใกล้ชิดเป็นอย่างดีกับอดีตนายกรัฐมนตรี มากาเร็ต เเธ็ตเชอร์ และเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม หลังจากการเสียชีวิตของเซวิลล์ต่อมา 1 ปี สก็อตแลนด์ยาร์ด องค์กรตำรวจของอังกฤษออกมาเปิดเผยว่า พวกเขาได้เริ่มทำการสอบสวนกรณีล่วงละเมิดทางเพศเด็กของเซวิลล์ โดยมีผู้เสียหายแล้วอย่างน้อย 10 ราย และมีเบาะแสว่าเขาได้ทำเช่นเดียวกันกับเหยื่ออีกราว 300 คน ตลอดชีวิตการทำงาน 40 กว่าปีที่ผ่านมาของเขา โดยเหยื่ออายุน้อยที่สุดมีอายุเพียง 10 ขวบ เด็กที่ป่วยและพิการ ไปจนถึงผู้ชายที่แปลงเพศเป็นหญิง

มีรายงานว่า จิม เซวิลล์ ได้ใช้การเข้าถึงตัวเด็กๆ ผ่านทางรายการโทรทัศน์ มูลนิธิ การเข้าเยี่ยมผู้ป่วยเยาวชนในโรงพยาบาล เพื่อล่วงละเมิดทางเพศ ผู้ที่เคยถูกเซวิลล์ล่วงเกิน เริ่มออกมาให้ปากคำถึงการกระทำของเขา อาทิ เควิน คุก ซึ่งอายุ 9 ขวบในปี 1976 และได้ไปออกรายการ Jim'll Fix It และถูกเซวิลล์ลวนลามในขณะที่อยู่ในห้องแต่งตัว หรือ นาง แคริน วาร์ด ซึ่งกล่าวว่าตนถูกเซวิลล์ล่วงละเมิดในขณะที่อยู่ในโรงเรียนหญิงล้วนในเมือง เซอร์เรย์เมื่อเธอยังเป็นเด็ก เช่นเดียวกับนายสตีเวน จอร์จ ซึ่งพักรักษาตัวจากการผ่าตัดแปลงเพศที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในอังกฤษ กล่าวว่า ในช่วงทศวรรษ 1970 เป็นช่วงที่เซวิลล์เริ่มเข้าเยี่ยมผู้ป่วยในโรงพยาบาล ตนเองถูกเซวิลล์เข้ามาคุมคามทางเพศในห้องพัก เขาชี้ว่า เขาให้การกับตำรวจหลังออกจากโรงพยาบาล แต่ตำรวจกลับไม่เชื่อ และไม่ได้ลงบันทึกการฟ้องดังกล่าวไว้
  
(อ่านต่อ) 
http://www.prachatai.com/journal/2012/10/43349

กลุ่ม24มิถุนาฯ รำลึก 6 ปี "ลุงนวมทอง”

กลุ่ม24มิถุนาฯ รำลึก 6 ปี "ลุงนวมทอง”

 

 
 
รำลึกอุดมการณ์ นวมทอง ไพรวัลย์
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=Vxk2kLnKKgM


กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย จัดรำลึก 6 ปี การอัตตวินิบาตกรรม “ลุงนวมทอง ไพรวัลย์” คนขับแท็กซี่ต้านรัฐประหาร สุชาติ นาคบางไทร เรียกร้องเป็นวันสำคัญของประเทศไทย

วันนี้(31 ต.ค.55) เวลา 10.00 น. ที่สะพานลอยหน้าไทยรัฐ ถนนวิภาวดีรังสิต ประชาชนประมาณ 50 คน นำโดย กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย จัดกิจกรรมรำลึก 6 ปีการเสียชีวิตของ "นวมทอง ไพรวัลย์" คนขับแท็กซี่ที่ผูกคอเสียชีวิตบริเวณดังกล่าว โดยในจดหมายลาตายระบุว่า ต้องการลบคำสบประมาทของ พันเอก อัคร ทิพโรจน์ รองโฆษก คณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข(คปค.) ที่ว่า ไม่มีใครมีอุดมการณ์มากขนาดยอมพลีชีพได้ จากการที่ก่อนหน้านั้น 30 ก.ย.49  นายนวมทอง ได้ขับแท็กซี่พุ่งชนรถถังของ คปค. เพื่อประท้วงการรัฐประหาร ที่บริเวณลานพระบรมรูปทรง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส

(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/node/43425

โรเบิร์ต ฟิสก์: ไม่ว่าโอบาม่าหรือรอมนีย์ชนะ ความสัมพันธ์สหรัฐฯ-อาหรับ จะเปลี่ยนไป

โรเบิร์ต ฟิสก์: ไม่ว่าโอบาม่าหรือรอมนีย์ชนะ ความสัมพันธ์สหรัฐฯ-อาหรับ จะเปลี่ยนไป

 


โรเบิร์ต ฟิสก์ นักข่าวผู้เชี่ยวชาญเรื่องตะวันออกกลางเขียนบทความลงเว็บไซต์ The Independent เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ที่ผ่านมาเกี่ยวกับมุมมองเรื่องการเลือกตั้งประธานาธิบดีในสหรัฐฯ กับผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับโลกอาหรับ โดยจั่วหัวไว้ว่า "ไม่ว่าโอบาม่าหรือรอมนีย์เป็นฝ่ายชนะ ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกากับโลกอาหรับต้องเปลี่ยนไปแน่นอน"


"ผู้อ่านบทความนี้คงแก่หรือตายไปก่อนที่ 'การปฏิวัติ' อาหรับจะเสร็จสิ้นจริงๆ และปาเลสไตน์ก็เป็นฝ่ายเดียวที่ไม่ได้ประโยชน์จากมันเลย" ฟิสก์กล่าว

บทความของฟิสก์ขึ้นต้นว่า ทั้งโอบาม่า และรอมนีย์ ดูจะเข้าข้างอิสราเอลกันทั้งคู่ และชาวอาหรับก็ต้องตักสินใจนานมากกว่าจะบอกว่าใครจะเป็นคนที่ดีกว่าสำหรับ ชาวตะวันออกกลาง ดูเหมือนโอบาม่าจะเป็นคนที่เหมาะสมในกรณีนี้ แต่ก็มีเรื่องน่าเศร้าบางอย่างที่ทำให้สองคนนี้ไม่ต่างกัน

ฟิสก์เล่าว่า จอร์จ บุช ได้สั่งกองทัพบุกอิรักหลังจากให้อนุญาตอาเรีย ชารอน อดีตนายกรัฐมนตรีอิสราเอลยึดเขตเวสท์ แบงค์ ไว้เป็นอาณานิคมต่อไป โอบาม่าถอนทัพจากอิรักเพิ่งการโจมตีด้วยโดรนมากขึ้นในเขตพรมแดน ปากีสถาน-อัฟกานิสถาน และยอมจำนนต่อเบนจามิน เนทันยาฮู เมื่อเขาบอกว่าจะไม่มีการหารือกันเรื่องให้อิสราเอลถอนกำลังไปยังพรมแดนปี 1967

"แทนที่จะบอกว่า 'มันควรจะมีการหารือ' อย่างที่ประธานาธิบดีที่เข้มแข็งและเป็นตัวของตัวเองควรทำ โอบาม่านั่งขลาดๆ อยู่บนเก้าอี้ทำเนียบขาว ขณะที่นายกฯ อิสราเอลบอกเขาว่าข้อมติ 242 ของยูเอ็น ที่พูดถึง 'กระบวนการสันติ' อันไม่เคยมีอยู่จริง ไม่มีโอกาสสำเร็จตั้งแต่ต้น" ฟิสก์กล่าวในบทความ

ขณะเดียวกันฟิสก์ก็กล่าววิจารณ์มิตต์ รอมนีย์ ผู้สมัครอีกคนของสหรัฐฯ ว่าเขาเป็นคนที่มีความเข้าใจในเรื่องตะวันออกกลางพอๆ กับนักเทศน์ในเท็กซัสที่เผาคัมภีร์อัลกุรอาน รอมนีย์บอกว่าชาวปาเลสไตน์ "ไม่สนใจเรื่องการวางรากฐานสันติภาพใดๆ เลย" และรอมนีย์ยังไม่สามารถอธิบายให้เป็นที่พอใจได้ว่าทำไมในปี 2005 สมัยที่เขายังเป็นผู้ว่าการรัฐฯ แมสซาชูเซตส์ เขาถึงกระตือรือร้นในการแอบดักฟังมัสยิดนัก

"ความจริงคือว่า ไม่ว่าใครก็ตามที่จะได้เป้นประธานาธิบดีคนใหม่ พวกเขาจะไม่มีอิสระในการตัดสินนโยบายเรื่องตะวันออกกลาง" ฟิสก์กล่าว "เว้นแต่อิสราเอลโจมตีอิหร่านและลากอเมริกาเข้าร่วมสงครามตะวันออกกลางอีก ครั้ง แต่นี่จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์อเมริกันที่ผู้เข้าดำรงตำแหน่ง ประธานาธิบดีจะต้องจัดการโลกอาหรับแบบใหม่ หรือจริงๆ คือโลกมุสลิมใหม่"

(คลิกอ่าน)
http://www.prachatai.com/journal/2012/10/43414

โครงสร้างความสัมพันธ์ของสังคมไทยใน 'แรงเงา'

โครงสร้างความสัมพันธ์ของสังคมไทยใน 'แรงเงา'

 

 
ยุกติ มุกดาวิจิตร: ทำไมพระเอกมันโง่จัง


"สำหรับผู้เขียนนั้นมิได้เป็นแฟนพันธุ์แท้ของละครเรื่องดังกล่าว แต่เนื่องจากบุคคลใกล้ชิดตกอยู่ในสภาพที่เรียกได้ว่า “ติดงอมแงม” ผู้เขียนจึงได้ติดตามละครเรื่องดังอยู่บ้างเป็นครั้งคราว กระนั้นก็ตาม จากการติดตามแบบห่างๆ อย่างห่วงๆ  เช่นนี้กลับพบว่า ละครเรื่องดังกล่าวมีความน่าสนใจมากกว่าประเด็นเรื่องการตบตีแย่งผัว แย่งเมีย แต่พบว่ามันสะท้อนให้เห็นถึงโครงสร้างความสัมพันธ์ของคนกลุ่มต่างๆ ในสังคมไทยได้ดีทีเดียว แม้ว่าจะไม่ชัดเจนและจงใจนักก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ผู้เขียนเองไม่ใช่นักวิจารณ์มืออาชีพ สิ่งที่จะเขียนต่อไปนี้ จึงคล้ายกับการจับแพะชนแกะ พยายามลากเรื่องราวในเนื้อเรื่องให้เข้าสู่โครงเรื่องที่ผู้เขียนวางเอาไว้ ดังนั้น ท่านผู้อ่านจึงอย่าหวังที่จะหาความเป็นวิชาการ หรือบทวิจารณ์ที่เข้มข้นลึกซึ้งจากบทความของผู้เขียนฉบับนี้

ผู้เขียนเห็นว่า “แรงเงา” เป็นภาพสะท้อนความเปลี่ยนแปลงของความสัมพันธ์ระหว่าง “บ้าน” กับ “เมือง” ในช่วง 50 ปีหลังนี้เป็นอย่างดี โดยแสดงผ่านตัวละครต่างๆ ที่สัมพันธ์กันอย่างสับสนวุ่นวายภายในเนื้อเรื่อง ซึ่งผู้เขียนได้แบ่งออกเป็นกลุ่มๆ ดังต่อไปนี้ หนึ่งคือ “พวกผู้ดีเก่า” สะท้อนผ่านตัวละครคือ “ผอ.เจนภพ” สองคือ “พวกผู้ดีใหม่” สะท้อนผ่านครอบครัวเมียหลวง “นพนภา” สามคือ ชนชั้นกลางในเมืองกรุง สะท้อนผ่านพระเอกของเรื่อง “วีกิจ” สี่คือ “ชนบทเก่า” ผ่านตัวละคร “มุตตา” และสุดท้ายคือ “ชนบทใหม่” ผ่านนางเอกสุดร้าย มากฤทธิ์อย่าง “มุนินทร์”"

(อ่านต่อ) 
http://www.prachatai.com/journal/2012/10/43405

สัมภาษณ์ทนายความคดีสุรภักดิ์ : มุมมองการ

สัมภาษณ์ทนายความคดีสุรภักดิ์ : มุมมองการต่อสู้คดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์-112





"เราพูดเรื่องสิทธิของจำเลยในการได้รับการประกันตัวกันเยอะ แต่เราไม่เคยพูดว่าอำนาจของคนที่จะไม่ให้ประกันตัวควรจะมีแค่ไหน จริงๆ เราควรพูดเรื่องนี้มากกว่า ผมเห็นว่าปัญหานี้เป็นปัญหาเรื่องของคนซึ่งสามารถใช้ช่องว่างของระบบ แต่ถ้าเราสามารถแก้ไขระบบได้ ต่อให้คนที่มีทัศนคติเกี่ยวกับคดียังไง ก็ไม่สามารถใช้ดุลยพินิจเกินเลยได้"
ธิติพงษ์ ศรีแสน


การยกฟ้องในคดีของสุรภักดิ์ ผู้ต้องขังในคดีความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ และมาตรา 112 กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ สร้างแรงกระเพื่อมอย่างสำคัญในสังคม โดยเฉพาะแวดวงนักกิจกรรมและผู้ที่สนใจเรื่องสิทธิมนุษยชน เพราะคดีลักษณะดังกล่าว เมื่อเกี่ยวพันกับมาตรา 112 ที่ผ่านมาแทบไม่ปรากฏการชนะคดีให้เห็น ยกเว้นคดี ‘เบนโตะ’ ผู้ถูกกล่าวหาว่าโพสต์ข้อความในเว็บบอร์ด

ธิติพงษ์ ศรีแสน หรือที่เรียกกันว่า ทนายเซียง เป็นทนายว่าความคดีนี้ เขาเป็นทนายผู้เชี่ยวชาญคดีทรัพย์สินทางปัญญาและเริ่มทำคดีความมั่นคงที่ เป็นประเด็นอ่อนไหวเป็นคดีแรก ความน่าสนใจของเขาอยู่ที่แนวทางในการสืบพยานและการเตรียมการของทนายซึ่งไม่ มีผู้เชี่ยวชาญคอยช่วยเหลือ รวมไปถึงมุมมองเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมที่น่าสนใจ

(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2012/10/43417

ยกฟ้อง! คดีโปรแกรมเมอร์ถูกกล่าวหาโพสต์เฟซบุ๊กหมิ่นสถาบัน

ยกฟ้อง! คดีโปรแกรมเมอร์ถูกกล่าวหาโพสต์เฟซบุ๊กหมิ่นสถาบัน


ฝากรูป

31 ต.ค.55 เวลาประมาณ 9.50 น. ห้องพิจารณาคดี 804 ศาลอาญา รัชดา ผู้พิพากษานั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อ.4857/2554 ที่นายสุรภักดิ์ ภูไชยแสง เป็นจำเลยในความผิดตามมาตรา 112 และ มาตรา 3, 14, 17 โดยศาลพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบยังมีความสงสัยว่าจำเลยกระทำความผิดตาม ฟ้องหรือไม่ ยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227 วรรค 2

(อ่านคำพิพากษาฉบับย่อด้านล่าง)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า องค์คณะผู้พิพากษาในคดีนี้ได้แก่ ผู้พิพากษาณรงค์เดช นวลมณี ผู้พิพากษาสุรพล โตศักดิ์ และผู้พิพากษาอิสริยา ยงพาณิชย์ ส่วนบรรยากาศในห้องพิจารณาคดีวันนี้มีผู้เข้าร่วมฟังคำพิพากษาจนเต็มห้อง ทั้งสื่อมวลชนและประชาชนทั่วไป ขณะที่เจ้าหน้าที่หน้าบัลลังก์ประกาศว่าผู้สื่อข่าวสามารถรับคำพิพากษาฉบับ ย่อได้ที่สำนักเลขานุการศาลอาญา

หลังเสร็จสิ้นการอ่านคำพิพากษาสุรภักดิ์มีอาการยิ้มแย้มและเข้าสวมกอด มารดาก่อนจะถูกคุมตัวไปยังเรือนจำ และคาดว่าเขาจะได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯในช่วงเย็นวันนี้

สุรภักดิ์กล่าวในภายหลังว่า การประกันตัวเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่มาตราในรัฐธรรมนูญกลับกับมีค่าไม่เท่ากัน การไม่ได้รับการประกันตัวทำให้เขามีความยากลำบากในการต่อสู้คดีอย่างมาก ต้องอยู่ในเรือนจำเกือบ 1 ปี 2 เดือน ทำให้สูญเสียทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นการงาน ครอบครัว ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่อาจเยียวยาได้ รัฐไทยมีงบประมาณปกป้ององค์กรต่างๆ มากมายแต่กลับไม่มีการปกป้องประชาชนผู้บริสุทธิ์

ธิติพงษ์ ศรีแสน ทนายความของสุภักดิ์ กล่าวว่า ไม่ว่าคดีอะไรก็ตาม ถ้าจำเลยต้องติดคุกในระหว่างพิจารณาคดีจะทำให้จำเลยเสียเปรียบ โดยเฉพาะกฎหมายไทยเป็นระบบกล่าวหา และคดีลักษณะนี้เป็นเรื่องทางเทคนิคซับซ้อน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เราควรพูดกันมากกว่าสิทธิการประกันตัวตามที่รัฐธรรมนูญรับรองซึ่งพูด กันมามากแล้ว ก็คือ อำนาจของการไม่ให้ประกันของแต่ละส่วนว่ามีอำนาจแค่ไหน หากเราวางระบบให้ดี ก็จะปิดช่องการใช้ดุลยพินิจที่อาจละเมิดสิทธิประชาชนได้

(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2012/10/43413

วันอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555

การปรองดองจอมปลอม ทรยศต่อวีรชน

แดงสังคมนิยม

การปรองดองจอมปลอม ทรยศต่อวีรชน


โดย ใจ อึ๊งภากรณ์
 

หลัง ชัยชนะของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ความจริงเรื่อง “การปรองดอง” เห็นได้อย่างชัดเจน คือมันเป็นการทรยศต่อวีรชนเสื้อแดงที่เสียสละเลือดเนื้อในการต่อสู้กับ อำมาตย์ และเป็นการทรยศต่อนักโทษการเมืองเสื้อแดง รวมถึงนักโทษ 112 ด้วย

การปรองดองบนซากศพวีรชนและบนความปวดร้าวของนักโทษครั้งนี้ มาจากข้อตกลงระหว่างทักษิณกับฝ่ายทหาร มีการตกลงกันว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงในสถานภาพของสถาบันกษัตริย์ ไม่แก้/ยกเลิกกฏหมายเผด็จการ 112 ไม่ปฏิรูประบบศาล ไม่ปล่อยนักโทษการเมือง และจะไม่มีการนำฆาตกร(ใจหมา)ที่ฆ่าประชาชนเสื้อแดงมาขึ้นศาล ในข้อตกลงนี้ทางทหารก็จะปล่อยให้รัฐบาลยิ่งลักษณ์อยู่ต่อไป ในแง่หนึ่งรัฐบาลนี้เป็นประโยชน์กับทหารมากกว่ารัฐบาลประชาธิปัตย์ เพราะสามารถคุมเสื้อแดงส่วนใหญ่ได้ผ่านแกนนำ นปช. ส่วนทักษิณและพรรคพวกมีความหวังว่าอดีตนายกจะได้กลับเมืองไทยในอนาคตอันใกล้

ทั้งๆ ที่นักวิชาการไทยและตะวันตกจำนวนมากหลงเชื่อว่ากษัตริย์ไทยมีอำนาจสั่งการ และแทรกแซงการเมือง ไม่ว่าจะโดยตรงหรือผ่าน “เครือข่ายกษัตริย์” แต่ในความเป็นจริงกษัตริย์ไทยเป็นคนอ่อนแอไร้อำนาจและถูกใช้โดยทหาร ข้าราชการชั้นสูงและนายทุนมาตลอด มีการเชิดชูและสร้างกษัตริย์ขึ้นมาให้ดูเหมือนมีอำนาจ แต่มันเป็นภาพหลอกลวงเพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับชนชั้นปกครองไทยต่างหาก วิกฤตและความขัดแย้งในสังคมไทยไม่ใช่ความขัดแย้งระหว่างฝ่ายกษัตริย์กับ ทักษิณแต่อย่างใด แต่เป็นความขัดแย้งระหว่างนักการเมืองที่สร้างอำนาจผ่านการเลือกตั้ง กับทหารและข้าราชการที่ไม่มีฐานจากการเลือกตั้ง และทั้งสองฝ่ายพยายามหาความชอบธรรมจากการใช้กษัตริย์

ขบวนการเสื้อแดงมีความสัมพันธ์เชิงวิภาษวิธีกับทักษิณ คือส่วนใหญ่รักทักษิณเพราะเห็นด้วยกับนโยบายการเมือง แต่ในขณะเดียวกันคนเสื้อแดงมีเป้าหมายในการต่อสู้ของตนเองด้วย คือสู้เพื่อประชาธิปไตยและความยุติธรรมและความเท่าเทียมทางสังคม ซึ่งไม่ใช่เป้าหมายของทักษิณและพรรคเพื่อไทย แต่ถ้าเป้าหมายของเสื้อแดงนี้จะบรรลุความสำเร็จ เสื้อแดงก้าวหน้าจะต้องรวมตัวกันเป็นองค์กรทางการเมืองที่อิสระจากพรรคเพื่อไทยและแกนนำ นปช. เพื่อผลักดันข้อเสนอของนิติราษฏร์ เพื่อให้มีการปล่อยนักโทษการเมือง และเพื่อให้มีการนำทหารและนักการเมืองที่ฆ่าประชาชนมาลงโทษ

(ที่มา)
http://redthaisocialist.com/2011-01-20-12-41-04/380-2012-10-29-19-31-49.html 

สืบทอดเจตนารมณ์ ‘นวมทอง ไพรวัลย์’ และภารกิจต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยยังไม่สิ้นสุด

สืบทอดเจตนารมณ์ ‘นวมทอง ไพรวัลย์’ และภารกิจต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยยังไม่สิ้นสุด




ลุงนวมทอง ITV#1
http://www.youtube.com/watch?v=TqQPdMk0E_A&feature=relmfu 

ลุงนวมทอง ITV# 2
http://www.youtube.com/watch?v=yMdb3_3NOxw&feature=autoplay&list=PL4D812B300E644863&playnext 

เพลงวีรชน นวมทอง ไพรวัลย์
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=5I4sRYa3wqM 


31 ตุลาคม 2549 นวมทอง ไพรวัลย์  ผูกคอตายกับราวสะพานลอย บริเวณสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ก่อร่างประวัติศาสตร์ของสามัญชน ผู้คัดค้านอำนาจเผด็จการรัฐประหาร พิทักษ์ประชาธิปไตย

สำหรับคนเสื้อแดงและผู้รักประชาธิปไตย คงไม่มีใครลืมประวัติศาสตร์ของสามัญชนที่ชื่อ ‘นวมทอง ไพรวัลย์’ ผู้คัดค้านอำนาจเผด็จการรัฐประหาร พิทักษ์ประชาธิปไตย

คืนวันที่ 31 ตุลาคม 2549 นายนวมทองผูกคอตายกับราวสะพานลอย บริเวณถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาออก เยื้องกับที่ตั้งสำนักงานหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ (บริษัท วัชรพล จำกัด) โดยในจดหมายลาตายระบุว่า ต้องการลบคำสบประมาทของ พันเอก อัคร ทิพโรจน์ รองโฆษก คปค. ที่ว่า ไม่มีใครมีอุดมการณ์มากขนาดยอมพลีชีพได้

ใน คืนที่นายนวมทองแขวนคอตาย เขาตั้งใจสวมเสื้อยืดสีดำ สกรีข้อความเป็นบทกวี ที่เคยใช้ในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย โดยด้านหน้าเป็นบทกวีของรวี โดมพระจันทร์ ที่ว่า


ตื่นเถิดเสรีชน
อย่ายอมทนก้มหน้าฝืน
ดาบหอกกระบอกปืน
หรือทนคลื่นกระแสเรา

แผ่นดินมีหินชาติ
ที่ดาดาษความโฉดเขลา
ปลิ้นปล้อนตะลอนเอา
ประโยชน์เข้าเฉพาะตน


ก่อนหน้านั้น  เมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2549 นายนวมทอง ซึ่งเป็นอดีตพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย บางกรวย ได้ขับรถยนต์แท็กซี่ พุ่งเข้าชนรถถังเบา M41A2 Walker Bulldog ป้ายทะเบียนตรากงจักร 71116 ของคณะรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 และได้รับบาดเจ็บสาหัส
นวมทอง ไพรวัลย์ ได้สละชีพกระทำอัตวินิบาตรกรรม เพื่อให้คนได้ตระหนักถึงคุณค่าศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และความหมายสำคัญของระบอบประชาธิปไตย ความอัปยศอัปลักษณ์ของอำนาจรัฐประหาร

นวม ทอง ไพรวัลย์ จึงเป็นสัญญลักษ์แห่งอุดมการณ์ประชาธิปไตย ที่ปรารถนาถึงสังคมไทยเป็นสังคมที่มี ‘เสรีภาพ เสมอภาคและภราดรภาพ’ ไม่ต่างไปจากความใฝ่ฝันของคณะราษฎร เมื่อปี 2475 แต่อย่างใดเลย


อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การเมืองปัจจุบัน ความขัดแย้ง ระหว่าง ‘ฝ่ายอำนาจอำมาตยาธิปไตย’ กับ ‘ฝ่ายพลังประชาธิปไตย’ ก็ยังไม่จบสิ้น นับตั้งแต่รัฐประหาร 19 กันยายน 2549 และสาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งมาจากปัญหารากเหง้าของรัฐธรรมนูญปี 2550 ที่มาจาก ‘ระบอบอำมาตยาธิปไตย’ โดย ‘อำมาตยาธิปไตย’ และเพื่อ ‘อำมาตยาธิปไตย’

แม้ว่า ภายหลังจากการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยได้เสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาลตามหลักการประชาธิปไตยรัฐสภา แต่ความขัดแย้งดังกล่าวยังไม่จบสิ้น เนื่องด้วยมีการเคลื่อนไหวของ ‘ฝ่ายอำมาตยาธิปไตย’ เพื่อล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งมีขึ้นอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน รวมทั้งรัฐบาลพลเรือนก็ยังไม่สามารถควบคุมกองทัพได้โดยตรงเนื่องจากมีพร บ.กลาโหมเป็นอุปสรรคขัดขวาง


(อ่านต่อ)
http://prachatai3.info/journal/2012/10/43410?utm_source=dlvr.it&utm_medium=facebook

"หากไม่พูดความจริง ความยุติธรรมและการปรองดองจะเกิดขึ้นได้อย่างไร"


"หากไม่พูดความจริง ความยุติธรรมและการปรองดองจะเกิดขึ้นได้อย่างไร"
 



อ.ปิยบุตร แสงกนกกุล หนึ่งในนักวิชาการกลุ่มนิติราษฎร์ วิพากษ์ข้อเสนอปรองดองบนฐานคิดสถาบันพระปกเกล้า ซึ่งนอกจากจะมีข้อเสนอข้อหนึ่งให้มีการ "นิรโทษกรรมแบบเหมาเข่ง" แล้วยังมีการยกเว้นการพูด "ความจริง" บางเรื่อง โดยกล่าวว่า:


"...ในทางการเมือง การปรองดองที่กำลังจะทำกันอยู่อย่างข้อเสนอของสถาบันพระปกเกล้า ซึ่งตนเห็นว่ามีข้อดีอยู่ เช่นบทที่ว่าด้วยตัวอย่างการจัดการความขัดแย้งทางการเมืองจากต่างประเทศ 10 ประเทศ อีกส่วนหนึ่งคือเรื่องทฤษฎี เกี่ยวกับความยุติธรรมในช่วงเปลี่ยนผ่าน และทฤษฎีเรื่องความปรองดองแห่งชาติ แต่สองส่วนที่ดีมากนี้ถูกทำลายลงทั้งหมดจากข้อเสนอของสถาบันพระปกเกล้าฯเอง เพราะทฤษฎี เกี่ยวกับความยุติธรรมในช่วงเปลี่ยนผ่าน และทฤษฎีเรื่องความปรองดองแห่งชาติ ไม่ว่าจะใช้ตำรากี่เล่มก็เหมือนกันหมด คือ ต้องพูดความจริง ประเด็นต้นเหตุความขัดแย้งต้องกล้าพูดออกมาให้หมดทุกเรื่อง แต่ข้อเสนอของสถาบันพระปกเกล้าไม่พูดเรื่องม.112 ใครทำรัฐประหารก็ไม่พูด เรื่องสถาบันกษัตริย์ก็ไม่ให้พูดแล้วจะปรองดองกันได้อย่างไร"



อ.ปิยบุตร แสงกนกกุล

เว็บไซต์ประชาธรรม, 20 พฤษภาคม 2555 
ที่มา: http://www.prachatham.com/detail.htm?code=n6_20052012_01

ตอบข้อโต้แย้งประกาศคณะราษฎร ว่าด้วยการกีดกันการศึกษาของราษฎรในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์

ตอบข้อโต้แย้งประกาศคณะราษฎร ว่าด้วยการกีดกันการศึกษาของราษฎรในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์


 

 

 

 

 

 


 

โดย พุฒิพงศ์ พงศ์เอนกกุล

 

"ประกาศคณะราษฎร" ในตอนที่กล่าวว่า "มิหนำซ้ำกล่าวหมิ่นประมาทราษฎรผู้มีบุญคุณเสียภาษีอากรให้พวกเจ้าได้กินว่า ราษฎรรู้เท่าไม่ถึงเจ้านั้นไม่ใช่เพราะโง่ เป็นเพราะขาดการศึกษาที่พวกเจ้าปกปิดไว้ไม่ให้เรียนเต็มที่เพราะเกรงว่า ราษฎรได้มีการศึกษาก็จะรู้ความชั่วร้ายที่ทำไว้และคงจะไม่ยอมให้ทำนาบนหลัง คน"

เรามักจะพบ "ข้อโต้แย้ง" ข้อความในประกาศคณะราษฎรในท่อนความดังกล่าวทำนองว่า "ถ้าเจ้ากีดกันสามัญชนในการเข้าถึงการศึกษาแล้ว จะมีคนจบนอก อย่างปรีดี พนมยงค์ พจน์ พหลโยธิน ฯลฯ ได้อย่างไร?"

ในชั้นต้นเราอาจพิเคราะห์ได้ว่า ผู้เป็นเสี้ยนหนามทางความคิดความรับรู้ เช่น บรรดากบฎผู้มีบุญในสมัย ร.๕ (กบฎผู้มีบุญ คือ ผู้ที่มีชาวบ้านยกย่องนับถือตามท้องถิ่นต่างๆ จนรัฐบาลกษัตริย์เกรงว่าจะกระทบต่อพระบรมเดชานุภาพของกษัตริย์ จึงต้องปราบปราม เช่น ครูบาศรีวิชัย เป็นต้น) ทั้งปรากฏในข้อโจมตีของรัชกาลที่ ๕ ว่า ประชาชนเป็นพวกไม่รู้จักคิด ("แต่ก่อนมาพระบรมราโชบายอันใดที่จะทำไปไม่ใคร่จะได้แสดงให้ราษฎรทราบเพราะ เหตุว่าถึงทราบก็ปราศจากความคิด หรือกลับคิดเห็นการให้ผิดไปโดยมิได้แกล้ง") ฉะนั้น เพื่อ "ผนึกความรู้เข้าสู่ส่วนกลาง" จึงต้องให้การศึกษาแก่คนพวกนี้

Wake up Thailand

Wake up Thailand

 

ประจำวันอังคารที่ 30 ตุลาคม 2555    
แดงอย่าขยับ
http://www.dailymotion.com/video/xupa06 



ประจำวันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม 2555       
แช่เเข็งประเทศไทยสไตล์เสธอ้าย
http://www.dailymotion.com/video/xuobrz

The Daily Dose

The Daily Dose


  

ประจำวันที่ 30 ตุลาคม 2555
ชุมนุมในคูเวตเรียกร้อง ปชต.เกิน 20 คนไม่ได้
http://www.dailymotion.com/video/xuppun 


ประจำวันที่ 29 ตุลาคม 2555 
รีบระบายข้าวตามข้อเสนอวิโรจน์ ณ ระนอง 
http://www.dailymotion.com/video/xuost6

Divas Cafe

Divas Cafe  



ดูละคร ย้อนมองสังคมผ่าน.. 'แรงเงา' 

ประจำวันที่ 30 ตุลาคม 2555
ดูละคร ย้อนมองสังคมผ่าน.. 'แรงเงา'
http://www.dailymotion.com/video/xupi6p



ผิดเป็น..ปู ? กับกระแสดราม่าออนไลน์

ประจำวันที่ 29 ตุลาคม 2555
ผิดเป็น..ปู ? กับกระแสดราม่าออนไลน์ 
http://www.dailymotion.com/video/xuokd0

ที่นี่ความจริง 30 10 2012

ที่นี่ความจริง 30 10 2012

 


(คลิกฟัง) 
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=NK81dJVIbTM

รายงาน: สรุปข้อต่อสู้คดี 112 บนเฟซบุ๊ค ‘เราจะครองxxxx’ ก่อนพิพากษาพรุ่งนี้

รายงาน: สรุปข้อต่อสู้คดี 112 บนเฟซบุ๊ค ‘เราจะครองxxxx’ ก่อนพิพากษาพรุ่งนี้

 

ฝากรูป

พรุ่งนี้ (31 ต.ค.55)  เวลา 9.00 น. ที่ศาลอาญา รัชดา จะมีการพิพากษา คดีของนายสุรภักดิ์ จำเลยในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และ ความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา14(3)

มาตรา 14 ผู้ใดกระทําความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ 

(1) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน 

(2) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิด ความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน

(3) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง แห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา

สุรภักดิ์ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 2 ก.ย.54 ไม่ได้ประกันตัวและอยู่ในเรือนจำจนถึงปัจจุบัน
 
สุรภักดิ์ อายุ 40 ปี เป็นโปรแกรมเมอร์ที่เพิ่งจัดตั้งบริษัทของตนเอง รับจ้างออกแบบระบบให้บริษัทเอกชนต่างๆ รวมถึงรัฐวิสาหกิจด้วย

เขาถูกกล่าวหาว่า เป็น “เจ้าของ” บัญชีเฟซบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า “เราจะครองxxxx”  โพสต์ข้อความที่เข้าข่ายความผิดทั้งสิ้น 6 ข้อความ แต่เมื่ออัยการทำคำฟ้องปรากฏเพียง 5 ข้อความ (4 พ.ค.54, 18 มิ.ย.54, 22 มิ.ย.54, 23 มิ.ย.54, 16 ส.ค.54) ดังนั้น หากศาลพิพากษาให้เขามีความผิดจริง เขาจะมีความผิด 5 กรรม
 
สุรภักดิ์ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาทั้งในชั้นจับกุมและในชั้นสอบสวน โดยระบุด้วยว่า ไม่ใช่เจ้าของอีเมล์และเฟซบุ๊คดังกล่าว อย่างไรก็ตาม หลังสุรภักดิ์ถูกจับกุม เฟซบุ๊คบัญชีนี้ยังเปิดใช้งานและมีความเคลื่อนไหวอยู่

ความเป็นมาของคดีนี้เริ่มต้นจาก มีประชาชนทั่วไปชื่อ มานะชัย แจ้งเบาะแสไปยังกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทาง เทคโนโลยี หรือ ปอท. โดยแจ้งว่ามีเฟซบุ๊คที่กระทำความผิดดังกล่าว มีเจ้าของเป็นนายสุรภักดิ์ พร้อมให้ชื่อ-นามสกุล-ที่อยู่ แก่เจ้าหน้าที่ด้วย โดยในการสืบพยานในศาล เจ้าหน้าที่เบิกความว่าไม่รู้และไม่ได้ตรวจสอบว่าบุคคลผู้ให้เบาะแสนี้คือ ใคร และไม่สามารถนำตัวผู้แจ้งเบาะแสมาเบิกความได้

จากนั้นไม่นานจึงมีนักศึกษาราชภัฏคนหนึ่งไปร้องทุกข์กล่าวโทษกับตำรวจ ทำให้เรื่องนี้เป็นคดีขึ้นมาอย่างเป็นทางการ พยานปากนี้ขึ้นเบิกความในชั้นศาลด้วย ซึ่งทั้งพยานและจำเลยไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว อย่างไรก็ตาม พยานปากนี้ระบุว่าได้ปลอมตัวเป็นคนเสื้อแดงเข้าไปเป็นเพื่อนในเฟซบุ๊คที่ ถูกกล่าวหาดังกล่าว จึงสามารถเห็นข้อความหมิ่นที่ถูกโพสต์ได้ และทำการ capture หน้าจอ ปริ๊นท์ออกมาเป็นหลักฐานให้ตำรวจ

นักศึกษาราชภัฏยังระบุถึงความเชื่อมโยงระหว่างอีเมล์และเฟซบุ๊คที่กระทำ ผิดไว้ว่า พยานเป็นสมาชิกในอีเมล์กรุ๊ปหนึ่งของกูเกิลกรุ๊ป และได้นำอีเมล์สมาชิกคนหนึ่งคือdorkao@hotmail.com (ดอกอ้อ) ไปค้นหาใน google ผลการค้นหาพบหน้าเฟซบุ๊คบัญชี เราจครองxxxx จึงสันนิษฐานว่าเจ้าของอีเมล์นี้เป็นเจ้าของบัญชีเฟซบุ๊คดังกล่าวด้วย ต่อมาจึงได้ทราบในภายหลังจากตำรวจว่า อีเมล์ดังกล่าวนั้นคือนายสุรภักดิ์

(อ่านต่อ) 

http://www.prachatai.com/journal/2012/10/43398

ประเมินม็อบ"เสธ.อ้าย" หน่วยข่าวจับตา"ท่อน้ำเลี้ยง" "หวั่นมือที่3-ป่วนเมือง"

ประเมินม็อบ"เสธ.อ้าย" หน่วยข่าวจับตา"ท่อน้ำเลี้ยง" "หวั่นมือที่3-ป่วนเมือง"




การชุมนุมขององค์กรพิทักษ์สยามและภาคีเครือข่าย นำโดย พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือเสธ.อ้าย ประธานองค์กรพิทักษ์สยาม และภาคีเครือข่าย 30 องค์กร ภายใต้ชื่อ "รวมพลัง คนทนไม่ไหว หยุดวิกฤตและหายนะชาติ" เพื่อเรียกร้องนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลแก้ไข 3 เรื่อง คือ 1.จาบจ้วงสถาบัน 2.เป็นหุ่นเชิดของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ 3.การทุจริตคอร์รัปชั่น ที่ราชตฤณมัยสมาคมแห่งประเทศไทย (สนามม้านางเลิ้ง) เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม เป็นการชุมนุมท่ามกลางกระแสข่าวบันได 5 ขั้น ในการล้มรัฐบาล

แขกรับ เชิญที่ขึ้นเวทีครั้งนี้ไม่ใช่ใครอื่น หลายคนเป็นนักเคลื่อนไหวหน้าเก่า อาทิ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำเสื้อหลากสี ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ กลุ่มกองทัพธรรม นายนิพนธ์ วงษ์ตระหง่าน อดีตนายกสมาคมโรงสีข้าวแห่งประเทศไทย น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีตสมาชิกนิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นายสมบูรณ์ ทองบุราณ รศ.ดร.ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ อาจารย์ประจำภาควิชาเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายพิเชฏฐ พัฒนโชติ นายเสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชน และ พล.อ.ปฐมพงษ์ เกษรศุกร์ โดย พล.อ.บุญเลิศสรุปยอดผู้ชุมนุมประมาณ 30,000 คน เป็นผู้มาลงทะเบียน 20,000 คน และอีก 10,000 คนไม่ได้ลงชื่อ

ขณะที่ ศูนย์ปฏิบัติการข่าวด้านความมั่นคง กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) เกาะติดความเคลื่อนไหวและสรุปยอดผู้ชุมนุมสูงสุดจำนวน 7,300 คน ในช่วงเวลา 16.00 น.

โดยเวลาประมาณ 08.20 น. มีมวลชนจากกองทัพธรรมซึ่งเดินทางมาจากชุมชนศีรษะอโศก จ.ศรีสะเกษ ราชธานีอโศก จ.อุบลราชธานี กลุ่มญาติธรรม วัดป่าสงวนธรรมร่วมใจ จ.ยโสธร และปฐมอโศก จ.นครปฐม ประมาณ 500 คน มาปักหลัก ส่วนผู้ชุมนุมที่เหลือเป็นกลุ่มของ นพ.ตุลย์ และฐานเสียงส่วนหนึ่งจากพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามในกรุงเทพมหานครเดินทางมา สมทบ

เนื้อหาการปราศรัยเป็นการกล่าวโจมตีรัฐบาล ส่วนใหญ่ตีวงอยู่ใน 3 ข้อเรียกร้อง ซึ่งรวมถึงการปราศรัยโจมตีนโยบายรับจำนำข้าวด้วย

อย่างไรก็ตาม จากยอดผู้ชุมนุมทำให้ภาคีเครือข่ายตัดสินใจประกาศเดินหน้ารวมพลตามแผนบันไดขั้นที่ 2 ดังที่เคยประกาศไว้

"ประชาชน ที่มาร่วมชุมนุมจะกลับไปบอกผู้ที่ไม่ได้มา ให้มาร่วมชุมนุม คาดว่า 1 คน จะชวนมาได้ 100 คน คาดว่าการชุมนุมครั้งต่อไปอาจจะเกิดขึ้นใน 1 เดือน โดยบันไดขั้นที่ 2 จะต้องจบการชุมนุมในวันเดียว จะเป็นการชุมนุมในนามกลุ่มประชาชนคนรักชาติ องค์กรพิทักษ์สยามและภาคีเครือข่าย" พล.อ.บุญเลิศกล่าว 

(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1351562597&grpid=01&catid=&subcatid=

ประมวลภาพ พายุเฮอร์ริเคน "แซนดี้"ถล่มสหรัฐยับ ไฟฟ้าดับ-น้ำท่วม กระทบปชช.กว่า 2 ล้านคน !!

ประมวลภาพ พายุเฮอร์ริเคน "แซนดี้"ถล่มสหรัฐยับ ไฟฟ้าดับ-น้ำท่วม กระทบปชช.กว่า 2 ล้านคน !!


 


เฮอร์ริเคนแซนดี้ สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างแก่ชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ก่อให้เกิดฝนตกหนัก ลมแรง น้ำท่วมสูง และหิมะตกหนักที่ก่อให้เกิดแผ่นดินถล่ม

คาดว่าประชาชนกว่า 50 ล้านคนจะได้รับผลกระทบจากพายุลูกนี้ ประชาชนหลายแสนคนได้รับคำสั่งให้อพยพออกจากบ้านเรือน และอีกมากกว่า 2 ล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้ บริการขนส่งสาธารณะถูกยกเลิกในหลายเมือง เที่ยวบินจำนวนมากถูกระงับ

ทั้งนี้ คาดกันว่าพายุแซนดี้จะยังคงส่งอิทธิพลต่อ 12 รัฐของสหรัฐฯในอีกราว 24-36 ชม.ข้างหน้าต่อไป และคาดว่าจะเกิดหิมะตกหนักสูง 91 ซม. ในเขตเทือกเขาแอพพาลาเชียนในรัฐเวสต์ เวอร์จิเนีย, เวอร์จิเนีย และเคนตักกี้

(ที่มา)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1351567259&grpid=01&catid=&subcatid=

เก็บตก-สะเก็ดข่าว เบื้องหลังการถ่ายทำ"ปู3" (และข่าวลือ-ข่าวจริงกับชื่อย่อส.เสือ) !!?

เก็บตก-สะเก็ดข่าว เบื้องหลังการถ่ายทำ"ปู3" (และข่าวลือ-ข่าวจริงกับชื่อย่อส.เสือ) !!?

 


การปรับ "ครม.ปู 3" เรียบร้อยไปแล้ว

ภายหลังมีพระบรม ราชโองการแต่งตั้ง ครม.ชุดใหม่ รอขั้นตอนการเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณตน ก่อนเข้ารับหน้าที่อย่างเป็นทางการเท่านั้น ทุกอย่างก็จะเสร็จสิ้น

เป็นการปรับใหญ่ถึง 23 ตำแหน่ง หรือค่อน ครม.

พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งรัฐมนตรี ประกาศออกมาเมื่อวันอาทิตย์ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา

มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง ที่น่าจะเก็บตก นำมาบันทึกไว้ประกอบการติดตามข่าวสารการเมืองกันต่อไป

สำหรับรายชื่อ ครม.ใหม่ทั้งคนเข้าและคนออก เป็นไปตามกระแสข่าวก่อนหน้านี้

เว้นแต่ตำแหน่ง รมช.คลัง ปรากฏว่า นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ต้องพ้นจากตำแหน่งด้วย โดยไม่มีข่าวโหมโรงมาก่อน

แม้ว่านักข่าวสายกระทรวงการคลังจะบอกว่า แว่วๆ ข่าวมาบ้าง แต่ก็ไม่ได้ยินความเคลื่อนไหวมากกว่านั้น

การ พ้นตำแหน่งของนายวิรุฬ ปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 18 ของพรรคเพื่อไทย รมช.คลังที่ทำงานเงียบๆ แต่มีอัธยาศัยไมตรี เป็นนักเลงพระระดับเซียนเกรงใจอีกคนหนึ่ง อธิบายได้ว่า เพราะเหนียวแน่นในตำแหน่งนี้มา 2 ยุค ทั้งในยุคปู 1 และปู 2 ถือว่ายาวนานพอสมควร ในรัฐบาลที่คนมาก เก้าอี้น้อย และต้องปรับตัวรับกระแสปัญหาใหม่ๆ ตลอด

ผลที่ตามมา ทำให้กระทรวงเหลือ รมต. 2 คน คือ รมว. นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง กับ รมช. นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย ซึ่งจะต้องแบ่งงานกันใหม่

การที่กระทรวงนี้ลดจำนวน รมช.ลงไป ทำให้เกิดความคาใจจากพรรคร่วมรัฐบาล

เพราะ อีกตำแหน่งที่มีการปรับเปลี่ยนแบบเซอร์ไพรส์กันเอง คือ กรณีของ นายฐานิสร์ เทียนทอง ที่โดนปรับจาก รมช.มหาดไทย ไปเป็น รมช.อุตสาหกรรม อันเป็นกระทรวงในโควตาของพรรคชาติพัฒนา

ในแบบที่เจ้าของโควตามารับรู้ทีหลังว่า ตำแหน่งเต็ม ไม่พอรองรับ ขอฝากมาเป็นรัฐมนตรี ให้ช่วยจัดแบ่งงานให้ด้วย

ซึ่งที่จริง หากมีการลดตำแหน่ง รมช.คลัง ตำแหน่งก็น่าจะพอ สำหรับการจัดสรรในพรรคเพื่อไทย

สำหรับ ตำแหน่งของนายฐานิสร์ ทางพรรคเพื่อไทยต้องจัดหาให้เป็นพิเศษ เพราะเกรงว่า ถ้าหลุดหายไปเลย อาจเกิดปัญหาจาก "ป๋าเหนาะ" นายเสนาะ เทียนทอง นักการเมืองรุ่นเก๋า ผู้ส่งนายฐานิสร์เข้าประกวดได้

ตำแหน่ง รมว.อุตสาหกรรม ของ นายประเสริฐ บุญชัยสุข ส.ส.โคราช พรรคชาติพัฒนา ก็ได้มาแบบพิสดารเล็กน้อย

ในวันที่ 24 ต.ค. ที่แกนนำรัฐบาลเรียกให้ว่าที่ รมต.ไปกรอกประวัติ

ปรากฏว่าแกนนำชาติพัฒนา ติดต่อนายประเสริฐไม่ได้ เพราะเจ้าตัวปิดโทรศัพท์มือถือ

ต้องติดต่อไปที่ นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ส.ส.นครราชสีมา พรรคเดียวกัน ซึ่งอยู่ที่รัฐสภา ให้ไปช่วยตามหาตัวที่ห้องต่างๆ ในสภา

ก่อนจะพบว่ากำลังประชุมกรรมาธิการ ต้องเรียกตัวไปกับแกนนำพรรค ก่อนส่งตัวไปกรอกประวัติที่ทำเนียบรัฐบาล

อีกเก้าอี้ที่น่าสนใจ คือ การปลด พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา หรือบิ๊กอ๊อด ออกจากตำแหน่งรองนายกฯ

ที่ ผ่านมาดูแลการแก้ไขปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่การปรับ "ครม.ปู 3" ครั้งนี้ไม่มีรองนายกฯที่เคยเป็นนายทหารที่จะเข้ามารับผิดชอบแทน

จะมีก็แค่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี แต่เจ้าตัวตอบปฏิเสธ

กลายเป็นงานที่ยัง "โหว่" ต้องไปหา เจ้าภาพผู้รับผิดชอบมาดูแลกันต่อไป และน่าสนใจว่านายกฯยิ่งลักษณ์จะมอบหมายงานนี้ให้ใคร

อีกกระแส ข่าวในการจัดทำโผ ครม.ก็คือ บทบาทของนักการเมืองชื่อ "ส.เสือ" ที่ถูกคนเสื้อแดงบางกลุ่ม ระบุว่าเป็นต้นเหตุทำให้นายจตุพร พรหมพันธุ์ ไม่ได้ตำแหน่ง รมต.ในครั้งนี้

(อ่านต่อ) 
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1351565137&grpid=01&catid=&subcatid=

วันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2555

รัฐไทยกับความรุนแรง (2)

รัฐไทยกับความรุนแรง (2)




กอง ทัพ - ทั้งหมดหรือบางส่วน - มีบทบาทในความรุนแรงที่เกิดขึ้นทุกครั้ง ดูเหมือนกองทัพเป็นเพียงเครื่องมือเซื่องๆ ของบางกลุ่มในชนชั้นนำ แล้วแต่จะถูกสั่งให้ใช้ความรุนแรงเมื่อไร และอย่างไร เท่านั้น

แต่ใน โลกนี้ไม่มีใครเป็นไขควงให้ใครได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะมนุษย์มีความต้องการส่วนตนซึ่งอาจไม่ได้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ ใช้เสมอไป ฉะนั้นการไม่ทำตามคำสั่ง หรือทำตามคำสั่งด้วยจุดมุ่งหมายที่ต่างกัน จึงเกิดขึ้นตลอดเวลา

กอง ทัพไม่เคยเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันจริงมาแต่แรก เส้นที่แบ่งพรรคแบ่งพวกในกองทัพอาจมาจากยศ เช่นในช่วง 2475 การยึดอำนาจเกิดจากกลุ่มนายทหารระดับนายพัน ในขณะที่ทหารยศสูงกว่านั้นไม่ได้ร่วมด้วย เส้นดังกล่าวอาจมาจากกองทัพเอง เช่นระหว่างกองทัพบกและกองทัพเรือ อาจมาจากแก๊งผลประโยชน์เช่นค้าฝิ่น, ค้าอาวุธ หรือธุรกิจมืดอื่นๆ หรืออาจมาจากสังกัด เช่น ทหารม้า, ทหารราบ, ทหารปืนใหญ่, เสธฯ ฯลฯ ในแต่ละช่วงเวลา เส้นดังกล่าวจะมาจากอะไร ก็ขึ้นกับเงื่อนไขในการเกาะกลุ่มในช่วงนั้นๆ

กลุ่มต่างๆ ในกองทัพเหล่านี้ช่วงชิงอำนาจกัน โดยสนับสนุนให้คนในกลุ่มของตน (หรือตนมีเส้นสาย) ได้ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้บังคับบัญชา ตั้งแต่ระดับล่างขึ้นไปจนถึงระดับผู้บัญชาการ อย่างน้อยก็เพื่อความก้าวหน้าในอาชีพราชการของตนเอง (ยังไม่พูดถึงผลประโยชน์ติดไม้ติดมืออื่นๆ) แต่มีประเพณีปฏิบัติอย่างหนึ่งซึ่งทำให้กองทัพไม่กลายเป็นกองโจรที่จับอาวุธ ขึ้นต่อสู้กันเอง นั่นก็คือหากไม่ใช่การยึดอำนาจรัฐแล้ว การต่อสู้ช่วงชิงอำนาจในกองทัพมักไม่ทำโดยการรบ แต่ทำโดยการวิ่งเต้นและต่อรองในระบบ

'มิเชล มาส' นักข่าวดัตช์ที่ถูกยิง 19 พ.ค. เข้ามอบหลักฐานดีเอสไอ

'มิเชล มาส' นักข่าวดัตช์ที่ถูกยิง 19 พ.ค. เข้ามอบหลักฐานดีเอสไอ

 


 
หลักฐานประกอบด้วยลูกกระสุนปืน M16 รูปภาพ และคลิปเสียงที่ 'มิเชล มาส' อัดไว้ในระหว่างเกิดเหตุ เตรียมเข้าให้ปากคำสน. พญาไทประกอบคดีการเสียชีวิตที่เกิดจากเจ้าหน้าที่รัฐอีก 3 คดี

29 ต.ค. 55 - ราว 10.30 น. มิเชล มาส นักข่าวชาวดัทช์ซึ่งถูกยิงบาดเจ็บในเหตุการณ์สลายการชุมนุมเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 53 ได้เข้าพบกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อมอบกระสุนปืนและหลักฐานอื่นๆ ให้แก่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่อาคารศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ. นนทบุรี โดยมี พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ รองหัวหน้าพนง.สอบสวนกรณีการสลายการชุมนุมเดือนเม.ย. -พ.ค. 53 เป็นผู้รับมอบหลักฐาน

หลักฐานที่มาส นำเข้ามอบให้แก่เจ้าหน้าที่สอบสวน ได้แก่ กระสุนปืนที่ยิงเข้าสู่ร่างกายของเขา ซึ่งภายหลังแพทย์ได้ผ่าตัดนำออกมา เจ้าหน้าที่ดีเอสไอระบุว่าเป็นกระสุนหัวขนาด .223 หรือ 5.56 มม. สามารถใช้กับปืนประเภท M16 นอกจากนี้ ยังมีวีซีดีแสดงการผ่าตัดนำกระสุนจากโรงพยาบาลสมิติเวช ภาพเอ็กซ์เรย์ปอดพร้อมกระสุน และยูเอสบีแฟลชไดรฟ์ ประกอบด้วยภาพถ่าย ข้อความทางทวิตเตอร์ และเสียงการรายงานวิทยุของสถานี NOS ของเนเธอร์แลนด์ ซึ่งมาส รายงานในขณะที่ถูกยิง

โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 26 ก.ย. ที่ผ่านมา มิเชล มาส ได้เดินทางมายังกรุงเทพฯ เพื่อให้ปากคำกับดีเอสไอ ในฐานะพยานปากคำในคดีการเสียชีวิตของช่างภาพชาวอิตาลี ฟาบิโอ โปเลนกี ซึ่งถูกยิงเสียชีวิตบริเวณแยกราชดำริเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 53 

ในวันพรุ่งนี้ มีรายงานว่า มาสจะเข้าให้ปากคำกับสำนักงานตำรวจพญาไท ในฐานะพยานประกอบคดีการเสียชีวิตของนายนรินทร์ ศรีชมพู นายถวิล คำมูล และชายไทยไม่ทราบชื่อ ซึ่งเสียชีวิตในระหว่างการสลายการชุมนุมบริเวณสี่แยกราชดำริเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 53 ใกล้กับจุดที่นายมาสถูกยิง โดยทั้งสามเป็นคดีที่ดีเอสไอส่งสำนวนสรุปว่าเสียชีวิตจากการกระทำของเจ้า หน้าที่รัฐ​


(ที่มา)
http://www.prachatai.com/journal/2012/10/43377

ปฎิญญาหน้าศาล 28 10 2012

ปฎิญญาหน้าศาล 28 10 2012



ชมคลิปปฎิญญาหน้าศาล 28-10-2012 
http://youtu.be/GrqPkiPykpE

ปฎิญญาหน้าศาล ใบตองแห้ง 28-10-2
http://youtu.be/8_yQK6tmZVM

................................

ปฎิญญาหน้าศาล ใบตองแห้ง ประชาไท "นักโทษการเมืองภายใต้รัฐบาลที่มาจากการเสียสละอสรภาพของประชาชน"


(อ่านต่อ) 
http://www.youtube.com/watch?v=GrqPkiPykpE&feature=youtu.be

วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2555

บ้านเมืองไม่ใช่ของเรา: ดูการเมืองอเมริกันอย่างไรให้มันส์ ตอนที่ 3

บ้านเมืองไม่ใช่ของเรา: ดูการเมืองอเมริกันอย่างไรให้มันส์ ตอนที่ 3

 

การเมืองอเมริกัน ตอน 3
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=IY-6BRGrenc#!


มาคุยกันต่อกับ ดร.สติธร ธนานิธิโชติ นักวิจัยจากสถาบันพระปกเกล้า ถึงการเมืองอเมริกัน หลังการดีเบตรอบ 2 หรือรอบ Hall town ของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐสมัยที่ 2 บารัค โอบามา กับคู่ท้าชิง มิค รอมนีย์ คะแนนสนับสนุนของทั้งสองฝั่งเริ่มสูสีกันมากขึ้น มาจับตาดูมลรัฐที่มักเป็นตัวชี้ขาดชัยชนะการเลือกตั้ง หรือที่เรียกว่า swing state ว่ามีมลรัฐไหนบ้าง และมาดูอินโฟกราฟฟิคสนุกๆ ทำนายทางเลือกของว่าที่ประธานาธิบดีทั้ง 2 คนว่าจะออกมาในรูปใดที่

(ที่มา)
http://www.prachatai.com/journal/2012/10/43370

เมื่อ "ป๋า" หยุดยิง เมื่อ "สุรยุทธ์" พักรบ อำมาตย์ แผ่ว-กองทัพ นิ่ง-ผบ.เหล่าทัพ แน่น และ 20 ปี "พ.ค.ทมิฬ" ของ "บิ๊กสุ" กับ "พลเอก ป."

เมื่อ "ป๋า" หยุดยิง เมื่อ "สุรยุทธ์" พักรบ อำมาตย์ แผ่ว-กองทัพ นิ่ง-ผบ.เหล่าทัพ แน่น และ 20 ปี "พ.ค.ทมิฬ" ของ "บิ๊กสุ" กับ "พลเอก ป."




ว่ากันว่า ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หยุดความพยายามที่จะกลับประเทศ หยุดความพยายามที่จะออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม การเมืองไทย ก็จะไม่มีอะไรร้อนแรงมากนัก

แม้ว่าจะ มีศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลรออยู่ ที่อาจตามมาด้วยการปรับคณะรัฐมนตรี หรือความเคลื่อนไหวของสลิ่ม เสื้อหลากสี ภายใต้หัวใหม่อย่าง บิ๊กอ้าย พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ที่มีทั้งทุนและบารมี ที่จะมาเคลื่อนไหวแทนกลุ่มพันธมิตรฯ ก็ตาม

แต่รัฐบาลของนายกฯ ปู ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็จะประคองกันไปได้เรื่อยๆ...

เพราะพลังของกลุ่มพันธมิตรฯ แผ่วลง พร้อมๆ กับความแตกแยกของแกนนำ และยังแยกกันอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์

แม้ความพยายามในการล้มรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ก็ยังคงมีอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ยังไม่มีเงื่อนไข

ที่สำคัญ ฝ่ายที่เรียกว่า อำมาตย์ ก็ดูสงบนิ่ง จนคอการเมืองมองว่า การเมืองเงียบสงบเกินไป จนน่ากลัว...
 
(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1351409549&grpid=01&catid=&subcatid=

"จตุพร พรหมพันธุ์" ยืน"หน้าม็อบ-หลังรัฐมนตรี"

"จตุพร พรหมพันธุ์" ยืน"หน้าม็อบ-หลังรัฐมนตรี"




หากย้อนไปหลายเดือนก่อนที่จะมีการปรับ ครม.เป็น "ปู 3" ย่อมมีความเชื่อกันว่าอย่างไรเสีย "จตุพร พรหมพันธุ์" จะต้องขึ้นชั้นเป็นรัฐมนตรีเก้าอี้ใดเก้าอี้หนึ่ง

เหตุก็เพราะไม่ เพียง "ทักษิณ ชินวัตร" จะประกาศผ่านโฟนอินต่อหน้ามวลชนเสื้อแดงบ่อยครั้งว่า "ตู่-จตุพร" คือ "น้องรัก" แต่ในสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน ที่ "มวลชนเสื้อเดง" เป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้รัฐบาล ต้านอำนาจฝ่ายตรงกันข้ามอย่างถึงพริกขิง

"อาวุธ" เดียวที่เพื่อไทยจะต้านอำนาจฝ่ายตรงกันข้ามที่ผนึกกันเหนียวแน่นได้คือ "มวลชนเสื้อแดง"

ด้วย เหตุนี้เองเมื่อมีการปรับ "ครม." "เริ่มสตาร์ต ปู 3" แล้วไม่มีชื่อ "จตุพร พรหมพันธุ์" ติดอยู่ในโผ ประเด็นนี้จึงเป็นข่าวร้อนที่กล่าวถึงกันทุกวงการ

ปกติเรื่องราวจะเป็นข่าวอยู่ที่ใครได้เป็นรัฐมนตรี สำหรับคนที่ไม่ได้เป็นมักไม่มีประเด็นให้พูดถึง

ทว่าเมื่อ "ตู่-จตุพร" เป็นเต็งหาม เชื่อมั่นกันว่าถึงเวลาอย่างไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องปฏิเสธ แล้วไม่มา จึงเป็นโฟกัสให้ประชาชนสนใจ

ความ พลิกผันนี้ ฝ่ายตรงกันข้ามมีแนวโน้มเชื่อว่า จะส่งผลให้ "มวลชนเสื้อแดง" ไม่พอใจและอาจจะเป็น "ชนวนขัดแย้ง" ระหว่างกลุ่มผู้กุมอำนาจในเพื่อไทยกับ "มวลชนเสื้อแดง"

ทว่าถึงที่สุดแล้วหาเป็นเช่นนั้นไม่ เพราะน้ำเสียงของ "ตัวแทนเสื้อแดง" แม้จะงุนงงสงสัยอยู่บ้าง ก็ไม่รุนแรงถึงเพียงนั้น ตัวแทน "เสื้อแดง" เองกลับส่งสัญญาณไปสู่มวลสมาชิกว่าไม่ต้องเคลื่อนไหวอะไร

"เดอะตู่" รับได้


(อ่านต่อ) 
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1351406342&grpid=01&catid=&subcatid=

family war !? ครม. ยิ่งลักษณ์ 3 พี่-น้องชินวัตร ตั้งรับเกมการเมืองร้อน และศึก3ก๊ก 6 รอยร้าวลึก พท.

family war !? ครม. ยิ่งลักษณ์ 3 พี่-น้องชินวัตร ตั้งรับเกมการเมืองร้อน และศึก3ก๊ก 6 รอยร้าวลึก พท.



ผู้มีบารมีระดับหัวหน้าก๊กในพรรคเพื่อไทยล้วนอยู่ในเครือข่ายคนตระกูล "ชินวัตร"  

รายชื่อที่ถูกทำบัญชีขึ้นทูลเกล้าฯ เป็นคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ 3 จึงมาจากพี่-น้องชินวัตร 4 ปีก 

ปีกแรก สายตรง "พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร" มีทั้งนักการเมืองกลุ่ม 111 คนเสื้อแดง และนักบริหารมืออาชีพ

ปีกที่ 2 กลุ่ม "เจ๊แดง" เยาวภา วงศ์สวัสดิ์ น้องสาว "พ.ต.ท.ทักษิณ" ประกอบด้วย ส.ส. รัฐมนตรีจากภาคเหนือ คนใกล้ชิดอดีตนายกฯ สมชาย วงศ์สวัสดิ์

ปีกที่ 3 กลุ่ม "บ้านจันทร์ส่องหล้า" อดีตภริยานายกรัฐมนตรี คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพ็ชร์ 

ปีกที่ 4 ที่ใกล้ชิดกับนายกฯ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" 

แต่ละปีก แต่ละขั้วมีใครบ้าง ?  ทำไม ส.ส.ในพรรคโจษจันกันทั่วรัฐสภาว่า เป็นศึก "family war" ?

และทำให้โผ ครม. "ยิ่งลักษณ์ 3" ต้องยืดเยื้อมานานนับเดือน  

คลิกอ่านรายละเอียด

(ที่มา) 
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1351408087&grpid=01&catid=&subcatid=

โปรดเกล้าฯ ครม.ยิ่งลักษณ์ 3

โปรดเกล้าฯ ครม.ยิ่งลักษณ์ 3

 



โปรดเกล้าฯ ครม.ยิ่งลักษณ์ 3 แล้ว "ปลอดประสพ" นั่งรองนายกฯ "พงศ์เทพ" รองนายกฯควบ รมว.ศธ. "จารุพงศ์" คุมมหาดไทย "ณัฐวุฒิ" นั่งรมช.พาณิชย์

28 ต.ค. 55 - เว็บไซต์โพสต์ทูเดย์รายงาน ว่าราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พระบรมราชโองการ ประกาศให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี ในรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (ครม.ยิ่งลักษณ์3) ดังนี้

พระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีตามประกาศลงวันที่ 5 ส.ค. 2554 และแต่งตั้งรัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินตามประกาศลงวันที่ 9 ส.ค. 2554  และประกาศครั้งสุดท้ายลงวันที่ 18 ม.ค. 2555 นั้น

บัดนี้ นายกรัฐมนตรีได้กราบบังคมทูลว่า ได้มีรัฐมนตรีลาออกบางตำแหน่ง สมควรปรับปรุงรัฐมนตรีบางตำแหน่ง เพื่อความเหมาะสมและบังเกิดประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดินอาศัยอำนาจตาม ความในมาตรา 171 และมาตรา 183 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้

ให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้

(คลิกอ่าน)
http://www.prachatai.com/journal/2012/10/43368

เปิดรายชื่อ "ครม.ยิ่งลักษณ์ 3" หลังโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งใหม่ 23 ตำแหน่ง

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1351418657&grpid=01&catid=&subcatid=