อนาคต "ม็อบ" กับ ความชอบธรรม ในการ "ชุมนุม"
ถามว่าเหตุใดการชุมนุมของแนวร่วมคนไทยรักชาติ รักษาแผ่นดิน อันนำโดย นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ที่ท้องสนามหลวง ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมจึงไม่ประสบความสำเร็จ
ตอบว่า อยู่ที่ "ความชอบธรรม"
แม้จะมีองค์การพิทักษ์สยามอันนำโดย พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ กับ พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ เข้ามาเสริม ก็ไม่สามารถระดมคนเข้าร่วมได้อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง
ยังดำรงสถานภาพม็อบ "เรือนร้อย"
ถามว่าเหตุใดการยกระดับการชุมนุมของ "สนามหลวง" ประสานกับการเคลื่อนไหวของ "หน้ากากขาว" ถึงกับประกาศจัดตั้ง "กองทัพประชาชน โค่นระบอบทักษิณ" โดยปักหลักชุมนุมที่สวนลุมพินีตั้งแต่เดือนสิงหาคม จึงไม่ประสบผลสำเร็จ
ตอบว่า อยู่ที่ "ความชอบธรรม"
แม้
จะมีกองทัพธรรมอันมีสันติอโศกเป็นแบ๊ก
แม้จะมีมือจากพรรคประชาธิปัตย์เข้าไปแตะสัมผัส
แม้จะพยายามขับเคลื่อนจากสวนลุมพินีไปยังหน้าทำเนียบรัฐบาลและแยกสายไปอุรุ
พงษ์
ก็ยังดำรงสถานภาพม็อบ "เรือนร้อย" อยู่ไม่แปรเปลี่ยน
ปัญหา "ความชอบธรรม" จึงสำคัญเป็นอย่างมากในการชุมนุม ในการเคลื่อนไหวและก่อกระแสทางการเมือง
ต้องยอมรับว่าการจัดม็อบของพรรคประชาธิปัตย์โดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่ว่าจะเป็นที่สามเสน ไม่ว่าจะเป็นบนถนนราชดำเนิน
ต่างจาก "สนามหลวง" เมื่อเดือนพฤษภาคม
ต่างจาก "สวนลุมพินี" เมื่อเดือนสิงหาคม
ต่างจาก "แยกอุรุพงษ์" เมื่อเดือนตุลาคม
นั่นก็คือ ม็อบของพรรคประชาธิปัตย์ไม่เพียงแต่จะมี "มวลชน" ของตนเองในพื้นที่ กทม.อยู่แล้วโดยพื้นฐาน
หากยังอาศัยร่าง พ.ร.บ. "นิรโทษกรรม" มาจุดให้กลายเป็น "กระแส"