หน้าเว็บ

วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

การขออภัยโทษทักษิณจะเป็นการหักหลังเสื้อแดงที่ติดคุก

โดย ใจ อึ๊งภากรณ์

มี ข่าวลือออกมาทางสื่อต่างๆ ว่ารัฐบาลกำลังจะขอให้นายภูมิพลอภัยโทษนักโทษต่างๆ โดยระบุหลักเกณฑ์ของนักโทษที่จะได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัว คือเป็นผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และอาจไม่เคยติดคุกก็ได้ ซึ่งในรูปธรรมเป็นการขอให้อภัยโทษทักษิณ แต่สำหรับเสื้อแดงที่ติดคุกคดี 112 หรือ คดีที่ถูกกล่าวหาว่าเผาศาลากลางฯลฯ จะไม่ขออภัยโทษเลย จะปล่อยให้ติดคุกต่อ ซึ่งเป็นการหักหลังเสื้อแดงในคุกและหักหลังวีรชน



เมื่อเดือนที่แล้ว เวลาพวกเราย้ำว่ารัฐบาลควรเร่งปล่อยนักโทษเสื้อแดงทันทีรวมถึงนักโทษ 112 ก็จะมีเสื้อแดงบอกว่า “ใจเย็นๆต้องรอให้น้ำหายท่วมก่อน... รัฐบาลยุ่งอยู่” เราก็ไม่เคยเชื่อ... เสร็จแล้วก็ปรากฏว่าทั้งๆ ที่น้ำยังท่วมอยู่รัฐบาลก็สามารถเริ่มกระบวนการขออภัยโทษทักษิณได้ ซึ่งพิสูจน์ว่าพวกที่จะให้เรารอไร้สาระและเหตุผลในข้อถกเถียงโดยสิ้นเชิง และการตั้งเงื่อนไขเพื่ออภัยโทษทักษิณโดยไม่ปล่อยเสื้อแดงและนักโทษ 112 เป็นการเลือกปฏิบัติที่ชัดเจน เพราะเขามองว่ารัฐบาลทำอะไรก็ได้เสื้อแดงก็จะยอม ไม่ว่าจะหักหลังกันแค่ไหน



ความโง่เขลาของ เฉลิม อยู่บำรุง คือถ้าเขาจะขอให้อภัยโทษทักษิณคนเดียวและปล่อยให้เสื้อแดงติดคุกต่อ รวมถึงนักโทษ 112 ...เขา จะทำให้รัฐบาลถูกโจมตีโดยสลิ่มและอำมาตย์ง่ายขึ้นว่า “ทำเพื่อคนเดียว” และพร้อมกันนั้นจะทำลายจิตใจคนเสื้อแดงจนทำให้เสื้อเบื่อรัฐบาลนี้ ... แต่จะไปหวังอะไรจากคนอย่างเฉลิมที่ไม่เคยสู้ร่วมกับเสื้อแดงและเพียงแต่เป็น นักการเมืองโจรแบบเก่า

(อ่านต่อ)
http://redthaisocialist.com/2011-01-20-12-41-04/293-2011-11-16-15-36-16.html
การตอกย้ำสถานะ "พิเศษ" ของทหารในวิกฤติน้ำท่วม

ประวิตร โรจนพฤกษ์
@PravitR


บางใหญ่ (20 ต.ค.54)
แฟ้มภาพ: ประชาไท

กล่าวได้ว่า อำนาจของกองทัพบกในการเมืองไทยนั้นได้หยั่งรากลึกจากการที่เหล่าบรรดานายพล ผู้ก่อรัฐประหารเกือบ 20 ครั้งที่ผ่านมา กระทำการได้ “สำเร็จ” ทุกวันนี้ กองทัพบกจึงมีสถานะเสมือนองค์กรกึ่งอิสระที่ไม่ขึ้นต่อรัฐบาล และผลงานในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมในครั้งนี้ก็ได้ช่วยตอกย้ำ สถานะ “พิเศษ” ของกองทัพบกในสังคมไทยให้มั่นคงยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกัน ความชื่นชมต่อกองทัพบกโดยไม่เข้าใจหลักประชาธิปไตยในหมู่ประชาชนจำนวนหนึ่ง ของสังคมก็สะท้อนให้เห็นว่า การที่จะให้ทหารอยู่ใต้อำนาจรัฐบาลพลเรือนเป็นเรื่องที่กระทำได้ยากลำบากใน ประเทศนี้

ผู้เขียนไม่ปฏิเสธถึงการปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็งและน่าชื่นชมของ บรรดาเหล่าทหารในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย แต่สิ่งที่มาพร้อมกับน้ำที่ท่วมและการปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือของทหารก็คือ การพูดคุยในหมู่คนจำนวนหนึ่งในทำนองตอกย้ำความเชื่อที่ว่า ทหารเป็นองค์กรกึ่งอิสระและควรมีบทบาทพิเศษที่ไม่ขึ้นกับรัฐบาล เนททิเซ่นจำนวนหนึ่งได้แสดงความเห็นในช่วงสองสามอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า บทบาทของทหารดีกว่ารัฐ ซึ่งสะท้อนความเห็นอันแปลกประหลาดที่ว่ากองทัพมิใช่ส่วนหนึ่งของรัฐ ทุกวันนี้ เราอาจกล่าวได้ว่า นอกจากอำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติ และอำนาจตุลาการ ก็ยังมีอำนาจของสถาบันทหารที่ดูเหมือนจะกลายเป็นฐานันดรสี่ตัวจริง เสียงจริง ที่มีสภาพกึ่งอิสระ หรืออิสระ และมักอ้างตนเป็นผู้ “ปกป้อง” ราชบัลลังก์ และประเทศ
 
(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2011/11/37892
หอน รับกันเป็นทอดๆ

รูปภาพ
 
เมื่อ ปชป.จุดเรื่อง พ.ร.ฎ.อภัยโทษ เอื้อ คุณทักษิณ แก๊งสลิ่ม ก็หอนรับเป็นทอดๆ เช่น TPBS เล่นข่าวสัมภาษณ์นักวิชาการ ว่าไม่เหมาะ หมาตุลย์ พธม.อ้ายเจ็กลิ้ม แก้วหน้าหมา ออกมาหอนรับกันเป็นทอดๆ  วันสองวันนี้ คงมีอีกหลายตัวหอนรับ อีก???
 
ทำไมคุณทักษิณต้องให้ใครมาอภัยโทษให้ด้วยละครับ
เท่ากับยอมรับเองว่าเป็นผู้ผิดในสายตาชาวโลกไปโดยปริยาย สร้างความเสียหายให้เเก่คุณทักษิณเอง เเละเสื้อเเดงก็พลอยเสียเครดิตไปด้วยในสายตาโลก ( เพราะเข้าข้างคนทำผิดคือคุณทักษิณมาตลอด) ระวังจะเข้าทางเขานะครับ  

ไอ้หมอตุลย์มันอาจจะรับงานมาเห่า เพื่อให้พวกเราหลงกลที่ซ้อนกันสิบชั้นก็ได้ ผมว่าพวกเราเลิกเชียร์เรื่องอภัยโทษนี่ดีกว่า ถ้าคุณทักษิณจะกลับ ต้องกลับมาอย่างสง่างามกว่านี้
 
จากขบวนการ"ตุลาการวิบัติ สื่อวิบัติ"อำมาตย์ตัวไหนอยู่เบื้องหลังในการบงการสื่อ ทีวี หนังสือพิมพ์เลว ทำเป็นขบวนการ
เพื่อให้เกิดความขัดแย้ง???
 
รูปภาพ
 
 
รูปภาพ
 
ผม เห็นว่า วิธีการที่กลุ่มนิติราษฎร์ เสนอ น่าจะเป็นวิธีการที่ดีที่สุด ส่วนตอนนี้ คงต้องคอยไปเยี่ยม ให้กำลังใจ และช่วยเหลือ ครอบครัวคนเสื้อแดงที่ติดคุก อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ เพื่อไม่ให้เขารู้สึกว่า ถูกทอดทิ้ง มากกว่าครับ
ท้องถิ่นเป็นลูกไล่ เบี้ยล่างของราชธานี

 
โดย สุจิตต์ วงษ์เทศ

กลุ่มได้ประโยชน์ซึ่งมั่งคั่งและมั่นคงอยู่แล้วยิ่งได้ประโยชน์มากขึ้นจาก "ผู้เสียสละ"

แต่ กลุ่มเสียประโยชน์ต้องเป็น "ผู้เสียสละ" ทั้งๆเป็นเกษตรกรรายย่อย หรือชาวนายากจนอยู่แล้ว ก็ยิ่งทำให้คนกลุ่มนี้สูญเสียหนักขึ้นไปอีก โดยไม่มีเวทีกลางสำหรับการต่อรองที่เป็นธรรมให้กลุ่ม "ผู้เสียสละ" เช่น ได้รับค่าชดเชยที่คุ้มต่อการสูญเสีย

กลุ่มได้ประโยชน์มีพื้นที่สื่อ เรียกร้องแกมบังคับให้คนอีกกลุ่มหนึ่งต้องเป็น "ผู้เสียสละ" โดยตนเองไม่ต้องเสียสละอะไรเลย แถมได้รับประโยชน์ของการเสียสละของคนอีกกลุ่มหนึ่งด้วยซ้ำไป

ฐานคิด ให้คนท้องถิ่นหรือคนบ้านนอกเป็นลูกไล่เบี้ยล่างของคนเมือง สืบเนื่องมาจากประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่าง "ไพร่" กับ "มูลนาย"



(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1321442328&grpid=&catid=02&subcatid=0207
"สมคิด เลิศไพฑูรย์-สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล" มองพ.ร.ฎ.อภัยโทษ ต่างกรอบคิด แต่เห็นแย้งรบ.เหมือนกัน (ถ้าทำจริง)



รับชมคลิป
http://www.matichon.co.th/mtc-flv-window.php?newsid=1321442488

จากกระแสข่าวการประชุมลับ ผ่านร่างพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ (พ.ร.ฏ.อภัยโทษ) ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (15พ.ย.) นั้น กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแพร่หลาย โดยมีคนต้องข้อสงสัยว่า จะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือไม่?

และเมื่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไม่ได้เข้าประชุม ครม. แต่มอบหมายให้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในที่ประชุมแทน ผู้ตั้งข้อสงสัยต่างก็เคลือบแคลงใจมากยิ่งขึ้น

แม้จะยังไม่มีข้อมูลที่ยืนยันแน่ชัดว่า ครม.เห็นชอบร่าง พ.ร.ฏ.อภัยโทษ จริง

แต่วิวาทะในเรื่องนี้ก็กลายเป็นประเด็น "ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์" ไปเรียบร้อยแล้ว มติชนออนไลน์จึงทำการสัมภาษณ์ ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนักวิชาการด้านกฎหมายมหาชน ถึงประเด็นดังกล่าว พร้อมทั้งนำความเห็นที่ ดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์แสดงความเห็นในประเด็นเดียวกันผ่านทางเฟซบุ๊ก มาเผยแพร่คู่กันด้วย

ติดตามอ่านได้ ณ บัดนี้

/news_detail.php?newsid=1321442488&grpid=01&catid=&subcatid=

กลุ่ม "ต่อต้านสันติวิธี" ตั้งFB "ค้านออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษ ทักษิณ" คนเข้าร่วมทะลุหมื่นแล้ว!

 



ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 16 พฤศจิกายน  ว่า  กลุ่มต่อต้าน "สันติวิธีสามานย์" ของ "นักวิชาการสันติวิธี" ได้สร้างเฟซบุ๊กในชื่อ "คัดค้านการออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษ ของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เพื่อทักษิณ" ขึ้นมาในทันที เพื่อเชิญชวนให้กับผู้ใช้เฟซบุ๊กเข้าชื่อร่วมคัดค้านการออก พ.ร.ฎ.อภัยโทษดังกล่าว  โดยพบว่า  ขณะนี้ มีผู้ที่ใช้เฟซบุ๊กจำนวนกว่า หมื่นรายตอบรับคำเชิญเข้าร่วมเพจการคัดค้านดังกล่าวแล้ว ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวระบุช่วงเวลาการร่วมกิจกรรมว่าจะเริ่มตั้งแต่  15 พฤศจิกายนเวลา 10:00 น.  จนถึง 15 กุมภาพันธ์ 2012 เวลา 23:30 น. 

 

(อ่านต่อ) 

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1321427150&grpid=01&catid=&subcatid=

ทำไมวาทกรรม "ไม่จบปริญญาตรีไม่ควรมีสิทธิเลือกตั้ง" จึงเป็นตรรกะที่ใช้ไม่ได้?

โดยFaris Yothasamuth

เป็นประเด็นกันในโลกออนไลน์ เมื่อซูโม่ตู้ออกมาพูดซ้ำแนวคิดของตนที่ว่า "ควรให้คนจบปริญญาตรีหรือสูงกว่าเท่านั้นที่มีสิทธิเลือกตั้ง"

คนจำนวนหนึ่งก็ออกมาซาบซึ้งน้ำตาไหลกับแนวคิดอันแสนจะเยี่ยมยอด พากันแชร์และผลิตซ้ำวาทกรรมนี้กันอย่างเอิกเกริก

(ดูตัวอย่างที่Facebook)
http://www.facebook.com/photo.php?fbid=241497699244931&set=a.163705213690847.39753.163358657058836&type=1&ref=nf)
  

แต่ผมอยากจะชี้ให้เห็นชัดๆตรงนี้เลยว่า นั่นเป็นความคิดที่ "ใช้ไม่ได้"

ผมอยากถามว่า แน่ใจหรือว่าคนที่จบปริญญาตรีนั้นจะมี "ปัญญา" มากกว่าคนที่ไม่จบ  เราเห็นตัวอย่างมากมายกับบัณฑิตปริญญาตรี-โท-เอก-อนันต์ ที่ไม่ได้มีความสามารถอะไร เป็นพวกกเฬวรากซากศพ พูดภาษาวัยรุ่นก็ต้องเรียกว่า "กาก" เราเองก็ได้ยินกันบ่อยๆกับคำกล่าวที่ว่า "การศึกษาไม่ช่วยอะไร" แล้วอะไรเล่าทำให้เราคิดไปว่าปริญญาหนึ่งใบจะทำให้คนเก่งกาจตัดสินใจเรื่อง ของการปกครองและการเมืองได้เยี่ยมยอดกว่าคนอื่นๆ?


แต่ในอีกด้านหนึ่งเราก็อาจจะเห็นคนที่ไม่ได้จบปริญญาตรีกลายเป็นคนที่ทรง คุณค่าในสังคม  เพื่อนผมคนหนึ่งยกตัวอย่างคนเหล่านี้ขึ้นมา อาทิ ตัน ภาสกรนที - ธนินท์ เจียรวนนท์ - เฉลียว อยู่วิทยา - ทรงชัย รัตนสุบรรณ - บินหลา สันกาลาคีรี - คุณหญิงวิมล ศิริไพบูลย์ (ทมยันตี) ผมอ่านชื่อดูแล้วก็เห็นคล้อยตาม จริงสินะ คนอีกตั้งเท่าไหร่ที่ไม่ได้จบปริญญาตรี แต่ประสบความสำเร็จ มีปัญญา มีความสามารถ นี่ยังไม่นับรวมปราชญ์ชาวบ้านทั้งหลายที่อย่าว่าแต่ปริญญาตรีเลย มัธยมศึกษาก็อาจจะไม่จบ แต่เขาก็มี(ภูมิ)ปัญญาที่น่ายกย่อง สร้างสิ่งดีๆให้ชุมชนมากมาย แล้วคนอย่างนายตู้กลับจะไปตัดสินคนทั้งประเทศด้วยกระดาษใบเดียว? ก็น่าแปลกนะครับทีบิล เกต หรือคนเก่งๆหลายคนเรียนไม่จบเราก็มายกย่องกันใหญ่โต พ่นวาทะอันสวยหรูว่า "ปริญญาก็แค่กระดาษแผ่นเดียว" แต่พอมากรณีนี้กลับยึดกระดาษแผ่นเดียวกันอย่างบ้าคลั่ง...


(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2011/11/37879
"สรรเสริญ" เข้าให้การคดีสลายการชุมนุมเสื้อแดงปี 53
"พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด" เผย "ข่าวสด" กรณีพนักงานสอบสวนเรียกสอบ โดยเปิดเผยว่ามีการสอบถามถึงภารกิจของหน่วยงานทหาร แนวทางการปฏิบัติ การรับคำสั่ง การวางแผนการปฏิบัติ และขั้นตอนการปฏิบัติ ขณะที่ "ข่าวสด" อ้าง เสธ.ไก่อู กลายเป็นพยานปากสำคัญ และได้ให้การว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่การทำตามภารกิจของทหาร และเกิดขึ้นจากคำสั่ง ศอฉ.

(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2011/11/37880



ข่าวสดออนไลน์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น. ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดี 16 ศพ ที่เสียชีวิตจากการชุมนุมเมื่อเดือนเม.ย.-พ.ค.2553 กล่าวถึงความคืบหน้าคดีว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนเชิญ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ผอ.กองปฏิบัติการจิตวิทยา กรมกิจการพลเรือนทหารบก ในฐานะโฆษกศอฉ. ในขณะนั้น และทหารอีก 2 นาย คือ พ.อ.ชิษณุพงศ์ รอดศิริ เสธ.ร.2 รอ. ซึ่งเป็นผู้นำกำลังมาขอคืนพื้นที่ และ ส.อ.มณี พรหมนอก สังกัด ร.2 พัน.3 รอ. มาสอบปากคำ แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะเป็นความลับในสำนวน

นางธิดา ถาวรเศรษฐ รักษาการประธานนปช. แถลงข่าวประจำสัปดาห์์ว่าพ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศอฉ.ยอมสารภาพซัดทอดแล้วว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นผู้ออกคำสั่งให้ปราบปรามผู้ชุมนุมเสื้อแดงเมื่อปีกลาย

(อ่านต่อ)
 
เสื้อแดงยื่นจม.ถึง บัน คี มุน-ฮิลลารี ฟ้องชาวโลกปัญหาคดีหมิ่น
 
 

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=GJQhGiKRnzc 

16 พ.ย.54 เวลาประมาณ 13.00 น. บริเวณทำเนียบรัฐบาล กลุ่มคนเสื้อแดงราว 60 คน นำโดย น.ส.จิตรา คชเดช นักกิจกรรมด้านแรงงาน และนายชานุ ไชยะ ผอ.สถานีวิทยุชุมชนจ.สมุทรปราการ คลื่อน 90.25 เมกกะเฮิร์ต ชุมนุมพร้อมยื่นหนังสือ ในวาระที่นายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และนางฮิลลารี คลินตัน รมว.การต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา เดินทางมาเยือนประเทศไทย และเข้าพบ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลตามคำเชิญของรัฐบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ชุมนุมมีการถือป้ายข้อความ “FREE SOMYOS” “Free Joe  Free Thailand!” “FREE DA TORPIDO” “FREE SURACHAIW” “RELEASE POLITICAL PRISONERS” “FREE Thailand from Lese Majeste Law”  และยังมีการประท้วงโดยการนำกรงที่ทำด้วยท่อพีวีซี ภายในมีคนแต่งตัวเป็นเทพีเสรีภาพถือกล่องเขียนว่าปลดปล่อยนักโทษการเมือง และมีรายชื่อผู้ต้องขังเสื้อแดงที่ยังคงอยู่ในเรือนจำจำนวนมากและผู้ต้องขัง คดีหมิ่นติดอยู่เต็มลูกกรง


(อ่านต่อ)

http://www.prachatai.com/journal/2011/11/37878
‘Occupy Wall Street’ ในนิวยอร์กโดน ‘กระชับพื้นที่’ แล้วกลางดึกวันนี้

การสลายการชุมนุมดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อกลางดึกของวันที่ 15 พ.ย. โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจนิวยอร์กชุดปราบจลาจลจำนวนหลายร้อยคนได้เข้าล้อมสวนสา ธารณะพร้อมแก๊ซน้ำตา รถบดขนาดใหญ่ และเฮลิคอปเตอร์ โดยขู่ว่า อุปกรณ์และสิ่งของทุกอย่างในสวนของผู้ชุมนุมจะถูกนำไปกำจัดทิ้ง หากผู้ชุมนุมยังคงยืนยันว่าจะไม่เก็บของออกไปจากสวนซุคค็อตติ ต่อมา เมื่อเวลาราว 4.30 น. ภารกิจการเคลียร์สวนสาธารณะดังกล่าวก็เสร็จสิ้นลง


สวนสาธารณะซุคค็อตติหลังการสลายกลุ่มผู้ประท้วง ‘Occupy Wall Street’ที่มา: @mtracey Twitpic
 
รายงานข่าวระบุว่า เกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและกลุ่มผู้ประท้วง แต่ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ก็ยินยอมที่จะเก็บของและออกจากสวนซุคค็อตติตามคำสั่ง ของตำรวจ ส่วนผู้ที่ขัดขืนและปฏิเสธที่จะออกจากพื้นที่ ก็ถูกจับกุมอย่างน้อย 70 คน อย่างไรก็ตาม นิวยอร์กไทมส์ระบุว่า ส่วนใหญ่ได้รับการปล่อยตัวตามหมายศาลแล้วชั่วคราว

 

ทั้งนี้ เว็บไซต์ occupywallstreet.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ทางการของขบวนการดังกล่าวระบุว่า เหล่าผู้ชุมนุมได้นัดเดินขบวน และจัดการประชุมสมัชชาใหม่อีกครั้ง เมื่อเวลา 9 โมงเช้าในวันเดียวกัน ที่จตุรัสโฟลีย์ ในแถบแมนฮัตตัน กรุงนิวยอร์ค เพื่อหารือถึงสถานการณ์หลังการสลายการชุมนุม

(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2011/11/37872

ทำไมฉันถึง "ยึด" วอลล์สตรีท?!?



ฉันยึดเพราะบริษัทไม่ใช่คน และเงินไม่ใช่เสรีภาพในการแสดงออก

ฉันยึดเพราะฉันเชื่อในความเป็นหนึ่งเดียวของประชาชน ไม่ใช่ประชาชนรวมตัวกันแล้วเป็นหนึ่ง


ฉันยึดเพราะกองทัพเราใช้เงินอย่างมหาศาลเป็นพันๆล้านเพื่อยึดครองประเทศอื่น ในขณะที่การจ้างงาน โครงสร้างพื้นฐาน และภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ทรุดโทรม


ฉันยึดเพราะคนรุ่นฉันน่าจะต่อต้านสงคราม โกรธแค้นมากกว่านี้


ฉันยึดเพราะฉันเบื่อที่จะไปเลือกตั้งเพียงเพื่อเลือกนักการเมืองที่ “ขายตัว” น้อยที่สุด


ฉันยึดเพราะฉันเบื่อที่จะเห็นนักธุรกิจระดับสูงของบริษัที่ล้มเหลวรับโบนัส ขณะที่คนงานถูกลอยแพ ไม่มีการชดเชย


ฉันยึดเพราะฉันเชื่อในรัฐธรรมนูญ ที่ให้สิทธิเสรีภาพแก่ฉัน


ฉันยึดเพราะถึงแม้ว่า “ระบบยังไม่เสีย” แต่ต้องอาศัยการมีส่วนร่วมของประชาชน ระบบถึงจะแข็งแกร่งได้


ฉันยึดเพราะมันตื่นเต้นที่เห็นประชาธิปไตยทำงาน


ฉันยึดเพราะ ๗ ปีที่ใช้กับการเรียนหนังสือ ปริญญาตรี-โท ฉันยังไม่สามารถหางานที่ดีพอจ่ายหนี้เงินกู้เรียนให้น้อยลงได้



ฉันยึดเพราะได้งานทำไม่เต็มเวลาตั้งแต่จบ บ่อยครั้งต้องแบกพาร์ทไทม์จ๊อบ ๒ หรือ ๓ จ๊อบถึงจะพอกิน


ฉันยึดเพราะฉันเป็นคนว่างงาน ซึ่งไม่ได้เกิดจากความผิดของฉันเลย


ฉันยึดเพราะคนว่างงานไม่สามารถเป็นแค่สถิติ ตัวเลขที่ไม่มีใครแยแส


ฉันยึดเพราะทางเลือกอีกทางคือการนั่งเขียนจดหมายหางานไปวันๆ ในห้องชั้นล่างของคุณพ่อคุณแม่ โดยไม่มีจดหมายตอบกลับ


ฉันยึดเพราะถ้าไม่ได้คุณพ่อคุณแม่ช่วยไว้ ฉันคงต้องเป็นขอทานตามมุมถนน ไม่ได้เรียกร้องการเปลี่ยนแปลง


ฉันยึดเพราะความฝันของฉันถูกเลื่อนออกไป และไม่วันใดก็วันหนึ่งมันจะระเบิด 

 
(อ่านต่อ)
http://thaienews.blogspot.com/2011/11/blog-post_698.html