หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ดร.สุเมธเปรียบวิกฤตปท.เหมือนเป็นมะเร็ง ปัญหาเกิดจากคอร์รัปชั่น แนะอย่าทำตัวเป็นเสือทั้งๆที่เป็นควาย

ดร.สุเมธเปรียบวิกฤตปท.เหมือนเป็นมะเร็ง ปัญหาเกิดจากคอร์รัปชั่น แนะอย่าทำตัวเป็นเสือทั้งๆที่เป็นควาย
 
ภาพที่โพสต์


เมื่อ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่อาคารรัฐสภา 2 ในการเสวนาวิชาการ เรื่อง “ก้าวข้ามภาวะวิกฤติ สู่ความมั่นคงยั่งยืนเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน

โดยคณะอนุกรรมาธิการเสริมสร้างธรรมาภิบาลในภาครัฐ ร่วมกับคลังสมอง วปอ. เพื่อสังคม และศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) โดยเชิญ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวแสดงสุนทรพจน์พิเศษ เรื่อง “ครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน”ว่า

ขณะ นี้ประเทศไทยกำลังตกอยู่ในสภาวะวิกฤต เหมือนคนที่กำลังเป็นโรคมะเร็ง ที่ถูกกัดกินไปเรื่อยๆ อย่างรวดเร็ว โดยไม่รู้ตัว สุดท้ายจบด้วยความพินาศ ซึ่งสาเหตุของโรคมะเร็ง คือการทุจริตคอร์รัปชั่นที่กัดกินรุนแรงเข้าไปทุกขณะ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ประจักษ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประเทศไทยไม่เคยสอบผ่านเลยในเรื่องนี้อยู่ในอันดับที่ 80 จาก 130 กว่าประเทศไทย โดยได้คะแนนเฉลี่ยไม่เคยเกิน 3 คะแนน สิ่งที่น่าเศร้าคือคะแนนจะดีขึ้นก็กลับร่วงตกลงไปอีก สิ่ง นี้อาจเป็นเพราะไม่มีการดำเนินการอย่างจริงจังหรือเปล่า ตลอด 20 ปี มีการดำเนินการปราบปรามการทุจริตกันมาตลอดแต่ไม่เคยหมด สิ่งที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยคือ อาการที่น่าเป็นห่วงเพราะไม่มีท่าทีที่จะดีขึ้นเลย

..............................................

ดร.สุเมธกล่าวว่า

ทำไมต้องให้ฝรั่งมาบอกเราเวลาเกิดวิกฤต อย่างในปี 2539 หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ก็คือ การโกงกัน ฝรั่งจึงออกกฎ ที่สุดท้ายแปลว่า “ธรรมาภิบาล” ที่ มีสาเหตุมาจากการโกงกัน ธรรมะของพระองค์ที่ทรงยึดถือและทรงปฏิบัติ คือ ธรรมาภิบาล มิติของทศพิธราชธรรมเป็นมิติของมนุษย์แตกต่างจากกฎของฝรั่งที่จะกำหนดไว้ แข็งๆ แต่เป็นทศพิธราชธรรม 10 ประการ เริ่มจาก การให้ ศีล ความซื่อตรง เป็นต้น ซึ่งพระองค์เคยทรงมีพระราชดำรัสไว้คราวหนึ่งว่า “ใครทุจริตแม้แต่นิดเดียวของให้มีอันเป็นไป” ท่านทรงตรัสถึง 3 ครั้ง 3 ครา และยังพระราชทานพรแก่ผู้กระทำความดีด้วย

"ประเทศไทยพยายามทำตัวให้เป็นเสือ แต่แท้จริงแล้ว เราก็เป็นเพียงแค่ ควาย "

เพราะประเทศเราเป็นประเทศเกษตรกรรม ถ้าเราดำรงความเป็นควายอยู่
ป่านนี้เราเป็นมหิงสาแล้ว อย่าใช้กิเลสเป็นเครื่องนำทางเลย ต้องดำรงอยู่บนความ
ไม่ประมาท จงสร้างภูมิคุ้มกันไว้ก่อนจะได้เป็นพญาควาย ดีกว่าเป็นเสือนอนตาย"
ดร.สุเมธ กล่าว

(ที่มา)
http://www.matichon....atid=&subcatid=

โห...ความคิดของเมดเฟอร์รารี่ กดขี่ปชช.ให้เป็นควาย
คิดแบบนี้ มันน่าจะสูญพันธ์ไปให้หมด...ยิ่งอยู่ ยิ่งพูดเลอะเทอะ

ปชช.เค้าตาสว่างแล้วโว๊ย.....ไอ้ฟายยย...


เปล่า เลย . มะเร็งร้ายของไทย คือความไม่ยอมรับความเจริญก้าวหน้า . ต้องการเพียงยึดโยงอยู่กับความรู้สึกส่วนตนว่าการอยู่แบบไทย ๆ ในความรู้สึกของโบราณชน . อันสามารถกดขี่ ควบคุม เนื้อเยื่อประชาชนเอาไว้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ . คิดว่าเป็นความถูกต้อง และควรอนุรักษ์ให้คงอยู่ต่อไปอีกยาวนาน . มะเร็งนี้เกาะกินหัวใจมาอย่างไม่มีวันหลุดพ้น และพยายามแพร่กระจายไปสู่เนื้อเยื่อใหม่ ๆ . โดยไม่พยายามยอมรับความจริงที่ว่า สุขภาพที่ดีทั้งกายและใจ รวมทั้งเนื้อเยื่อเก่าจำเป็นต้องตายไป และร่างกายจะสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ๆ ที่สามารถนำมาพัฒนาให้แข็งแกร่ง ได้มากกว่าที่เคยเป็นอยู่ . มะเร็งร้ายนี่แหละคือตัวกดให้คนบางคนงมคิดได้แต่ความเป็นควาย . ทั้งๆ ที่เนื้อเยื่อใหม่ๆ สามารถพัฒนาให้แข็งแกร่งดุจเสือได้เป็นอย่างดี . และจะยิ่งดีขึ้นไปเรื่อย ๆ 

 
ภาพที่โพสต์

คลิปรายการ ที่นี่ความจริง โดย อ ตุ้ม, อ หวาน

คลิปรายการ ที่นี่ความจริง โดย อ ตุ้ม, อ หวาน

 

คนเสื้อแดงสนับสนุน นิติราษฎรฺ์ แก้ มาตรา ต้องห้าม 112

http://www.youtube.com/watch?v=UPFrfR1_vnA&feature=player_embedded 

"พรรคเพื่อไทย ไม่ใช่ของเรา"? รวบรวมวาทกรรมส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่แสดงทัศนคติต่อ"นิติราษฎร์"และการแก้ไขมาตรา112

"พรรคเพื่อไทย ไม่ใช่ของเรา"? รวบรวมวาทกรรมส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่แสดงทัศนคติต่อ"นิติราษฎร์"และการแก้ไขมาตรา112 

 

 













นพดล ปัทมะ : พ.ต.ท.ทักษิณ เห็นด้วยกับแถลงการณ์จุดยืนของพรรคเพื่อไทยที่ไม่มีนโยบายและแนวคิดจะแก้ไข มาตรา 112 เพื่อขจัดความสับสนว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีนโยบายแก้ไขมาตรา 112 ขอยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ และพรรคเพื่อไทย เทิดทูนสถาบัน จงรักภักดี

ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร :
"วันนี้ทุกคนต้องไม่เอาสถาบันเข้ามายุ่งเกี่ยว และที่สำคัญในฐานะคนไทยด้วยกันเราต้องปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ จริงๆ ต้องขอความร่วมมือให้หยุดพูดในเรื่องนี้กัน เพราะประเด็นต่างๆ เหล่านี้ถือเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อน"

ยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ :
"ที่จะให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และแก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวดพระมหากษัตริย์นั้น ทั้งกรรมการบริหารและสมาชิกพรรคเพื่อไทย ก็มีความเห็นตรงกันว่าสิ่งเหล่านี้อยู่เหนือเกล้าฯ ไม่ควรนำมาพูดหรือวิจารณ์"

"ในฐานะคนไทยไม่ควรนำมาคิดอยู่ในหัวเลยด้วยซ้ำ อะไรก็ตามที่เป็นเรื่องของเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน เรื่องของการแสดงความจงรักภักดี เรื่องของสถาบันเป็นเรื่องที่อยู่ในหัวใจประชาชน แตะต้องเรื่องนี้ได้อย่างไร?"


เฉลิม อยู่บำรุง :
"พวกผมไม่มีหรอกที่จะคิดแก้ไข มาตรา112 อะไรที่เป็นเกราะปกป้องเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดินเราต้องคงไว้"


(อ่านต่อ)
http://sewanaietv.blogspot.com/2012/01/112_28.html

ถาม-ตอบ ว่าด้วยข้อเสนอลบล้างผลพวงรัฐประหาร

ถาม-ตอบ ว่าด้วยข้อเสนอลบล้างผลพวงรัฐประหาร

 

 

















หลังจากคณะนิติราษฎร์ได้ประกาศลบล้างผลพวงรัฐประหาร ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ ได้มีปฏิกิริยาจากทั้งฝ่ายวิชาการ ฝ่ายการเมือง ตลอดจนสื่อมวลชน โดยเฉพาะฝ่ายที่วิพากษ์วิจารณ์คัดค้าน มีทั้งวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่เข้าใจข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์ หรือพยายามบิดเบือนสร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชนทั่วไป

ถาม-ตอบว่าด้วยข้อเสนอการลบล้างผลพวงรัฐประหารคือการรวบรวมประเด็นดังกล่าว มาตอบคำถาม เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแลกเปลี่ยนทางความคิด เพื่อให้ประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยได้ตัดสิน


(คลิกฟัง)  
http://sewanaietv.blogspot.com/2012/01/blog-post_23.html

คลิ๊ปงานเสวนา "มาตรา๒๙๑: ว่าด้วยสสร.๓ ในมุมมองอดีตสสร." ณ โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ จัดโดยสถาบันศึกษาการพัฒนาประชาธิปไตย

คลิ๊ปงานเสวนา "มาตรา๒๙๑: ว่าด้วยสสร.๓ ในมุมมองอดีตสสร." ณ โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ จัดโดยสถาบันศึกษาการพัฒนาประชาธิปไตย 

 












(คลิกฟัง)
http://sewanaietv.blogspot.com/2012/02/blog-post_27.html

ฮือฮา ฟอร์บส์จัดอันดับกาตาร์แชมป์ปท.ร่ำรวยสุดของโลก เทียบผลผลิตต่อหัวประชากร

ฮือฮา ฟอร์บส์จัดอันดับกาตาร์แชมป์ปท.ร่ำรวยสุดของโลก เทียบผลผลิตต่อหัวประชากร

 

 

นิตยสารฟอร์บส์ ได้จัดอันดับประเทศร่ำรวยที่สุดของโลก เมื่อเทียบผลผลิตประชาชาติต่อหัวประชากร ปรากฎว่า กาตาร์ คว้าแชมป์อันดับหนึ่ง หรือเฉลี่ยมากกว่า 88,000 ดอลลาร์ต่อหัวประชากร ผลจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันและการค้นพบทรัพยากรน้ำมันมหาศาล โดยที่ผ่านมา กาตาร์ถือเป็นประเทศนักลงทุนรายใหญ่ของโลกในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รวมทั้งการเป็นเจ้าภาพจัดฟุตบอลโลก ปี 2022 ด้วย


สำหรับอันดับสองได้แก่ ลักแซมเบิร์ก เฉลี่ย 81,466 ดอลลาร์ อันดับสาม สิงคโปร์ เฉลี่ย 56,694 ดอลลาร์ อันดับสี่ นอร์เวย์ เฉลี่ย 51,959 ดอลลาร์ อันดับห้า บรูไน 48,333 ดอลลาร์ อันดับหก สหรัฐอาหรับอิมิเรสต์ 47,439 ดอลลาร์ อันดับเจ็ด สหรัฐ เฉลี่ย 46,860 ดอลลาร์ อันดับแปด ฮ่องกง 45,944 ดอลลาร์ อันดับเก้า สวิตเซอร์แลนด์ อันดับสิบ เนเธอร์แลนด์ 40,973 ดอลลาร์ 

 

(ที่มา)

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1330329057&grpid=&catid=06&subcatid=0600  

4 เพลงดังมันส์..มันส์ วงไฟเย็น

4 เพลงดังมันส์..มันส์ วงไฟเย็น






ลุงสมชายป้าสมจิต : วงไฟเย็น

http://www.youtube.com/watch?v=nQkukhAA98Y&feature=player_embedded

ทำไม?ไม่ให้ประกัน : วงไฟเย็น

http://www.youtube.com/watch?v=20EeQGqt1T4&feature=player_embedded#! 

112ไม่เป็นธรรม : วงไฟเย็น

http://www.youtube.com/watch?v=iF_M54sOvQI&feature=player_embedded#! 

ไม่รักนะ..ระวังติดคุก : วงไฟเย็น

http://www.youtube.com/watch?v=4ZdOgKGAp_M&feature=player_embedded

เพลงเพื่อชีวิตกู วัฒน์+วงไฟเย็น

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=qd1sHx_jZQg#! 

จากลานโพธิ์ถึงภูพาน วัฒน์+วงไฟเย็น

http://www.youtube.com/watch?v=4B7HHoG2q1A&feature=player_embedded

2012 02 26 Bonanza วัฒน์ วรรณยางกูล เซิ้งอีสานแดงคับแค้นใจ

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=QIWei1ROC0s 

สัมภาษณ์ ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ การรณรงค์เพื่อความรับรู้ปัญหาจากม. 112 “เรามาไกลเกินกว่าจะถอยหลัง”

สัมภาษณ์ ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ การรณรงค์เพื่อความรับรู้ปัญหาจากม. 112 “เรามาไกลเกินกว่าจะถอยหลัง”





ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์

Interview with Pavin Chachavalpongpun

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=nwQfo5rPgIQ

สัมภาษณ์ ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ปิดแคมเปญแรก “ก้าวข้ามความกลัว” ซึ่งเป็นการรณรงค์เพื่อกระตุ้นความรับรู้แก่สังคมในประเด็นปัญหาการบังคับ ใช้กฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งมีจำนวนผู้ถูกกล่าวหา จับกุมคุมขังมากขึ้นหลายเท่าตัวหลังการรัฐประหาร โดยได้รับแรงบันดาลใจจากกรณีที่นายอำพล (สงวนนามสกุล) หรืออากง วัย 62 ปี ถูกศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก 20 ปี จากการถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ส่ง sms ที่มีข้อความเข้าข่ายละเมิดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จำนวน 4 ข้อความไปยังเลขานุการของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ปวิน ได้รวบรวมเงินจากการเคลียร์บัญชีขายหนังสือรอบแรกจำนวน 35,000 บาท ไปมอบให้นางรสมาริน (สงวนนามสกุล) หรือป้าอุ๊ ภรรยาของอากง เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ภายหลังจากที่ทั้งสองได้เข้าเยี่ยมอากงเป็นเวลา 15 นาที

(อ่านต่อ) 
http://www.prachatai.com/journal/2012/02/39437

หลายเสียงสะท้อนถึง “คอป.” ผลสะเทือนจากวาทะ “เรื่องผัวเมียทะเลาะกัน”

หลายเสียงสะท้อนถึง “คอป.” ผลสะเทือนจากวาทะ “เรื่องผัวเมียทะเลาะกัน”

 

Puangthong

 

  

 

 

 

 

2012.02.26 สัมภาษณ์ภรรยา "ฐานุทัศน์"

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=A5UiURQlh_g#! 


27 ก.พ.55 พวงทอง ภวัครพันธุ์ อาจารย์จากคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และคณะทำงานศูนย์ข้อมูลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุม เม.ย.-พ.ค.53 (ศปช.) ให้สัมภาษณ์ถึงคำให้สัมภาษณ์ของนายสมชาย หอมลออ ในหนังสือพิมพ์มติชนเรื่อง "สมชาย หอมลออ"แย้มผลสอบสลายชุมนุมพฤษภา′53 ผัวเมียทะเลาะกัน... ผิดทั้งคู่ ว่า หากความเห็นของสมชายกลายมาเป็นข้อสรุปอย่างเป็นทางการของคณะกรรมการอิสระ ตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ก็เป็นเรื่องน่าเศร้ามาก เพราะ คอป.ใช้ภาษีของประชาชนไปหลายสิบล้านบาท แต่กลับได้ข้อสรุปที่ไม่ได้อิงกับหลักการอะไรเลย การเปรียบเทียบเหตุการณ์ที่รัฐใช้กระสุนจริง 1.2 แสนนัด อาวุธหนักอื่นอีกจำนวนมาก และกำลังทหารหลายพันคน จนส่งผลให้ผู้ชุมนุมเสียชีวิต 93 คน บาดเจ็บอีกนับพัน ไม่มีวันเท่ากับเรื่องผัวเมียทะเลาะกันโดยเด็ดขาด

“ดิฉันอยากบอกคุณสมชายว่า ในโลกสมัยใหม่ เวลาที่ผัวเมียทะเลาะกัน ไม่ว่าใครจะเริ่มด่าใครก่อน แต่ถ้าผัวเริ่มใช้กำลังทำร้ายเมีย คนเป็นเมียก็สามารถเอาผัวเข้าคุกได้ หรือคุณสมชายยังหลงอยู่ในโลกยุคหินที่อนุญาตให้ผัวทำร้ายเมียแค่ไหนก็ได้โดย ไม่ผิด และอนุญาตให้อำนาจรัฐฆ่าประชาชนของตนเองยังไงก็ได้หากประชาชนลุกขึ้นมา ท้าทายอำนาจนั้น ดิฉันเชื่อว่าคุณสมชาย ซึ่งทำงานเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนมาครึ่งค่อนชีวิต ย่อมรู้ดีว่า ในโลกสมัยใหม่ เรามีหลักสิทธิมนุษยชนและหลักที่ห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้กำลังเกินกว่า เหตุ คอยกำกับควบคุมการทำงานของรัฐ นี่เป็นหลักการที่มุ่งปกป้องชีวิตของพลเมือง ไม่ใช่เพื่อปกป้องอำนาจรัฐ แม้ว่ารัฐคือผู้ผูกขาดการใช้ความรุนแรงโดยมีกฎหมายรองรับ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะสามารถทำอะไรตามอำเภอใจโดยไม่ต้องรับผิดชอบ ดิฉันอยากถามว่าหลักการเหล่านี้ได้ถูกนำมาพิจารณาในงานของคอป.บ้างหรือเปล่า ณ วันนี้ คอป. จะตอบอย่างไรกับหลายกรณีที่คนตายและบาดเจ็บไม่มีอาวุธอยู่ข้างกาย”  พวงทองกล่าว 

(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2012/02/39433

สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ: จาก ครก.ถึงตุลาการ และพรรคเพื่อไทย

สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ: จาก ครก.ถึงตุลาการ และพรรคเพื่อไทย

 

 

คำถามถึงรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย อย่าลืมว่า ผู้ที่ต้องคดี 112 จำนวนมาก เคยต่อสู้มาด้วยกัน การวางเฉยต่อประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อเช่นนี้ จะให้ความหมายว่าอย่างไร

ในระยะ 1 เดือนที่ผ่านมานี้ เป็นระยะเวลาแห่งการรวบรวมรายชื่อประชาชนของคณะรณรงค์แก้ไขมาตรา 112 เพื่อที่จะให้มีการปฏิรูปกฎหมายอาญามาตรานี้ ซึ่งถือว่าเป็นการเคลื่อนไหวใหญ่กรณีนี้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย แม้ว่าจะเป้าหมายของการรณรงค์จะเป็นไปเพื่อสิทธิมนุษยชนในสังคมไทย และเพื่อให้สังคมไทยเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น แต่ที่น่าสังเกตคือ รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยได้แสดงท่าทีไม่สนับสนุนการเคลื่อนไหว และบางส่วนถึงกับแสดงท่าทีคัดค้าน แต่การเคลื่อนไหวของ ครก.112 และคณะนิติราษฎร์ก็ยังดำเนินต่อไป

ความจริงแล้ว การแสดงท่าทีไม่สนับสนุนและไม่เห็นด้วยของพรรคเพื่อไทยในกรณีปฏิรูปกฏหมาย มาตรา 112 นั้นไม่ใช่เรื่องแปลก กลับเป็นการตอกย้ำด้วยซ้ำไปว่า ปัญหาเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธิ์ด้วย กฏหมายมาตรา 112 นั้น เป็นปัญหามากกว่าเรื่องของกฎหมาย แต่เป็นปัญหาของโครงสร้างทางความคิดของชนชั้นนำไทย ที่ครอบงำประชาชนด้วยแนวคิดอนุรักษ์นิยมเจ้า (royalist conservative) ซึ่งมีลักษณะนิยมเจ้าเกินจริงยิ่งกว่าราชา เน้นความศรัทธายิ่งกว่าเหตุผลและความชอบธรรม และทำให้เกิดการตีความกฎหมายจนเกินขอบเขต จึงก่อให้เกิดความวิตกและหวาดกลัวในทุกเรื่องที่จะไปแตะต้องเรื่องที่เกี่ยว ข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์

จึงกลับกลายเป็นว่า ทั้งที่กฎหมายอาญามาตรา 112 มีเป้าหมายเพียงการคุ้มครอง พระมหากษัตริย์ พระราชินี องค์รัชทายาท และผู้สำเร็จราชการแผ่นดินให้อยู่ในฐานะล่วงละเมิดมิได้ แต่พวกขวาอนุรักษ์นิยม ตีความให้กฎหมายอาญามาตรานี้ เป็นสิ่งแตะต้องไม่ได้ไปด้วย รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงไม่กล้าแตะต้อง และพรรคเพื่อไทยแสดงท่าทีไม่สนับสนุน เพราะเมื่อคณะนิติราษฎร์เสนอข้อเสนอนี้ ก็ถูกพวกสลิ่มสารพัดสี พวกแมงสาบ และพวกอนุรักษ์นิยมขวาจัด รุมถล่มโจมตีด้วยข้อหาล้มเจ้าโดยทันที ดังนั้น ถ้าหากว่า รัฐบาลหรือพรรคเพื่อไทยแสดงท่าทีสนับสนุนการรณรงค์ ก็จะถูกโจมตีทันทีว่าเข้าร่วมขบวนการล้มเจ้า และจะเป็นการ ”เรียกแขก”มาถล่มรัฐบาลแทน ซึ่งมีผลต่อเสถียรภาพ ทำให้ชนชั้นนำไทยมีข้ออ้าง ที่จะล้มรัฐบาลประชาธิปไตยก่อนวาระ ด้วยวิธีการอันไม่ศิวิไลซ์ทั้งหลาย

 

(อ่านต่อ)

http://www.prachatai.com/journal/2012/02/39428