หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2556

คิดเล่นเห็นต่างกับคำผกา

คิดเล่นเห็นต่างกับคำผกา


การขุดค้นหาตัณหาของผู้หญิง


การขุดค้นหาตัณหาของผู้หญิง

รายการ Intelligence ประจำวันที่ 22 มิถุนายน 2556

รายการ Intelligence ประจำวันที่ 22 มิถุนายน 2556 


24 มิถุนากับคนรุ่นใหม่ 
24 มิถุนากับคนรุ่นใหม่
81 ปีเปลี่ยนแปลงการปกครอง 24 มิถุนายน 2475 ห่างไกลเหลือเกินจากคนวัย 20 แต่ต้องขอบคุณรัฐประหาร 19 กันยา 2549 และการต่อสู้ทางการเมืองเรื่องทัศนะประชาธิปไตย ที่ปลุกคนรุ่นใหม่ให้สนใจประวัติศาสตร์คณะราษฎรและการอภิวัฒน์ประเทศไทย
 
ฟังทัศนะของ นันทพงศ์ ปานมาศ รองประธานสภานักศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง และรองเลขาธิการ สนนท. รักษ์ชาติ วงศ์อธิชาติ อดีตอุปนายก องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จตุชัย แซ่ซือ นิสิตคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ "อั้ม เนโกะ" ซึ่งเห็นว่าคนรุ่นใหม่จะต้องฟังประวัติศาสตร์ทั้ง 2 ด้าน แล้วชั่งน้ำหนักด้วยตัวเอง ไม่ถูกปิดกั้นให้รับรู้ข้างเดียว โดยประวัติศาสตร์ที่เขียนขึ้นใหม่ซึ่งใช้ในแบบเรียน ตำรา และการโฆษณาประชาสัมพันธ์
การเปลี่ยนแปลงการปกครองโดยคณะราษฎรส่งผล ต่อวิถีชีวิตคนไทยทุกคน รวมทั้งคนรุ่นหลัง เพราะได้สถาปนาสิทธิเสรีภาพ ความเท่าเทียม โอกาส ผ่านรัฐธรรมนูญ เพียงแต่มรดกคณะราษฎรหลายสิ่งหลายอย่างก็ถูกทำให้ลบลืม

ผู้ใช้หนาว! สื่อมะกันลากไส้"สไกป์"เอาด้วย "ไฟเขียว-ช่วยเหลือ"ให้มีการ"ดักฟัง"ผู้ใช้บริการ

ผู้ใช้หนาว! สื่อมะกันลากไส้"สไกป์"เอาด้วย "ไฟเขียว-ช่วยเหลือ"ให้มีการ"ดักฟัง"ผู้ใช้บริการ 





"นิวยอร์ค ไทมส์"รายงานเมื่อเร็วๆ  นี้ ว่า "สไกป์"โปรแกรมติดต่อสื่อสารระหว่างกันผ่านอินเทอร์เน็ตด้วยข้อความพร้อม เสียงและภาพจากกล้อง Webcam ได้พัฒนาโปรแกรมลับชื่อว่า"Project Chess"เพื่อช่วยเหลือรัฐบาลประเทศต่าง ๆ และหน่วยงานตำรวจ สามารถลอบดักฟังการสนทนาและอื่น ๆ ของผู้ใช้บริการของ"สไกป์"ได้

"นิวยอร์ค ไทมส์"ระบุว่า โปรแกรมดังกล่าวได้ถูกพัฒนามากว่า 5 ปี เพื่อใช้ศึกษาประเด็นด้านกฎหมายและด้านเทคนิค เพื่อเอื้อให้เจ้าหน้าที่พิทักษ์กฎหมายของหลายชาติต่าง ๆ สามารถเข้าถึงการสนทนาของผู้ใช้บริการสไกป์ได้ รวมทั้งยังเกี่ยวข้องกับโครงการ"ปริซึ่ม"(Prism) ของหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ (NSA) ซึ่งนายเอ็ดเวิร์ด สโนว์เด็น เจ้าหน้าที่ซีไอเอ ออกมาแฉว่าเป็นโครงการลอบดักฟังผู้ใช้โทรศัพท์ของทั่วโลกอย่างกว้างขวาง และว่า เอ็นเอสเอ มีคำแนะนำจากโปรแกรมของสไกป์ที่บอกแนวทางวิธีการที่จะสามารถ"ดักฟัง"เสียง, วีดีโอ ข้อความแชท และการถ่ายโอนข้อมูล ต่าง ๆ ของสไกป์

รายงานระบุว่า ที่ผ่านมา เอ็นเอสเอ และสไกป์ ต้องตกอยู่ภายใต้การโจมตีจากกรณีโครงการ"ปริซึ่ม"ซึ่งนายสโนว์เดนแฉว่า ได้เข้าถึงข้อมุลการโทรศัพท์ของผู้ใช้บริการของบริการหลายประเภท รวมทั้ง"กูเกิล"และ"เฟซบุ๊ค" ขณะที่สไกป์ได้ปฎิเสธว่า ไม่ได้มีพฤติกรรมดังกล่าว เพราะถือว่าขัดต่อนโยบายของสไกป์ แต่ยอมรับว่า สไกป์ จะอนุญาตให้เจ้าหน้าที่กฎหมาย สามารถเข้าถึง"ข้อมูลการแชท"และ"ข้อมูลการโทรศัพท์"ได้ในบางกรณีเท่านั้น หากเป็นเรื่องสำคัญทางกฎหมายจริงๆ


(ที่มา)

ลักษณะ ชนชั้น นโยบาย จำนำข้าว สำแดง เด่นชัด

ลักษณะ ชนชั้น นโยบาย จำนำข้าว สำแดง เด่นชัด






การปรากฏขึ้นของชาวนา ไม่เพียงแต่ที่กาญจนบุรี เพชรบุรี ราชบุรี เท่านั้น หากยังมีขึ้นที่พิจิตร พะเยา

เป็น "ปฏิกิริยา" ของ "ชาวนา"

ประสานเข้ากับความหงุดหงิดไม่พอใจอันแสดงออกผ่านนายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย ผ่านนายกสมาคมชาวนาไทย

เป็น "ปฏิกิริยา" ต่อ "รัฐบาล"

คล้าย กับระลอกคลื่นแห่งความไม่พอใจที่สาดซัดเข้าใส่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กระหน่ำฟาดไปยัง นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เป็นผลสะเทือนจากการคัดค้านและต่อต้านอย่างต่อเนื่องของพรรคประชาธิปัตย์และ พันธมิตร

พันธมิตรในกลุ่มผู้ส่งออกข้าว พันธมิตรในขุนนางนักวิชาการแห่งสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย

รวมถึง 1 อดีตนายกรัฐมนตรี 2 อดีตรัฐมนตรีคลัง

กระนั้น ที่ไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาดก็คือ กระแสความไม่พอใจพุ่งเป้าไปที่การปรับลดอัตราจำนำจาก 15,000 บาทต่อตัน มาเป็น 12,000 บาทต่อตัน

ปฏิกิริยานี้สะท้อนอะไร

คําตอบอันเด่นชัดอย่างยิ่งก็คือ ปฏิกิริยานี้สะท้อนให้เห็นถึงความพึงพอใจของชาวนาต่อโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล

พวกเขามิได้ต้องการ "ล้ม" โครงการ

มีแต่พรรคประชาธิปัตย์ต่างหากที่ต้องการล้มโครงการรับจำนำข้าว และเอาโครงการรับประกันเข้ามาแทนที่

แต่ชาวนามิได้คิดเหมือนพรรคประชาธิปัตย์

ตรงกันข้าม ชาวนาต้องการเห็นการเดินหน้าโครงการรับจำนำข้าวต่อไป จุดต่างที่พวกเขาไม่เห็นด้วยคือการปรับลดราคาจำนำลง

พวกเขายังเรียกร้องอัตรา 15,000 บาทต่อตัน

พวกเขาไม่พอใจต่ออัตราใหม่ 12,000 บาทต่อตัน และต้องการแสดงปฏิกิริยาให้รัฐบาลรับรู้และทบทวน

คุยกับผู้ก่อการจัดงาน ‘เฉลิมฉลองวันชาติ 24 มิถุนา’

คุยกับผู้ก่อการจัดงาน ‘เฉลิมฉลองวันชาติ 24 มิถุนา’

 


 
จงมา เฉลิมฉลองวันชาติ 24 มิถุนา

ประชาไท : ที่มาของ คณะจัดงานเฉลิมฉลองวันชาติ 24 มิถุนา เป็นใครบ้าง?

ภรณ์ทิพย์ มั่นคง : ก็เริ่มจากเรา(ภรณ์ทิพย์)อยากจัดงานวันชาติในแบบที่ไม่เหมือนทุกๆปี เรารู้สึกว่างานรำลึกมันบอกอะไรได้น้อยกว่า เราเลยไปชวนพี่ๆ กลุ่ม 24 มิถุนา มาร่วมกันจัดงาน จริงๆบอกเค้าว่าพี่เราอยากจัดงานแบบงานวัดแบบงานฉลองสมัยก่อน พี่เค้าก็ตกลง จากนั้นก็เลยรวบรวมเพื่อนที่เคยเล่นละครด้วยกัน แล้วก็ไปชวนกลุ่มอื่นๆ มาร่วมกัน ตอนนี้ก็มีกลุ่มประกายไฟการละครรวมการเฉพาะิกิจแห่งประเทศไทย, กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย, กลุ่มเพื่อนนักกิจกรรม, กลุ่มกวีราษฎร์, เสื้อแดงธนบุรี 15 เขต, ไทยแลนด์ มิเรอร์ และคณะราษฎร 2555 เหมือนจะเยอะนะ แต่คนทำงานนิดเดียว (หัวเราะ) เป็นปกติของงานกิจกรรมแบบนี้แหละ งานปีนี้เราก็พยายามจะรวบรวมงานในแต่ละที่ที่จัดมาใส่ไว้ในกำหนดการที่จะแจก ให้กับคนที่มาเข้าร่วมงานกับเรานะ  เพื่อจะได้เป็นทางเลือกให้คนได้มีพื้นที่เรียนรู้เรื่องนี้เยอะๆ เค้าจะเลือกไปที่ไหนก็ได้ ไม่ได้แค่ให้มางานเราอย่างเดียว งานเราไม่มีข้อมูลความรู้มากเท่างานวิชาการที่หลายที่จัดขึ้นแต่ถ้าคนที่ชอบ งานรื่นเริงแล้วอยากไปเรียนรู้เพิ่มเราก็แค่บอกเค้าว่ามีที่ไหนให้ไปบ้าง


“กอล์ฟ” ภรณ์ทิพย์ มั่นคง

 
ทำไมต้องการให้วันที่ 24 มิ.ย.เป็น ‘วันชาติ’ ?

ภรณ์ทิพย์ :  จริงๆ แล้วคิดว่าทุกคนที่อ่านประวัติศาสตร์หรือพอจะเข้าใจการเมืองบ้างก็น่าจะเข้า ใจอยู่ เพราะมันเป็นวันที่เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็น ประชาธิปไตย โดยคณะราษฎร พ.ศ 2475    ซึ่งชาติในที่นี้มันได้ถูกเปลี่ยนเป็นความหมายว่าเป็นประชาชน  ดังนั้นถ้าวันนี้เรายังยืนยันว่าเราปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตยแล้ว วันนี้จึงเป็นวันชาติที่แท้จริง

และทำไมต้องออกมาเฉลิมฉลองกัน?

ภรณ์ทิพย์ :  เนื่องจากวันนี้จอมพล ป. ได้ประกาศให้เป็นวันที่เฉลิมฉลองวันชาติ ในปี พ.ศ. 2482 และ ชาติในที่นี้หมายความถึงชาติที่มีความเป็นประชาธิปไตยแล้ว เค้าก็มีการจัดงานเฉลิมฉลองกันให้ประชาชนได้เข้าใจถึงความสำคัญของ ประชาธิปไตย อย่างในต่างประเทศเขาก็จะนับเอาวันที่ปฏิวัติหรือวันที่ได้รับเอกราชเป็นวัน ชาติ  แต่ก่อนหน้านี้มันได้หายไปโดยการรัฐประหารของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ก็ได้เปลี่ยนวันชาติเป็นวันที่ 5 ธันวาคม ซึ่งมันคือการแทนที่ชาติของประชาชนเป็นชาติที่ครอบครองโดยพระมหากษัตริย์   ทำให้ความเข้าใจเรื่องวันชาติหรือการให้ความสำคัญกับระบอบประชาธิปไตยถูกทำ ให้เลอะเลือนไป 

ดังนั้นในวิกฤตการณ์ทางสังคม  ณ ตอนนี้ที่หลายฝ่ายหลายๆคนมักอ้างถึงประชาธิปไตยอยู่เสมอแต่ด้วยการแสดงออก กลับไม่ได้เป็นในทิศทางของการส่งเสริมประชาธิปไตย  นี้ไม่ได้พูดถึงสีใดสีหนึ่งแต่หมายถึงคนสองสี หรือคนที่ชอบบอกว่าตัวเองเป็นกลางด้วย เอาเข้าจริงแล้วพวกเราเข้าใจประชาธิปไตยมากแค่ไหนกันเชียว ทุกวันนี้วัฒนธรรมของประเทศเราไม่ได้ส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยเลยพวกเรา ที่เติบโตมาจึงพูดถึงประชาธิปไตยแค่เปลือก นี่ไม่ได้หมายความว่าเราเข้าใจมากกว่าคนอื่น แต่เราอยากให้ทบทวนว่าเราเข้าใจกันแล้วจริงๆ ใช่ไหม ทีนี้  เราก็เลยอยากจะจัดงานมาในลักษณะของงานวัฒนธรรมขึ้นมาเพื่อย้อนให้คนเห็นถึง ยุคสมัยที่ทุกคนเฉลิมฉลองวันชาติที่เป็นวันชาติที่เฉลิมฉลองการเปลี่ยนแปลง การปกครอง ฟื้นงานเฉลิมฉลองวันชาติของประชาชนขึ้นมาอีกครั้ง

(ที่มา)
http://www.prachatai.com/journal/2013/06/47338