หน้าเว็บ

วันศุกร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2556

Wake Up Thailand

Wake Up Thailand
 

Coffee with : สุดา รังกุพันธ์ และวาด ระวี 
 
Wake Up Thailand ประจำวันที่ 12 เมษายน 2556  ตอนที่ 2     
Coffee with : สุดา รังกุพันธ์ และวาด ระวี 
http://www.dailymotion.com/user/VoiceTV/1#video=xyxqb6 



สุขสันต์วันสงกรานต์ ขับรถปลอดภัยนะจ๊ะ 
 
Wake Up Thailand ประจำวันที่ 12 เมษายน 2556  ตอนที่ 1    
สุขสันต์วันสงกรานต์ ขับรถปลอดภัยนะจ๊ะ 
http://www.dailymotion.com/user/VoiceTV/1#video=xyxs5v 

Divas Cafe ประจำวันที่ 12 เมษายน 2556

Divas Cafe ประจำวันที่ 12 เมษายน 2556  


ขอ Eye Cream ให้ คอป. 
 
ขอ Eye Cream ให้ คอป. 
http://www.dailymotion.com/user/VoiceTV/1#video=xyxt8v 

ห้องเรียนประชาธิปไตย 12-4-2013

ห้องเรียนประชาธิปไตย 12-4-2013





(คลิกฟัง)
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=T_HdHnthHvE

การแก้หรือยกเลิกกฏหมาย 112 เป็นการล้มล้างทหาร กษัตริย์เป็นเพียงองค์ประกอบรอง

http://redthaisocialist.com/images/logo/n2012.3xx.jpg

การแก้หรือยกเลิกกฏหมาย 112 เป็นการล้มล้างทหาร กษัตริย์เป็นเพียงองค์ประกอบรอง

 

โดย ใจ อึ๊งภากรณ์

 
ทหารโกหกว่าเขารับใช้กษัตริย์เสมอ แต่แท้จริงแล้ว เขารับใช้ตัวเองต่างหาก
 
เมื่อทหารก่อรัฐประหาร ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ ทหารโกหกว่ากระทำไปเพื่อ ปกป้องระบบ ประชาธิปไตยอันมีกษัตริย์เป็นประมุข ต่อจากนั้นมีการเพิ่มการใช้กฏหมายหมิ่นกษัตริย์ฯ (มาตรา 112) ในการปิดปากผู้ที่คัดค้านรัฐประหาร และเพื่อให้ความชอบธรรมกับทุกอย่างที่ทหารและรัฐบาลอภิสิทธิ์ทำในภายหลัง จนในที่สุดมีการเข่นฆ่าประชาชนเสื้อแดงมือเปล่าด้วยข้ออ้างว่ากำลัง ปกป้องสถาบันกษัตริย์” 

เราจำเป็นที่จะต้องศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง ทหาร กษัตริย์ และ กฏหมาย 112 เพื่อให้เราชัดเจนว่าจะแก้ปัญหาเผด็จการตรงจุดใดบ้าง

ผู้ที่ทำลายประชาธิปไตยไทยอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ยุคจอมพลป. พิบูลสงคราม คือทหาร โดยที่กษัตริย์ภูมิพลมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในการถูกใช้เป็นเครื่องมือเชิงสัญญลักษณ์ เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับทหารเป็นหลัก และกฏหมาย 112 มีไว้เพื่อไม่ให้ตรวจสอบวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของทหาร 

ทหารโกหกว่าเขารับใช้กษัตริย์เสมอ แต่แท้จริงแล้ว เขารับใช้ตัวเองต่างหาก

การสร้างความชอบธรรมจากกษัตริย์มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับทหารไทย เพราะทุกวันนี้กระแสประชาธิปไตยขยายไปทั่วโลกในจิตใจประชาชน เวลาทหารทำรัฐประหารก็อาจพยายามอ้างว่าทำ เพื่อประชาธิปไตยแต่ ไม่ค่อยมีใครเชื่อ เพราะบทบาททหารในการเมืองกับระบบประชาธิปไตยมันไปด้วยกันไม่ได้ นอกจากนี้กองทัพไทยไม่มีประวัติอะไรเลยในการปลดแอกประเทศไทยอย่างในกรณีกอง ทัพอินโดนีเซียหรือเวียดนาม ดังนั้นทหารต้องอ้างความชอบธรรมจากที่อื่น คือจากสถาปันกษัตริย์ ซึ่งทหารเป็นผู้ปั้นขึ้นกับมือในอดีต

นอกจากทหารแล้ว ชนชั้นนายทุนกับข้าราชการชั้นสูงในไทย ก็พยายามเกาะโหนกษัตริย์ภูมิพลในรูปแบบเดียวกันด้วย แต่นั้นไม่ได้แปลว่านายภูมิพลเป็น เหยื่อเพราะ เขาพร้อมใจจะร่วมมือกับทหารและนายทุนเสมอ และที่สำคัญคือพร้อมจะรับตำแหน่งการเป็นประมุขของประเทศ และได้ดิบได้ดีในด้านการเงินจากบทบาทนี้ ถ้าไม่อยากทำก็ควรลาออกตั้งแต่แรก

ชนชั้นปกครองไทย โดยเฉพาะทหาร นายทุนใหญ่ และนักการเมืองในรัฐสภา ต้องการให้ประชาชนมองว่านายภูมิพลเป็นทั้ง กษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญประชาธิปไตย” “กษัตริย์สมบูรณาญาสิทธิราชย์และ เทวดาพร้อมๆ กันหมด และจะมีการยัดเยียดสิ่งนี้ตลอด โดยเริ่มในโรงเรียนประถม แต่มันมีเป้าหมายแอบแฟง เพราะทุกอย่างที่ชนชั้นปกครองทำกับพลเมืองไทย ในสังคมที่เต็มไปด้วยความอยุติธรรม จะถูกเสนอว่าเป็นนโยบายของประมุข ดังนั้นเราไม่มีสิทธิ์วิจารณ์ ดังนั้นหน้าที่ของกษัตริย์ภูมิพลคือการให้ความชอบธรรมกับพฤติกรรมเลวๆ ของทหาร นายทุน และนักการเมือง

ผู้เขียนมองว่าเราไม่ได้อยู่ในยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ รัฐไทยเป็นรัฐทุนนิยมสมัยใหม่ ทั้งๆที่มีอำนาจนอกรัฐธรรมนูญดำรงอยู่ในรูปแบบทหารและอำมาตย์ส่วนอื่นๆ     การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่าง ทหาร กษัตริย์ และกฏหมาย 112 แบบนี้ แปลว่าในรูปธรรม การจัดการกับกฏหมาย 112 ต้องทำพร้อมกับการลดอำนาจอันไม่ชอบธรรมของทหาร นี่คือสาเหตุที่นายพลหัวโบราณทั้งหลาย น้ำลายฟูมปาก และพูดถึงการทำรัฐประหารรอบใหม่ เมื่อประชาชนออกมาเสนอให้แก้ไขหรือยกเลิก 112

พูดง่ายๆ 112 มีไว้ปกป้องทหารเป็นหลัก

การเริ่มเข้าใจว่าทหารคือศัตรูหลักของประชาธิปไตย และ กฏหมาย 112 ถูก ใช้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของทหารเป็นหลัก ไม่ได้ทำให้การต่อสู้ง่ายขึ้นเท่าไร แต่อย่างน้อยมันช่วยให้เราชัดเจนว่าเราสู้กับใคร แต่เรายังต้องหาทางกำจัดอำนาจทหารที่มาจากการใช้อาวุธและความรุนแรงอย่างที่ เราเห็นที่ผ่านฟ้าและราชประสงค์เมื่อปี ๒๕๕๓

แน่นอนบทความนี้จะถูกตัดสินโดยทหารและพรรคพวกว่า “ผิดกฏหมาย 112” แต่มันไม่ใช่เพราะบทความนี้สร้างภาพว่ากษัตริย์ภูมิพลอ่อนแอ มัน “ผิด 112” เพราะมันเปิดโปงบทบาทของทหารในการใช้กษัตริย์ต่างหาก


แกนนำ นปช. เปลี่ยนจากนักต่อสู้ไปเป็นไม้ประดับของรัฐบาล

เรา ต้องเข้าใจว่าในอดีต รัฐบาลไทยรักไทยและนายกทักษิณ ไม่ต่างอะไรจากทหาร นายทุน และนักการเมืองอื่นๆ ที่พยายามใช้กษัตริย์ภูมิพล เพื่อสร้างความชอบธรรมกับอำนาจตนเองในสังคมที่เต็มไปด้วยความเหลื่อมล้ำ นี่คือสาเหตุที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยของยิ่งลักษณ์พร้อมจะใช้ 112 หนักขึ้นและคัดค้านการปฏิรูปใดๆ อีกสาเหตุคือเขากำลังปรองดองยอมจำนนกับอำนาจทหารด้วย

ในขณะเดียวกัน รัฐบาลพรรคเพื่อไทยทราบดีว่าถ้าไม่มีเสื้อแดงแต่แรก เขาคงไม่ได้ชนะการเลือกตั้งแน่ และเขาทราบดีว่าเสื้อแดงจำนวนมากไม่สบายใจกับการจับมือประนีประนอมกับอำนาจ ทหาร ดังนั้นจึงมีการแต่งตั้งรัฐมนตรีเสื้อแดงอย่าง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ในตำแหน่งที่ไม่ค่อยสำคัญ เพื่อเป็นไม้ประดับหลอกลวงและกล่อมขบวนการเสื้อแดงให้นิ่ง ในขณะเดียวกันแกนนำ นปช. อื่นๆ ก็ค่อยๆ สลายพลังการเคลื่อนไหวของขบวนการ เพื่อที่จะเป็นแค่กองเชียร์ของรัฐบาล และกองเชียร์ของรัฐบาลเพื่อไทย ก็เท่ากับเชียร์ให้กับการก้มหัวให้ทหาร 

นี่คือยุทธิ์วิธี “การนำนักเคลื่อนไหวมาเป็นพวก” เพื่อมัดมือปิดปากและสลายขบวนการ ในอดีตมีการใช้วิธีนี้ในฟิลิปปินส์หลังการล้มเผด็จการมาร์คอส และในอังกฤษพรรคแรงงานมีความเชี่ยวชาญในวิธีการนี้เป็นพิเศษ เมื่อใช้กับสหภาพแรงงาน

ด้วยเหตุนี้ ขบวนการรณรงค์ให้แก้หรือยกเลิก 112 และขบวนการเพื่อให้ปฏิรูปรัฐธรรมนูญอย่างถอนรากถอนโคนโดยลบล้างผลพวงของรัฐ ประหาร ๑๙ กันยา มาจากคนก้าวหน้า ทั้งเสื้อแดงและคนอื่น ที่ไม่ได้เป็นกองเชียร์ให้รัฐบาลเพื่อไทย และไม่ได้อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของ นปช. แต่อย่างใด หกเดือนหลังการเลือกตั้ง คนเหล่านี้คือความหวังของทุกคนที่อยากเห็นประชาธิปไตยและวัฒนธรรมพลเมือง เกิดขึ้นอย่างแท้จริงในประเทศของเรา

(ที่มา)
http://redthaisocialist.com/2011-01-20-12-41-04/317--112--.html

ทำไม ยิ่งลักษณ์ ไม่รดน้ำขอพร"ป๋า"และ รังใหม่ของทักษิณ จ่อเข้าไทย ?

ทำไม ยิ่งลักษณ์ ไม่รดน้ำขอพร"ป๋า"และ รังใหม่ของทักษิณ จ่อเข้าไทย? 





การเมืองร้อน 11 เมษายน เลยทำให้ปีนี้ พล.อ.ประยุทธ์ เปิด บก.ทบ. ให้เล่นประเพณีสงกรานต์กันอีกครั้ง ที่นอกจากทำบุญตักบาตร สรงน้ำพระกันแล้ว ก็ยังรดน้ำดำหัวกันเอง ในหมู่บิ๊กๆ ทบ. และพลังบ้าน และให้ลูกน้องรดน้ำ ผบ.ทบ. อีกด้วย

ก่อนที่ปลัด กลาโหม ผบ.สส. ผบ.เหล่าทัพ จะพากันไปรดน้ำ บิ๊กโอ๋ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม แล้วเดินเข้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ เพื่อรดน้ำขอพรจาก ป๋าเปรม พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ กันต่อ เพราะปีนี้ไม่มีอะไรซีเรียส พล.อ.เปรม จึงเปิดบ้านให้ขุนทหารเข้ารดน้ำกันเป็นประเพณี

เช่นเคยที่สงกรานต์ปี นี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่ได้มารดน้ำสงกรานต์ป๋าเปรม เพราะเธอมีกำหนดไปพักผ่อนส่วนตัว และกลับบ้านที่เชียงใหม่ แต่ทว่า ทั้งคู่ก็ได้พบกันในงานเลี้ยงรับรองวันกองทัพอากาศ เมื่อ 9 เมษายนที่ผ่านมา ที่นายกฯ ปู ได้ออกตัวกับป๋าไว้ก่อนแล้ว

ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ สัมภาษณ์ Joe Gordon: ประชาธิปไตยกับมาตรา 112

ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ สัมภาษณ์ Joe Gordon: ประชาธิปไตยกับมาตรา 112






สัมภาษณ์พิเศษ Joe Gordon (นายเลอพงษ์ วิไชยคำมาตย์ผู้ต้องหาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ณ นครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา วันที่ 24 มีนาคม 2556
โดย ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ รองศาตราจารย์ ศูนย์เอเชียตะวันออกฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต


ปวิน -- ตั้งแต่ที่คุณ Joe Gordon กลับมาที่สหรัฐฯ ได้ทำอะไรบ้าง

Joe Gordon – ยังคงต้องปรับตัวเองอยู่ขณะนี้ เพราะประสบกับปัญหาหลายอย่างในระหว่างอยู่ในเรือนจำ และยังนึกอยู่เสมอว่า ตัวเองไม่เคยได้รับความเป็นธรรม ในกรณีการใช้กฏหมายมาตรา 112 ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใดก็ได้แจ้งความฟ้องร้องต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งผมเองไม่เคยได้รู้เรื่องการถูกฟ้องร้องมาก่อน และศาลตุลาการของไทยก็ขาดซึ่งความยุติธรรม ไม่เปิดโอกาสให้ผมสู้คดี ประสบการณ์ครั้งนี้เป็นเรื่องที่สะเทือนใจผมมาก แสดงถึงความป่าเถื่อนของกฎหมายฉบับนี้ หลังจากที่ผมได้รับการปล่อยตัวตั้งแต่วันที่ 10 กรกฎาคม 2555 ผมได้เดินทางกลับมาถึงสหรัฐฯ และได้พักฟื้นร่างกายและบำบัดสภาพจิตใจ

ปวิน – คิดว่าจะเดินทางกลับไทยอีกไหม

Joe Gordon – ผมเดินทางกลับไปเมืองไทยครั้งที่แล้วในฐานะนักท่องเที่ยวอเมริกัน และใช้หนังสือเดินทางอเมริกัน แต่เมื่อทางการไทยต้องการดำเนินคดีกับผม เขาอ้างว่าผมยังเป็นคนไทย เพราะเกิดในเมืองไทย เขายัดเยียด “ความเป็นไทย” ให้ผม ผมไม่ได้รับความยุติธรรม กระบวนการตุลาการของไทยขาดมาตรฐาน ตราบใดก็ตามที่ยังมีมาตรา 112 อยู่ ประเทศไทยจะยังไม่เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง เพราะมาตรา 112 นี้ ริดรอนเสรีภาพ ไม่เปิดโอกาสให้ประชาชนแสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมาต่อสถาบัน ตรงกันข้าม ประชาชนกำลังตกอยู่ในสภาวะที่หวาดกลัวและถูกคุกคาม

3 ปี 10 เมษา 7 ปีตุลาการภิวัตน์

3 ปี 10 เมษา 7 ปีตุลาการภิวัตน์


ใบตองแห้ง Baitonghaeng 
ใบตองแห้ง

 
วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์ ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ไปพูดที่ธรรมศาสตร์ ว่าประชาธิปไตยยอมรับเสียงข้างมากแต่ต้องเป็นไปตามกติกา ต้องให้คนกลางคือตุลาการตัดสินความขัดแย้ง ไม่เช่นนั้นต่างฝ่ายต่างทำตามอำเภอใจ บ้านเมืองไม่สงบ
 
จริงหรือครับ บ้านเมืองไม่สงบเพราะไม่เชื่อฟังตุลาการ หรือบ้านเมืองไม่สงบเพราะตุลาการกันแน่
 
ตุลาการเป็นคนกลางจริงหรือ และใครเล่าที่ไม่เคารพกติกา
 
“ตุลาการภิวัตน์” แนวคิดใช้อำนาจตุลาการแก้ปัญหาการเมือง เกิดขึ้น 7 ปีแล้ว มีส่วนรับผิดชอบวิกฤติร่วมกับรัฐประหาร หรืออาจมากกว่ารัฐประหารเสียอีก ในการสร้างความคับแค้น จนมวลชนเสื้อแดงลุกฮือ และถูกปราบปรามด้วยความรุนแรงเมื่อวันที่ 10 เมษายน ถึง 19 พฤษภาคม 2553
 
แม้วันนี้พรรคเพื่อไทยชนะเลือกตั้ง เป็นรัฐบาล แนวคิดใช้อำนาจตุลาการแก้ปัญหาการเมืองก็ยังดำรงอยู่ โดยยังไม่รู้ว่าจะสร้างความเสียหายอีกแค่ไหน
 
แนวคิดใช้อำนาจตุลาการแก้ปัญหา อยู่บนพื้นฐานความเชื่อที่ว่า คนไทยเคารพ เชื่อฟัง และเกรงกลัวศาล ศาลตัดสินอย่างไรเป็นอันเด็ดขาด ไม่มีใครกล้าโต้เถียง ไม่มีใครกล้าวิพากษ์วิจารณ์ เพราะกลัวจะหมิ่นศาล ละเมิดอำนาจศาล แล้วศาลท่านจะเอาเข้าคุก
 
นอกจากนี้ คนไทยส่วนใหญ่ยังเชื่อว่าผู้พิพากษาตุลาการเป็น “คนดี” สัตย์ซื่อ สมถะ ครึ่งคนครึ่งพระ ไม่ข้องแวะสิ่งสกปรกโสมม ไม่กินสินบาทคาดสินบน ไม่รับถุงขนม เป็นผู้อยู่เหนือมนุษย์ น้องๆ รุกขเทวดา
 
ศาลจึงเป็นอำนาจศักดิ์สิทธิ์ในสังคมไทย มีทั้งความเป็นอำนาจตุลาการ และเป็นศาลเจ้าพ่อเจ้าแม่อยู่ในตัว

สัญญาณ..อันตรายคืบคลาน..รัฐประหารทางการเงิน..กบฏแบงค์ชาติ

สัญญาณ..อันตรายคืบคลาน..รัฐประหารทางการเงิน..กบฏแบงค์ชาติ





....นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นในประเทศไทย..ในปี 2540 มหาโจรโซรอส
สัญชาติเมกาอาชญกรทางเศรษฐกิจได้ร่วมมือกับไอ้พรรคชั่วแมงสาบบุกเข้าโจมตี
ค่าเงินบาทจนเสียหายยับเยิน...เป็นผลให้รัฐบาลบิ๊กจิ๋วต้องสิ้นสภาพและลาออกไป
และยังได้ถูกไอ้พรรคการเมืองชั่วนี้...แย่งชิงอำนาจไปตั้ง รฐบ ชวน1
อย่างหน้าด้านๆ..ด้วยการปล้นเขามาบนซากปรักหักพัง..เศรษฐกิจล้มละลาย
และต่อมาไอ้ชาติชั่วชวน..นายกโจรขณะนั้น..ได้ไปปรากฏตัวในงานเลี้ยงรับรอง
ความสำเร็จที่ได้ทำให้ชาติต้องล่มจม...ของไอ้มหาโจรโซรอส..พ่อมัน
ใน เมกา....แค่นั้นประเทศไทยยังฉิบหายไม่พอ...มันยังร่วมมือกับต่าง
ชาติโดย บ.เลห์แมน บราเธอร์ส...โดยมีไอ้ชาติชั่วอนันต์ สุนัขรับใช้
CIA บุกเข้าปล้น 56 ไฟแนนซ์..รุมกระทืบซ้ำอีก..จนเกิดคดี ปรส
แปดแสนล้านขึ้น...คนไทยทั้งประเทศต้องรับกรรมซ้ำสองด้วยการชดใช้
หนี่สินทั้งหมดให้กับ...ไอ้พวกมหาโจรที่ร่วมกันปล้นชาติปล้นแผ่นดิน...

...มันคือไอ้พวกสัตว์เดรัจฉานที่อาศัยแผ่นดินไทยเกิด...เพื่อมากระทำย่ำยี
ทำลายชาติบ้านเมืองโดยเฉพาะ....วันใดที่อำนาจตกเป็นของ ปชช อย่าง
เบ็ดเสร็จ..จะต้องนำพวกมันมาสำเร็จโทษสูงสุดด้วยการประหารชีวิต...
ให้สิ้นซาก..

....สัญญาณเศรษฐกิจ ณ ปัจจุบันบ่งชี้ชัดว่าจะนำไปสู่ความหายนะ
อีกรอบ..เหมือนโมเดลเดียวกันกับ 2540 ไม่มีผิด..กลับกันตรงที่พวกมันกำลัง
เข้าโจมตีค่าเงินดอลล่าให้อ่อนลง...ด้วยการสะสมกักตุนเงินบาทและปั่นค่า
ให้แข็งขึ้น..มีเงินไหลเข้าประเทศและตลาดหลักทรัพย์มากมาย..เนื่องจากมี
ผลตอบแทนสูง..เพื่อเข้าทำลายระบบการเงินของประเทศ..โดยมีไอ้กลุ่ม
ธนาคารชั่วสายอำมาตย์..ให้การสนับสนุนร่วมมือกันทั้งหมด...โดยมีผู้ว่า
แบงค์ชาติเป็นหัวหน้าผู้ก่อการร้าย..กบฏรัฐประหารต่อประเทศไทยอีกครั้ง..
มันได้ใช้แผนการร้ายแบบใหม่...แทนการทำรัฐประหารด้วยกำลัง
และรัฐประหารโดยตุลาการ...มาเป็นรัฐประหารทางการเงิน..
โดยการใช้แบงค์ชาติเป็นเครื่องมือที่ รฐบ ไม่สามารถเข้าไปแตะต้อง
สั่งย้ายและึควบคุมมันได้เลยนี่คือผลร้ายของ รธน โจร 2550 อย่าง
แท้จริง......

........จึงได้ส่งสัญญาณมาถึง รฐบ เร่งด่วนว่าท่านทั้งหลายจะจัด
การกับไอ้พวก..กบฏก่อการร้ายด้วยการทำ..รัฐประหารทางการเงิน
นี้ได้อย่างไร..?

.....การกระทำของไอ้พรรคการเมืองโจรชั่วช้าทำลายชาติ..นี่ไม่ใช่
ครังแรกที่พวกมันทำ...

....1..กระทำให้เกิด BIBF นำมาซึ่งเกิดหายนะทางเศรษฐกิจ 2540
....2..ร่วมกับมหาโจรโซรอส..ทุบค่าเงินบาทจนเศรษฐกิจพังพินาศ
.......เกิดต้มยำกุ้งขึ้นในปี 2540
....3..ร่วมมือกับบริษัทข้ามชาติโดย เลห์แมน บราเธอร์สเข้าปล้น
.......56 ไฟแนนซ์อีกครั้ง...จนเกิดคดี ปรส แปดแสนล้าน
....4..ร่วมมือกับทหาร พธม เข้าทำการรัฐประหาร 19 กย 2549
.......จนเศรษฐกิจฉิบหายล่มจมอีกครั้งและ ปชช แตกแยก
....5..ร่วมกับตุลาการ ตลกควาย ทหาร และ พธม ทำรัฐประหาร
.......ล้มรัฐบาลท่านสมชายปล้นอำนาจและตั้ง รฐบ ในค่ายทหาร
.......และต่อมา 2553 นำมาซึ่งการสังหารหมู่ 99 ศพ.
....6..ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่กระทรวงกระเกษตร..2554..ใช้น้ำทำรัฐประหาร
.......บ้านเมืองเสียหายย่อยยับถึง 1.2 ล้านๆบาท...มี ปชช
.......ล้มตายไปถึง 700 กว่าชีวิต..แต่ไม่สำเร็จและล้มเหลว
....7..กำลังดำเนินการแผนชั่วร้ายสมคบคิดกับแบงค์ชาติ..เพื่อทำรัฐประหาร
.......ทางการเงิน...โดยใช้โมเดลเดียวกับ 2540 อีกครั้ง..

......นี่คือปรากฏการณ์ความชั่วร้ายของพวกคนเลวขายชาติ
และทำลายบ้านเมืองอย่างแท้จริง...ไม่สมควรปล่อยทิ้งไว้
ให้เป็นภัยกับชาติบ้านเมืองได้อีกต่อไป....ต้องทำลายทิ้งไม่ให้
เหลือแม้แต่ซากเป็นเชื้อร้าย...ด้วยการประหารชีวิตกลบฝังทั้งเป็น
ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างสืบต่อไป...

....สรุป..รัฐบาล จะหาทางออกกับเรื่องนี้กันอย่างไร...ก่อนที่
ไฟจะลุกลามจนดับไม่ได้...ด้วยการออก พรก หรือ พรบ เข้าควบ
คุมแบงค์ชาติทันที......ถ้าหากรัฐบาลกลัวไม่กล้า....คงต้องเป็น
หน้าที่ของ ปชช ที่จะใช้ำนาจโดยตรงของประชาชน..เข้าจัดการ
กับพวกโจรกบฏทำลายชาติ..อย่างเด็ดขาด....


"เท่าที่รู้แบ๊งค์ชาติมันไม่ยอมลดดอกเบี้ย อ้างอิงตามกระทรวงการคลังให้นโยบาย ทำให้ทุนนอกไหลเข้ามาทำกำไรอย่างหนัก เป็นสาเหตุให้ค่าเงินบาทแข็งค่าอย่างน่ากลัวส่งออกพินาศแน่ ผู้ว่าแบ๊งค์ชาติชื่อนายประสาน มันดื้อแพ่งเพราะมันถือว่าแบ๊คมันดี ถามว่าคุณมีอะไรมารับผิดชอบประเทศนี้ และคุณก็ไม่ได้มาจากประชาชน หากระบบเศรษฐกิจฉิบหาย รับรองมีคนตามล่าคุณเพียบแน่ โดยเฉพาะพวกเจ้าของกิจการเขาคงไม่เอาคุณไว้ทั้งโคตรแน่นอน หนีไปประเทศไหนก็รอดยาก หยิ่งยะโสไหเถอะ"

(ที่มา)
http://www.dangdd.com/threads/กบฏแบงค์ชาติ-รัฐประหารทางการเงิน.2284