หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ประมวลภาพบรรยากาศงานศพอากง

ประมวลภาพบรรยากาศงานศพอากง


บรรยากาศงานศพอากง sms 25 สค.55


13.00 น. ภรรยาและครอบครัวเคลื่อนศพอากงออกจากที่เก็บศพ(โกดัง)วัดด่านสำโรง ก่อนจะมีการเคลื่อนศพอากง ไปตั้งยังวัดลาดพร้าว ถ.ลาดพร้าว-วังหิน ในเวลาประมาณ 16.30 น.

16.57 น.ขบวนรถได้นำศพอากงมาถึงวัดลาดพร้าวเพื่อรอการฌาปนกิจ ในวันอาทิตย์ที่ 26 ส.ค. (พรุ่งนี้)

ที่วัดลาดพร้าวมีการประกอบพิธีสวดในเวลาประมาณ 19.00 น. จากนั้น เวลาประมาณ 20.00 น. มีการจัดกิจกรรมปราศรัย อ่านบทกวี และเสวนาโดยสุดา รังกุพันธุ์ ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ประวิตร โรจนพฤกษ์ และปิยบุตร แสงกนกกุล โดยช่วงท้ายของกิจกรรมมีการปราศรัยของสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล (รายละเอียดจะนำเสนอต่อไป)

สำหรับกำหนดการวันฌาปนกิจ (อาทิตย์ที่ 26 ส.ค. ) มีดังนี้

-เลี้ยงพระเพล
-ช่วงพิธีกรรม ทอดผ้าบังสุกุล โดยผู้แทนจากภาคการเมืองและภาคประชาชน
-อ่านบทกวี เป่าขลุ่ย
-ภรรยาอากงกล่าวไว้อาลัยครั้งสุดท้าย
-ปล่อยนกพิราบขาว 112 ตัว
- 17.00 น. ฌาปนกิจ

(ที่มา)
http://www.prachatai.com/journal/2012/08/42283

ร่วมกันอวยพรวันเกิด อำมาตย์เปรม

ร่วมกันอวยพรวันเกิด อำมาตย์เปรม


 





















   
 
รูปภาพ


อวยพรวันเกิดป๋า


ด้วย วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดป๋า เราคนเสื้อแดงของอวยพรให้ป๋าจงประสบแต่ความชิบหายตายโหง ทำอะไรก็ไม่เจริญ ไม่มีใครนับถือ เป็นที่ดูหมิ่นเกลียดชังของคนทั้งบ้านทั้งเมือง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คงจะไม่มีวันเกิดของป๋าอีกในปีหน้า และตลอดกาลเทอญ


เพลงชิงหมาเกิด 

อำลา "อากง SMS"

อำลา "อากง SMS"

 

อำลา "อากง SMS"
http://www.youtube.com/watch?v=vnMvi0wvtIo


เสวนา 3 ป งานฌาปนกิจศพ อากง 25 08 55
http://www.youtube.com/watch?v=o3RnDx_S1pY&feature=channel&list=UL 
อ.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล งานอากง 25-08-2012


นายอำพล (สงวนนามสกุล) หรือ "อากง SMS" ชายชราวัย 60 ปีเศษ เป็นที่สนใจอย่างกว้างขวาง ภายหลังถูกดำเนินคดีในข้อหาส่ง SMS หมิ่นเบื้องสูง นับตั้งแต่เริ่มพิจารณาไต่สวนคดี คดีนี้ก็เป็นจุดสนใจของนักกิจกรรมทางสังคม นักวิชาการ สื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศ และเป็นประเด็นถกเถียงในโลกออนไลน์ และเมื่ออากงถูกพิพากษาจำคุก 20 ปี ประเด็นเรื่องความเหมาะสมของโทษและข้อกังขาต่อการดำเนินกระบวนการยุติธรรมใน การพิจารณาคดีตามกฎหมายอาญามาตรา 112 ก็กลายเป็นข้อถกเถียงของสังคมไทยที่ขยายใหญ่กว่าเดิม และเป็นแรงผลักดันให้เกิดการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้แก้ไขหรือยกเลิกกฎหมายมา ตรานี้เป็­นวงกว้าง

การเริ่มต้นรณรงค์ครั้งใหญ่ให้ปลดปล่อยสังคมไทยออกจากพันธนาการแห่งความกลัวกฎหมายอา
­ญา มาตรา 112 หรือโครงการ Thailand Fearlessness Free Akong ของปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ในขณะนั้น ได้สร้างกระแสการตื่นตัวอย่างมากในสังคมออนไลน์ มีผู้เข้าร่วมการรณรงค์ครั้งนั้นเป็นจำนวนมาก และมีกลุ่มเคลื่อนไหวต่อมาคือ คณะรณรงค์แก้ไขมาตรา 112 หรือ ครก.112 เริ่มการรณรงค์รวบรวมรายชื่อประชาชนเพื่อเสนอต่อรัฐสภาขอแก้ไขกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยอาศัยร่างกฎหมายของนักวิชาการกลุ่มนิติราษฎร์เป็นหลัก

อา กง SMS เสียชีวิตในวันที่ 8 พ.ค.2555 ระหว่างถูกคุมขังที่เรือนจำกลางพิเศษกรุงเทพฯ มานาน 1 ปีเศษ จากอาการป่วยด้วยโรคมะเร็งในระยะสุดท้าย ผู้ต้องขังที่อยู่ใกล้ชิดอากงระบุในจดหมายว่า ระหว่างเจ็บป่วยอากงไม่เคยได้รับการรักษาพยาบาลอย่างถูกต้องเหมาะสม

การ เสียชีวิตของอากง SMS ได้จุดกระแสความตื่นตัวต่อสิทธิของผู้ต้องขัง และเกิดกลุ่มกิจกรรมชื่อ กลุ่มปฏิญญาหน้าศาล ที่จัดกิจกรรมการเสวนาหน้าศาลอาญา รัชดาต่อเนื่องทุกวันอาทิตย์ และปลายเดือน พ.ค.นั้น ครก.112 ได้รวบรวมรายชื่อประชาชนได้เกือบ 3 หมื่นรายชื่อ และนำรายชื่อเหล่านั้นยื่นต่อรัฐสภา

พิธีฌาปนกิจศพอากงจะจัดขึ้นในวันที่ 25 และ 26 พ.ค.นี้ ที่วัดลาดพร้าว กรุงเทพ

...................................
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
http://prachatai.com/category/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%87-sms

เมื่อ"ความจริง"รั่วไหล ล่าแม่มด"วิกิลีกส์"

เมื่อ"ความจริง"รั่วไหล ล่าแม่มด"วิกิลีกส์"  

















มหกรรม ชักเย่อระหว่างรัฐบาลเอกวาดอร์กับรัฐบาลอังกฤษและสวีเดนยังดำเนินต่อไป โดยมีชะตากรรมของ นายจูเลียน แอสแซนจ์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์วิกิลีกส์ ชาวออสเตรเลีย วัย 41 ปี เป็นเดิมพัน

นายแอสแซนจ์เข้าไปลี้ภัยใน สถานทูตเอกวาดอร์ประจำกรุงลอนดอนเมื่อเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อหนีหมายจับของตำรวจอังกฤษ ที่ต้องการส่งตัวไปให้ตำรวจสวีเดนสอบสวนใน ข้อกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศ

แต่นายแอสแซนจ์เกรงว่าจะถูกรัฐบาล อังกฤษส่งตัวไปให้สหรัฐแทน เพราะเว็บไซต์วิกิลีกส์ของนายแอสแซนจ์ได้สร้างความไม่พอใจให้แก่ทาง การสหรัฐ จากการเผยแพร่รายงานลับจากสถานทูตสหรัฐทั่วโลก เพื่อแสดงให้เห็นถึงบทบาท ลับๆ ของสหรัฐในหลายภูมิภาค

อีกทั้งยังเปิดเผยเบื้องหลังสงครามในอิรักที่ทางการสหรัฐพยายามปกปิด เช่น กรณีเฮลิคอปเตอร์สหรัฐยิงถล่มฝูงชนจนมีพลเรือน เสียชีวิต

การที่รัฐบาลออสเตรเลียเตรียมพร้อมทางกฎหมายเพื่อส่งตัวนายแอสแซนจ์ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนให้สหรัฐ ย่อมบอกเป็นนัยโดยชัดเจน

นายแอสแซนจ์เคยเรียกร้องให้รัฐบาลอังกฤษและสวีเดนแสดงคำมั่นว่าจะไม่ส่งตัวไปยังสหรัฐตามที่กังวล แต่ทั้งสองประเทศกลับนิ่งเฉย

ขณะที่นักการเมืองหลายคนของสหรัฐเคยขู่ไว้ว่าหากจับตัวนายแอสแซนจ์ได้ จะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดในฐานะ"ผู้ก่อการร้ายข้ามชาติ"

ถึง แม้นายแอสแซนจ์เป็นเจ้าของเว็บวิกิลีกส์ แต่ผู้ที่กล้านำข้อมูลทั้งหมดมาให้คือ พลทหาร แบรดลีย์ แมนนิ่ง อายุ 24 ปี ซึ่งหมดศรัทธากับสงครามอิรักและต้องการให้โลกรับรู้ความจริง

ต่อมาพล ทหารแมนนิ่งก็ถูกทางการสหรัฐจับกุมและดำเนินคดีในข้อหาสอดแนม และปัจจุบันยังถูกคุมขังเดี่ยว จนเกรงว่าอาจถูกทรมานขณะสอบสวนด้วย

การ แถลงข่าวอันท้าทายล่าสุดของนาย แอสแซนจ์จากระเบียงสถานทูตเอกวาดอร์ในกรุงลอนดอน นอกจากจะขอให้สหรัฐเลิกพฤติกรรม "ล่าแม่มด" กับวิกิลีกส์แล้ว จึงขอให้ปล่อยตัวพลทหารแมนนิ่งด้วย

กรณีวิกิลีกส์มิใช่เป็นการท้าทายอำนาจรัฐด้วยการนำเสนอ "ความจริง" ครั้งแรกในสหรัฐ

สมยศ พฤกษาเกษมสุข: แด่อากง

สมยศ พฤกษาเกษมสุข: แด่อากง


 

เคยฟังเสียงแหบแห้งระโหยหา
เห็นแววตาเดียงสาอยู่ใกล้ใกล้
มันเจ็บปวดรวดร้าวอยู่ในใจ

เคยว่องไววิบวับมาลับลา  
 
จงรักภักดีอย่างล้นเหลือ
จึงอดทนร้องขอความเมตตา
ไม่มีฝนหล่นมาจากฟากฟ้า
พสุธาแห้งเหือดจนเดือดดาล
 
อิสรภาพได้มาเมื่อลาลับ
ไม่ได้กลับมาอยู่คู่ลูกหลาน

สังคมไทยวันนี้สุดร้าวราน
ถูกประจานสาปทุกแช่งทุกแห่งหน
 
เป็นไพร่เพราะถูกจับใส่กรงขัง
ประเดดังสังเวยให้เบื้องบน

ไปแล้วไปลับอย่าสับสน 
ไม่อับจนคนยังอยู่สู้ต่อไป     

Divas Cafe

Divas Cafe

 

แดงโห่ ปชป เฮ นักวิชาการซัด กระแสตีกลับเพื่อไทย Divas Cafe 13มิย55
http://youtu.be/vTCbQdANN1k

 

Divas Cafe  24 สิงหาคม 2555 
ศิลปะร่วมสมัย-หนังไทย-ความรุนแรง

Divas Cafe  23 สิงหาคม 2555
ประชานิยม..ลดช่องว่างความเหลื่อมล้ำ !!

Divas Cafe  22 สิงหาคม 2555
ถึงเวลา..วัฒนธรรมความเสมอหน้า
 
Divas Cafe  21 สิงหาคม 2555 
'มึงไทยมาก..!!' อัตลักษณ์แห่งความดักดาน

Divas Cafe 20 สิงหาคม 2555  
เปิดรายงาน ศปช. ความจริงที่พร่าเลือน !
http://shows.voicetv.co.th/divas-cafe/47997.html

Wake up Thailand 24 สิงหาคม 2555

Wake up Thailand  24 สิงหาคม 2555


 
 

นำเสนอประเด็น
 
 
 
- กิตติรัตน์มั่นใจ GDP ไทยโตโดยไม่พึ่งส่งออก
- 1 ปี รัฐบาลยิ่งลักษณ์ สอบผ่านแบบคาบเส้น   
- ยิ่งลักษณ์ชี้เเจงเรื่องการชี้เเจงผลงาน
- ปชป.เตรียมแถลง ประเมินผลงาน รัฐบาลครบรอบ1ปี
- รายงาน: นักโทษ112 ชวนส่ง 'อีเมลหยดน้ำ'– โปสการ์ดฝีมือ'หลานอากง'
- นักวิทยาศาสตร์คิดค้นภาษาใหม่ ไว้คุยกับหุ่นยนต์
- ราชวงศ์ยอมรับภาพนู้ดเจ้าชายแฮร์รีจริง
 
(คลิกฟัง)
http://shows.voicetv.co.th/wakeup-thailand

The Daily Dose 24 สิงหาคม 2555

The  Daily Dose  24 สิงหาคม 2555 


 
George Soros เข้าซื้อหุ้น 8% สโมสร MAN U. โดยถือหุ้นเพียงผู้เดียว โดยใช้เงินประมาน 40 ล้านเหรียญ  แต่อย่างไรผู้ถือหุ้นรายใหญ่ก็ยังคงเป็นของตระกลูเกลเซอร์.... 

(คลิกฟัง)
http://shows.voicetv.co.th/the-daily-dose

ฟรีอีบุ๊ค "เชิงอรรถความตายฯ" รวมบทกวีรำลึก "อากง"

ฟรีอีบุ๊ค "เชิงอรรถความตายฯ" รวมบทกวีรำลึก "อากง"



 
 

เชิงอรรถ ณ เชิงตะกอน

อาจไม่ผิดจากความจริงนักหากจะบอกว่า กระบวนการและขบวนการอันอยุติธรรมได้จองจำและทำให้ช่วงเวลา 478 วัน กลายเป็นช่วงเวลาสุดท้ายในชีวิตของ “อากง” อำพล ตั้งนพกุล 

ช่วงเวลาที่มีค่าที่สุดของมนุษย์ หากเพียงแต่เขาจะได้ใช้ร่วมกับบุคคลที่เขาผูกพันกลับได้กลายเป็นช่วงเวลาที่ เลวร้ายและโดดเดี่ยวที่สุดสำหรับชายชราวัยหกสิบเอ็ด

สิ่งที่เป็นคำถามท้าทายต่อสิ่งมีชีวิตที่เรียกตนว่ามนุษย์ก็คือ ทำอย่างไรถึงจะยุติโศกนาฏกรรมอันวนเวียนไม่รู้จบนี้ได้

23 บทกวีกับอีก 1บทเพลง ในบันทึกฉบับนี้เกิดจากหลากชีวิตทั้งคนใกล้ชิดและมิตรที่ไม่เคยได้พบหน้า ได้จารความรู้สึก ต่อข่าวร้ายของ “อากง” ที่ทยอยมาอย่างต่อเนื่อง มันเป็นความรู้สึกที่รุนแรงกระชั้น จนทำให้หลายท่านยังไม่ได้ตั้งชื่อ และอุกอั่งจนอีกหลายท่านไม่สามารถตั้งชื่อ

มิตรสหายหลายท่านได้กรุณารวบรวมให้ประชาไทเผยแพร่ ด้วยความหวังว่า การยืดระยะความรู้สึกและความทรงจำในช่วงนี้ออกไปสักระยะ อาจเป็นการให้เวลาแก่ผู้รักในเสรีภาพในการที่จะยุติวงวัฏที่ลดคุณค่าของเรา ลงเหลือเพียงคำว่า ”สัตว์” เสียที

23 สิงหาคม 2555
ประชาไท

หมายเหตุ:
ขอบคุณเพื่อนมิตรที่กรุณาให้เผยแพร่ผลงานของท่าน
ขอบคุณ วฒน และ รางชางฯ "เพื่อน" ที่ช่วยรวบรวมบทบันทึก

เกี่ยวกับอากง

อำพล ตั้งนพกุล วัย 61 ปี (ในวันที่ถูกจับ) อดีตพนักงานขับรถ ก่อนที่จะถูกดำเนินคดีอำพลอาศัยอยู่กับ รสมาลิน ตั้งนพกุล (ภรรยา)ในห้องเช่าที่มีค่าเช่าเดือนละ 1,200 บาท ย่านสำโรง สมุทรปราการ และอยู่ได้ด้วยเงินที่ได้รับจากลูกๆ เพียงเล็กน้อย โดยแต่ละวันอำพลและภรรยามีหน้าที่ต้องเลี้ยงหลานจำนวน 3-4 คน อำพล เคยไปร่วมชุมนุมทางการเมืองทั้งเสื้อเหลืองและเสื้อแดงบ้างเป็นครั้งคราว


อำพล ถูกกล่าวหาว่าใช้โทรศัพท์มือถือส่งข้อความหมิ่นสถาบันกษัตริย์ ไปยังโทรศัพท์มือถือ ของนายสมเกียรติ ครองวัฒนสุข เลขานุการส่วนตัวของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อเดือนพฤษภาคม 2553 

3 สิงหาคม 2553 อำพล ถูกจับกุมตัวเมื่อ เขาถูกคุมตัวในเรือนจำเป็นเวลา 63 วัน ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว 29 ก.ย.53 ทนายความยื่นประกันตัวครั้งที่สอง โดยใช้ที่ดินของญาติเป็นหลักทรัพย์ และเมื่อวันที่ 4 ต.ค.53 ศาลอุทธรณ์อนุญาตให้ประกันตัว โดยให้เหตุผลว่า หลักประกันน่าเชื่อถือได้ว่าจำเลยจะไม่หลบหนี

18 มกราคม 2554 อัยการมีคำสั่งฟ้อง อำพลเป็นจำเลยในคดีที่มีการส่งข้อความหมิ่นเบื้องสูง พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ และมาตรา 112 ตามประมวลกฎหมายอาญา ครั้งนี้ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวโดยให้เหตุผลว่า ข้อเท็จจริงตามข้อหาการกระทำความผิดตามฟ้องกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนและ ความมั่นคงของประเทศอย่างร้ายแรง คดีอยู่ในชั้นพิจารณา หากผลการพิจารณาสืบพยานมีหลักฐานมั่นคงจำเลยอาจหลบหนี ศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว

23 พฤศจิกายน 2554 ศาลชั้นต้นพิพากษา อำพล ฐานส่ง SMS หมิ่นฯ 4 ครั้ง ผิดตาม ปอ.มาตรา 112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 (2) และ (3) ลงโทษกรรมละ 5 ปีรวมจำคุก 20 ปี ชี้หลักฐานอิเล็กทรอนิคส์น่าเชื่อว่าส่งจากเครื่องโทรศัพท์ที่จำเลยใช้ และจากย่านที่พักของจำเลย

22 กุมภาพันธ์ 2555 ทนายความจำเลยยื่นอุทธรณ์และยื่นคำขอปล่อยตัวชั่วคราว โดยใช้หลักทรัพย์เงินสด และตำแหน่งนักวิชาการ 7 คน ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งไม่ให้ประกันตัวจำเลย

8 พฤษภาคม 2555 เวลาประมาณ 9.10 น. อำพล ได้เสียชีวิต ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ หลังจากถูกส่งเข้ารักษาเนื่องจากมีอาการปวดท้องเมื่อช่วงก่อนเที่ยงของวัน ที่ 4 พฤษภาคม 
 
(ที่มา)
http://prachatai3.info/journal/2012/08/42252

โฉมใหม่นิวแมนแดล่า

โฉมใหม่นิวแมนแดล่า


 
โดย ระยิบ เผ่ามโน



บังเอิญเมื่อวานผู้ขียนไปเยี่ยมเว็บ นิวแมนแดล่า หลังจากที่ห่างเหินไปพักใหญ่ เลยทราบว่าเว็บนี้กำลังมีการปรับปรุง และเปลี่ยนโฉม จะเปลี่ยนไปอย่างไรคงต้องรอให้การปรับ และปรุงของเขาเสร็จสรรพเสียก่อน แต่เท่าที่คุณนิโคลัส เฟอเรลลี่ บรรณาธิการเปรยไว้ โฉมใหม่จะเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด พร้อมทั้งยกระดับขึ้นไปอีก ซึ่งแต่เดิมเว็บนี้ก็เป็นที่ทราบกับดีแล้วว่าเหมาะแก่การค้นหาข้อมูลความ จริง และข้อคิดวิเคราะห์ที่มีนักวิชาการไม่น้อยเข้าไปมีส่วนร่วม เคยเห็นการลงข้อความของผู้อ่านประเภทชอบใช้ตรรกะสลิ่มๆ ถูกบรรดาสมาชิกตีมือเอาเสียจนภายหลังหายหน้าไปเกือบหมด

นอกจากการปรับทางเทคนิคที่เห็นว่าโฉมเปลี่ยนไปแล้ว ทางด้านการนำเสนอเนื้อหาได้มีการจัดหน้าให้บทความแนะนำจากบรรณาธิการดูเด่นต้องตา อย่างเช่นในขณะนี้มีสี่บทความแนะนำที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับเมืองไทยเสียสอง และเรื่องหนึ่งในนั้นให้ชื่อว่า ทักษิณกับราชสำนัก เนื้อความไม่มากมาย แต่ว่าเจาะประเด็นวิเคราะห์เหมาะแก่การต่อยอดวิจารณ์สืบเนื่องไป ทั้งในส่วนของผู้ที่รักทักษิณ และเกลียดทักษิณ

คุณเฟอเรลลี่เขียนว่า

ช่วงเดือนท้ายๆ ของปี (ค.ศ.) ๒๐๑๒ จะได้เห็นความพยายามอย่างสุดเหวี่ยงของทักษิณที่จะกลับสู่ราชอาณาจักร (ไทย) เขาจะไม่ต้องการพลาดโอกาสสำคัญในการถวายความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลเป็นครั้งสุดท้าย เป็นเรื่องง่ายที่จะมองข้ามทัศนะคติเชิดชูระบบกษัตริย์การถวายงานต่อราชสำนัก และความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับกองทัพของทักษิณในอดีต การรัฐประหาร (๒๕๔๙) ทำให้เรื่องนั้นสิ้นสุดลง แต่วาจา และการกระทำของยิ่งลักษณ์เป็นสัญญานบ่งว่าการกลับไปเริ่มใหม่ย่อมเกิดขึ้นได้

การเปลี่ยนจุดยืนอย่างพลิกผันไม่เหลือใยเคยเกิดขึ้นแล้วในการเมืองไทย และมันก็จะเกิดได้อีก การที่เขาห่างไกลลิบลับกับการเป็นตัวการร้ายพวกไม่เอาเจ้า ทักษิณอาจจะพิสูจน์การสนับสนุนราชสำนักของเขาอย่างเต็มที่เมื่อมีวิกฤติเกิดขึ้นครั้งต่อไป ความสามารถของเขาในการเปลี่ยนร่างใหม่ของเขาเป็นที่ล่ำลือมาแล้ว และนี่หมายความว่าทั้งตัวเขา และราชสำนักต่างเผชิญกับการท้าทายโจ่งแจ้งในช่วงปีต่อๆ ไป นั่นหมายถึงต่างพบจุดร่วมอันเป็นหลักประกันของการอยู่รอดไปด้วยกันได้

ทักษิณมีประวัติของการที่ไม่มีใครสามารถทำลายลงได้ ดูแล้วสมเหตุสมผลว่าในสถานการณ์ไม่ค่อยสะดวกสบายนักในกาลข้างหน้า ราชสำนักอาจต้องการทักษิณมาอยู่ข้างเดียวกันก็ได้


จากสายโยง ๕ ข้อที่คุณเฟอเรลลี่ให้ไว้เพื่อการค้นคว้าเพิ่มเติม ดูเหมือนหัวข้อนี้จะเป็นประเด็นของการแลกเปลี่ยนข้อคิด และข้อมูลทางวิชาการกันต่อไปอีกมาก แม้นว่าจะไม่ปรากฏบนหน้าเว็บก็ตาม สำหรับผู้เขียนคงได้แต่ตามอ่านในส่วนที่เปิดเผยทางสาธารณะเท่านั้น เพราะขาดทั้งทักษะในทางวิชาการ และฐานข้อมูลในทางลึก

จึงฝากท่านที่ถนัดทางวิชาการทั้งในกลุ่มรักทักษิณ และเกลียดทักษิณนำไปวิเคราะห์ ต่อยอดให้กระจ่าง บางทีความกระจ่างนั้นจะเป็นหนทางให้ความขัดแย้งสองขั้วในการเมืองไทยสามารถ ปรับเป็นพื้นที่กลางให้สองฝ่ายต่างอยู่ร่วมกันได้โดยสันติ แล้วผลักประเทศไทยไปสู่ความทันโลก ทันสมัย ทันสติปัญญาสากล
 
(ที่มา)
http://thaienews.blogspot.dk/2012/08/blog-post_24.html 
 
‘นิว แมนดาลา’ เปิดตัวซีรีส์ ‘ชาติ ศาสน์ กษัตริย์’ (1)

(คลิกอ่าน)
http://prachatai.com/journal/2011/10/37279 

ฮิวแมน ไรท์ วอทช์ ออกโรงเตือน ให้รัฐบาลสั่งการ ประยุทธ์ หยุดคุกคามขัดขวางกระบวนการสอบสวนคดีสลายการชุมนุม'53

ฮิวแมน ไรท์ วอทช์ ออกโรงเตือน ให้รัฐบาลสั่งการ ประยุทธ์ หยุดคุกคามขัดขวางกระบวนการสอบสวนคดีสลายการชุมนุม'53






ฮิวแมน ไรท์ วอทช์ ออกโรงเตือนกันนิ่มๆ ให้รัฐบาลสั่งการให้พลเอกประยุทธ์หยุดคุกคามขัดขวางกระบวนการสอบสวนคดีสลายการชุมนุม'53...มองเกมแล้ว นี่คือการที่อเมริกาออกมาเตือน "อำมาตย์" อย่าคิด "ปฏิวัติรัฐประหาร" อีก ไม่ว่าจะใช้กำลังทหารหรือตุลา การภิวัฒน์ อีเปรม ไอ้เหล่ ไอ้อภิสิทธิ์ และไอ้สุเทพ เจอ "ไม้แข็ง" นี้เข้า ถึงกับไข้ขึ้นหนาวสั่น ขี้ขึ้นสมอง ทั้งโลกกำลัง "กระชับพื้นที่" เข้าไปทุกทีแล้ว  ไอ้ฆาตกรสั่งฆ่าประชาชนได้ถูกลากคอเข้าคุกแน่

วันสัติภาพไทย

วันสัติภาพไทย


 















๑๖ สิงหาคม “วันสันติภาพไทย” ได้เวียนมาครบบรรจบ ๖๗ ปีในปีนี้ เป็นมหามงคลยิ่งที่ทางเราทั้งหลายควรน้อมระลึกถึงวันนั้น วันที่เราประกาศสันติภาพ อันสันติภาพจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าไม่เรียนรู้อดีตที่ผิดพลาดและปรับปรุงแก้ไข

 
วัน ที่ ๑๖ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๕ ที่ใกล้จะถึงนี้เป็นวันหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่สำคัญยิ่ง คือวันที่ นายปรีดี พนมยงค์ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ในพระปรมาภิไธยพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล(ร.๘) ประกาศสันติภาพ เป็นผลให้การที่รัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้ประกาศเป็นศัตรูกับฝ่ายสัมพันธมิตร โดยอยู่ข้างฝ่ายอักษะ และท้ายที่สุดฝ่ายอักษะได้พ่ายแพ้ ซึ่งจะมีผลให้ไทยเป็นประเทศผู้แพ้สงคราม ตกเป็นประเทศผู้แพ้สงคราม แต่การประกาศสันติภาพในครั้งนั้นมีผลทำให้ไทยไม่เป็นผู้แพ้สงครามในสงคราม โลกครั้งที่๒ ไม่ต้องวางอาวุธ ไม่ต้องยอมจำนน
เหตุการณ์นี้เป็น เหตุการณ์สำคัญอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์ สามารถเทียบกับการกู้ชาติไทยได้ทีเดียว (แต่ อ.ปรีดี ไม่เสนอให้เรียกอย่างนี้ ท่านถือว่ารับใช้ชาติ แต่จะกล่าวดังนั้นแล้วนับว่าสมควรโดยแท้) อันบุคคลที่ทำให้ประเทศไทยมิพ่ายแพ้นั้น ก็คือ “ขบวนการเสรีไทย” ซึ่ง ได้อุทิศชีวิตของตนเพื่อปกป้องเอกราชของประเทศไทย มิยอมจำนนต่อประเทศผู้รุกราน หากมิมีขบวนการนี้ ประเทศไทยย่อมสูญสิ้นเอกราชแต่นั้นมา เหล่าขบวนการเสรีไทยได้เสียสละชีวิตของตนเพื่องานในครั้งนั้น เช่น นายจำกัด พลางกูร เป็นต้น รวมถึงเป็นวันแห่งความ “ปรองดอง” “สมานฉันท์” โดยแท้จริง คือ ขบวนการเสรีไทยนี้ มีทั้งฝ่ายคณะราษฎร์ และฝ่ายคณะเจ้า เข้าร่วมกัน เพื่อปกป้องเอกราชอธิปไตยไว้มิให้ถูกย่ำยี
 
วันนี้ จึงสมควรยิ่งที่จะมีการรำลึกขึ้น ถึงสมาชิกขบวนการเสรีไทย ผู้ได้ทำคุณานุประโยชน์ต่อประเทศไทย และทำให้เราตระหนักถึงโทษภัยของสงคราม โดยตระหนักไว้ว่า โทษทัณฑ์ของสงครามนั้นเลวร้ายยิ่ง ทำลายล้างผลาญเพื่อนมนุษย์ ในเรื่องนี้ก็อาจจะสามารถช่วยเตือนสติเพื่อนมนุษย์จำนวนหนึ่งที่โดน อุดมการณ์ชาตินิยม “คลั่งชาติ” ที่สนับสนุนทำสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านให้มีสติได้ และจำเป็นต้องตราพุทธศาสนสุภาษิตไว้คือ “ไม่มีสุขใดเสมอด้วยความสงบสันติ –นตถิ สนติปร สุข”
  
๑๖ สิงหาคม “วันสันติภาพไทย” ได้ เวียนมาครบบรรจบ ๖๗ ปีในปีนี้ เป็นมหามงคลยิ่งที่ทางเราทั้งหลายควรน้อมระลึกถึงวันนั้น วันที่เราประกาศสันติภาพ อันสันติภาพจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าไม่เรียนรู้อดีตที่ผิดพลาดและปรับปรุงแก้ไข (ประเทศไทยไม่เคยรำลึกถึงเรื่องนี้เลย แม้ในตำราเรียนก็แทบมิเอ่ยถึง)
 
ข้าพเจ้าขออ้างคำของ รศ.ดร.วราภรณ์ สามโกเศศ ปิดท้ายท่านกล่าวไว้อย่างน่าสำเหนียกว่า

“เป็น โอกาสดีที่คนไทยรุ่นปัจจุบัน จะได้ระลึกถึงเหตุการณ์สำคัญในอดีต(วันสันติภาพไทย) ที่คนรุ่นก่อนได้ใช้สติปัญญา ความสุขุมรอบคอบในการแก้ไขปัญหาของชาติ และจะได้รำลึกถึงความเสียสละของกลุ่มเสรีไทย ที่ได้ใช้ความสามัคคี ความร่วมมือกันมุ่งมั่นรักษาผลประโยชน์ของชาติและประชาชนในยามคับขัน อย่างกล้าหาญ ประวัติศาสตร์ย่อมซ้ำรอยเสมอ ถ้าเราไม่มีความสำนึกในประวัติศาสตร์แล้ว ถือได้ว่าเรากำลังใช้ชีวิตอยู่บนความประมาทอย่างยิ่ง”

(ที่มา)
http://turnleftthai.blogspot.dk/2012/08/blog-post_24.html 

ทนายอากงเปิดเอกสารสำคัญชี้อากงบริสุทธิ์

ทนายอากงเปิดเอกสารสำคัญชี้อากงบริสุทธิ์


Posted Image



เปิดเอกสารความเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านโทรคมนาคมจากเยอรมันชี้การเก็บ ข้อมูลจากตัวเลขอีมี่เครื่องมีโอกาสคลาดเคลื่อนและสามารถปลอมแปลงได้ง่าย

24 สิงหาคม 2555  พูนสุข พูนสุขเจริญ หนึ่งในทีมทนายความของ นายอำพล ตั้งนพกุล หรือเป็นที่รู้จักในสาธารณะในชื่อ"อากง SMS " วัย 61ปี ผู้ต้องหาคดีละเมิด พรบ.คอมพิวเตอร์ และ กม.อาญา ม.112 ซึ่งได้เสียชีวิตลงในเรือนจำเมือวันที่ 8 พฤษภาคม 2555 ด้วยโรคมะเร็งที่ตับ ได้นำเอกสารหลักฐานความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญด้านโทรคมนาคมจากประเทศเยอรมัน ทั้งต้นฉบับภาษาอังกฤษจำนวน 4หน้าA4  และฉบับแปลโดยได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊คของเธอ

ในบันทึกดังกล่าวได้แสดงเอกสารที่เป็นความเห็นจาก Dr. Karsten Nohl ผู้เชี่ยวชาญเครือข่ายโทรคมนาคม  จาก Security Research Labs องค์กร เอกชนที่ให้บริการเครือข่ายโทรคมนาคมตั้งอยู่ในประเทศเยอรมัน โดยได้ให้ความเห็นต่อการเก็บบันทึกหมายเลขอีมี่ หรือเลขรหัสประจำเครื่องของดีแทคไม่มีความน่าเชื่อถือเพียงพอที่จะระบุ เครื่องที่ใช้ส่ง sms ได้ (ทำให้ไม่สามารถนำหมายเลขอีมี่เชื่อมโยงมาถึงเครื่องโทรศัพท์ของอากงได้) 

เนื้อหาในรายงานเป็นการถามตอบปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเลขอีมีทั้งสิ้น6ข้อ (ดูรายละเอียดด้านล่าง) โดยบทสรุปของเอกสารได้ระบุว่า

"บันทึกการรับ-ส่งข้อความสั้นแบบเอสเอ็มเอสของระบบดีแทค ไม่มีความน่าเชื่อถือพอที่จะระบุเครื่องโทรศัพท์ที่ใช้ส่งข้อความสั้นแบบเอส เอ็มเอสได้ มีความเป็นไปได้สองประการที่ข้อมูลจะคลาดเคลื่อนจากความเป็น จริง 

 - เป็นการส่งข้อความสั้นแบบเอสเอ็มเอสเข้าสู่ระบบเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยผ่านระบบอินเตอร์เน็ต หรือเครือข่าย SS7 และมีการเชื่อมโยงข้อมูลที่ผิดพลาดกับการส่งข้อมูลกำหนดตำบลที่ปัจจุบันของ ผู้อื่น 

- มีการปลอมแปลงหมายเลข IMEI เครื่องโทรศัพท์ เป็นหมายเลข IMEI เครื่องโทรศัพท์ของผู้อื่นในบริเวณใกล้เคียง โดยการจับตาการรับ-ส่งข้อมูลของเครื่องโทรศัพท์อื่น ๆ ในเครือข่ายจีเอสเอ็ม และเพียงเตรียมพร้อมในส่วนของเครื่องมือและซอฟท์แวร์ "

โดยพูนสุขใด้เขียนข้อความไว้ในบันทึกว่า  " เดิมเอกสารชิ้นนี้ได้เตรียมไว้เพื่อขอสืบพยานเพิ่มเติมในชั้นอุทธรณ์ และจะขอให้พยานผู้เชี่ยวชาญจากเยอรมันมาเบิกความ เนื่องจากในศาลชั้นต้นคณะทำงานไม่สามารถหาพยานผู้เชี่ยวชาญมาเบิกความได้ แต่ตามที่ทราบกันสุดท้ายได้ตัดสินใจถอนอุทธรณ์เนื่องจากอากงไม่ได้รับสิทธิ ในการปล่อยตัวชั่วคราว หากต่อสู้คดีต่อไปอาจต้องใช้ระยะเวลายาวนาน  "
 
(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2012/08/42259

พลวัต การเมือง 1 ปี รัฐบาล "ยิ่งลักษณ์" ดุลกำลัง "ใหม่"

พลวัต การเมือง 1 ปี รัฐบาล "ยิ่งลักษณ์" ดุลกำลัง "ใหม่"


 
การออกมา "แหนะแหน" กันระหว่าง นายถวิล เปลี่ยนศรี กับ นายธาริต เพ็งดิษฐ์ ต่อบทบาทในศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) สะท้อนอะไร

สะท้อนอาการ "เปี๋ยนไป"

เป็นการ "เปี๋ยนไป" เหมือนที่ นายนิคม ไวยรัชพานิช ได้รับเลือกเป็นประธานวุฒิสภาด้วยคะแนน 77 ต่อ 69

ฉวดเฉียด

ขณะเดียวกัน การที่ตำแหน่งรองประ ธานวุฒิสภาคนที่ 1 เป็นของ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย อันมีรากฐานมาจาก ส.ว. สรรหา

คือการประนอมประโยชน์

เช่น เดียวกับ การไม่เปิดบ้านสี่เสา เทเวศร์ ให้ไปอวยพรในวาระคล้ายวันเกิด พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ก็เป็นปรากฏ การณ์สำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

สงบนิ่งอยู่ ณ ที่ตั้ง

อาการ "เปี๋ยนไป" ในแต่ละองคาพยพของสังคมประเทศไทย สะท้อนสภาพการขยับและปรับตัวครั้งสำคัญอีกวาระหนึ่ง

ดุลกำลัง

ไม่ว่า นายถวิล เปลี่ยนศรี ไม่ว่า นายธาริต เพ็งดิษฐ์ ล้วนมีเหตุผล อรรถาธิบาย บทบาทและการเคลื่อนไหวในแต่ละจังหวะก้าว

อย่าลืมเป็นอันขาดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร บริหารมาครบ 1 ปี

วันที่ 8 สิงหาคม 2554 อาจเป็นวันได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี

แต่หลังวันที่ 23 สิงหาคม 2554 ต่างหากที่เป็นวันบริหารราชการในทางเป็นจริง

จากวันที่ 24 สิงหาคม 2554 มาถึง วันที่ 24 สิงหาคม 2555 จึงเป็นวันครบรอบ 1 ปีบริบูรณ์ของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

เหนือความคาดหมาย

เหนือ ความคาดหมายท่ามกลางน้ำเสียงสบประมาทนานาสารพัดข้อกล่าวหา เหนือความคาดหมายท่ามกลางอุปสรรคนานัปการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมหาอุทกภัยจากเดือนตุลาคมเรื่อยมาจนถึงเดือนธันวาคม 2554

แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็นำพารัฐนาวารอดปลอดพ้นได้


(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1345861830&grpid=&catid=02&subcatid=0200

กองทัพสะท้าน กรรมการสิทธิเฉยชา คดี 98 ศพเข้าไคล

กองทัพสะท้าน กรรมการสิทธิเฉยชา คดี 98 ศพเข้าไคล

 

 

 

มีภาพที่เปรียบเทียบให้เห็นความรู้สึกและท่าทีที่ตรงข้ามกัน อย่างยิ่งระหว่างกองทัพกับกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในกรณีคดี 98 ศพ ที่เสียชีวิตจากการชุมนุมทางการเมืองเมื่อปี 2553

พลันที่มีผู้นำ หนังสือคำสั่ง ศอฉ. ที่ กห.1407.55 (สยก.) ลงวันที่ 17 เม.ย. 2553 เรื่อง ขออนุมัติแนวทางการปฏิบัติในการใช้อาวุธเพื่อ รปภ. ที่ตั้งหน่วยและสถานที่สำคัญ รวมทั้งการปฏิบัติ ณ จุดตรวจ/ด่านตรวจและสายตรวจเคลื่อนที่

ลงนามโดย พล.ท.อักษรา เกิดผล หน.สยก.ศอฉ. เสนอนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผอ.ศอฉ.

ก่อนที่นายสุเทพจะลงนามอนุมัติในวันที่ 18 เม.ย.2553

พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกกองทัพบก และอดีตโฆษก ศอฉ.ก็ออกแถลงในนามกองทัพโดยฉับพลันว่า เอกสารดังกล่าวเป็นฉบับจริง เนื้อหาในรายละเอียดทั้งหมดไม่ใช่เรื่องใหม่

และเป็นการแสดงให้เห็นว่าการปฏิบัตินั้นมีมาตรการตามหลักสากล

จากเบาไปหาหนัก

ไฉนท่าทีของกองทัพต่อกรณีข้างต้นจึง "ฉับพลันทันที" เป็นอย่างยิ่ง

ก็ต้องพิจารณาลงไปในเนื้อหาของคำสั่งดังกล่าว

โดย เฉพาะใจความสำคัญในข้อ 2.5 ที่ระบุว่า ในกรณีพบความผิดซึ่งหน้าในลักษณะผู้ก่อเหตุใช้อาวุธยิงใส่เจ้าหน้าที่ หรือใช้อาวุธ/วัตถุระเบิดต่อที่ตั้งหน่วยและสถานที่สำคัญ ที่ ศอฉ.กำหนด ได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่สามารถใช้อาวุธยิงผู้ก่อเหตุ เพื่อหยุดยั้งการปฏิบัติได้