หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2555

สองด้านของการเลือกตั้งในพม่า

สองด้านของการเลือกตั้งในพม่า



โดย ลั่นทมขาว

 

การเลือกตั้งในโลกทุนนิยมปัจจุบันไม่เคยนำไปสู่การช่วงชิงอำนาจรัฐของฝ่าย ประชาชนแต่อย่างใด เพราะรัฐมีส่วนสำคัญที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง เพียงแต่ว่าในระบบประชาธิปไตยทุนนิยม ประชาชนเลือกรัฐบาลได้ แต่เลือกส่วนอื่นของรัฐไม่ได้ เช่นผู้บัญชาการทหารและตำรวจ ผู้ที่คุมศาล ผู้ที่คุมสื่อ และที่สำคัญที่สุดคือประชาชนเลือกและควบคุมระบบเศรษฐกิจไม่ได้ เพราะไม่มีนายทุนที่ไหนในโลกที่มาจากการเลือกตั้ง แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าเราควรหันหลังให้กับการเลือกตั้ง

การเลือกตั้งเป็นเวทีสำคัญในการปลุกระดมทางการเมือง เพื่อให้กำลังใจในการต่อสู้ของประชาชนนอกรัฐสภา ดังนั้นการเลือกตั้งที่ผ่านมาในพม่ามีความสำคัญตรงนี้ เพราะเป็นโอกาสทองที่พลเมืองเชื้อชาติต่างๆ ในประเทศพม่า จะแสดงความไม่พอใจกับเผด็จการทหาร และสนับสนุนการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยโดยการเลือกนางอองซานซูจีและพรรค สันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย(NLD) เข้าสู่สภา

อย่างไรก็ตามเราไม่ควรหลงคิดว่าการเลือกตั้งใน พม่าเป็นก้าวแรกในการ “สร้างประชาธิปไตย” ของผู้มีอำนาจในพม่า โดยเฉพาะทหาร เพราะมันเป็นเพียงการแสวงหาความชอบธรรมกับอำนาจถาวรของกองทัพพม่าในสังคม เท่านั้น

รัฐธรรมนูญปัจจุบันของพม่าร่างมาโดยทหารในปี 2008 เพื่อปกป้องอำนาจของทหาร เช่นในสภาสูง 110 ที่นั่ง จากทั้งหมด 440 ที่นั่ง ต้องเป็นนายทหารที่แต่งตั้งโดยกองทัพเองในสภาล่างทหารสำรอง 56 ที่นั่งจาก 224 ที่นั่ง และอันนี้ก่อนจะมีการเลือกตั้งที่นั่งที่เหลือ ในการเลือกตั้งปี 2010 ทหารสร้างสถานการณ์เพื่อไม่ให้มีการเลือกตั้งเสรี พรรคทหาร (USDP) เลยได้เสียงส่วนใหญ่ และการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเป็นแค่การเลือกตั้ง “ซ่อม” สำหรับเพียง 45 ที่นั่งเอง ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้เต็มไปด้วยการข่มขู่และการโกงโดยทหารเพื่อสนับสนุนพรรคทหาร

  
(อ่านต่อ)
http://turnleftthai.blogspot.dk/2012/06/blog-post_06.html

ที่นี่ความจริง

ที่นี่ความจริง

 

 

ที่นี่ความจริง 19มิย55

http://www.youtube.com/watch?v=KV-i3M5lU1c&feature=player_embedded

ที่นี่ความจริง 18มิย55

http://www.youtube.com/watch?v=lbqEDN3Mncw

Divas Cafe

Divas Cafe

 

แดงโห่ ปชป เฮ นักวิชาการซัด กระแสตีกลับเพื่อไทย Divas Cafe 13มิย55
http://youtu.be/vTCbQdANN1k

 

Thailand's got nothing อาจารย์อยู่ระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า Divas Cafe 19มิย55

http://www.youtube.com/watch?v=KalXgLasG4E&feature=player_embedded

หนังเกย์เอเชีย..เปิดเปลื้องปลดปล่อยเพศที่3 สู่สากล

http://www.dailymotion.com/video/xrlhum_yyyyyy-divas-cafe-yyyyyy-yy-18-y-y-2555_news 

Wake Up Thailand

Wake Up Thailand

 

 

Wake Up Thailand 19มิย55

http://www.youtube.com/watch?v=hzOrXEUMzhI

Wake Up Thailand 18มิย55

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=hxa1IFM2Pgs

The Daily Dose

The Daily Dose

 

 

The Daily Dose 19มิย55

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=GnaXmD6jsLY

The Daily Dose 18มิย55

http://www.youtube.com/watch?v=MwASC2UQZY0

กูเกิลเผยรายงานเตือน มีการร้องเรียนให้เซ็นเซอร์มากขึ้นจากรัฐบาล

กูเกิลเผยรายงานเตือน มีการร้องเรียนให้เซ็นเซอร์มากขึ้นจากรัฐบาล

ประกาศลบ"ยูทูบ"เนื้อหา"หมิ่นเหม่-ก่อการร้าย" 640 ชิ้น รวม"วิดีโอหมิ่นราชวงศ์ไทย"

 

 

กูเกิ้ลเผยรายงานระบุว่าในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมามีกรณีร้องเรียนให้นำวีดิโอของบยูทูบหรือผลลัพธ์การค้นหาออกจากหน้าเว็บกูเกิ้ลด้วยเหตุผลทางการเมืองเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนมากมาจากประเทศประชาธิปไตยโลกตะวันตกที่ปกติจะไม่เซนเซอร์

วันที่ 18 มิ.ย. 2012 สำนักข่าวเดอะ การ์เดียน ของอังกฤษอ้างรายงานของกูเกิ้ลเตือนว่าในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมามีความพยายามปิดกั้นอินเตอร์เน็ตจากรัฐในจำนวนที่มากขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง

กูเกิ้ลซึ่งเป็นเว็บไซต์ค้นหาข้อมูลผ่านอินเตอร์เน็ต ได้นำเสนอรายงานความโปร่งใสในรอบสองปี รายงานระบุว่ามีการร้องเรียนมากขึ้นว่าให้นำเนื้อหาที่มีความเป็นการเมืองออกจากหน้าเว็บ และการร้องเรียนจำนวนมากมาจากประเทศประชาธิปไตยตะวันตก ซึ่งโดยปกติแล้วไม่ค่อยมีการเซนเซอร์เท่าใด

รายงานเปิดเผยว่าอีกว่าผู้ควบคุมชาวสเปนได้ร้องเรียนให้กูเกิ้ลถอนลิงค์จำนวน 270 ลิงค์ของบล็อกและบทความหนังสือพิมพ์ที่มีการวิจารณ์ผู้มีชื่อเสียงในสังคม แต่ทางกูเกิ้ลก็ไม่ได้ปฏิบัติตามคำขอ ในโปแลนด์ ก็มีกรณีที่ขอให้นำบทความที่วิพากษ์วิจารณ์หน่วยงานพัฒนาวิสาหกิจของโปแลนด์ออก รวมถึงผลการค้นหาอีก 8 ชนิดที่เชื่อมต่อสู่บทความนี้ ซึ่งกูเกิ้ลก็ไม่ปฏิบัติตามคำขอ

อีกกรณีหนึ่งคือการที่เจ้าหน้าที่ของแคนาดาร้องเรียนให้ลบวีดิโอของยูทูบที่มีภาพของพลเมืองคนหนึ่งกำลังปัสสาวะรดพาสปอร์ตของเขาแล้วกดลงชักโครก ซึ่งกูเกิ้ลก็ปฏิเสธจะทำตามเช่นกัน

ของไทยก็มีกรณีที่เจ้าหน้าที่เรียกร้องให้กูเกิ้ลถอดคลิปวีดิโอของยูทูบ 149 ชิ้นออก เนื่องจากพบว่ามีเนื้อหาหมิ่นสถาบันฯ ซึ่งเป็นการละเมิดกฏหมายการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งทางยูทูบก็ปฏิบัติตามประมาณร้อยละ 70 ของข้อร้องเรียน

ทางด้านปากีสถานก็ร้องเรียนให้กูเกิ้ลถอนวีดิโอยูทูบ 6คลิป ที่มีการล้อเลียนกองทัพและนักการเมืองระดับสูง ซึ่งกูเกิ้ลได้ปฏิเสธ

ตำรวจของอังกฤษก็ได้ร้องเรียนให้กูเกิ้ลถอด5 คลิปวีดิโอที่สุ่มเสี่ยงต่อการสนับสนุนการก่อการร้าย ซึ่งกูเกิ้ลยอมทำตาม ส่วนสหรัฐฯ การร้องเรียนส่วนใหญ่เป็นกรณีการกระทำหมิ่นเหม่ต่อการคุกคามผู้อื่นในยูทูบ โดยเจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐฯ เรียกร้องให้ถอนวีดิโอ 187 คลิปซึ่งกูเกิ้ลยอมทำตามร้อยละ 42 ของทั้งหมด

(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1339994933&grpid=&catid=06&subcatid=0600

การเมืองซ่อนเงื่อน สัญญาณผิด-พลาด ปรองดอง-ดึง"ปชป."

การเมืองซ่อนเงื่อน สัญญาณผิด-พลาด ปรองดอง-ดึง"ปชป."

 

 

เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง

กรณีที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร บ่นดังๆ ว่า "ถูกหลอก"หลังจากการผลักดัน กม.ปรองดองผ่านสภา ถูกคัดค้านอย่างหนัก จนขยับต่อไม่ได้

ขณะที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวบนเวทีปราศรัยของพรรคว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ส่งคนมาติดต่อให้เข้าร่วมรัฐบาล

โดยมีเงื่อนไขว่า อย่าคัดค้านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และกม.ปรองดอง

ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ กม.ปรองดอง จึงน่าจะเป็นปมเงื่อนสำคัญของเหตุการณ์นี้



วิดีโอลิงก์จาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อวันที่ 19 พ.ค. ในวาระครบ 2 ปี สลายม็อบเสื้อแดงที่ราชประสงค์ มีสาระสำคัญสรุปได้ว่า

สิ่งที่เกิดขึ้นใน 6 ปี ก็เพื่อไล่ล่าตนเอง

แม้เสียหายมาก เจ็บมาก มีคดีความ ฯลฯ แต่วันนี้ผมเหมือนกับเดินมาสุดทาง

เหมือนพี่น้องขับเรือพาผมมาถึงฝั่ง ต่อไปเป็นการขึ้นเขา ซึ่งต้องขึ้นรถไป ไม่จำเป็นต้องแบกเรือมาส่งบนเขา

บางอย่างเรื่องส่วนตัวต้องมองข้ามไปบ้าง จึงขอความเข้าใจและเสียสละจากคนเสื้อแดง

หากมีการปรองดองก็มีโอกาสกลับไปตอบแทนบุญคุณพี่น้อง

และหวังว่าการวิดีโอลิงก์จากต่างแดนครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย

เป็น "สาระสำคัญ" ที่ตีความกันในขณะนั้นว่า พ.ต.ท.ทักษิณอาจ "บรรลุ" ข้อตกลงทางการเมืองบางประการ

จึงขอแยกตัวจากคนเสื้อแดง เพื่อขึ้นรถเดินทางต่อไป



วันที่ 2 มิ.ย. ในงานครึ่งทศวรรษ ความจริงวันนี้ ที่ธันเดอร์โดม เมืองทองธานี

พ.ต.ท.ทักษิณได้โฟนอินข้ามประเทศโดยมี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ทำหน้าที่ดำเนินรายการ

วันนี้สัญญาณไม่ดี ไม่รู้เป็นอะไร มีแต่เสียง อุตส่าห์แต่งตัวหล่อจะโชว์ ที่เมืองไทยให้พี่น้องเสื้อแดงได้เห็นว่ายังสบายดีอยู่ หลังจากโดนแล้วโดนอีก

อย่าเป็นหมูให้เขาหลอก แต่บางทีก็ต้องร้องเพลง ถึงเขาหลอกก็เต็มใจให้หลอก บางทีบางครั้งก็โง่จริงบ้าง โง่ปลอมบ้างก็ว่ากันไป

วันนี้พยายามลดโทนให้ไม่เครียดเกินไป กำลังฝึกอยู่ ถ้าได้กลับเมืองไทย ไม่ว่าจะได้กลับตอนไหนตอน 85 หรือตอน 63 ก็ไม่รู้ ยังไงก็ต้องกลับ

และอีกตอนหนึ่ง

 

(อ่านต่อ)

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1340083294&grpid=&catid=03&subcatid=0305

ใครหว่า ! 2 สุภาพสตรีชั้นสูง กับ 1 สุภาพบุรุษ

ใครหว่า ! 2 สุภาพสตรีชั้นสูง กับ 1 สุภาพบุรุษ

 


 



ภาพที่โพสต์

ล่าสุด เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ท่าน ผู้หญิงวิริยา ชวกุล ประธานมูลนิธิสายใจไทยฯ ออกมาปฏิเสธแล้วว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว ยืนยันว่าไม่เคยรับหน้าที่เจรจาให้พรรคเพื่อไทย ในการประสานให้พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย เพราะเป็นไปไม่ได้และไม่เกิดประโยชน์

ซึ่ง อาจเป็นการสร้างข่าวเพื่อดิสเครดิตกันทางการเมือง ซึ่งผู้ให้ข่าวน่าจะมาเปิดเผยข้อมูลที่ชัดเจนว่าสุภาพสตรีชั้นสูงที่กล่าว ถึงนั้นเป็นใคร

ภาพที่โพสต์

ทางด้าน ท่านผู้หญิงจรุงจิตต์ ทีขะระ รองราชเลขานุการในพระองค์ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เปิดเผยกับไทยรัฐออนไลน์เช่นกัน โดยยืนยันว่า ไม่ทราบเรื่องดังกล่าว และไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับกรณีที่เกิดขึ้น.
 



ชั่วโมงนี้  ปากซอยยันก้นซอย ทายกันให้แซดว่า ใครกันที่เป็นคนกลาง เล่นบทปรองดอง

ชวน"สุเทพ  เทือกสุบรรณ"กับ"ทักษิณ"มาเจรจาสงบศึก สงครามการเมือง
 
ปริศนา ทายชื่อ อักษรย่อ อุบัติขึ้นเมื่อ ....

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี  แกนนำพรรคประชาธิปัตย์  แฉว่า  พ.ต.ท.ทักษิณส่งคนมาเจรจจา ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2555 หลังน้ำท่วม แต่ไม่ใช่คนใน พรรคเพื่อไทย  โดยเป็นสุภาพสตรีชั้นสูงเป็นที่รู้จักมีชื่อเสียงในสังคม 2 คน และคนที่ 3 เป็นสุภาพบุรุษ ซึ่งได้ไปพบที่บ้านของบุคคลดังกล่าว และทำหน้าที่วิ่งไปวิ่งมาระหว่างตนกับ พ.ต.ท.ทักษิณ หลายครั้ง


กระทั่งมีการเจรจาครั้งสุดท้ายวันที่ 3 มิถุนายน เวลา 17.45 น. เรื่องนี้ไม่ใช่ความลับ เพราะทุกครั้งที่มีการติดต่อมา ได้แจ้งให้หัวหน้าพรรคและผู้ใหญ่ทราบ


ขณะที่แหล่งข่าวจากแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวยอมรับว่า เคยมีการเจรจาระหว่าง พท.กับ ปชป.จริง โดยผ่านตัวละครที่นายสุเทพกล่าวอ้าง โดยสุภาพ สตรีชั้นสูง 2 ราย รายแรกชื่ออักษรย่อ "ด." และมีบรรดาศักดิ์เป็นบุคคลชั้นสูง  ส่วนคนสองชื่ออักษรย่อ "จ." ทำงานใกล้ชิดกับบุคคลชั้นสูง 


ส่วน 1 สุภาพบุรุษเป็นแกนนำ ปชป.และอยู่ในสังคมของบุคคลชั้นสูงเช่นกัน อีกทั้งยังเป็นเครือญาติของนายสุเทพ ซึ่งเกี่ยวดองผ่านการแต่งงานชื่ออักษรย่อ "น." และนามสกุล "พ."
  
แม้ไม่เปิดชื่อ 2 สุภาพสตรีชั้นสูง กับ 1 สุภาพบุรุษ  ออกมาตรงๆ
 
 
แต่ผู้ติดตามการเมืองมาอย่างต่อเนื่อง ต่างร้องอ๋อ  เพราะแต่ละอักษรย่อ ล้วนเล่นบทนี้มาก่อนแล้ว

ไม่เชื่อ ย้อนดูข่าวเก่าๆ  ดูก็ได้

 

(ที่มา)

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1340088047&grpid=01&catid=&subcatid=

2 นักข่าวเยอรมันให้การกรณีแท็กซี่ถูกยิงที่ราชปรารภ ยันกระสุนมาจากฝั่งทหาร

2 นักข่าวเยอรมันให้การกรณีแท็กซี่ถูกยิงที่ราชปรารภ ยันกระสุนมาจากฝั่งทหาร

 

"นิก นอสทิส"นักข่าวเยอรมันได้พบลูกสาวแท็กซี่ นายชาญณรงค์ พลศรีลา เหยื่อปืน"ราชปรารภ"

 

(คลิกอ่าน)

https://sites.google.com/site/rungsira/2553-phvspha-mikhsayyi/nicknostitzniphunthisanghar/niknxst

18 มิ.ย.55 เวลา13.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 707 ศาลอาญา รัชดา ได้มีการไต่สวน 2 ผู้สื่อข่าวชาวเยอรมัน คือ นิค นอสติทซ์(Nick Nostiz) และ ธีโล เธียลเค (Thilo Thielke) ตามเลขคดี อช.1/2555 จากกรณีการเสียชีวิตของนายชาญณรงค์ พลศรีลา คนขับรถแท็กซี่เสื้อแดงที่ถูกยิงและเสียชีวิตบริเวณหน้าปั้มเชลล์ ถนนราชปรารภ เมื่อบ่ายวันที่ 15 พ.ค.53 ช่วงที่มีการกระชับวงล้อมผู้ชุมนุมเสื้อแดงโดย ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน(ศอฉ.)และรัฐบาลอภิสิทธิ์ โดยในระหว่างการไต่สวนได้มีภรรยาและบุตรสาวนายชาญรงค์ร่วมฟังด้วย และจะมีการนัดไต่สวนพยานปากต่อไปในวันที่ 25 มิ.ย. นี้ ที่ศาลอาญา รัชดา เวลา 9.00 – 16.00 น.

นิค นอสติทซ์เบิกความสรุปได้ว่า พยานมีอาชีพช่างภาพอิสระ ติดตามการชุมนุมของทั้งกลุ่มเสื้อเหลืองเสื้อแดง ติดตามการชุมนุมของกลุ่มเสื้อเหลืองก่อนปี 2549 ต่อมาปี 2553 ทำข่าวการชุมนุมของเสื้อแดงที่ผ่านฟ้า ในวันที่ 15 พฤษภาคม 2553 มาทำข่าวที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง เห็นผู้ร่วมชุมนุมประมาณ 200 คน ในขณะนั้นผู้ร่วมชุมนุมไม่ได้ใส่เสื้อสีแดงแล้ว มีการรวมกลุ่มพูดคุยกัน ประมาณ 14.00น. ตนได้เข้าไปในถนนราชปรารภ ขณะนั้นมีรถสัญจรไปมา เมื่อเดินไปทางแยกรางน้ำมีทหารอยู่ในบังเกอร์ เห็นทหารในชุดประจำการ แต่จำไม่ได้ว่าอาวุธดังกล่าวเป็นอาวุธปืน M16 หรือไม่ จากนั้นตนเดินไปซื้อน้ำที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น แล้วกลับมายังบริเวณ 3 เหลียมดินแดง

(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2012/06/41140

ไต่สวนการตายวัดปทุมหลักฐานชัดกระสุนสงครามสีเขียวยิงจากบนลงล่าง

ไต่สวนการตายวัดปทุมหลักฐานชัดกระสุนสงครามสีเขียวยิงจากบนลงล่าง






เหตุการณ์วันที่ 20 พ.ค. 53


ทหารสารภาพกลางศาล! ใช้ปืน M16 และ ปืนทราโว ยิงเข้าวัดปทุมฯจริง

 

นักข่าวเล่าให้ฟัง 2-2

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=bkKVYzrcM1w#! 

 

ทหารไทยพูดเขมร

http://www.youtube.com/watch?v=vx2MHRAQCv0&feature=player_embedded#!


ศาลอาญากรุงเทพใต้ - 18 มิ.ย. 2555 - ไต่สวนชันสูตรศพ 6 ศพ วัดปทุมฯ รองผบก.น.6 ให้การ วิถีกระสุนยิงจากรางรถไฟฟ้า ที่มีแต่ทหาร เผย 5 ศพ ถูกยิงโดยกระสุนหัวเขียว

 

เมื่อเวลา 09.30 น. ศาลได้นัดไต่สวนคำร้องการเสียชีวิต คดีหมายเลขดำ ช. 5/2555 พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ ยื่นคำร้องขอให้ศาลไต่สวนชันสูตรการ เสียชีวิตของนายสุวรรณ ศรีรักษา อายุ 30 ปี อาชีพเกษตรกร ผู้เสียชีวิตที่ 1 นายอัฐชัย ชุมจันทร์ อายุ 28 ปี บัณฑิตคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแห่ง ผู้เสียชีวิตที่ 2 นายมงคล เข็มทอง อายุ 36 ปี เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิปอเต็กตึ๊ง ผู้เสียชีวิตที่ 3 นายรพ สุขสถิต อายุ 66 ปี อาชีพพนักงานขับรถรับจ้างในสนามบิน ผู้เสียชีวิตที่ 4 น.ส.กมนเกด อัคฮาด อายุ 25 ปี อาชีพพยาบาลอาสา ผู้เสียชีวิตที่ 5 และ นายอัครเดช ขันแก้ว อาชีพรับจ้าง ผู้เสียชีวิตที่ 6 ซึ่งทั้ง 6 ศพ ถูกยิงเสียชีวิตในวัดปทุมวนาราม แยกราชประสงค์ ในช่วงที่มีการสลายการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อวันที่ 19 พ.ค.53 ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี

โดยอัยการเตรียม พยานเบิกความ 7 ปาก ประกอบด้วย พ.ต.อ.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 6 , นายขาล ศรีรักษา อายุ 65 ปี บิดาของนายสุวรรณ, นางอัญชลี สาลิกานนท์ อายุ 36 ปี พี่สาวของนายอัฐชัย, นายสมใจ เข็มทอง อายุ 50 ปี พี่ชายของนายมงคล, นางสมคิด สุขสถิต อายุ 61 ปี ภรรยาของนายรพ , นางพะเยาว์ มารดา น.ส.กมลเกด และ นายถวิล ใสลำเผาะ อายุ 63 ปี ลุงของนายอัครเดช

ซึ่งก่อนเริ่มการพิจารณา ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ผู้สนใจเข้าร่วมฟังการพิจารณาได้เพราะเป็นการพิจารณาคดีโดยเปิดเผย แต่มีคำสั่งห้ามไม่ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องจดบันทึกคำเบิกความหรือใช้เครื่องบันทึกเสียงหรือโทรศัพท์มือถือบันทึกเสียงคำเบิกความไม่เช่นนั้นจะถือว่าละเมิดอำนาจศาล


(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2012/06/41138