เชิญดูรายการโทรทัศน์อัลจาซิราเรื่อง 112(ภาคภาษาอังกฤษ)
Aljazera - lese majeste in Thailand
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=a78ZWegmiD4
ทหาร กษัตริย์ และกฏหมาย 112
โดย ใจ อึ๊งภากรณ์
บทความนี้เสนอว่าผู้ที่ทำลายประชาธิปไตยไทยอย่างต่อเนื่องคือทหาร
โดยที่กษัตริย์ภูมิพลถูกใช้เป็นเครื่องมือเชิงสัญญลักษณ์
เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับทหารเป็นหลัก และกฏหมาย 112
มีไว้เพื่อปิดปากผู้รักประชาธิปไตย
เพื่อไม่ให้ตรวจสอบวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของทหารและอำมาตย์ส่วนอื่น
นายภูมิพลเป็นกษัตริย์ที่ไร้อำนาจและไร้ความกล้าหาญใดๆ
แต่นั้นไม่ได้แปลว่านายภูมิพลเป็น “เหยื่อ” เพราะ
เขาพร้อมใจจะร่วมมือกับทหารและผู้มีอำนาจอื่นๆ เสมอ
เราไม่ได้อยู่ในยุคสมบูรณาญาสิทธิราชย์ รัฐไทยเป็นรัฐทุนนิยมสมัยใหม่
การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่าง ทหาร กษัตริย์ และกฏหมาย 112 แบบนี้
แปลว่าในรูปธรรม การจัดการกับกฏหมาย 112
ต้องทำพร้อมกับการลดอำนาจอันไม่ชอบธรรมของทหาร
และมันแปลว่าการสิ้นชีวิตของนายภูมิพลในอนาคต
จะไม่นำไปสู่การแก้ไขปัญหาบ้านเมืองแต่อย่างใด
เพราะทหารจะพยายามนำกษัตริย์คนใหม่ขึ้นมาให้ความชอบธรรมกับเขาต่อไป
ทหาร กษัตริย์ และกฏหมาย 112
เมื่อทหารก่อรัฐประหาร ๑๙ กันยายน ๒๕๔๙ ทหารอ้างว่ากระทำเพื่อ “ปฏิรูป” และ “ปกป้อง”
ระบบประชาธิปไตยอันมีกษัตริย์เป็นประมุข
รัฐประหารนี้ถือว่าเป็นการนำสถาบันกษัตริย์เข้ามาในการให้ความชอบธรรมกับการ
ทำลายประชาธิปไตยอย่างชัดเจน
ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไทย
ต่อจากนั้นมีการเพิ่มการใช้กฏหมายหมิ่นกษัตริย์ (มาตรา 112)
ในการปิดปากผู้ที่คัดค้านรัฐประหารและทุกอย่างที่ทหารและรัฐบาลอภิสิทธิ์ทำ
ในภายหลัง ในที่สุดมีการเข่นฆ่าประชาชนมือเปล่าด้วยข้ออ้างว่ากำลัง
“ปกป้องสถาบันกษัตริย์” และตลอดเวลาที่มีวิกฤตการเมืองรอบนี้ กษัตริย์ภูมิพลไม่เคยออกมาปกป้องสิทธิเสรีภาพ ประชาธิปไตย
และชีวิตของประชาชนเลย
ดังนั้นเราจำเป็นที่จะต้องศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง ทหาร กษัตริย์ และ กฏหมาย 112 เพื่อให้เราชัดเจนว่าจะแก้ปัญหาเผด็จการตรงจุดใดบ้าง
บท
ความนี้จะเสนอว่าผู้ที่ทำลายประชาธิปไตยไทยอย่างต่อเนื่อง
ตั้งแต่ยุคจอมพลป. พิบูลสงคราม คือทหาร
โดยที่กษัตริย์ภูมิพลมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ
ในการถูกใช้เป็นเครื่องมือเชิงสัญญลักษณ์
เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับทหารเป็นหลัก และกฏหมาย 112 มีไว้เพื่อปิดปากผู้รักประชาธิปไตย เพื่อไม่ให้ตรวจสอบวิพากษ์วิจารณ์พฤติกรรมของทหาร
นอก
จากทหารแล้ว ชนชั้นนายทุนกับข้าราชการชั้นสูงในไทย
ก็พยายามเกาะโหนกษัตริย์ภูมิพลในรูปแบบเดียวกันด้วย
แต่นั้นไม่ได้แปลว่านายภูมิพลเป็น “เหยื่อ” เพราะ
เขาพร้อมใจจะร่วมมือกับทหารและนายทุนเสมอ
และที่สำคัญพร้อมจะรับตำแหน่งการเป็นประมุขของประเทศ
ซึ่งแปลว่าเขาควรมีหน้าที่ในการปกป้องประชาชนและประชาธิปไตยเสมอ
แต่ปรากฏว่านายภูมิพลละเลยหน้าที่นี้มาตลอด
และเลือกที่จะปกป้องคนส่วนน้อยที่เป็นชนชั้นปกครองแทน
ล่าสุดเขาปล่อยให้ทหารกับรัฐบาลประชาธิปัตย์เข่นฆ่าประชาชนเสื้อแดงที่เรียก
ร้องประชาธิปไตยในปี ๒๕๕๓
ในขณะเดียวกันนายภูมิพลเสพสุขจากทรัพย์สินมหาศาล
ที่ควรจะเป็นของประชาชนไทยทุกคนแทนที่จะอยู่ในมือของบุคคลคนเดียว
และยิ่งกว่านั้นในฐานะที่เป็นคนที่รวยที่สุดในประเทศไทยและกษัตริย์ที่รวย
ที่สุดในโลก
เขายังไม่ละอายใจที่จะสั่งสอนคนจนให้เจียมตัวกับความจนภายใต้ลัทธิสุดขั้ว
ที่เรียกว่า “เศรษฐกิจพอเพียง”