หน้าเว็บ

วันพุธที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Wake Up Thailand

Wake Up Thailand
 


Wake Up Thailand ประจำวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2556  ตอนที่ 2 
เป็นเกย์ไม่ต้องแอบถามพงศพัศ 
http://www.dailymotion.com/video/xxb6gt_yy-yyyy 
   

มุมมองใหม่ เรื่องเอกภาพเสื้อแดง 

Wake Up Thailand ประจำวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2556  ตอนที่ 1 
มุมมองใหม่ เรื่องเอกภาพเสื้อแดง
http://www.dailymotion.com/video/xxb5wp_y-yyyyyyy 


ฝรั่งแฉฝรั่งเรื่องไทย

Wake Up Thailand ประจำวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2556 ตอนที่ 2
ฝรั่งแฉฝรั่งเรื่องไทย



 
Wake Up Thailand ประจำวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2556  ตอนที่ 1 
รัก 'มาร์ค' เลือก 'สุขุมพันธุ์' (เอางั้นหรอ) 
http://www.dailymotion.com/video/xxa7nl_y-y 


ความยุติธรรมไม่มีสี

Wake Up Thailand ประจำวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2556  ตอนที่ 2  
ความยุติธรรมไม่มีสี   
http://www.dailymotion.com/video/xxb5wp_y-yyyyyyy     

The Daily Dose

The Daily Dose
 

คงไม่มีใครอยากเรียน รด.เเล้ว…

The Daily Dose ประจำวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2556
คงไม่มีใครอยากเรียน รด.เเล้ว…
http://www.dailymotion.com/video/xxao9o_yyyy- 

The Daily Dose ประจำวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2556
ภาพสมัยมาลีเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส 
http://www.dailymotion.com/video/xx9pzy_yyyyy 

Divas Cafe

Divas Cafe

 

จับ นศท.ไปเกณฑ์ทหาร ! 
 
Divas Cafe ประจำวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2556
จับ นศท.ไปเกณฑ์ทหาร ! 
http://www.dailymotion.com/video/xxb8wz_y-y 
 
 
แม้แต่เกมก็ยังมีไทม์ไลน์

Divas Cafe ประจำวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2556
แม้แต่เกมก็ยังมีไทม์ไลน์
http://www.dailymotion.com/video/xxa9kn_yy-yy 


ได้ยินเสียงประชาชนใน Les Miserables ไหม ?

Divas Cafe ประจำวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2556  
ได้ยินเสียงประชาชนใน Les Miserables ไหม ?
http://www.dailymotion.com/video/xx9eu5_yy- 

โพลล์ไทยอีนิวส์: เสื้อแดงควรตั้งพรรคการเมืองเองหรือไม่

โพลล์ไทยอีนิวส์: เสื้อแดงควรตั้งพรรคการเมืองเองหรือไม่ 



 
http://thaienews.blogspot.dk/2013/02/blog-post_7248.html

สำรวจจากท่านผู้อ่านไทยอีนิวส์ระหว่างวันที่ 27 ม.ค. - 2 ก.พ. 53 โดยมีจำนวนโหวตทั้งสิ้น 1,452 ครั้ง  

ถ้าไม่สร้างพรรคฝ่ายซ้ายในไทย การเมืองจะวนเวียนอยู่ในอ่างน้ำเน่าต่อไป

การ ต่อสู้ของมวลชน... ชัยชนะหรือความพ่ายแพ้... การเสียเลือดเนื้อของประชาชน... การเลือกตั้ง... การปรองดองของชนชั้นปกครองบนซากศพวีรชน... ฆาตกรลอยนวล... อำนาจอำมาตย์ถูกปกป้อง... พรรคการเมืองทำลายความฝันของประชาชน:  นั้นคืออ่างน้ำเน่าของการเมืองไทยในรอบห้าสิบกว่าปีที่ผ่านมา

ทุก วันนี้การจัดตั้งของทหาร การจัดตั้งของพรรคเพื่อไทย บวกกับการคุมมวลชนของ นปช.ให้คล้อยตามการปรองดองของเพื่อไทย ทำลายการต่อสู้ของเสื้อแดงที่ต้องการมากกว่านั้น สาเหตุหลักคือเราไม่มีพรรคฝ่ายซ้ายของเราเองที่จะชาวงชิงมวลชนจาก นปช. และเพื่อไทย เพราะคนก้าวหน้าในสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อแดงหรือนักสหภาพแรงงาน ไม่สนใจและไม่เข้าใจความสำคัญของการสร้างพรรค

ในยุคหลังป่าแตก สมัยรัฐบาลแปรม อดีตนักต่อสู้พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย จะผิดหวังกับ พคท. และหันหลังให้การสร้างพรรค ส่วนหนึ่งกลายเป็น เอ็นจีโอ แล้วการเมืองก็ลื่นไหลไปสู่การจับมือกับพันธมิตรฟาสซิสต์เพราะไม่ให้ความ สำคัญกับการวิเคราะห์การเมืองและการต่อสู้กับอำนาจรัฐ

แต่ หลายปีผ่านไปแล้ว ข้ออ้างเรื่อง พคท. เพื่อปฏิเสธการสร้างพรรคและเน้นเครือข่ายหลวมๆ ตอนนี้ฟังไม่ขึ้น มันกลายเป็นเรื่องของ “ความเคยชินในการทำงาน” หรือ “การหวงความเป็นใหญ่หรือความอิสระของตนเองในกลุ่มเล็กๆ” มากกว่าอะไรอื่น และในขณะที่นักเคลื่อนไหวพูดในนามธรรมว่า “ควรสร้างพรรค” แต่ไม่เคยทำอะไรเพื่อให้เกิดขึ้น ผลคือการหักหลังขบวนการเสื้อแดงโดยเพื่อไทย ทักษิณ และ นปช. และในเมื่อขบวนการเสื้อแดงเคยเป็นขบวนการมวลชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติ ศาสตร์ไทย เราต้องสรุปว่าเป็นการเสียโอกาสมหาศาล และเป็นการละเลยภาระกิจโดยคนก้าวหน้า

ทำไมต้องสร้างพรรคในรูปแบบที่เลนินเคยสร้าง?

การปรองดองของยิ่งลักษณ์ได้แต่ปกป้องอำนาจอำมาตย์

การปรองดองของยิ่งลักษณ์ได้แต่ปกป้องอำนาจอำมาตย์








โดย ใจ อึ๊งภากรณ์

สองปีหลังจากที่ทหารฆ่าประชาชนเสื้อแดงที่ผ่านฟ้าและราชประสงค์ และ 9 เดือน หลังชัยชนะในการเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย เราเห็นได้ชัดว่าเพื่อไทย นายกยิ่งลักษณ์ และอดีตนายกทักษิณ ปรองดองกับทหารมือเปื้อนเลือดบนซากศพคนเสื้อแดง พร้อมกับหันหลังให้กับนักโทษการเมือง ไม่ว่าใครจะแก้ตัวต่างๆ นาๆ ให้รัฐบาล แต่ผมขอยืนยันตรงนี้


ทั้งๆ ที่เสื้อแดงจำนวนมากเลือกรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แต่รัฐบาลตอบแทนด้วยความกระตือรือร้นในแสดงความเป็นมิตรกับอาชญากรอย่าง ประยุทธ์ และอนุพงษ์ และแทนที่จะนำฆาตกรมาขึ้นศาล มีการเลื่อนขั้นและเอาใจทหารมือเปื้อนเลือดแทน นักการเมืองอย่างอภิสิทธิ์และสุเทพก็ลอยนวลเช่นกัน แต่ในกรณีหลังมีการเล่นละครในสภาเพื่อสร้างภาพว่าอยู่คนละข้าง ในความเป็นจริงทั้งสองพรรคการเมืองนี้ไม่ได้อยู่ข้างประชาชน แต่อยู่ข้างอำมาตย์


การที่รัฐบาลเพื่อไทย นำโดยรัฐมนตรีที่มีภาพอื้อฉาวอย่างเฉลิม หรือขี้ข้าเสื้อเหลืองอย่างอนุดิษฐ์ เน้นการเร่งใช้กฏหมายเผด็จการ 112 มาก ขึ้นตั้งแต่ชนะการเลือกตั้ง อาจเป็นความพยายามของพรรคเพื่อไทยและทักษิณที่จะพิสูจน์ “ความจงรักภักดี” แต่ที่สำคัญกว่านั้น เป็นการพิสูจน์ว่าเพื่อไทย ยิ่งลักษณ์ และทักษิณ พร้อมจะคลานและถ่อมตัวต่อกองทัพ และพร้อมจะให้กองทัพมีอำนาจพิเศษนอกรัฐธรรมนูญในการกำหนดสังคมการเมืองไทย เพราะกฏหมาย 112 มีความสำคัญที่สุดในการปกป้องทหาร เพื่อให้ทหารสามารถอ้างความชอบธรรมจากสถาบันกษัตริย์ในทุกอย่างที่ทหารทำ ไม่ว่าจะเป็นการทำรัฐประหาร หรือฆ่าประชาชน


กฏหมายเผด็จการ 112 ถูกใช้ในการทำลายสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก และทำลายประชาธิปไตยมานาน ทุกวันนี้นักโทษ 112 จำนวน มากติดคุกอยู่ในสภาพย่ำแย่ คนอย่างคุณสมยศไม่ได้รับการประกันทั้งๆ ที่ยังไม่มีการตัดสินคดี และคนอย่างอ.สุรชัยหรืออากง ถูกกดดันด้วยอายุและสุขภาพ ให้ “สารภาพผิด” เพื่อหวังได้รับอภัยโทษในอนาคต แต่รัฐบาลตั้งหน้าตั้งตาปฏิเสธที่จะแก้กฏหมายชั่วอันนี้

นักการเมืองเพื่อไทยอาจอ้าง “ภัยจากรัฐประหาร” เพื่อให้ความชอบธรรมกับการปรองดองแบบยอมจำนน แต่ในทางปฏิบัตินโยบายการปรองดองของรัฐบาลมีผลในการปกป้องอำนาจทหารที่จะทำ รัฐประหารอีกในอนาคต ซึ่งคล้ายๆ กับสถานการณ์ในพม่าทุกวันนี้


นอกจากปัญหา 112 และ การไม่ยอมนำฆาตกรมาขึ้นศาลแล้ว ยังไม่มีมาตรการอะไรที่มีความหมายในการปล่อยนักโทษการเมืองเสื้อแดงนอกจาก การตั้งคุกพิเศษ อีกสาเหตุหนึ่งที่รัฐบาลเพื่อไทยไม่ยอมนำทหารและคนอย่างอภิสิทธิ์มาขึ้นศาล ก็อาจเพราะกลัวว่า อาจจะมีคนที่รักความเป็นธรรม เรียกร้องให้นำทักษิณและทหารมาขึ้นศาลในฐานะที่ฆ่าประชาชนมือเปล่าที่ตากใบ ด้วย


ทักษิณคงอยากจะปรองดองแบบจับมือกับอำมาตย์ เพื่อหวังกลับประเทศไทยในอนาคตอันใกล้ ในขณะเดียวกันมีการยกฟ้อง จักรภพ เพ็ญแข ในคดี 112 ซึ่ง อาจเป็นการ “เอาใจ” ทักษิณเพราะคุณจักรภพเคยใกล้ชิดกับทักษิณ แต่นั้นไม่ได้พิสูจน์ว่าคุณจักรภพต้องการปรองดองแบบนี้กับอำมาตย์ เราคงต้องถามเจ้าตัวเอง


การโยนเงินให้ผู้ที่ได้ผลกระทบจากความขัดแย้งทางการเมือง ไม่ใช่การปรองดองหรือการเยียวยาที่แท้จริง มันเหมือนการโยนเงินให้ครอบครัวคนจนโดยเศรษฐี หลังจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ชีวิตมนุษย์ โดยเฉพาะชีวิตวีรชนประชาธิปไตย ตั้งค่าเป็นเงินทองไม่ได้ และยิ่งกว่านั้นเงินนี้มาจากภาษีประชาชนคนจนเอง ไม่ได้เป็นการจ่ายค่าชดเชยโดยทหารฆาตกรจากกระเป๋าตนเองแต่อย่างใด การโยนเงินให้ครอบครัวพลเรือนที่ถูกทหารฆ่าในภาคใต้ก็ไม่ได้นำไปสู่การแก้ ปัญหาสงครามกลางเมืองในภาคใต้แต่อย่างใดอีกด้วย เราจะปล่อยให้พวกนั้นซื้อความสงบด้วยเงินของเราเองแบบนี้หรือ?


แกนนำ นปช. อาจพูดจานามธรรมเรื่องการไม่ทอดทิ้งวีรชนและการช่วยนักโทษ และอาจมีการเสนอปฏิรูปรัฐธรรมนูญเล็กๆ น้อยๆ แต่ในรูปธรรมบทบาทหลักของ นปช. คือการสลายขบวนการและระงับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยแท้ และไม่มีการรณรงค์ให้แก้หรือยกเลิก 112 โดย นปช. แต่อย่างใด


ในขณะที่เพื่อไทย ทหาร และวัง ปรองดองกันเพื่อรักษาสถานภาพของอำมาตย์ และขณะที่คณะกรรมการปรองดองของรัฐสภามีประธานที่เคยทำรัฐประหารเพื่อล้มล้าง ระบบประชาธิปไตย แสงสว่างแห่งความหวังอยู่ที่คณะนิติราษฏร์ที่ต้องการลบผลพวงรัฐประหาร และอยู่ที่ขบวนการเพื่อปฏิรูป 112 คน ก้าวหน้าทุกคนควรช่วยกันสร้างขบวนการมวลชนเพื่อผลักดันสิ่งเหล่านี้ เพราะถ้าเราไม่เคลื่อนไหว การปรองดองก็จะเป็นแค่การปกป้องอำมาตย์บนซากศพวีรชน

(ที่มา)

วิพากษ์หนักสโมสรนักข่าวต่างประเทศในไทย

วิพากษ์หนักสโมสรนักข่าวต่างประเทศในไทย

 

 
แอนดรูว์ แม็คเกรเกอร์ มาร์แชล อดีตผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ประจำประเทศไทยซึ่งตีพิมพ์เว็บไซท์เกี่ยวกับประเทศไทยชื่อว่า Zenjournalist ได้เขียนบนหน้าเฟชบุ๊คของเขาเมื่อวันเสาร์ที่ ๒ กุมภาพันธ์ ศกนี้ วิพากษ์การนิ่งเฉยของสโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศในไทย หรือ FCCT* ที่ไม่ยอมกล่าวถึงกรณีศาลอาญาพิพากษาจำคุกนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข อดีตบรรณาธิการนิตยสาร Voice of Taksin ถึง ๑๑ ปี 


ถึงเวลาต้องบอกความจริงเกี่ยวกับสถาบันอันคร่ำครึ ยะโส และเร้นลับ ซึ่งนับวันจะยิ่งหลงระเริงไปจากความจริง และทำให้ประชาชนในประเทศไทยในศตวรรษที่ ๒๑ ผิดหวังมากขึ้น.....แน่ละผมหมายถึงเอฟซีซีที” 

:สืบเนื่องจากการตัดสินจำคุก สมยศ๑๑ ปี

"ทว่ากฏหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพปฏิบัติการโดยสร้างตัวอย่างจากผู้ที่โชคร้ายบางคนเพื่อฝังความหวาดกลัวในหัวของคนอื่นๆ ทั้งหลาย โทรเลขวิกิลี้คปี ๒๕๕๒ ชี้ให้เห็นถึงยุทธวิธี 'เชือดไก่ให้ลิงดู' คนที่โชคร้ายกลายเป็นเหยื่อจะพบตัวเองตกอยู่ในภาวะฝันร้ายทางกฏหมายแบบคัฟคาเอสก์ ซึ่งการขอประกันตัวถูกปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเชื่อแน่ได้ว่าจะต้องถูกพิพากษาให้ผิด คนที่ตกเป็นเหยื่อส่วนใหญ่ยอมรับสารภาพเพื่อจะได้ลดหย่อนผ่อนโทษ แต่สมยศแสดงพลังใจอันแน่วแน่ของเขาที่จะไม่ยอมรับเช่นนั้น" 

(อ่านต่อ) 
http://thaienews.blogspot.dk/2013/02/blog-post_5723.html 

บันทึกคำบอกเล่าจำเลย: 'พินิจ จันทร์ณรงค์' จากแรงงานต่างประเทศ สู่ นักโทษคดีเผา CTW

บันทึกคำบอกเล่าจำเลย: 'พินิจ จันทร์ณรงค์' จากแรงงานต่างประเทศ สู่ นักโทษคดีเผา CTW

 

 
ที่ปรึกษาอัคคีภัยเซ็นทรัลฯ ยันจำเลยคดีเผา CTW ไม่สามารถวางเพลิงได้
http://www.prachatai.com/journal/2013/01/45013


พินิจ จันทร์ณรงค์ เป็นหนึ่งในผู้ต้องหาเผาห้างเซ็นทรัลเวิลด์ (Central World – CTW) เหตุเกิดเมื่อ 19 พฤษภาคม 2553 เขาถูกจับกุมตัวที่ลานจอดรถของห้าง ทุกวันนี้เขาอยู่ที่เรือนจำพิเศษหลักสี่ร่วมกับผู้ต้องขังเสื้อแดงในคดี เกี่ยวเนื่องทางการเมืองคดีอื่นๆ

คดีเผาเซ็นทรัลเวิลด์นี้มีผู้ต้องหาร่วมกันอีกคนหนึ่งคือ สายชล แพบัว รวมถึงเยาวชนอีก 2 คนซึ่งได้รับการประกันตัวและต่อมาศาลเยาวชนได้พิพากษายกฟ้องไปเมื่อ 12 ธันวาคม 2555  (อ่านที่ศาลยกฟ้อง 2 เยาวชน จำเลยคดีเผาเซ็นทรัลเวิลด์ เจ้าตัววอนเยียวยา "เรียนและงาน") เยาวชนทั้งสองยังโดนข้อหาปล้นเซ็นทรัลเวิลด์ด้วย แต่ภายหลังศาลก็สั่งยกฟ้องเช่นกัน (อ่านที่ยกฟ้อง 2 เยาวชน คดีปล้นเซ็นทรัลเวิลด์ ปี 53-ผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน รอกำหนดโทษ 1 ปี) ขณะที่คดีปล้น จำเลยที่เป็นผู้ใหญ่อีก 7 คน ในจำนวนนี้เป็นหญิง 2 คนถูกขังยาว 1 ปีครึ่งก่อนศาลจะพิพากษายกฟ้อง (อ่านที่ยกฟ้อง! เสื้อแดงปล้น CTW ฝ่าฝืนพ.ร.ก.สั่งจำคุกครึ่งปี หลังถูกขังปีครึ่ง)

วันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมาที่ศาลอาญากรุงเทพใต้คดีนี้สืบพยานเสร็จสิ้น ก่อนนัดฟังคำพิพากษา ในวันที่ 25 มี.ค.นี้ เวลา 9.00 น.

เราคุยกับสายชลผู้ต้องหาร่วมในคดีนี้ไปแล้ว (อ่านที่ บันทึกคำบอกเล่าจำเลย: สายชล แพบัว ) และครั้งนี้เป็นการพูดคุยกับพินิจ ทั้งหมดเป็นเพียงคำบอกเล่าของเขา ซึ่งที่ผ่านมาไม่มีโอกาสได้พูดกับสังคม ส่วนที่เหลือนั้นคงขึ้นกับวิจารณญาณผู้อ่าน

(อ่านต่อ) 
http://www.prachatai.com/journal/2013/02/45142 

เสื้อแดง จี้อธิบดีศาลฯ ขอโทษ-ลาออก หลังขู่เอาผิดผู้วิจารณ์คำตัดสิน “สมยศ”

เสื้อแดง จี้อธิบดีศาลฯ ขอโทษ-ลาออก หลังขู่เอาผิดผู้วิจารณ์คำตัดสิน “สมยศ”

 



แนวร่วมประชาธิปไตยภาคประชาชนและแดงอิสระ 26 จังหวัด ยื่น จม.เปิดผนึก จี้อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ขอโทษ-ลาออก กรณีขู่เอาผิดฐานละเมิดอำนาจศาลผู้วิจารณ์ผลการตัดสินคดี “สมยศ” ชี้เป็นการคุกคามต่อเสรีภาพทางความคิดในการตรวจสอบฝ่ายตุลาการ ยันประชาชนทุกคนต้องวิจารณ์ศาลได้ เสนอปฏิรูปศาลเป็นระบบลูกขุน

4 ก.พ.56 เวลา 11.00 น. เสื้อแดงกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยภาคประชาชน(นปป.)และเสื้อแดงอิสระ 26 จังหวัด ประมาณ 150 คน จัดกิจกรรมในชื่อ “ยุทธการ  ยกพลเข้าเมืองหลวง ทวงคืนอำนาจอธิปไตย(ทางศาล)”  รวมตัวกันที่หน้าห้างเซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว  ริมถนนพหลโยธิน จากนั้นเวลา 13.10 น. ได้เดินทางมาที่หน้าศาลอาญา รัชดา เพื่อยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง นายทวี ประจวบลาภ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาเรียกร้องให้ออกมาแถลงขอโทษหรือลาออกจากการที่ออกมา โต้และขู่เอาผิดฐานละเมิดอำนาจศาลผู้ที่วิจารณ์ผลการตัดสินคดีของนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข ในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยกลุ่มดังกล่าวชี้ว่าพฤติกรรมของอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาเป็นการคุกคามต่อ เสรีภาพทางความคิดในการตรวจสอบการดำเนินงานของฝ่ายตุลาการ

หลังจากยื่นจดหมายกับเจ้าหน้าที่ที่เป็นตัวแทนอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา แล้ว กลุ่มดังกล่าวได้เคลื่อนมาชุมนุมที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และยุติการชุมนุมในเวลา 16.10 น.

(ที่มา)

ไม่ให้ประกัน 'สมยศ' รอบ13 นักกิจกรรม 398 ชื่อส่ง จม.ถึงนายกฯ ประธานศาลฎีกา

ไม่ให้ประกัน 'สมยศ' รอบ13 นักกิจกรรม 398 ชื่อส่ง จม.ถึงนายกฯ ประธานศาลฎีกา 

 




4 ก.พ.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสุกัญญา พฤกษาเกษมสุข ภรรยานายสมยศแจ้งว่าในวันนี้ได้เดินทางเข้าไปยังศาลอาญาเพื่อรับคำสั่งศาล อุทธรณ์เรื่องการขอประกันตัว หลังจากที่ได้ยื่นคำร้องไปทันทีหลังคำพิพากษาเมื่อวันที่  23 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งยกคำร้องตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค.แล้ว ระบุเหตุผลว่า "พิเคราะห์ตามข้อหาและรูปการณ์แห่งคดี กับพยานหลักฐานที่ศาลชั้นต้น ได้พิจารณามาแล้ว นับเป็นเรื่องร้ายแรงและกระทบต่อความรู้สึกและศีลธรรมอันดีของประชาชน ประกอบกับศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยถึงกระทงละ 5 ปี รวมสองกระทง 10 ปี หากจำเลยได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวในระหว่างอุทธรณ์ ให้ยกคำร้อง แจ้งเหตุผลที่ไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวให้จำเลยและผู้ร้องขอประกันตาม เป็นหนังสือโดยเร็ว" ทั้งนี้ การยื่นขอประกันตัวครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 13 แล้ว


วันเดียวกัน นักกิจกรรมทางสังคมและประชาชนทั่วไปรวม 398 คน ส่งสำเนาจดหมายเปิดผนึกถึง 1. ประธานรัฐสภา 2. นายกรัฐมนตรี 3. ประธานศาลฎีกา สำเนาถึง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หลังจากออก "แถลงการณ์นักกิจกรรมสังคมและประชาชนทั่วไปกรณีการตัดสินจำคุก นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข" ซึ่งเผยแพร่ในเฟซบุ๊กในวันที่ 24 มกราคม จนถึงวันที่ 31 มกราคม พ.ศ.2556 จนมีผู้ร่วมลงชื่อทั้งหมด 398 คน โดยจุดมุ่งหมายของการส่งจดหมายนี้คณะผู้ริเริ่มแถลงการณ์ระบุว่า หวังเป็นอย่างยิ่งว่าหน่วยงานทั้งหมดจะรับฟังเสียงของประชาชนและพิจารณา ดำเนินการเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม มิให้มีการนำตัวบทกฎหมายมาเป็นเครื่องมือมาจัดการคุมขังผู้ที่มีความเห็น ต่างทางการเมือง และร่วมผลักดันให้เกิดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น อันเป็นพื้นฐานของสังคมประชาธิปไตยที่แท้จริง