หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2555

อังกฤษถอนคำขู่บุกสถานทูตเอกวาดอร์ จับตัวผู้นำ"วิกีลีกส์"

อังกฤษถอนคำขู่บุกสถานทูตเอกวาดอร์ จับตัวผู้นำ"วิกีลีกส์"

 

 



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 26 ส.ค.ว่า ประธานาธิบดีราเฟเอล คอร์เรล แห่งเอกวาดอร์ แถลงว่า รัฐบาลอังกฤษได้ถอนคำขู่ที่จะเข้าบุกเข้ายังสถานทูตเอกวาดอร์ เพื่อจับกุมตัวนายจูเลียน อัสแสจน์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์"วิกีลีส์"ที่พำนักลี้ภัยในสถานที่ดังกล่าวแล้ว โดยกระทรวงต่างประเทศอังกฤษได้ยืนยันเรื่องนี้ว่าทางการอังกฤษไม่มีคำขู่ที่ จะบุกเข้าสถานทูตเอกวาดอร์ในกรุงลอนดอน

รายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้ เอกวาดอร์แสดงปฎิกิริยาเดือดหลังจากรัฐบาลเตือนว่าอาจจะบุกเข้าจับกุมตัวนาย อัสแสจน์ ซึ่งดอดเข้ากบดานในสถานทูตเอกวาดอร์เป็นเวลากว่า 2 เดือนเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกส่งไปยังสวีเดน เพื่อรับการดำเนินคดีในข้อกล่าวหาละเมิดทางเพศต่อหญิง 2 ราย ขณะที่รัฐบาลอเมริกาใต้ได้ออกมาสนับสนุนจุดยืนของผู้นำเอกวาดอร์ ระบุว่า คำขู่ของอังกฤษไม่สิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้ และจะสร้างกระบวนการที่อันตราย

ก่อนหน้านี้ ผู้นำเอกวาดอร์วิตกว่า หากนายอัสแสจน์ ถูกส่งตัวกลับสวีเดน ก็อาจถูกส่งตัวต่อไปยังสหรัฐ เพื่อรับการดำเนินคดีจากข้อหาตีพิมพ์เอกสารลับของสหรัฐจำนวนมาก และแหล่งข่าวรัฐบาลสหรัฐและยุโรประบุว่าสหรัฐยังไม่ได้ตั้งข้อหาอาญาใด ๆ ต่อผู้ก่อตั้งเว็บไซต์วิกีลีกส์รายนี้ และไม่มีความพยายามจะให้เขาถูกส่งตัวมายังสหรัฐด้วย

(ที่มา) 
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1345957978&grpid=&catid=06&subcatid=0600

ใครลั่นกระสุน-ใครล้ม? "ใคร"พยายามฆ่า!

ใครลั่นกระสุน-ใครล้ม? "ใคร"พยายามฆ่า!




(คลิกดู)

 
คลิ ปนาทีชาย 2 คน แต่งกายชุดทหาร สวมบทบาทคล้ายพลแม่นปืน ใช้ปืนยิงใส่ผู้ชุมนุม เป็นปฏิบัติการส่องเป้าแล้วยิงจน "ล้มแล้ว" ที่ทั้งภาพและเสียงชัดเจนยิ่ง

ส่องเป้าจากกล้องติดปืนที่หลายฝ่ายเรียกตรงกันว่า "สไนเปอร์"

จะ เว้นก็แต่หัวหน้ากองทัพ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เห็นต่างอ้างว่า "ในรูปที่ปรากฏเป็นทหารที่เขาติดกล้องเฉยๆ กล้องตัวนั้นและปืนตัวนั้นไม่ใช่แบบสไนเปอร์ ในตลาดนัดก็มีขาย ที่ใช้สำหรับยิงนก ไม่ใช่สไนเปอร์"

อ้าง "ถามลูกน้องแล้ว เขาบอกว่าไม่ได้ยิงใครสักคน มีแต่โดนยิง"

แต่ภาพที่เห็นชัดตาก็แตกต่าง โดยเฉพาะคลิปบนเว็บไซต์ยูทูบ

ชุด สไนเปอร์ หรือพลแม่นปืน 2 คนปักหลักอยู่บนตึกหน้าสนามมวยลุมพินี ภาพและเสียงยืนยัน ใช้ปืนยิงใส่ผู้ชุมนุมบริเวณบ่อนไก่ เมื่อ 15 พฤษภาคม 2553

แต่งกายชุดทหาร นายแรกยืนถือกล้องเล็งเหมือนเป็นคนชี้เป้า ส่วนอีกคนในท่านั่งเล็งปืน

สิ้นเสียงชี้ "ขว้างระเบิดขวดหลายครั้งแล้วไอ้ตัวนี้"

พลแม่นปืนลั่นไกทันที

ตามด้วยเสียงคนแรก "ล้ม ล้มแล้ว ล้มแล้ว ล้มแล้ว"

ที่ น่าสนใจ จากหลักฐานพบว่า ใกล้กับจุดที่สไนเปอร์ลั่นไกจนมีคลิปออกมานั้น ห้วงเวลาเดียวกันพบข้อมูลว่าหน้าธนาคารกสิกรไทยสาขาพระราม 4 นอกจาก ผู้บาดเจ็บ 2 ราย

ยังมีผู้เสียชีวิต 2 ศพ

"มติชนสุดสัปดาห์" ฉบับมือแม่นปืนเล็งเป้าชีวิตพลเมือง

พาดปก "ล้มแล้ว!!...รู้แล้ว!!"

เพราะรู้แล้ว จึงพร้อมกับการเดินหน้าในคดีกระชับพื้นที่ 98 ศพ ดีเอสไอเปิดฉากคดีใหม่ 

นั่นคือ "คดีพยายามฆ่า"

(ที่มา)
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNME5UY3pOVEl3Tmc9PQ==&sectionid=

อยาก"รู้แล้ว"บ้าง

อยาก"รู้แล้ว"บ้าง
 


 
(คลิกดู)
http://www.youtube.com/watch?v=57-2E_17bKE 

โดยสุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร



เพราะ "สไนเปอร์" โดยแท้

ทำให้คลิปที่ พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด เคยลงลึกถึงขนาดอธิบายคำสนทนาของทหาร 2 นาย ที่กำลัง "ปฏิบัติการ" อะไรบางอย่าง

ในห้วงม็อบคนเสื้อแดง "ร้อน" ขึ้นมาอีก

ล้มแล้ว!!

...รู้แล้ว!!

คือเสียงที่ดังในคลิป

ล้มแล้ว คงหมายถึง "เป้าหมาย" ที่หนึ่งในทหารนั้นลั่นกระสุนจากปืนที่ติดลำกล้องเข้าใส่ จากนั้นทหารอีกคนที่ชี้เป้า รายงานผล

รู้แล้ว เป็นเสียงจากผู้ลั่นไก พร้อมกับมี "ของแถม" ออกไปอีกหนึ่งนัด

จนทหารอีกคนบอกว่า "อย่าซ้ำ"

คลิปนี้แม้จะสั้น แต่ก็สามารถให้ "ข้อเท็จจริง" อะไรได้มาก

อย่างในเบื้องต้น พ.อ.สรรเสริญเคยอธิบายไว้ว่า นี่เป็นปฏิบัติการของพลแม่นปืนระวังป้องกัน ที่ใช้ปืนเอ็ม 16 ติดกล้อง ไม่ใช่สไนเปอร์

ส่วนที่ต้อง "ล้ม" ก็เพราะเป้าหมายเตรียมใช้ระเบิดขว้างใส่เจ้าหน้าที่

และเหตุที่ "รู้แล้ว" (ว่าล้ม) แต่ยิงซ้ำเข้าไป ก็เพราะเป้าหมายเตรียมที่จะขว้างระเบิดอีกรอบ

จากคำอธิบาย แสดงว่า พ.อ.สรรเสริญและทหารมีข้อมูล-ข้อเท็จจริง ค่อนข้างละเอียดในมือ

และนั่นอาจเป็นกุญแจสำคัญที่จะไขประตูไปสู่ห้องแห่งความจริงได้

จึง น่ายินดีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ที่แม้จะหงุดหงิดกับคำว่า สไนเปอร์ ยินดีที่จะให้ทหารซึ่งปัจจุบันเป็นทหารนอกราชการแล้ว ไปให้ปากคำกับดีเอสไอ

ซึ่งคงได้ "ข้อเท็จจริง" จากผู้ปฏิบัติมากขึ้น

ขณะเดียวกัน ดีเอสไอก็คงมีหน้าที่ตามหา "เป้าหมาย" ที่ "ล้มแล้ว" ว่ามี "ระเบิด" ในมือหรือไม่ และมีเป้าหมายจะคุกคาม

เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานหรือไม่

เมื่อข้อเท็จจริงทั้งสองฝ่ายมา "ยันกัน" มาชั่งน้ำหนักว่า เกินกว่าเหตุ หรือเหมาะสมกับสถานการณ์

ก็คงทำให้คนในสังคม ได้มีโอกาสพูดคำว่า "รู้แล้ว" บ้าง

และเมื่อ "รู้แล้ว" หลายๆ "รู้แล้ว" เข้า ความจริงก็จะกระจ่างแจ้งขึ้น

เชื่อว่านี่คือสิ่งที่ทุกคนต้องการ

เมื่อต้องการ ก็ควรเดินไปตามแนวทางที่เอาข้อมูลมาแบต่อหน้ากันให้มากสุด