หน้าเว็บ

วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2554

ผู้สื่อข่าวนิวยอร์กไทมส์ทำสกู๊ปเผย น้ำท่วมไทยเกิดจาก "ฝีมือมนุษย์" ไม่ใช่ "ปริมาณฝนมากกว่าปกติ"

 

ที่มา สำนักข่าวประชาไท แปลและเรียบเรียงจาก As Thailand Floods Spread, Experts Blame Officials, Not Rains.  โดย Seth Mydans)




เซธ เมย์เดนส์ ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญด้านภัยพิบัติของไทย ชี้อุทกภัยที่เกิดขึ้นและลามไปหลายพื้นที่ในเวลานี้ ไม่ได้มาจากปริมาณน้ำฝนที่มากผิดปกติ หากแต่เป็นเพราะการวางแผนการจัดการน้ำและผังเมืองที่ไร้ประสิทธิภาพ

กรุงเทพ - ท่ามกลางอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศไทย ที่ส่งผลให้จังหวัดต่างๆ และนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงโบราณสถานกลายเป็นเมืองบาดาลอยู่ใต้น้ำ ผู้เชี่ยวชาญในการจัดการน้ำชี้ว่า สาเหตุของหายนะครั้งนี้ เป็นผลมาจากฝีมือของมนุษย์


ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ปัจจัยหลักๆ ของอุทกภัยในครั้งนี้ คือ
การตัดไม้ทำลายป่า การปลูกสิ่งก่อสร้างที่มากเกินไปในเขตพื้นที่รับน้ำ การสร้างเขื่อนและการหันเหธารน้ำธรรมชาติ การเจริญเติบโตของเมืองที่กระจัดกระจาย รวมถึงคูคลองในเมืองที่เริ่มอุดตันและการขาดการวางแผน เขาชี้ว่า เขาเคยเตือนทางการไปแล้วหลายครั้งในเรื่องนี้ หากแต่ก็ไม่มีผล


(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1318662527&grpid=&catid=02&subcatid=0202
ไทยน้ำท่วม แต่คนอเมริกา "ยึดวอลล์ สตรีท" พร้อมวรรคทองของนักปรัชญาอันตราย

"เราไม่ใช่พวกเพ้อฝัน แต่เราคือผู้ตื่นจากฝันที่กลายเป็นฝันร้าย"

(ที่มา: บทความ "...เราไม่ใช่พวกเพ้อฝัน แต่เราคือผู้ตื่นจากฝันที่กลายเป็นฝันร้าย" Zizek กล่าวกับผู้ชุมนุม Occupy Wall Street - ซึ่งเป็นการถอดความคำปราศรัยของ Slavoj Zizek (สลาวอย ชิเช็ก) ท่ามกลางกลุ่มผู้ชุมนุม "ยึดครองวอลล์ สตรีท" ในวันที่ 9 ต.ค. 2011  โดย เพจเฟซบุ๊ก Newer Left Preview)


เราทั้งหมดคือผู้แพ้ แต่ผู้แพ้ที่แท้จริงอยู่ตรงวอลล์สตรีทนั่น พวกเขาได้รับการเติมลมหายใจเฮือกสุดท้ายให้ล้มละลายอย่างนุ่มนวลด้วยเงินเป็นพันล้านของพวกเรา เราถูกเรียกว่าพวกสังคมนิยมแต่มันก็มีสังคมนิยมเฉพาะสำหรับพวกคนรวยเสมอ พวกเขาว่าพวกเราไม่เคารพทรัพย์สินส่วนบุคคล แต่ในปี 2008 การล่มสลายทางการเงินสร้างความเสียหายมากกว่าไอ้สิ่งที่พวกเราทำๆ อยู่ทั้งวันทั้งคืนหลายอาทิตย์ที่นี่เสียอีก พวกเขาบอกว่าพวกเราเป็นพวกเพ้อฝัน แต่พวกที่เพ้อฝันจริงๆ คือพวกที่คิดว่าสิ่งต่างๆ มันจะดำเนินไปอย่างที่มันเป็นได้เรื่อยๆ ต่างหาก เราไม่ใช่พวกเพ้อฝัน แต่เราคือผู้ตื่นจากฝันที่กลายเป็นฝันร้าย


เราไม่ได้ทำลายอะไรเลย เราแค่เป็นประจักษ์พยานว่าระบบมันทำลายตัวมันเองอย่างไร เราทั้งหมดรู้จักฉากคลาสสิคจากการ์ตูนกันดี ฉากที่แมวเดินมาถึงหน้าผาแล้วยังเดินต่อไปโดยไม่สนใจว่าไม่มีอะไรบนพื้นอีกแล้ว และมันจะหล่นลงก็ต่อเมื่อมันมองลงด้านล่างและรู้ว่าพื้นที่มันเดินอยู่นั้นว่างเปล่า นี่คือสิ่งที่เรากำลังทำกันอยู่ เรากำลังบอกผู้คนในวอลล์สตรีทว่า "เฮ้ยมองข้างล่างสิ"


(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1318676560&grpid=&catid=02&subcatid=0207

′ยึดวอลล์สตรีท′:หน่อปฏิวัติในป่าคอนกรีต?!

 โดย ปิยะมิตร ปัญญา piyamitara@gmail.com





แนว ความคิดของพวกเขาหลากหลาย บางคนชูป้าย "ยึดแบงก์เป็นของรัฐ" อีกคนใช้กระดาษลัง เขียนข้อความด้วยลายมือพออ่านออก "เดอะ วอลล์ มัสท์ ฟอล" สะท้อนถึงความไม่พอใจในบรรดา "ผู้ละโมบ" ในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท

แนว ความคิดหลักที่ร้อยรัดพวกเขาไว้ และดูเหมือนจะเป็นที่เข้าใจได้และยอมรับได้ของทุกคนก็คือ พวกเขาเป็น 99 เปอร์เซ็นต์ของคนทั้งประเทศ ที่ถูกครอบงำและเอารัดเอาเปรียบจากคนมั่งคั่งเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือ ซึ่งร่ำรวยมหาศาลคิดเป็น 40 เปอร์เซ็นต์ของความมั่งคั่งที่สหรัฐอเมริกามี

พวก เขาพยายามแสดงออกถึงความไม่พอใจต่อความไม่เสมอภาคทางเศรษฐกิจ แสดงความกราดเกรี้ยวต่อการที่ธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ ได้รับความช่วยเหลือเป็นเงินมหาศาลจากรัฐบาล ทั้งๆ ที่เป็นต้นเหตุ เป็นที่มาของความฉิบหายทั้งหลายที่เกิดขึ้น

พวกเขาไม่มีงาน ไม่มีเงิน ไม่มีอนาคต พวกเขาจึงต้องกบฏ


(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1318745199&grpid=01&catid=&subcatid=