หน้าเว็บ

วันเสาร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2555

ความแตกต่าง

 

โดย ปราปต์ บุนปาน 

 

วันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา "กลุ่มมุสลิมเพื่อสันติ" เดินทางไปยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี

เพื่อเรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหา กรณีโรงเรียนมัธยมวัดหนองจอก ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีประชากรมุสลิมอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก

ออกระเบียบห้ามนักเรียนหญิงมุสลิมสวม "ฮิญาบ" ในโรงเรียน

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่กลางปี 2553

มีความพยายามที่จะพูดคุยทำความเข้าใจระหว่างผู้เกี่ยวข้องทุกส่วน

ตั้งแต่ระดับโรงเรียน, ชุมชน, เขตพื้นที่การศึกษา, กระทรวงศึกษาธิการ และรัฐสภา

ทว่า ปัญหากลับยังคงค้างคามาจนถึงปัจจุบัน
ทั้งที่เมื่อเดือนมิถุนายน 2554 ปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้เคยมีหนังสือตอบกลับไปยัง "กลุ่มมุสลิมเพื่อสันติ" ว่า

โรงเรียนมัธยมวัดหนองจอก "ดำเนินการไม่ถูกต้อง" ในการออกระเบียบดังกล่าว

วันเดียวกัน น.ส.อาทิตยา สุไลมาน นักเรียนชั้น ม.6 จากโรงเรียนมัธยมวัดหนองจอก ก็ได้เดินทางไปยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น

นำไปสู่ภาพข่าวในระดับ "เตะตา สะดุดใจ"

เมื่อกลุ่มผู้ประท้วงที่เดินทางไปยื่นหนังสือพร้อมกับ น.ส.อาทิตยา

ทำการก่ออิฐถือปูนสร้างกำแพงจำลอง และพ่นตัวอักษรกราฟฟิตี้ลงบน "กำแพง" เป็นข้อความว่า

"อคติ"

(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1326367435&grpid&catid=02&subcatid=0207
ปรับขบวน สร้างองค์กรนำใหม่


โดย วัฒนะ วรรณ องค์กรเลี้ยวซ้าย
www.turnleftthai.blogspot.com


ดู เหมือน นปช. และพรรคเพื่อไทย จะมีมติร่วมกัน ว่าเราควรพอใจกับโครงสร้างสังคมการเมืองปัจจุบัน เพราะไม่มีความพยายามที่มากพอในการเคลื่อนไหวปรับเปลี่ยนโครงสร้างทางสังคม เพื่อสร้างสังคมใหม่ให้มีประชาธิปไตยมากขึ้น เช่นการลดบทบาทกองทัพ การสร้างมาตรฐานใหม่ในกระบวนการยุติธรรม รวมถึงการลดช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวย แต่อย่าว่าการสร้างสังคมใหม่เลย การสร้างมาตรฐานในสังคมเดิมที่มีอยู่น้อยนิดก็ยังไม่ทำ ไม่ว่าจะเป็นการเร่งปล่อยนักโทษการเมืองที่ถูกจับโดยอำมาตย์ ร่วมถึงการยกเลิกกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน เช่น กฎหมาย 112 กฎหมายคอมพิวเตอร์ กฎหมายฉุกเฉิน ฯลฯ นอกจากไม่ยกเลิกแล้ว แต่ยังมีการบังคับใช้หนักหน่วงยิ่งกว่ารัฐบาลอำมาตย์อีก นี่น่าจะเป็นรูปธรรมที่เพียงพอในการวิเคราะห์จุดยืนของพรรคเพื่อไทย และน่าจะร่วมถึง นปช.แดงทั้งแผ่นดินด้วย ไม่ว่าพวกเขาจะพูดเช่นไร ก็การกระทำมันฟ้อง ว่าไม่คิดจะไปไกลกว่านี้

แน่นอนว่ามันไม่ใช่สิ่งที่เกินคาดหมายของฝ่ายประชาธิปไตยก้าวหน้าแต่อย่างไร ถ้าเราใช้แนวคิดผลประโยชน์ทางชนชั้นเราก็พบว่าพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน หรือพรรคเพื่อไทยปัจจุบัน ล้วนมีผลประโยชน์สอดคล้องกับชนชั้นอำมาตย์มากกว่าผลประโยชน์ของกรรมาชีพและ ชาวนายากจน ดังนั้นการกลับเข้าไปร่วมมือกับอำมาตย์เพื่อคงผลประโยชน์เดิมของพวกเขาคือ สิ่งที่เป็นไปได้และกำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน

ถึงแม้แกนนำ นปช ในหลายระดับ อาจจะมาจากคนธรรมดาที่กล้าหาญ แต่เมื่อต้องเข้าไปอยู่ในพรรคของนายทุน ก็เป็นการยากที่จะสร้างอุดมการณ์ใหม่ ในพรรคนายทุนเพื่อประโยชน์ของคนชั้นล่าง ดังบทเรียนที่เคยเกิดขึ้นในพรรคคอมมิวนิสต์ในหลายประเทศ

แต่คำถามสำคัญที่เราจะต้องช่วยกันหาคำตอบว่า การต่อสู้กว่าห้าปีที่ผ่านมา เราพอใจกับผลที่ได้รับหรือไม่ แน่นอนเมื่อเทียบกับความสูญเสียที่สั่งสมมาเนินนานหลายยุคหลายสมัย ที่พวกอำมาตย์ดูดกินไปจากเรา คงไม่เป็นที่น่าพอใจที่เราจะยอมให้การดูดกินนั้นดำรงอยู่อีกต่อไป

แล้วเราจะทำอะไรกันต่อสำหรับฝ่ายประชาธิปไตยก้าวหน้า? ในเชิงเป้าหมายเฉพาะหน้าเร่งด่วน การเร่งรณรงค์ให้มีการปล่อยนักโทษการเมือง ทั้งจาก กม.112 และกฎหมายอื่นเป็นสิ่งจำเป็น ร่วมถึงการเยี่ยวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการใช้อำนาจรัฐรังแกประชาชนใน เหตุการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมาด้วย นอกจากนั้น การนำคนผิดที่เกี่ยวข้องกับการสังหารประชาชนต้องถูกนำตัวมาลงโทษให้ได้โดย เร็ว

ส่วนเป้าหมายระยะยาวคือการปรับโครงสร้างอำนาจรัฐใหม่ให้อยู่ในมือของประชาชน อย่างแท้จริง ทั้งทางเศรษฐกิจและการเมือง อาทิเช่น กระบวนการยุติธรรม ต้องเชื่อมโยงกับประชาชน การปฏิรูประบบภาษีเพื่อนำเงินจากพวกอำมาตย์มาจัด “รัฐสวัสดิการ” ให้กับประชาชนอย่างทั่วถึงและครบวงจร
แต่ถ้าเราจะทำอย่างนั้นได้ เราจำเป็นต้องมีองค์กรนำในการเคลื่อนไหว ที่ไปไกลกว่า นปช ที่หยุดเคลื่อนไหว หรือพรรคเพื่อไทย ที่เป็นตัวแทนพรรคของนายทุน ซึ่งเราจำเป็นจะต้องสร้างพรรคเพื่อการเคลื่อนไหวของประชาชนขึ้นมาใหม่ ซึ่งต้องเป็นพรรคที่เป็นตัวแทนของผู้ถูกกดขี่ทั้งมวล โดยเฉพาะเป็นพรรคที่เป็นตัวแทนของกรรมาชีพและชาวนายากจน แม้ข้อเสนอแบบนี้อาจจะดูเป็นนามธรรม และยากในการจะทำให้ประสบผลสำเร็จ แต่เราต้องไม่ลืมว่า  หลังการรัฐประหารปี 49 ว่า เราก็ไม่ได้เข้มแข็งเช่นทุกวันนี้ เรายังทำกันได้ และถ้าเราจะทำเพิ่มจากเดิมทำไมจะทำไม่ได้ แต่แน่นอนมันเป็นการทำงานระยะยาว ที่ระหว่างทางยังต้องถกเถียงแนวความคิด ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี กันอีกมาก แต่การเริ่มต้นเร็วเท่าไร มันก็จะทำให้ระยะทางไปสู่ผลสำเร็จสั้นลงเท่านั้น

ถึงเวลาแล้วที่ฝ่ายประชาธิปไตยก้าวหน้า ต้องหันมาทบทวนถกเถียงกันเพื่อสร้างองค์กรนำใหม่ ก่อนที่จะถูก นปช และพรรคเพื่อไทยสลายพลังการต่อสู้ของมวลชนไปในที่สุด
turnleftthai.blogspot.com

กองทัพสหรัฐทราบตัวทหาร"ปัสสาวะรดศพ"นักรบตาลีบันแล้ว ปธน.อัฟกันจี้มะกันลากตัวมาลงโทษ

กองทัพสหรัฐทราบตัวทหาร"ปัสสาวะรดศพ"นักรบตาลีบันแล้ว ปธน.อัฟกันจี้มะกันลากตัวมาลงโทษ

 

เจ้า หน้าที่กองทัพเรือสหรัฐฯเผยว่า สามารถระบุตัวนาวิกโยธินที่ปัสสาวะรดใส่ศพสมาชิกกลุ่มตาลิบันที่เสียชีวิต แล้วจากภาพวิดีโอได้ 2 จาก 4 นาย




วิดีโอ ดังกล่าวซึ่งมีการนำมาเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งยังไม่ทราบแหล่งที่มาแน่ชัด เป็นภาพของชาย 4 คนซึ่งสวมเครื่องแบบทหารสหรัฐฯ กำลังปลดทุกข์ลงบนร่างของนักรบกลุ่มตาลิบันที่เปื้อนเลือด 3 ศพที่นอนอยู่บนพื้น และเหมือนจะทราบด้วยว่ามีการบันทึกภาพอยู่

โดยกระทรวง กลาโหมสหรัฐฯ กล่าวแถลงการณ์ประณามการกระทำครั้งนี้ว่า แม้จะยังไม่อาจยืนยันที่มาหรือความจริงแท้ของคลิปวิดีโอ แต่สิ่งที่ปรากฏถือว่าขัดต่อค่านิยมหลักของกองทัพ และไม่ใช่คุณลักษณะที่นาวิกโยธินพึงกระทำ และเหตุการณ์ดังกล่าวจะต้องได้รับตรวจสอบอย่างละเอียด

ทั้ง นี้ เจ้าหน้าที่ไม่อาจยืนยันได้ว่านาวิกโยธินทั้ง 4 นาย ขณะนี้ประจำการอยู่ที่ใด แต่รายงานชี้เพียงว่า หน่วยงานของทั้ง 4 นายตั้งอยู่ที่ฐานทัพเรือเลอจูน รัฐนอร์ธ แคโรไลนา และขึ้นตรงอยู่กับกองพันที่ 3 กรมทหารเรือที่ 2 ซึ่งหน่วยงานดังกล่าวมีหน้าที่ในการต่อสู้และรักษาสันติภาพ ทั้งในอิรัก อัฟกานิสถาน และปฏิบัติภารกิจที่อ่าวกวนตานาโม กระทั่งการช่วยดับไฟป่าในรัฐไอดาโฮ หน่วยดังกล่าวเข้าประจำการในอัฟกานิสถานในช่วงต้นปี 2011 และกลับมาสหรัฐฯในช่วงเดือนกันยายนหรือตุลาคม  อย่างไรก็ดี กองทัพยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อผู้ต้องสงสัยทั้งหมดได้ เนื่องจากเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ระหว่างการสอบสวน

(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1326421362&grpid=&catid=06&subcatid=0600

"เฮซบอลเลาะห์" ปัดคนถูกจับในไทยไม่ใช่สมาชิก นักวิเคราะห์ "เห็นต่าง" ประเด็นก่อการร้าย

"เฮซบอลเลาะห์" ปัดคนถูกจับในไทยไม่ใช่สมาชิก นักวิเคราะห์ "เห็นต่าง" ประเด็นก่อการร้าย

 

 

สำนักข่าวต่างชาติได้รายงานถึงกรณีไทยจับกุมคนร้ายกลุ่ม เฮซบอลเลาะห์ โดยเว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษรายงานว่า นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษได้รับการแจ้งเตือนเมื่อวันที่ 13 มกราคมว่า ให้ระมัดระวังความเป็นไปได้ที่จะมีการโจมตีเป้าหมายชาติตะวันตกในประเทศไทย หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถสกัดแผนการก่อวินาศกรรมใน กทม.ได้

 

ขณะที่เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็น รายงานข่าวการจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยชาวเลบานอนของทางการไทย หลังพบว่าผู้ต้องสงสัยพยายามก่อเหตุก่อการร้ายใน กทม. โดยการจับกุมมีขึ้นวันเดียวกับที่สหรัฐอเมริกาได้ประกาศเตือนพลเมืองของตน เองที่อยู่ในประเทศไทย ให้ระวังการก่อการร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นในแหล่งท่องเที่ยวที่พลุกพล่านใน กทม. ขณะที่สำนักงานเพื่อการท่องเที่ยวของอิสราเอล ได้ออกประกาศเตือนขั้นรุนแรงสำหรับการเดินทางมายัง กทม. โดยระบุว่า ผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับกุมตัวเป็นสมาชิกของกลุ่มเฮซบอลเลาะห์ และเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มที่กำลังวางแผนโจมตี กทม.

(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1326552138&grpid=&catid=06&subcatid=0600

"สุจิตต์-ปราบดา" นำคณะนักเขียนแสงสำนึกออกจม.เปิดผนึกเรียกร้องแก้ไขม.112 ตามร่าง "นิติราษฎร์"

"สุจิตต์-ปราบดา" นำคณะนักเขียนแสงสำนึกออกจม.เปิดผนึกเรียกร้องแก้ไขม.112 ตามร่าง "นิติราษฎร์"






จดหมายเปิดผนึกถึงเพื่อนนักเขียนและประชาชนชาว ไทยทั่วประเทศเรื่อง เชิญร่วมลงนามผลักดันการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ตามร่างแก้ไขของคณะนิติราษฎร์ เข้าสู่รัฐสภา


ใน เดือนกรกฎาคม ปี พ.ศ. 2554 นักเขียนไทยทั่วประเทศจำนวน 365 คน ได้ลงนามแสดงความเห็นร่วมกันว่าประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112หรือ "กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ" สมควรได้รับการทบทวนแก้ไขให้สอดคล้องกับสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานว่าด้วย เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชนภายใต้ระบอบปกครองประชาธิปไตย และเพื่อป้องกันมิให้สถาบันกษัตริย์ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง อันเป็นปัจจัยสำคัญหนึ่งที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ความเหลื่อมล้ำ และความรุนแรงในสังคมไทยอย่างไม่อาจปฏิเสธได้


นอกจากเสียงเรียกร้องของนักเขียนต่างแขนงเกือบสี่ร้อยคนทั่วประเทศ ยังมีประชาชนอีกหลายกลุ่มหลายฝ่าย รวมถึงอดีตนายกรัฐมนตรี นักวิชาการ และปัญญาชนผู้มีอิทธิพลทางความคิดและเป็นที่นับถือของสังคมในระดับกว้าง กระทั่งกลุ่มคนที่มีอุดมการณ์และบทบาททางการเมืองแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ออกมาแสดงความเห็นพ้องในเวทีสาธารณะ ว่าการบังคับใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มีปัญหา และจำเป็นต้องได้รับการปฏิรูปแก้ไขโดยเร่งด่วน เพื่อผลักดันให้สังคมไทยก้าวไปสู่ความเป็นอารยะ มีความเป็นธรรม ความเมตตา ความสงบ และความเจริญ ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ในสังคมไทยกับการบังคับใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ยังมิได้เปลี่ยนแปรไปในทางที่ดีขึ้น ตรงกันข้าม การใช้กฎหมายดังกล่าวเพื่อกลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ คุกคาม และคุมขังประชาชน ด้วยการตัดสินที่ไม่เป็นธรรมและอัตราโทษรุนแรงเกินกว่าเหตุ กลับดำเนินมาอย่างต่อเนื่องและบ่อยครั้งขึ้นอย่างน่าวิตก ตั้งแต่กลางปี พ.ศ. 2554 จนถึงปัจจุบัน

คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพหลายคดีในปี พ.ศ. 2554 ได้กลายเป็นประเด็นทางสังคมที่มีการพูดถึงอย่างกว้างขวาง การพิพากษาตัดสินผู้ต้องหาถูกตั้งคำถามทั้งโดยประชาชนไทยและโดยสายตาประชาคม โลก สร้างความสั่นคลอนให้กับความน่าเชื่อถือของกระบวนการยุติธรรมไทยและความ เคารพในสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของมนุษย์ในสังคมไทยอย่างรุนแรงยิ่งขึ้น เรื่อยๆ
 

นอกจากนั้น ยังมีสื่อไร้จรรยาบรรณและผู้ไม่หวังดีต่ออนาคตของชาติจำนวนหนึ่ง พยายามบิดเบือน ใส่ร้าย และโจมตีการเรียกร้องให้มีการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่าเป็นพฤติกรรม "ล้มสถาบัน" "ล้มเจ้า" "ไม่รักชาติ" กระทั่งกล่าวหาว่าการรณรงค์แก้ไขนับเป็นการละเมิดกฎหมายมาตรา 112 เสียเอง ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ความสับสน และความขัดแย้งเพิ่มขึ้นในสังคม

(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1326533939&grpid=&catid=02&subcatid=0207

วอร์มอัพกับ "สมศักดิ์-เกษียร" ก่อนกิจกรรม "แก้ไขม.112" โดย "ครก.112-คณะนิติราษฎร์" วันที่ 15 ม.ค.นี้



นิติราษฎร์



สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล



เกษียร เตชะพีระ


วันที่ 15 มกราคมนี้ ในเวลาตั้งแต่ 13.00 น. เป็นต้นไป ที่หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ จะมีการจัดเวทีวิชาการ - ศิลปวัฒนธรรม "แก้ไขมาตรา 112" โดย คณะรณรงค์แก้ไขมาตรา 112 (ครก.112) ซึ่งมีกำหนดการ ดังนี้


13.00 – 13.15 น.  เปิดตัวคณะรณรงค์แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 112 หรือ ครก.112 อ่านแถลงการณ์โดย รศ.ดร.กฤตยา อาชวนิจกุล ตัวแทนครก.112 และนักวิชาการสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล


13.15 - 13.30 น. ปาฐกถา "ทำไมจึงต้องแก้ไขมาตรา 112" (บันทึกเทป) โดย ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์


13.30 – 13.50 น. นำเสนอวิดีทัศน์ "เส้นทางกฎหมายหมิ่น"


13.50 – 14.10 น. กิจกรรมศิลปวัฒนธรรมช่วงที่หนึ่ง
 วิดีโอ “เงียบจนแสบแก้วหู” โดย กลุ่มศิลปิน นิติม่อน
 ละครเวที หายนะ (Catastrophe) โดย ซามูเอล เบคเกตต์ (Samuel Beckett) โดยกลุ่มละครอิสระ


14.10 – 15.10 น. กิจกรรมวิชาการช่วงที่หนึ่ง
 ข้อเสนอเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ของคณะนิติราษฎร์ และกระบวนการเข้าชื่อเสนอกฎหมาย โดย คณะนิติราษฎร์


15.10 – 15.50 น.  กิจกรรมศิลปวัฒนธรรมช่วงที่สอง
 อ่านบทกวีและแถลงการณ์ โดยกลุ่มกวีราษฎร์


15.50 -17.00 น. กิจกรรมวิชาการช่วงที่สอง

ตอบ คำถามคาใจ: ทำไมต้องแก้ 112 โดย ผศ.ดร. พวงทอง ภวัครพันธุ์ กลุ่มสันติประชาธรรม และอาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ผศ.ดร.ยุกติ มุกดาวิจิตร กลุ่มสันติประชาธรรม และอาจารย์ประจำคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, วาด รวี คณะนักเขียนแสงสำนึก และ อ.สาวตรี สุขศรี กลุ่มนิติราษฎร์ ดำเนินรายการโดย ผศ.เวียงรัฐ เนติโพธิ์ กลุ่มสันติประชาธรรม และอาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

17.00 – 17.30 น.  ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ นำเอกสารเข้าชื่อเสนอแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา112 หย่อนลงในกล่องรับรายชื่อ


ดำเนินรายการตลอดงาน โดย อ.วันรัก สุวรรณวัฒนา อาจารย์ประจำคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์



(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1326547304&grpid=&catid=01&subcatid=0100

ฮือฮา! เกมส์ชิงแชมป์โลก "ทักษิณ VS อภิสิทธิ์"

ฮือฮา! เกมส์ชิงแชมป์โลก "ทักษิณ VS อภิสิทธิ์"
(คลิกดู) 
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v

มาตรการ เยียวยา จุดต่าง ของ 2 รัฐบาล มืด สว่าง ดำ ขาว

มาตรการ เยียวยา จุดต่าง ของ 2 รัฐบาล มืด สว่าง ดำ ขาว



 

 

มิได้เป็นเรื่องแปลกที่พรรคประชาธิปัตย์จะพาเหรดมาคัดค้าน ต่อต้านมาตรการเยียวยา ฟื้นฟู เหยื่อผู้เสียหาย ตลอดจนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงหรือความขัดแย้งทางการเมือง

มิใช่เพราะว่าศพละ 7.75 ล้านบาทมากเกินไป

แม้ว่าศพนี้จะครอบคลุมถึงกรณีของการชุมนุมบริเวณหน้ารัฐสภาเมื่อเดือนตุลาคม 2551 ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มีความเห็นใจอย่างลึกซึ้งก็ตาม

หากแต่จำเป็นต้อง "ค้าน" จำเป็นต้อง "ต่อต้าน"
เพราะว่าสถานการณ์การตาย 91 ศพ ในเดือนเมษายนต่อเนื่องไปยังเดือนพฤษภาคม 2553 อยู่ในความรับผิดชอบของพรรคประชาธิปัตย์โดยตรง

เนื่องจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี

เนื่องจาก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เป็นรองนายกรัฐมนตรีและเป็นผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.)

อย่าได้แปลกใจหากคนของพรรคประชาธิปัตย์จะนำเรื่องฟ้องศาลปกครอง

อย่า ได้แปลกใจหากคนของพรรคประชาธิปัตย์จะนำเรื่องเข้าแจ้งความต่อเจ้าพนักงานสอบ สวนที่ สน.ดุสิต กล่าวหาว่า ครม.กระทำผิดมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

กระนั้น ความข้องใจอย่างสำคัญอยู่ที่กระบวนการอ้างเหตุผลในการคัดค้าน ต่อต้าน
 


(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1326526498&grpid=01&catid=&subcatid=

คนใต้ยันไม่เอา ‘เมกะโปรเจ็กต์’ โต้ EIA เชฟรอนบิดเบือนข้อมูล

คนใต้ยันไม่เอา ‘เมกะโปรเจ็กต์’ โต้ EIA เชฟรอนบิดเบือนข้อมูล

 

ไม่เอา – ตัวแทนจากจังหวัดต่างๆ ในภาคใต้ ขึ้นเวทีร่วมกับนักวิชาการ ประกาศไม่เอาเมกะโปรเจ็กต์ ที่กำหนดไว้ในแผนพัฒนาภาคใต้

อารีด้า สาเม๊าะ, ฮัสซัน โตะดง, มีณา เหตุหาก
โรงเรียนนักข่าวชายแดนใต้ ศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ (DSJ)

คนใต้ประสานเสียง ไม่เอาเมกะโปรเจ็กต์ “ชาวท่าศาลา” ยันพร้อมปกป้องแหล่งอาหารโลก โต้ EIA เชฟรอน บิดเบือนข้อมูล คนสตูลระบุท่าเรือน้ำลึกปากบาราเกิดเมื่อไหร่ ตรัง สตูล สงขลา เจอผลกระทบเต็มๆ ชี้ขุมทรัพย์เมืองสตูลมีหลากหลาย อยู่ได้ยั่งยืน

(อ่านต่อ) 

http://www.prachatai.com/journal/2012/01/38750

"สงวน พงษ์มณี" เดินหน้าแก้รธน. ล้วงลูก"กองทัพ"เขียนกม.ปกป้องตนเอง อนาคตส่อเกิดสงครามศาสนาภายในประเทศ

"สงวน พงษ์มณี" เดินหน้าแก้รธน. ล้วงลูก"กองทัพ"เขียนกม.ปกป้องตนเอง อนาคตส่อเกิดสงครามศาสนาภายในประเทศ


เรื่องที่อยู่ในกระแสสังคมในขณะนี้ คงจะหนีไม่พ้นประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หลังจากส.ส.พรรคเพื่อไทย เดินหน้าที่จะแก้ไขมาตรา 291 ให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมายกร่างชุดหนึ่ง


เช่นเดียวกับวิปรัฐบาล และนักวิชาการหลายๆ คนที่เห็นพ้องต้องกัน


ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 291 ที่จะให้มีการตั้งคณะกรรมการยกร่าง และมีตัวแทนมาจากภาคประชาชน เป็นผู้มีความรู้ เป็นที่ยอมรับของประชาชน เพราะการแก้รัฐธรรมนูญเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วน แต่จะต้องมีการหารือกันอีกครั้ง


ส่วนเมื่อไหร่นั้น นายกฯ อ้างว่า ยังไม่มีข้อสรุปเรื่องนี้ เช่นเดียวกับการดำเนินการ จะต้องเป็นไปตามกระบวรการของรัฐสภา ซึ่งตอนนี้ต้องเร่งฟื้นฟูเยียวยาหลังน้ำท่วมก่อน แต่อย่างไรแล้วก็ไม่ได้ละทิ้งการแก้รัฐธรรมนูญ

จากกรณีดังกล่าว นายสงวน พงษ์มณี ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.ลำพูน ซึ่งเป็นหนึ่งในส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ในการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญมาอย่างต่อเนื่อง

(อ่านต่อ)

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1326434828&grpid=01&catid=&subcatid=

ทำความรู้จัก "เฮซบอลเลาะห์" องค์กรก่อการร้ายเขย่าโลก

ทำความรู้จัก "เฮซบอลเลาะห์" องค์กรก่อการร้ายเขย่าโลก


 

เฮซบอลเลาะห์ แปลตามตัวอักษร มีความหมายว่า "พรรคแห่งพระเจ้า" เป็นองค์กรเคลื่อนไหวทางการเมืองและการทหารที่ทรงอิทธิพลในประเทศเลบานอน เริ่มแรกจัดตั้งขึ้นโดยกลุ่มติดอาวุธมุสลิมนิกายชีอะห์กลุ่มเล็กๆ ในช่วงทศวรรษ 1980 โดยได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากอิหร่านเป็นสำคัญ ภายใต้ความมุ่งหมายที่จะต่อสู้ผลักดันกองทัพอิสราเอลที่รุกรานเลบานอนในช่วง เวลานั้นให้ออกไปจากดินแดนเลบานอน

การประกาศตัวเป็นปรปักษ์อย่าง แข็งกร้าวต่ออิสราเอลถูกบรรจุเป็นหนึ่งในอุดมการณ์สำคัญของกลุ่มเฮซบอลเลาะ ห์ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากอยาตอลเลาะห์ โคไมนี ผู้นำทางจิตวิญญาณของอิหร่าน ซึ่งยังได้ส่งกองกำลังปฏิวัติอิหร่านเข้ามาช่วยฝึกทางการทหารและจัดตั้ง กลุ่มให้แก่เฮซบอลเลาะห์ จนกระทั่งกลุ่มติดอาวุธกลุ่มนี้สามารถประสบผลสำเร็จในการขับไล่ทหารอิสราเอล ออกไปจากเลบานอนได้เป็นผลสำเร็จในปี 2543

กลุ่มเฮซบอลเลาะห์ค่อยๆ เติบโตเป็นองค์กรทางการเมืองที่มีความแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ สามารถแทรกตัวเข้าไปมีที่นั่งในรัฐบาล เข้าควบคุมสื่อวิทยุ โทรทัศน์ดาวเทียม และโครงการเพื่อการพัฒนาทางสังคมองค์กรต่างๆ กลุ่มเฮซบอลเลาะห์ยังได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างมากจากชาวมุสลิมชีอะห์ใน เลบานอนด้วย

สหรัฐอเมริกา เนเธอร์แลนด์ อังกฤษ อิสราเอล ออสเตรเลีย และแคนาดา จัดให้กลุ่มเฮซบอลเลาะห์เป็นองค์กรก่อการร้าย


(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1326527471&grpid=&catid=03&subcatid=0305

นักข่าวพลเมือง: นศ.ค้าน ม.นอกระบบยื่นหนังสือยิ่งลักษณ์

นักข่าวพลเมือง: นศ.ค้าน ม.นอกระบบยื่นหนังสือยิ่งลักษณ์



แนวร่วมนิสิตนักศึกษาคัดค้านการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบยื่นหนังสือนายกยิ่ง ลักษณ์ เสนอยุติการนำมหาลัยออกนอกระบบ ขอรัฐสวัสดิการเรียนฟรีถึงปริญาตรีเป็นของขวัญวันเด็ก
 
เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2554 เวลาประมาณ 9.20 น. ตัวแทน แนวร่วมนิสิตนักศึกษาคัดค้านการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ จากมหาลัยต่างๆ ประมาณ 30 คน ได้เข้ายื่นหนังสือต่อท่านนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในระหว่างท่านนายกกำลังเยี่ยมชมงานวันเด็กที่กระทรวงศึกษาธิการเป็นเจ้าภาพ ที่สนามเสือป่า โดยมีข้อเสนอสำคัญคือ การยุติการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ และการจัดการศึกษาในระบบรัฐสวัสดิการเรียนฟรีถึงปริญญาตรี

นางสาวศศิประภา ไร่สงวน ตัวแทนนักศึกษา แนวร่วมนิสิตนักศึกษาคัดค้านการนำมหาวิทยาลัยออกนอกระบบ จากม.ขอนแก่นกล่าวว่า ในส่วนม.ขอนแก่นนั้นเราเคยยื่น หนังสือคัดค้านการนำมหาลัยออกนอกระบบมาก่อนหน้านีแล้ว แต่อธิการไม่มีท่าทีตอบรับใดๆ และบอกเพียงว่า มหาวิทยาลัยต้องปฏิบัติตามนโยบายของรัฐ เราจึงคิดว่าควรมายื่นหนังสือต่อท่านนายก เพื่อให้ท่านรับทราบว่า รัฐบาลควรมีแนวนโยบายที่ชัดเจนในการการยุติการนำมหาวทยาลัยออกนอกระบบ

(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2012/01/38751