กษัตริย์บาห์เรน อาชญากรมือเปื้อนเลือด // นสพ.เลี้ยวซ้าย ปีที่ 8 ฉบับที่ 12 พฤษภาคม 56
วันอาทิตย์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2556
หลังยึด...หลังปราบ! เรื่องใหม่ในการเมืองไทย
หลังยึด...หลังปราบ! เรื่องใหม่ในการเมืองไทย
"ประเทศในทางการเมืองก็เหมือนกับป่า เราจำเป็นต้องตัดต้นไม้เก่าออกไป เพื่อเปิดโอกาสให้ต้นไม้ใหม่เติบโตขึ้นทดแทนกัน"
Walter Bagehot
นักเขียนชาวอังกฤษ
(ค.ศ.1826-77)
ไม่ น่าเชื่อว่าการยึดอำนาจในการเมืองไทยครั้งก่อนผ่านไปเกือบจะ 8 ปีแล้ว เช่นเดียวกับการล้อมปราบครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นใจกลางเมืองหลวงผ่านไปครบรอบ 3 ปี... การเมืองไทยหลังเหตุการณ์ใหญ่ทั้งสองครั้งเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก และเปลี่ยนแปลงไปจนต้องยอมรับว่า ไม่มีทางที่จะหวนคืนกลับมาเหมือนเก่าอีกต่อไป
หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ การเมืองที่เกิดขึ้นหลังจากรัฐประหาร 2549 และหลังจากการปราบปรามใหญ่ที่ทุ่งราชประสงค์ในปี 2553 แล้ว การเมืองไทยเป็น "การเมืองใหม่" ที่ต้องการการพิจารณาด้วยความรอบคอบเป็นอย่างยิ่ง
ความเปลี่ยนแปลงประการแรกที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ อำนาจอันทรงพลังของกองทัพที่มีการรัฐประหารเป็นเครื่องมือนั้น เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
แน่ นอนว่าชนชั้นนำและผู้นำทหารอาจจะยังคงยึดกุมเครื่องมือเหล่านี้ไว้ได้ แต่พลังของเครื่องมือดังกล่าวก็แตกต่างไปจากเดิมอย่างมากจนต้องยอมรับว่า การยึดอำนาจยังเป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้ในการเมืองไทย แต่ผลหลังจากการยึดอำนาจเป็นสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้อีกต่อไป
สภาพ เช่นนี้ทำให้ปัญหาทหารกับการเมืองไทยไม่เหมือนเช่นในอดีต เพราะแม้ผู้นำกองทัพจะยังคงมีอำนาจในทางกายภาพที่คุมอาวุธแบบต่างๆ ไว้ในมือ แต่โอกาสการใช้เครื่องมือเช่นนี้กลับมีความจำกัดอย่างไม่เคยมีมาก่อนในการ เมืองไทย
เพราะแม้พวกเขาจะประสบความสำเร็จในการยึดอำนาจ แต่ก็อาจจะต้องเผชิญหน้ากับการต่อต้านจากประชาชนเป็นจำนวนมากได้ไม่ยากนัก
ปรากฏการณ์ เช่นนี้กำลังบอกแก่เราว่า ผู้คนโดยทั่วไปที่ไม่ยอมรับการใช้กำลังของทหารในการเมืองไทยนั้น พร้อมที่จะลุกขึ้นเป็นผู้ประท้วงหรือแสดงออกด้วยการต่อต้านการใช้กำลังทหาร ได้โดยไม่ลังเล
และที่สำคัญก็คือ พวกเขาพร้อมจะต่อต้านอย่างสุดแรงด้วยวิธีการต่างๆ จนทำให้เกิดการคาดคะเนถึงสถานการณ์ของการใช้กำลังทหารในการเมือง ไม่ว่าจะเป็นการยึดอำนาจโดยตรง หรือจะเป็นการใช้กำลังเข้าปราบปรามผู้ชุมนุมก็ตาม สิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นตามมาก็คือ การจับอาวุธเข้าต่อสู้กับฝ่ายทหาร
ดัง นั้น จึงไม่แปลกอะไรนักที่นักสังเกตการณ์ระหว่างประเทศหลายคนจะยังคงมีความกังวล ว่า หากชนชั้นนำและผู้นำทหารตัดสินใจใช้กำลังในการแทรกแซงทางการเมืองเช่นที่ ผ่านมาแล้ว ก็อาจจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของสถานการณ์สงครามกลางเมืองในไทยได้ไม่ยากนัก
หรือ อย่างน้อยก็มีผู้เชื่อว่า ถ้าเกิดเช่นนี้จริง ก็จะเป็นโอกาสของสถานการณ์ "Thai Spring" ในแบบที่เกิดปรากฏการณ์ในโลกอาหรับ (Arab Spring) มาแล้ว
[ไม่ใช่ Thai Spring ที่กำลังเกิดขึ้นในสื่อสังคมไทยปัจจุบัน]
แรง ต้านทานเช่นนี้มีส่วนอย่างมากที่จะเป็นเครื่องยับยั้งการตัดสินใจของกลุ่ม ดังกล่าวที่ตัดสินใจผลักดันการเมืองไทยให้กลับสู่วิธีการเดิมด้วยการใช้ กำลังทหาร
"รัฐไทยก่อรุนแรง" แกนนำ"บีอาร์เอ็น"แพร่คลิปรอบ3อัดรัฐบาล อ้างทำชาวปาตานีถูกทำร้าย-รังแก
"รัฐไทยก่อรุนแรง" แกนนำ"บีอาร์เอ็น"แพร่คลิปรอบ3อัดรัฐบาล อ้างทำชาวปาตานีถูกทำร้าย-รังแก
ชัดเจนทุกถ้อยคำ ก่อนหน้าที่เกิดเหตุก็จะโยนว่าโจรใต้อย่างเดียว แต่วันนี้เขาออกประกาศชัดเจนเลย
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=9vCoPDi80Rc
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม ที่ผ่านมา นายฮัสซัน ตอยิบ และนายอับดุลการิม คาลิบ ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นแกนนำขบวนการบีอาร์เอ็น ได้แถลงผ่านคลิปวิดีโอเผยแพร่ทางเว็บไซต์ youtube ความยาว 4.34 นาที เนื้อหาโดยสรุประบุว่า หลังจากมีการพูดคุยสันติภาพกับตัวแทนรัฐไทย และบีอาร์เอ็นเรียกร้อง 5 ข้อ ก็มีการก่อความรุนแรงกับชาวปาตานีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเหตุการณ์กราดยิง 6 ศพ ที่เกิดขึ้นในตัวเมืองปัตตานี เมื่อค่ำวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยที่แกนนำบีอาร์เอ็นรายนี้ได้มีการพูดพาดพิงถึงการนำเสนอข่าวของสื่อไทย ด้วย
นายอับดุลการิม กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาในรอบหลายปี เกิดเหตุที่ไอร์ปาแย (กราดยิงในมัสยิด อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส) ที่บองอ (อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เป็นเหตุกราดยิงชาวบ้าน) ที่กาโสด (อ.บันนังสตา จ.ยะลา เป็นเหตุกราดยิงร้านน้ำชา) กราดยิงปอเนาะ เป็นที่รู้กัน อยากฝากให้รัฐไทยเลิกสร้างความรุนแรงต่อชาวปาตานี โดยเฉพาะโต๊ะอิหม่าม กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ครู อุสตาซ อบต.
"ถ้าเราจะกล่าวถึงความวุ่นวายที่ปัตตานี เราจะต้องศึกษาประวัติศาสตร์ปัตตานี หลังจากสยามเข้ามาปกครองเมื่อปี 1785 ได้มีการกระทำการข่มเหง ทารุณกรรม กดขี่ต่อชาวปัตตานี จึงเกิดกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้าน เพื่อความเป็นอิสระหรือเอกราชและให้หลุดพ้นจากการถูกข่มเหง และกดขี่จากรัฐสยามไปสู่ความสงบสุข"
"หลังจากเจรจาเมื่อ 28 ก.พ. 2556 ได้ขอความยุติธรรมแก่ชาวปัตตานี ให้ลดการข่มเหง การกดขี่ต่อชาวปัตตานี โดยเสนอเงื่อนไข 5 ข้อ ก่อนจะมีการสนทนาระหว่างผู้ปกครองชาวสยามและกลุ่มบีอาร์เอ็น ในวันที่ 29 เม.ย. ได้แก่ 1.ผู้ปกครองชาวสยามจะต้องยอมรับบทบาทของรัฐบาลมาเลเซียในฐานะ "ตัวกลาง" ในการสนทนา 2.การสนทนาที่จะเกิดขึ้นจะจำกัดวงเฉพาะตัวแทนชาวมลายู ซึ่งนำโดยกลุ่มบีอาร์เอ็น ร่วมกับคณะผู้ปกครองชาวสยาม 3.จะต้องอนุญาตให้กลุ่มผู้สังเกตการณ์จากกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน องค์การความร่วมมือแห่งศาสนาอิสลาม (โอไอซี) และองค์กรพัฒนาเอกชนต่างๆ (เอ็นจีโอ) เข้าร่วมในการสนทนาด้วย 4.ผู้ปกครองชาวสยาม จะต้องปล่อยตัวผู้ต้องหาอย่างไม่มีเงื่อนไข และจะต้องระงับการออกหมายจับผู้ต้องสงสัย และ 5.จะต้องยอมรับสถานะของกลุ่มบีอาร์เอ็นในฐานะองค์กร เพื่อการปลดปล่อยปัตตานี มิใช่กลุ่มแบ่งแยกดินแดน
ลึกแต่ไม่ลับ 3 ทุนใหญ่ เคลียร์ใจ "คนแดนไกล" พูดจาภาษาดอกไม้ !!!
ลึกแต่ไม่ลับ 3 ทุนใหญ่ เคลียร์ใจ "คนแดนไกล" พูดจาภาษาดอกไม้ !!!
"บิ๊กเหลิม" ทิ้งปมก่อนเข้ามุม น่าสนใจยิ่งว่า "หากนักธุรกิจ 3 คน" ประกอบด้วย "นายธนาคาร-พ่อค้าหมูเห็ดเป็ดไก่-คนขายของมึนเมา" ไม่ให้เงินสนับสนุนผู้ชุมนุม ที่ผ่านมา 3 กลุ่มนี้ออกมาสนับสนุนให้โดยเงินจำนวนมาก แล้วรัฐบาลจะอยู่ได้อย่างไร ฝากเตือนว่า ขออย่ามายุ่งเลย เพราะผมไม่ยอม จะประจาน"
แม้จะไม่ระบุ ตัวตน บุคคล ว่าชื่อเสียงเรียงนามใด แต่คอการเมืองส่วนใหญ่พากันอ่านออก บอกถูกว่า "คน 3 กลุ่ม" ที่ ร.ต.อ.เฉลิม แพลมมานั้น เป็นใคร ค่ายไหน อยู่ย่านใด
มีข่าวระดับ "ลึกแต่ไม่ลับ" บอกกล่าวเล่าสู่กันฟังว่า มีนักธุรกิจที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามและเคยลงขันล้ม "เครือข่ายทักษิณ" เดินสายไปเคลียร์กับ "นายใหญ่" ที่สัญจรไพรอยู่แดนไกลมาแล้วหลายกลุ่ม หลังจากพรรคเพื่อไทย ได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาด และ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" นายกฯ หญิงคนแรก มีเสียงตอบรับค่อยๆ ดีขึ้นมากเป็นลำดับ ทั้งในและต่างประเทศ
คู่แข่งคือ "ประชาธิปัตย์" ดูจะง่อยเปลี้ย คงสภาพ "ทรง-ทรุด" 2 แกนนำขาใหญ่ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ-สุเทพ เทือกสุบรรณ" วันเวลาส่วนใหญ่ สูญสิ้นไปกับการเทียวขึ้นเทียวลง เวียนเทียนอยู่ที่ "ดีเอสไอ-อัยการ-ศาล" คดีเรียงร้อยห้อยเป็นตับๆ หลายกระทงความ
"เสื้อ เหลือง-หลากสี-พธม." ล้า-ท้อแท้ แกนนำจูนกันไม่ติด "ทางเลือกใหม่" มืดมนอนธการ "กลุ่มทุนใหญ่" จึงพากันถอดใจ "แปรพักตร์" กันอุตลุด
มี "3 ทุนใหญ่" เดินทางไปเคลียร์ใจกับ "คนแดนไกล" เรียบร้อยหลายวงการ เริ่มจาก
เปิดคลัง"นิติอาวุธ" พลิก"การเมือง" จับตา"วิกฤต"ก่อตัว
เปิดคลัง"นิติอาวุธ" พลิก"การเมือง" จับตา"วิกฤต"ก่อตัว
แม้ฝ่ายค้านจะอ่อนล้าไปไม่น้อย จากการขับเคี่ยวกับรัฐบาล ด้วยคดีความที่ตามมาเช็กบิลย้อนหลัง ด้วยศึกในจากในพรรคที่เห็นว่าควรปฏิรูปใหญ่
แต่ดูจากบทบาทในสภา ระหว่างพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ รายจ่ายปี 2557 ที่ผ่านมา ต้องถือว่า ความตั้งใจในการเขย่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทย ยังเข้มข้น
จะด้วยเหตุใดก็แล้วแต่
ศึกงบประมาณที่ผ่านมา ฝ่ายค้านประสบความสำเร็จในการเปิดประเด็นที่รัฐบาลยังตอบไม่ครบถ้วน
ปัญหาการจำนำข้าว ฝ่ายค้านเปิดตัวละครล่าสุด เลขาฯรมว.พาณิชย์ เป็นตัวเชื่อม เครือข่ายจำนำข้าว
ก่อนจ้วงหมัดเข้าใส่ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกฯและ รมว.คลัง โดยยกเอาตัวเลขขาดทุนร่วม 3 แสนล้านบาท มาทวงสัญญาที่นายกิตติรัตน์สมัยเป็นรมว.พาณิชย์เคยกล่าวว่า หากขาดทุนเกิน 6 หมื่นล้าน จะลาออก
หมัดอีกชุด เมื่อฝ่ายค้านพบว่า งบประมาณจัดซื้อรถตู้รับส่งนักเรียน 12 ที่นั่ง เพื่อรองรับการยุบโรงเรียนเล็ก มีราคาถึงคันละ 2 ล้านกว่าบาท เกินราคาในท้องตลาด 1 พันคัน เป็นเงิน 2.3 พันล้านบาท
ขณะที่ทาง รมช.ศธ.ออกมาชี้แจงอุบอิบว่า เกิดความผิดพลาด พิมพ์เอกสารผิด ได้ส่งเอกสารที่แก้ไขให้กับผู้มีหน้าที่รับผิดชอบไปแล้ว แท้จริง รถราคาคันละ 1.2 ล้านบาท 1 พันคัน เท่ากับ 1.3 พันล้านบาท เท่ากับพิมพ์ผิดไป 1 พันล้านบาทเศษ
ปัญหาคือ คำชี้แจงที่ว่า ยังหักล้างข้อสงสัยของฝ่ายค้านไม่ได้และหมัดส่งท้าย คือคำถามเรื่อง ส่วนต่าง การจัดซื้อแท็บเล็ต 320 ล้านบาท ของกระทรวงศึกษาฯ
คำถามเหล่านี้จะติดตัวรัฐบาลไปอีกพักใหญ่ จนกว่าจะพิสูจน์ความจริงได้อย่างจะๆ
ข้อได้เปรียบของประชาธิปัตย์ ได้แก่ ความคล่องแคล่วในการใช้เวทีสภา เปิดประเด็นถล่มรัฐบาล ขณะที่รัฐบาลเอง มี ขุนพล ที่มีขีดความสามารถอยู่ไม่กี่คน และเลือกเงียบแทนที่จะชี้แจงแบบแลกหมัด
การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2557 ผ่านการพิจารณาของสภา ด้วยคะแนนเสียง 292-155 งดออกเสียง 27 เมื่อบ่ายต้นๆ ของวันที่ 31 พฤษภาคม ก่อนที่เลขาธิการสภาจะอ่านพระบรมราชโองการปิดสมัยประชุม
สภาพของรัฐบาลในตอนออกจากสภา สะบักสะบอมไม่น้อย
เกมการเมืองลักษณะนี้ หากยังแก้ไม่ตกอย่างหมดจด จะนำไปสู่ค่ายกล คอร์รัปชั่น
อันเป็นข้อหาที่เป็น จุดตาย ของรัฐบาลมาแล้วหลายชุด
ขณะที่ในด้านของศาล และองค์กรตามรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระต่างๆ สถานการณ์ของรัฐบาลน่าหนักใจ
ล่าสุด ศาลปกครองมีคำสั่งให้คืนตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ให้อดีตเลขาฯ นายถวิล เปลี่ยนศรี
โดยระบุว่า การปลดและแต่งตั้ง พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร ไม่ถูกต้องและรีบร้อนเกินเหตุ
(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1370137392&grpid=01&catid=&subcatid=
สัญญาหน้าฝน ของ "บิ๊กตู่"?? ดินเนอร์ "ปู-ผบ.เหล่าทัพ" เมื่อ "บิ๊กเจี๊ยบ" absent
สัญญาหน้าฝน ของ "บิ๊กตู่"?? ดินเนอร์ "ปู-ผบ.เหล่าทัพ" เมื่อ "บิ๊กเจี๊ยบ" absent
การ
นัด ผบ.เหล่าทัพ ดินเนอร์ ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
เมื่อค่ำอาทิตย์ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่พลาซ่า แอทเธนี
ถือเป็นการเลือกจังหวะอย่างมีกลยุทธ์
ท่ามกลางกระแสข่าวเด้ง ปลด ย้าย บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ที่เริ่มซาลง เพราะเป็นแค่ข่าวลือ เนื่องจากไม่มีทางที่จะมีการโยกย้ายนอกฤดูกาล ส่วนการโยกย้ายปลายปี สิงหาคม-กันยายนนี้ ก็ต้องรอลุ้นกันอีกที
ท่าม กลางกระแสข่าวการปฏิวัติรัฐประหาร ทั้งที่เกิดจากฝ่ายต่อต้านรัฐบาลพรรคเพื่อไทยต้องการให้เกิด และทั้งที่เกิดจากความหวาดระแวงของคนในรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย หรือแม้แต่คนเสื้อแดงเอง
อีกทั้งมีความเคลื่อนไหวแปลกๆ ในกองทัพ และ ผบ.เหล่าทัพ ที่ทำให้เกิดข่าวลือ อีกมากมาย
จึง ไม่แปลกที่งานนั้น บิ๊กอ๊อด พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ที่ปรึกษานายกฯ และอดีต รมว.กลาโหม จะเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ให้ความมั่นใจสบายใจกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า ทหารจะไม่ปฏิวัติ
ที่สำคัญ พล.อ.ประยุทธ์ แอ่นอกพูดในนาม 3 ผบ.เหล่าทัพ คือ ตนเอง บิ๊กหรุ่น พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผบ.ทร. และ บิ๊กจิน พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ.
"พวก เราขอให้ ท่านนายกฯ สบายใจ เรื่องการปฏิวัติ อย่าไป worry ขอให้ทางรัฐบาลทำงานกันไป บริหารประเทศกันไป เพราะปัญหาการเมือง ก็ต้องแก้กันไปในระบอบประชาธิปไตย" บิ๊กอ๊อดอ้างคำพูด พล.อ.ประยุทธ์ ที่บอกกับนายกฯ ในวันนั้น อันทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เองสบายใจ แล้วก็รับปากว่า จะบริหารประเทศ และทำหน้าที่ไปให้ดีที่สุด
ท่ามกลางกระแสข่าวเด้ง ปลด ย้าย บิ๊กตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ที่เริ่มซาลง เพราะเป็นแค่ข่าวลือ เนื่องจากไม่มีทางที่จะมีการโยกย้ายนอกฤดูกาล ส่วนการโยกย้ายปลายปี สิงหาคม-กันยายนนี้ ก็ต้องรอลุ้นกันอีกที
ท่าม กลางกระแสข่าวการปฏิวัติรัฐประหาร ทั้งที่เกิดจากฝ่ายต่อต้านรัฐบาลพรรคเพื่อไทยต้องการให้เกิด และทั้งที่เกิดจากความหวาดระแวงของคนในรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย หรือแม้แต่คนเสื้อแดงเอง
อีกทั้งมีความเคลื่อนไหวแปลกๆ ในกองทัพ และ ผบ.เหล่าทัพ ที่ทำให้เกิดข่าวลือ อีกมากมาย
จึง ไม่แปลกที่งานนั้น บิ๊กอ๊อด พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ที่ปรึกษานายกฯ และอดีต รมว.กลาโหม จะเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้ให้ความมั่นใจสบายใจกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า ทหารจะไม่ปฏิวัติ
ที่สำคัญ พล.อ.ประยุทธ์ แอ่นอกพูดในนาม 3 ผบ.เหล่าทัพ คือ ตนเอง บิ๊กหรุ่น พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผบ.ทร. และ บิ๊กจิน พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผบ.ทอ.
"พวก เราขอให้ ท่านนายกฯ สบายใจ เรื่องการปฏิวัติ อย่าไป worry ขอให้ทางรัฐบาลทำงานกันไป บริหารประเทศกันไป เพราะปัญหาการเมือง ก็ต้องแก้กันไปในระบอบประชาธิปไตย" บิ๊กอ๊อดอ้างคำพูด พล.อ.ประยุทธ์ ที่บอกกับนายกฯ ในวันนั้น อันทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เองสบายใจ แล้วก็รับปากว่า จะบริหารประเทศ และทำหน้าที่ไปให้ดีที่สุด
(อ่านต่อ)
นักโทษทางการเมือง ความคิดต่างที่ต้องโทษ
นักโทษทางการเมือง ความคิดต่างที่ต้องโทษ
ทำความรู้จักกับอันวัรและคดีของเขาได้
http://www.deepsouthwatch.org/node/4231
รายงาน: Save ‘Anwar’ ผู้ปลุกชีวิตมลายู ปลดเงื่อนไขความรุนแรง
http://prachatai.com/journal/2013/05/46736 http://www.deepsouthwatch.org/node/4231
รายงาน: Save ‘Anwar’ ผู้ปลุกชีวิตมลายู ปลดเงื่อนไขความรุนแรง
Anwar Bungaraya pasti bersemi di Patani 1
https://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=bRjq5PhK1ow
Anwar Bungaraya pasti bersemi di Patani 2
Anwar Bungaraya pasti bersemi di Patani 3
Anwar Bungaraya pasti bersemi di Patani 4
Anwar Bungaraya pasti bersemi di Patani 5
Anwar Bungaraya pasti bersemi di Patani 6
Anwar Bungaraya pasti bersemi di Patani 7
Anwar Bungaraya pasti bersemi di Patani 8
Anwar Bungaraya pasti bersemi di Patani 9
https://www.youtube.com/watch?v=3Y_ZaKraLCc
หลังจากวันที่ 1 พ.ค. 2556 โลกออนไลน์โดยเฉพาะสังคม facebook เริ่มมีการเคลื่อนประเด็นที่ศาลฎีกา พิพากษาลงโทษจำคุก 12 ปี ฐานเป็นกบฏและสมาชิกขบวนการ BRN Coordinate ต่อนายมะกอรี และพวกรวม 9 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นมีนายมูฮาหมัดอัณวัร หะยีเต๊ะ นักสื่อสารภาคประชาสังคมในพื้นที่ชายแดนใต้ (ปาตานี) หรือเป็นเจ้าของบล็อกคอลัมน์ Patani Design ในเว็บศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ (DSW)[1]
หลังจากวันที่ 1 พ.ค. 2556 โลกออนไลน์โดยเฉพาะสังคม facebook เริ่มมีการเคลื่อนประเด็นที่ศาลฎีกา พิพากษาลงโทษจำคุก 12 ปี ฐานเป็นกบฏและสมาชิกขบวนการ BRN Coordinate ต่อนายมะกอรี และพวกรวม 9 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นมีนายมูฮาหมัดอัณวัร หะยีเต๊ะ นักสื่อสารภาคประชาสังคมในพื้นที่ชายแดนใต้ (ปาตานี) หรือเป็นเจ้าของบล็อกคอลัมน์ Patani Design ในเว็บศูนย์เฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ (DSW)[1]
เอาทักษิณกลับบ้าน
เอาทักษิณกลับบ้าน
โดย สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ
จากตัวอย่างคดีเหล่านี้ จึงสรุปได้ว่า
คดีทั้งหลายที่สอบสวนและดำเนินการโดย คตส.จึงเป็นเรื่องเหลวไหล
และถือได้ว่าเป็นเรื่องใช้อำนาจศาลมากลั่นแกล้งทางการเมืองต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ
ชินวัตร
"เมื่อเป็นเช่นนี้ การนำ พ.ต.ท.ทักษิณกลับบ้านด้วยวิถีทางอันเหมาะสม
รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ควรที่จะใช้การออกพระราชกำหนดล้มล้างผลพวงคณะรัฐประหาร โดยถือว่า
คำสั่งคณะรัฐประหารทั้งหมดเป็นโมฆะ และปราศจากผล แล้วนำคดีทั้งหลายของ
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาพิจารณาใหม่ ในกฎหมายปกติ
ภายใต้กระบวนการอันโปร่งใส"
เมื่อเป็นเช่นนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็จะกลับบ้านได้อย่างภาคภูมิ และไม่ต้องไปนิรโทษกรรมฆาตกร
(อ่านต่อ)
รอบโลกแรงงานพฤษภาคม 2556
รอบโลกแรงงานพฤษภาคม 2556
แรงงานทั่วเอเชียเดินขบวนวันแรงงาน
1 พ.ค. 56 - สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงจาการ์ตา
ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ว่า แรงงานราคาต่ำหลายหมื่นคน
ชุมนุมประท้วงตามท้องถนนในวันแรงงาน หรือเมย์ เดย์ 1 พฤษภาคม
เพื่อเรียกร้องขึ้นค่าแรง,ปรับปรุงสิทธิประโยชน์ให้ดีขึ้น
และปรับปรุงสภาพการทำงานในหนึ่งสัปดาห์
หลังจากอาคารที่ตั้งของโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าในบังกลาเทศ พังถล่ม
มีผู้เสียชีวิตกว่า 400 คนแล้ว
ซึ่งแสดงให้เห็นถึงกฎเกณฑ์เกี่ยวกับความปลอดภัยที่หย่อนยาน
ทำให้การทำงานตกอยู่ในอันตรายในประเทศยากจนทั้งหลาย
แรงงานในอินโดนีเซีย กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และอีกหลายประเทศ
ต่างเดินขบวน และตะโกนพร้อมกันอย่างกึกก้องในวันแรงงานวันนี้ ขณะที่
บางคนก็แสดงความไม่พอใจต่อการเอารัดเอาเปรียบของธุรกิจขนาดใหญ่
ท่ามกลางค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยภูมิภาคเอเชีย
เป็นฐานการผลิตของบริษัทข้ามชาติที่ใหญ่ที่สุดของโลกหลายบริษัท
คนงานโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าหลายพันคนในบังกลาเทศ
ก็เดินขบวนไปตามถนนสายต่าง ๆ ด้วย
พร้อมเรียกร้องหาความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน และให้ลากคอเจ้าของโรงงานนรก
รับโทษประหารชีวิต
(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2013/06/47001
สหภาพรัฐสภาสากลพบรัฐสภาไทย ตามกรณีจตุพร พ้นการเป็นส.ส.
สหภาพรัฐสภาสากลพบรัฐสภาไทย ตามกรณีจตุพร พ้นการเป็นส.ส.
วสันต์ "หดหัว" ปฏิเสธ การขอเข้าพบของ ตัวแทนสหภาพรัฐสภาโลก (IPU) ทำกร่างอ้างว่าคนละสถาบันไม่จำเป็นที่จะต้องหารือกัน
ตัวแทนกรรมการด้านกฏหมายและสิทธิ มนุษยชนสหภาพรัฐสภาสากล เข้าพบรองประธานรัฐสภา เพื่อติดตามกรณีการละเมิดอำนาจนิติบัญญัติในประเทศไทย จากกรณีการถอดถอนสมาชิกภาพ ส.ส.ของนายจตุพร พรหมพันธุ์ และการแทรกแซงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
(อ่านต่อ)
http://news.voicetv.co.th/thailand/71311.html
การประท้วงนายกฯ ที่ตุรกียังดำเนินต่อเนื่อง
การประท้วงนายกฯ ที่ตุรกียังดำเนินต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ประเด็นการประท้วงคัดค้านการทำลายสวนสาธารณะที่เป็นชนวนของความรุนแรงนี้ เป็นแค่ปัญหาเทียบได้กับยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น เนื่องจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้ดำเนินการสร้างสะพานข้ามช่องแคบบอสฟอรัส โดยไม่รับฟังความคิดเห็นจากประชาชน โดยฝ่ายที่คัดค้านชี้ว่าการก่อสร้างดังกล่าวจะทำลายพื้นที่สาธารณะสีเขียว ของประชาชน และไปรับใช้ผลประโยชน์ของธุรกิจเอกชน
(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2013/06/47006
ทั้งนี้ ประเด็นการประท้วงคัดค้านการทำลายสวนสาธารณะที่เป็นชนวนของความรุนแรงนี้ เป็นแค่ปัญหาเทียบได้กับยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น เนื่องจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ รัฐบาลได้ดำเนินการสร้างสะพานข้ามช่องแคบบอสฟอรัส โดยไม่รับฟังความคิดเห็นจากประชาชน โดยฝ่ายที่คัดค้านชี้ว่าการก่อสร้างดังกล่าวจะทำลายพื้นที่สาธารณะสีเขียว ของประชาชน และไปรับใช้ผลประโยชน์ของธุรกิจเอกชน
"วันนี้เปรียบเสมือนจุดเปลี่ยนสำหรับพรรคเอเคพี
(พรรคความยุติธรรมและการพัฒนา)" โคเรย์ คาลิสกาน
นักรัฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยบอสฟอรัส กล่าว
"เออร์โดนแกนนั้นมีความมั่นใจมากและเป็นนักการเมืองอำนาจนิยมมาก
และเขาก็ไม่ฟังใครแล้วทั้งนั้น แต่เขาต้องเข้าใจว่าตุรกีไม่ใช่ราชอาณาจักร
และเขาไม่สามารถบริหารประเทศจากเมืองอังการาด้วยตัวของเขาเองคนเดียวได้"
อูกูร์ ทันเยลี นักประวัติศาสตร์ด้านสถาปัตยกรรมกล่าวว่า
"ปัญหาที่แท้จริงแล้วไม่ใช่ที่จตุรัสตักซิมและไม่ใช่สวนสาธารณะ
แต่มันคือการขาดการมีส่วนร่วมการตัดสินใจที่เป็นประชาธิปไตย
รวมถึงการขาดฉันทามติอย่างมาก
ตอนนี้เรามีนายกรัฐมนตรีที่เขาจะทำอะไรก็ได้ที่เขาอยากทำ"
(อ่านต่อ)
http://www.prachatai.com/journal/2013/06/47006
ภาพขำจากอังกฤษ...ที่ตบหัวคนไทย !! ทุยแลนด์แตะต้องไม่ได้ เพราะทุยแลนด์ดีหมดไง
ภาพขำจากอังกฤษ...ที่ตบหัวคนไทย !! ทุยแลนด์แตะต้องไม่ได้ เพราะทุยแลนด์ดีหมดไง
สำนักพิมพ์นิตยสารรายสัปดาห์ UK.
ภาพขำที่น่าตลก แต่กับเมืองไทยแตะต้องไม่ได้เพราะว่าไม่ใช่คนอังกฤษเขาไม่ดราม่า เพราะคนของเขาจงรักภักดีกันที่เนื้อหาพฤติกรรมกษัตริย์ของเขาก็คือคนขี้เหม็นเหมือนๆกันบนโลกความจริง
แถมบางประเทศเหม็นกว่าประชาชนเสียอีก และอย่าว่าแต่จะแตะต้องเลย แค่กล่าวถึงก็ต้องเข้าคุก หรือไม่ก็ตายคาคุก เอากับมัน
สำนักพิมพ์นิตยสารรายสัปดาห์ UK.
ภาพขำที่น่าตลก แต่กับเมืองไทยแตะต้องไม่ได้เพราะว่าไม่ใช่คนอังกฤษเขาไม่ดราม่า เพราะคนของเขาจงรักภักดีกันที่เนื้อหาพฤติกรรมกษัตริย์ของเขาก็คือคนขี้เหม็นเหมือนๆกันบนโลกความจริง
แถมบางประเทศเหม็นกว่าประชาชนเสียอีก และอย่าว่าแต่จะแตะต้องเลย แค่กล่าวถึงก็ต้องเข้าคุก หรือไม่ก็ตายคาคุก เอากับมัน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)