หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ดวงจำปา:ขยายความต่อ "กรณีประเทศไทยกับสาลอาญาระหว่างประเทศ"

Doungchampa Spencer


โดย ดวงจำปา
ที่มา เฟสบุค Doungchampa Spencer
19 ธันวาคม 2554



ใน ขณะนี้ ดิฉันเห็นการโพสต์หลายเรื่อง ซึ่งมีนักวิชาการหลายท่านได้เขียนบทความ ด้วยการนำเอาศัพท์ทางเทคนิคมาใช้ จนกลายเป็นเรื่องที่สร้างความงุนงงออกไป เมื่อเป็นอย่างนี้ ก็ขอสรุปแบบง่ายๆ นะคะ



ประวัติโดยสังเขป: ประเทศไทยได้ลงนามในอนุสัญญาธรรมนูญกรุงโรมไปเมื่อปี พ.ศ. 2543 แต่ยังไม่ได้เป็นรัฐภาคีโดยสมบูรณ์ เนื่องจากว่ายังไม่ได้ลงนามให้สัตยาบัน ภาษาอังกฤษเรียกว่า Ratification

เนื่องจากเหตุการณ์ที่มีผู้สูญเสีย ชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก เมื่อเดือน เมษายน / พฤษภาคม ปี พ.ศ. 2553 ระบบยุติธรรมของประเทศไทยก็ยังไม่มีการลงโทษผู้กระทำความผิดแต่ประการใด (นอกจากการตั้งขอหา ยัดเอาแกนนำ และ ประชาชนเสื้อแดงเข้าไปอยู่ในคุก) จนกระทั่งมีการเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ในเดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ซึ่งนำโดย คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้ามาบริหารประเทศ ประชาชนส่วนใหญ่ที่เลือกพรรคนี้เข้าไป ก็ตั้งความหวังว่า จะได้รัฐบาลที่กระทำการปฎิบัติตามนิติรัฐและนำความยุติธรรมกลับคืนมาสู่ ประเทศ

สิ่งหนึ่งในความปรารถนาต่อความสงบสุขก็คือ การนำเอาระบบยุติธรรมของนานาชาติเข้ามาเกี่ยวข้องในการตัดสินพิจารณาคดีด้วย กล่าวคือ การลงนามอย่างเป็นทางการ (ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง) ให้กับศาลอาญาระหว่างประเทศ

ขอย้อนอดีตกลับไปนิดหนึ่ง คือเมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2554 ทนายความโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม ได้ทำการถ่ายทอดวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์จากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อส่งเรื่องดำเนินการต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ ในข้อหาของเรื่องอาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ


(อ่านต่อ)
http://thaienews.blogspot.com/2011/12/blog-post_3340.html
จนท.อียิปต์สุดเหี้ยม ใช้ท่อนเหล็กฟาด-กระทืบ "ผู้ชุมนุมหญิง" สลบคาที่ 

(ชมคลิป)
http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=4iboFV-yeTE&skipcontrinter=1 


























เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า กลุ่มประชาชนที่เคลื่อนไหวชุมนุมประท้วงเรียกร้องให้กองทัพอียิปต์ คืนอำนาจการปกครองประเทศให้กับประชาชนยังคงก่อม็อบในกรุงไคโร เมืองหลวง และถูกเจ้าหน้าที่ความมั่นคงปราบปรามอย่างรุนแรง ต่อเนื่องเป็นวันที่ 3

ขณะนี้มีรายงานฝ่ายม็อบเสียชีวิตอย่างน้อย 10 ราย บางรายถูกทุบกะโหลกแตก บาดเจ็บอีกหลายร้อยราย นอกจากนี้ การที่รัฐบาลใช้กำลังสลายผู้ชุมนุมอย่างรุนแรง ส่งผลให้ฝ่ายม็อบขว้างปาก้อนหินตอบโต้ พร้อมจุดไฟเผาอาคารสถานที่ต่างๆ รวมถึงเผาสถาบันอียิปต์ สถานที่เก็บเอกสารทางประวัติศาสตร์ชิ้นสำคัญ

การลุกฮือของชาวอียิปต์ระลอกล่าสุดนี้ เกิดขึ้นหลังจากนายฮอสนี มูบารัก พ้นจากตำแหน่งประธานาธิบดี แต่กองทัพที่เข้าควบคุมรัฐบาลยังไม่คืนอำนาจอธิปไตยให้กับประชาชนชาวอียิปต์


นอกจากนั้น สำนักข่าวต่างประเทศ อาทิ รอยเตอร์และเอพี ยังเผยแพร่ภาพนาทีเจ้าหน้าที่อียิปต์ใช้กระบองเหล็กรุมทุบตีผู้ชุมนุม ประท้วงหญิงอย่างป่าเถื่อน รวมถึงลากตัวผู้ชุมนุมหญิงจนเสื้อผ้าหลุดลุ่ย ทั้งยังกระทืบลงไปบนใบหน้าและลำตัวอันเปล่าเปลือยของหญิงคนดังกล่าวจนสลบ กลายเป็นภาพที่สร้างความสะเทือนใจไปทั่วโลก และยังมีผู้โพสต์คลิปนาทีเจ้าหน้าที่อียิปต์ใช้กำลังปราบผู้ชุมนุมอย่าง รุนแรงเอาไว้ในเว็บยูทูบอีกด้วย

 
(ที่มา)

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1324303038&grpid=03&catid=&subcatid=

สมยศ พฤกษาเกษมสุข
สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์
ดา ตอร์ปิโด
และ อากง

 


มีนักโทษทางความคิด
วิปริตผิดมหันต์
เพียงคนคิดต่างกัน
ควรลงทัณฑ์กระนั้นฤา

อุดมการณ์ที่แตกต่าง
ควรปลูกสร้างมิใช่หรือ
อาวุธเหตุผลคือ
ต่างคนถือมาสู้กัน

กักขังเสรีภาพ
กำราบความคิดฝัน
เข่นฆ่าประชาทัณฑ์
ตายกี่พันกี่หมื่นแล้ว

สังคมความคิดเดียว
ด้านดีเดียวต้องแน่แน่ว
แค่คิดก็ผิดแนว
เสรีสิทธิ์มนุษย์ชน

ไม่มีโทษทางความคิด
ไม่วิปริตไม่สับสน
ไม่เข่นฆ่าประชาชน
อยู่อย่างคนเสมอกัน!
 
Posted Image

ทักษิณหัวเราะเริงร่า..เย้ยแมงสาป ฮ่าๆๆๆ

ทักษิณโชว์พาสปอร์ตไทย ได้คืนสิทธิจากกระทรวงต่างประเทศ ส่งให้ถึงที่..
นี่คือรอยยิ้มของผู้ชนะ พวกแมงสาปเห็นภาพนี้ คงดิ้นพล่าน สำลักเลือด กันยกรัง ฮ่าๆๆ

 

นี่คือผลงานชิ้นโบว์แดงหลังปรองดองกับแก๊งค์อำมาตย์? ในขณะที่เร่งปราบปรามไล่จับ ปิดปากประชาชนด้วย ม.112

 

Posted Image

ปรองดองเพื่อผลประโยชน์ของข้า ฮ่าๆๆๆๆๆๆ    


"ขอส่งสัญญาณต่อต้านการกระทำอันเป็นการละเมิดและคุกคามสิทธิเสรีภาพประชาชนของรัฐบาลที่ขึ้นสู่อำนาจด้วยคราบเลือดและน้ำตาของประชาชน!!??"

ข้อเสนอเพื่อสร้างจุดยืนร่วมของ “แดงก้าวหน้า”

ท่าม กลางการหักหลังวีรชนเสื้อแดงโดยรัฐบาลพรรคเพื่อไทยด้วยการปรองดองยอมจำนนต่อ ทหารและอำมาตย์ และท่ามกลางการรุกสู้ของฝ่ายสลิ่ม ประชาธิปัตย์ทหาร และอำมาตย์ ด้วยการใช้กฏหมาย 112 การใช้องค์กรกกต. หรือการกดดันข่มขู่ต่างๆนาๆ “เสื้อแดงก้าวหน้า” จะต้องไม่นิ่งเฉย เพราะแกนนำ นปช. นิ่งเฉยมานานเกินไปแล้ว เราต้องรวมตัวกันเคลื่อนไหวในขั้นตอนต่อไป เหมือนกับที่เพื่อนๆ เราสู้ต่อไปกับเผด็จการทหารในอียิปต์ ผมจึงขอเสนอจุดยืนร่วมที่เราน่าจะนำมาพิจารณา เพื่อก่อตั้งเครือข่ายกลุ่ม “เสื้อแดงก้าวหน้า” ในชุมชนต่างๆ และเพื่อประสานการเคลื่อนไหวดังนี้


1. รัฐบาล พรรคเพื่อไทยนี้ไม่ใช่รัฐบาลของเรา ทั้งๆ ที่เราเคยทุ่มเทคะแนนเสียงให้เพื่อตบหน้าพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งรอบ ที่แล้ว เราขอประกาศว่าเราพร้อมที่จะต่อต้านรัฐบาลนี้อย่างถึงที่สุดในกรณีที่รัฐบาล ไม่ทำตามผลประโยชน์ของเสื้อแดงที่เสียสละเพื่อประชาธิปไตย


2. ใน การต่อต้านรัฐบาลเพื่อไทย เราจะไม่เปิดทางให้สลิ่ม ประชาธิปัตย์และทหารได้ประโยชน์แต่อย่างใด เพราะเราจะเคลื่อนไหวต่อต้านฝ่ายเผด็จการเสมอ และถ้าทหารหรือฝ่ายอำมาตย์ออกมาขู่รัฐบาล เราพร้อมจะปกป้องรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เพียงแต่เราจะไม่เป็นกองเชียร์ให้เพื่อไทย


3. “เสื้อ แดงก้าวหน้า”มีเป้าหมายร่วมคือ การสร้างประชาธิปไตยแท้ที่ไม่มีอำนาจนอกระบบมาแทรกแซง เราคัดค้านอิทธิพลของทหารและต้องการลดงบประมาณทหาร เราเรียกร้องให้ยกเลิกกฏหมาย 112 ซึ่งปฏิรูปไม่ได้ เราเรียกร้องให้มีการปล่อยนักโทษการเมืองเสื้อแดงและนักโทษ 112 ทันที และเราต้องการให้นายอภิสิทธิ์ ประยุทธ์ อนุพงษ์ และสุเทพ ถูกนำมาขึ้นศาลในฐานะที่สั่งฆ่าประชาชน


4. “เสื้อ แดงก้าวหน้า” ต้องการให้มีการริเริ่มโครงการขนาดใหญ่ เพื่อฟื้นฟูชีวิตและการทำงานของประชาชนหลังน้ำท่วม โดยการตัดงบประมาณทหารและงบประมาณพิธีกรรม รวมถึงการเก็บภาษีในอัตราสูงจากคนรวยทุกคนอีกด้วย ในขณะเดียวกันควรมีการเดินหน้าสร้างรัฐสวัสดิการในประเทศไทย แทนที่จะช่วยแต่ฝ่ายนายทุน


5. “เสื้อแดงก้าวหน้า” ขอสนับสนุนข้อเสนอของคณะนิติราษฎร์ และพร้อมจะเคลื่อนไหวสนับสนุน


6. “เสื้อ แดงก้าวหน้า” เข้าใจความสำคัญของขบวนการแรงงานในการเป็นพลังต่อรองเพื่อประชาธิปไตย และเรามุ่งมั่นที่จะเคลื่อนไหวร่วมกับนักสหภาพแรงงานก้าวหน้าในประเทศไทย



ประเด็น เหล่านี้ไม่ได้จารึกในหิน และไม่ได้เป็นการสั่งลงมาจากผู้ที่แอบอ้างว่าเป็น “ผู้รู้” แต่เป็นการจุดประกายเพื่อนำมาพูดคุยถกเถียงกันในกลุ่มต่างๆ ของชาวเสื้อแดง เพื่อสร้างเครือข่ายและประสานการต่อสู้ในรอบต่อไป โดยที่แต่ละกลุ่มควรจะเลือกผู้นำของตนเองและร่วมกันนำตนเองภายใต้จุดยืนร่วม กันที่ตกลงกันไว้



ในการเคลื่อนไหวต่อสู้ เราไม่สามารถพึงพอใจกับการอ่านหรือเขียนบทความในอินเตอร์เน็ด แต่ต้องมีการจัดตั้งจริงในโลกจริง



อนาคตของประชาธิปไตยและความเสมอภาคในประเทศไทยอยู่ในมือของท่าน ไม่มีใครอื่นทำแทนได้

ประชาชนจงเจริญ

ภาคพลเมืองชงยกเครื่องระบบเลือกตั้ง ลดบทบาทกกต. ตั้งศาลเลือกตั้ง ห้ามยุบพรรค

 

 


วันนี้  มูลนิธิองค์กรกลาง ร่วมกับเครือข่ายเอเชียเพื่อการเลือกตั้งเสรี (อันเฟรล) และ ตัวแทนเครือข่ายพีเน็ต จากทุกภาค และผู้ชำนาญการการเลือกตั้ง 40 คน เดินหน้าเสริมสร้างอำนาจประชาชน โดยเสนอให้มีการปฏิรูปกระบวนการเลือกตั้ง เพื่อเพิ่มดุลอำนาจให้การเมืองภาคพลเมืองที่มีความเข้มแข็ง เป็นธรรม ควบคู่ไปกับการเมืองที่มีเสถียรภาพในระบบตัวแทน โดยเสนอแนวทางที่เป็นรูปธรรม  ดังต่อไปนี้

1.  ปฏิรูประบบการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏร ให้สะท้อนเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง        
1.1 ควรเปลี่ยนระบบเสียงข้างมากธรรมดา  หรือระบบคะแนนนำกำชัย   ให้เป็นระบบใหม่ที่สะท้อนจำนวนคะแนนเสียงของผู้มีสิทธิเลือกตั้งอย่างแท้ จริงและเป็นธรรม  ให้เกิดรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ เคารพเสียงส่วนน้อย และลดการซื้อขายเสียง  ส่งเสริมการมีตัวแทนผู้สมัคร ส.ส. จากทุกภาคส่วน  
       
1.2 การเลือกตั้งในระบบสัดส่วน กำหนดเขตเลือกตั้งไม่เกินห้าเขต ให้เป็นระบบบัญชีรายชื่อแบบเปิด โดยผู้มีสิทธิเลือกตั้งเป็นผู้กำหนดลำดับที่ และเลือกข้ามพรรคได้ 
    
1.3  ส.ส. ระบบเขต ไม่จำเป็นต้องสังกัดพรรค

2. ผู้มีสิทธิเลือกตั้งและการใช้สิทธิ       
ให้จัดทำบัญชีผู้มีสิทธิเลือกตั้งโดยสมัครใจ  และให้มีการลงทะเบียนก่อนวันเลือกตั้งทุกครั้ง รวมทั้งยกเลิกการจำกัดสิทธิของผู้ต้องขัง ภิกษุ สามเณร นักพรตหรือนักบวช (แม่ชี ภิกษุณี) รวมทั้งกำหนดให้มีวันเลือกตั้งล่วงหน้ามากกว่าหนึ่งวัน

(อ่านต่อ)
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1324301813&grpid=03&catid=01&subcatid=0100