ญ. “หญิง”
ภายใต้ระบบการปกครองทางชนชั้น
ทรัพย์สินทั้งหมดของชุมชนที่เคยเป็นของส่วนรวม ถูกแบ่งเป็นทรัพย์สินส่วนตัว
ซึ่งส่วนใหญ่ตกในมือของผู้ปกครอง
ผู้หญิงถูกบังคับให้อยู่ในระบบครอบครัวที่ชัดเจน
เพื่อให้ชายผู้เป็นเจ้าสามารถให้มรดกกับลูกตนเองเท่านั้น
โดย ลั่นทมขาว
เราไม่สามารถสร้างสังคมใหม่แห่งสังคมนิยมได้
ถ้ากรรมาชีพชายและหญิงไม่สามัคคีกัน และถ้าจะเกิดความสามัคคีดังกล่าว
ทั้งชายและหญิง แต่โดยเฉพาะผู้ชาย
ต้องสลัดความคิดกดขี่หรือดูถูกผู้หญิงออกจากหัว
ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องความดีความชั่วของปัจเจก
แต่เป็นเรื่องโครงสร้างสังคม และการต่อสู้ทางชนชั้น
มันไม่ใช่เรื่อง “ธรรมชาติ” ที่มนุษย์จะมากดขี่กัน
แต่เป็นสิ่งที่มนุษย์บางคนสร้างขึ้นมาภายใต้เงื่อนไขสังคมชนชั้นในอดีต
เพื่อประโยชน์ของชนชั้นปกครอง
นักมาร์คซิสต์คนสำคัญ ชื่อ เฟรดเดอริค เองเกิลส์
เป็นคนที่ริเริ่มการศึกษาปัญหาการกดขี่ทางเพศอย่างเป็นระบบ ในหนังสือ
“กำเนิดครอบครัว ทรัพย์สินเอกชน และรัฐ” เองเกิลส์
อธิบายว่าแรกเริ่มมนุษย์บุพกาลไม่มีชนชั้น ไม่มีรัฐ และไม่มีครอบครัว
คือหญิงชายมีความสัมพันธ์อย่างเสรีตามรสนิยมของแต่ละคน ไม่มีคู่ถาวร
ตอนนั้นมนุษย์ไม่มีครอบครัวแต่มีเผ่า และลูกที่เกิดมาจะทราบว่าใครเป็นแม่
แต่ไม่ทราบว่าใครเป็นพ่อ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่สำคัญเพราะเด็กๆ
ทุกคนถือว่าเป็นลูกของชุมชน และทรัพย์สินทั้งหมดเป็นของส่วนรวม
แบ่งกันอย่างเสมอภาคเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม
ในยุคบุพกาลจะมีการเก็บของป่าและล่าสัตว์ สังคมไม่มีส่วนเกินหรือคลังอาหาร
วันไหนได้อะไรก็มาแบ่งกันกิน
แต่เมื่อมนุษย์รู้จักการเกษตรและเริ่มมีส่วนเกิน
จะมีผู้ชายคนหนึ่งตั้งตัวเป็นใหญ่หรือตั้งตัวเป็น “พระ”
และจ้างอันธพาลติดอาวุธมาเป็นลูกน้องของตน
ประชาชนที่เหลือจะตกเป็นทาสและถูกบังคับให้ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์เพื่อส่งส่วย
ให้ผู้ปกครอง แต่ในขณะเดียวกัน การจัดระเบียบสังคมใหม่แบบนี้
ให้ประโยชน์กับคนธรรมดาบ้าง
เพราะเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตจากในสมัยบุพกาลเดิม