หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2557

สัญญาณมาว่า "ไฟเขียว"

สัญญาณมาว่า "ไฟเขียว"



โดย อ.พิชิต ลิขิตกิจสมบูรณ์
 
"เขา" ได้รับสัญญาณมาว่า "ไฟเขียว" แล้ว ให้รีบผ่านพรบ.นิรโทษกรรมเหมาเข่งได้เลย ทุกอย่างจะเรียบร้อย การันตี!!!

เลยเหยียบคันเร่งเต็มสตีม วิ่งตะบึงไปบนถนนที่ชื่อ "ซุปเปอร์ดีลเหมาเข่ง" ไม่สนว่า จะต้องวิ่งทับลูกน้องที่ซื่อสัตย์และเพื่อนที่หวังดี ตายคาถนนไปกี่ศพ สุดท้าย รถตกหลุมที่เขาดักไว้ พุ่งลงเหวววววว ...


ได้รับสัญญาณมาอีกว่า ให้ยุบสภา แล้วจะไป "เคลียร์" ให้ ปชป.ลงเลือกตั้ง สัญญาว่า จะให้มีเลือกตั้งแน่ ๆ "ไฟเขียว" แล้ว

เลย ยุบสภา ปรากฏว่า ปชป.บอยคอตเลือกตั้ง ม็อบเทือกได้คืบเอาศอก ยืนยันเหมือนเดิม ไม่เอายุบสภา ไม่เอาเลือกตั้ง ตระกูลชินวัตรออกไป ปปช.กับศาลรธน. รุมจวกแทงยับหลายแผล ส่วนกกต.ก็หาเรื่องเลื่อนเลีอกตั้งทุกวัน สุดท้าย "ชัตดาวน์กรุงเทพฯ"!
 
ได้รับสัญญาณมาอีกว่า มี "ไฟเขียว" ให้เลื่อนเลือกตั้ง เพราะม็อบเทือกไปไม่รอด ปชป.ตัดสินใจทิ้งเทพเทือกแล้ว ถ้าเลื่อนเลือกตั้งออกไปอีก 3 เดือน ปชป.จะกลับใจมาเลือกตั้ง ม็อบเทือกจำต้องเลิก แฮปปี้เอนดิ้ง!?!
 


ถ้านายกฯยิ่งลักษณ์และรัฐบาลยอมเลื่อนเลือกตั้ง คราวนี้คือจุดจบของจริง เพราะปชป.จะบอยคอตเลือกตั้งต่อไป ม็อบเทือกยิ่งฮึกเหิมเหมือนตอน ยุบสภา จำนวนคนจะฟื้นกลับมา จะยิ่งไล่ล่ารุนแรงขึ้นอีก ปปช.และศาลรธน.จะลงดาบ ตามด้วยทหาร เป้ายังคงเดิมคือ โค่นนายกฯและตระกูลชินวัตร แต่แถมด้วย มวลชนทั้งเสื้อแดงและเสื้อขาวจะหมดความเชื่อถือรัฐบาลโดยสิ้นเชิง รัฐบาลยิ่งหมดความชอบธรรม ฝ่ายประชาธิปไตยจะสูญเสียทั้งคนและขวัญกำลังใจ เสียหายอย่างมาก

การปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อออกไป น่าจะเป็นผลดีมากกว่า

การปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อออกไป น่าจะเป็นผลดีมากกว่า 


 

ม็อบสุเทพ ไม่นิยมการเลือกตั้ง ชอบสรรหาคนดี ผ่านวิธีการพิเศษ เป็นม็อบแนวร่วมระหว่างมวลชนอุปถัมภ์ทางใต้ กับชนชั้นกลาง ในกรุงเทพ ไม่นิยมการเจรจา ประณีประนอมใดๆ ทั้งสิ้น

เราไม่ควรกังวล กับท่าที และรูปแบบม็อบแบบนี้ มันเห็นได้ชัดเจน ว่าเป็นม็อบเสียงส่วนน้อย ที่นิยมระบบอันธพาล สุดท้ายม็อบลักษณะนี้ ถ้ายังต้องการมุ่งหน้าต่อ ก็จะเดินไปในแนวทางเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้น กับพวกพันธมิตร และสุดท้าย มวลชนที่พอมีเหตุมีผลอยู่บ้าง ก็จะเริ่มถอยออกห่าง 

สถานการณ์แบบนี้ มันต้องใช้เวลา ไม่ง่าย ต้องอดทน อยู่กับสภาพความไร้ระเบียบแบบนี้ ไปอีกซักระยะ ซึ่งอาจจะนานกินเวลาไปเป็นปี ก็อาจจะเป็นไปได้ 

อย่าไปคิดว่าการพยายามหาทางออกเร็วๆ มันจะจบง่ายๆ มันไม่ง่ายแบบนั้น เพราะเท่ากับเราไปยอมรับ กระบวนการผิดๆ ของฝ่ายโน้น ซึ่งเท่ากับเราไปรับรองความชอบธรรมของฝ่ายโน้น ซึ่งเท่ากับเราไม่เรียนรู้ การผ่าน พรบ.นิรโทษกรรม ที่เป็น กม.ที่ขาดความชอบธรรมทางการเมือง 

การปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อออกไป น่าจะเป็นผลดีมากกว่า เพื่อเรียกหลักการ และความชอบธรรมกลับมา

แต่ เราไม่ควรนิ่งเฉย งอมืองอเท้า ต้องขยันสร้างกระแสประชาธิปไตย ร่วมชุมนุมกับมิตรสหายที่รักประชาธิปไตย และที่สำคัญที่สุด ต้องสร้างกลุ่มการเมืองทางเลือก แทนการเมืองแย่ๆ ของเพื่อไทยและแกนนำ นปช. กลุ่มการเมืองทางเลือกนี้ต้องติดดิน เน้นมวลชน เน้นเคลื่อนไหว เน้นศึกษาการเมือง เน้นกรรมาชีพและคนเสื้อแดง ไม่ใช่เสนอตนเองเป็นนักการเมืองโดยไม่มีมวลชนจริง แล้วมัวแต่ประนีประนอมกับคนชั้นกลางที่ไม่ก้าวหน้า

(ที่มา)
http://turnleftthai.blogspot.dk/2014/01/blog-post_3338.html      

ประมวลภาพทั่วไทย: ต้านรัฐประหาร ต้านชัตดาวน์ ขอสันติ หนุนเลือกตั้ง

ประมวลภาพทั่วไทย: ต้านรัฐประหาร ต้านชัตดาวน์ ขอสันติ หนุนเลือกตั้ง


 
โดยประชาไทประมวลภาพการจัดกิจกรรมในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ มีรายละเอียดดังนี้ (คลิกที่นี่เพื่อชมภาพขนาดใหญ่)
 
ประมวลภาพ : ปชช.ทั่วไทยต้านรัฐประหาร-ชัตดาวน์กทม. ขอสันติ หนุนเลือกตั้ง
 

14 ม.ค. 2557 - นอกจากในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่ กปปส. จัดชุมนุม "ปิดกรุงเทพฯ" เริ่มต้นตั้งแต่ช่วงหัวค่ำของวันที่ 12 ม.ค. และเคลื่อนขบวนใหญ่ไปตาม 7 เวทีหลักเมื่อวันที่ 13 ม.ค. และยังคงดำเนินการชุมนุมต่อไปนั้น ในวันเดียวกัน หลายพื้นที่ทั่วประเทศ และในกรุงเทพฯ ได้มีกลุ่มทางสังคมกลุ่มต่างๆ กลุ่มนักศึกษาหลายสถาบันการศึกษา รวมทั้งแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ได้จัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ทั้งการเดินรณรงค์ การจุดเทียน ชุมนุมหน้าค่ายทหาร โดยมีเป้าหมายเพื่อคัดค้านการปิดกรุงเทพฯ เรียกร้องสันติภาพ ประกาศต่อต้านการรัฐประหารทุกรูปแบบ เรียกร้องให้เคารพหลักการ 1 คน 1 เสียง และสนับสนุนการเลือกตั้ง 2 ก.พ.

(ที่มา)

มานีเจ๋ง มานีเก่ง มานีกล้า เปิดหน้าประกาศสู้ " กับ " ประชาธิปไตย มุ่งสร้างความจัญไรบรรลัยให้แผ่นดิน

มานีเจ๋ง มานีเก่ง มานีกล้า เปิดหน้าประกาศสู้ " กับ " ประชาธิปไตย มุ่งสร้างความจัญไรบรรลัยให้แผ่นดิน


Giles Ji Ungpakorn's photo.

Princess Chulabhorn’s politics
http://asiapacific.anu.edu.au/newmandala/2014/01/14/princess-chulabhorns-politics/


"พี่คงถูกข้อหากบฏด้วยมังคะ เพราะเอาเปียสีธงชาติมาติดผม" กับประโยคที่ 2 ว่า "แต่ช่วยไม่ได้ ก็พี่รักชาติเท่าชีวิตนี่คะ"   


"ถ้าจะแส่การเมือง ต้องกล้าๆ ให้คนเค้าวิจารณ์
อย่าดัดจริตหลบตัวเองในรู 112


ถ้าเธออยากจะแสดงตัวเข้ามายุ่งเกี่ยวและเกลือกกลั้วกับการเมือง ด้วยการเลือกข้างแบบนี้ ก็ไม่ควรหนีออกไปต่างประเทศ มาขึ้นเวทีที่ราชดำเนินเป็นการเรียกคนและขอบริจาคเงินได้อีกเยอะเลย และให้มันชัดเจนกันไปเลยทีเดียวจะดีกว่า"

"เป็นลูกคนสุดท้อง พ่อเองก็เคยพูดว่า เป็นลูกคนที่เอาแต่ใจตัวเองมากที่สุด หน้าตาสู้คนอื่นๆ ไม่ได้ ก็หวังจะเอาดีด้านวิชาการ แต่ในความเป็นจริง ความรู้ความสามารถในเชิงอาชีพก็ไม่ได้โดดเด่นกว่าคนทั่วไป แต่เหลิงเพราะคนใกล้ตัวป้อยอ ส่วนเรื่องส่วนตัวขอไม่พูด เพราะก็มีชีวิตเหมือนชาวบ้านทั่วๆ ไป มีรัก โลภ โกรธ หลง....

แต่ที่ต้องพูดคือความเกี่ยวข้องกับการเมือง การเข้ามาจุ้นจ้านทางการเมืองในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการเข้ามาเป็นลูกมือของแม่นั้น สะท้อนความรู้สึก insecure ในสถานะของตัวเองในอนาคต จึงต้องออกมาปกป้องสถาบันมากกว่าคนอื่น ทั้งนี้ เพราะตัวเองไม่มีส่วนในสมการอำนาจที่แบ่งกันระหว่างพี่ชายและพี่สาว จึงต้องการบทบาทที่ต้องเข้ามาเล่น....
บทบาทนั้นคือการส่งเสริมอำนาจเก่า ตั้งแต่การชี้หน้าด่าไพร่เผาเมือง จนไปถึงสนันสนุนกบฏมหานคร... แต่ในที่สุด การกระทำนี้ไม่ได้ส่งผลดีต่อสิ่งที่ตัวเองกำลังปกป้องเลยทั้งสิ้น
....หนังเรื่องอะไรหว่า?