หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2554

บริภาค นปช
ย้ายคดี - นางพะเยาว์ อัคฮาด ยื่นหนังสือต่อศูนย์ปฏิบัติการบก.น.6 สน.บางรัก ให้รับโอนคดีน.ส.กมนเกด ลูกสาวที่ถูกยิงตายในวัดปทุมฯเมื่อ 19 พ.ค.53 จากดีเอสไอมาทำร่วมกับคดี 13 ศพ ตามข่าว
รูปภาพ

"แม่ เกด" บุกบช.น.จี้รวมคดีลูกสาว เหยื่อปืนวัดปทุมฯ ใน สำนวน 13 ศพด้วย ยันมีพยานหลักฐานระบุเป็นฝีมือเจ้าหน้าที่รัฐ แต่ 'ดีเอสไอ' ดองคดีมานานนับปี โฆษกบช.น.เผยผลสอบ 13 ศพ คืบหน้าเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ สอบปากคำพยานไปกว่า 100 ปาก อาจไม่เสร็จภายใน 30 วัน ต้องขยายเวลาออกไปอีก ด้าน 'ณัฐวุฒิ' แจงเหตุเปิดหมู่บ้าน-อำเภอเสื้อแดง เป็นการ แสดงเชิงสัญลักษณ์ ประกาศจุดยืนประชา ธิปไตย อยู่ภายใต้กรอบกฎหมาย ขณะที่ ผบก.เชียงใหม่ สั่งสืบทางลับเร่งคลี่คดี 'แดง คชสาร'

เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล นางพะเยาว์ อัคฮาด แม่ของน.ส.กมนเกด พยาบาลอาสาที่ถูกยิงเสียชีวิตในวัดปทุมวนาราม เดินทางเข้าพบพล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รองผบช.น. ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีชันสูตรพลิกศพ 13 สำนวน ในเหตุการณ์สลายการชุมนุมม็อบเสื้อแดงเมื่อเดือนเม.ย.-พ.ค. 2553 เพื่อยื่นเอกสารหลักฐานการเสียชีวิตของลูกสาว และเรียกร้องให้รวมคดีของลูกสาวไว้ในสำนวน 13 ศพด้วย

นางพะเยาว์ กล่าวว่า อยากให้บช.น.ช่วยติดตามคดีของลูกสาวด้วย เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางพนักงานสอบสวนนำสำนวนคดี 13 ศพ มาชันสูตรพลิกศพใหม่ จากพยานหลักฐานและพยานบุคคลพบว่าการเสียชีวิตดังกล่าวเป็นฝีมือเจ้าหน้าที่ รัฐ แต่ปรากฏว่าไม่ได้นำสำนวนคดีลูกสาวมารวมด้วย โดย 6 ศพวัดปทุมฯ มีเพียง 3 ศพเท่านั้นที่เข้ารวมอยู่ในสำนวน 13 ศพ จึงจำเป็นต้องมายื่นหนังสือให้พนักงานสอบสวนพิจารณาคดีของลูกสาวด้วย


(อ่านต่อ)

http://www.internetfreedom.us/forum/viewtopic.php?f=2&t=11434 

นปช พวกคุณกำลังทำอะไร?
ทำไมปล่อยให้ แม่น้องเกดและญาติวีระชนต้องผจญชะตาร้องหาความยุติธรรมกันเอง
การกระทำของท่านแกนนำ นปช ทั้งหลายคุณใช้วาที วาทะเพื่อความมันในอารมณ์
ของคนฟังเท่านั้นหรือ คำพูดของพวกคุณคุณรับผิดชอบในสิ่งที่คุณพูดบ้างไหม
คนที่เขาเจ็บปวดมากตอนนี้ก็เหล่าญาติวีระชนและแม่น้องเกด
ที่พวกคุณเอาพวกเขามาหากินเสมอไม่ใช่หรือ?
ทนไม่ไหวแล้วกับวิสัยทัศน์ รมต วัฒนธรรม โคตรเฮงซวยเลย...

รูปภาพ

ครม.อนุมัติงบ 264 ล้านบาท สร้างพระเมรุ

รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เผย คณะรัฐมนตรีอนุมัติวงเงิน 264.4 ล้านบาท สร้างพระเมรุ ในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จเจ้าฟ้าเพชรรัตนฯ

นาง สุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบอนุมัติงบประมาณการดำเนินงานจัดสร้างพระเมรุ และอาคารประกอบ ในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี จำนวน 264.4 ล้านบาท


สำหรับ ขั้นตอนต่อไป ทางกระทรวงวัฒนธรรมจะหาบริษัทก่อสร้างที่จะเข้ามาดำเนินการ ซึ่งจะเน้นว่า ต้องเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญและความชำนาญพิเศษ ในการก่อสร้าง มีความรู้เกี่ยวกับรายละเอียดการดำเนินงาน และผ่านประสบการณ์การทำงานเกี่ยวกับศิลปกรรมไทยมาก่อน


ด้านนางโสม สุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า เมื่อได้งบประมาณในการดำเนินการก่อสร้างพระเมรุมาแล้ว ทางกรมศิลปากร จะจัดทำรายละเอียดรูปแบบการก่อสร้างพระเมรุและอาคารประกอบพิธีทั้งหมด เพื่อเป็นแบบให้แก่บริษัทก่อสร้าง โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ และ ในวันที่ 20 ต.ค. เวลา 13.39 น. จะมีการจัดพิธีบวงสรวงราชรถ ราชยาน ก่อนอัญเชิญออกมาบูรณะ และให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องลงมือปฏิบัติงานได้ทันที


---------------------------------------------------------------------------------

 เฮ้ย.................นี่วิสัยทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในยามนี้หรือวะ ทำไมควายจัง เงินนะไม่ใช่กระดาษกงเต็ก นะจะใช้อะไรให้มันมีประโยชน์สูงสุดหน่อย  คิดเป็นหรอปล่าว เงินตั้ง 264 ล้านนะ รู้มั้ยว่าช่วยเช็ดน้ำตา ชาวนาใด้ใช้เป็นทุนในการทำนาครั้งต่อไปใด้ครอบครัวละ 200,000 บาทถึง 1,320 ครอบครัวเชียวนะ มันคุ้มกันมัยกับคนหนึ่งคนที่ที่ตายไปแล้วไม่เคยก่อประโยชน์ใดๆเลย

รมต. นี่คิดใด้เฮงซวยจริงๆ เลิกๆใหัหมดเรื่องจัดงานวันเกิด บ้าบออะไร เลิกให้หมดเลิกฉลองบ้าและสร้างป้ายเทิอญพระเกียรติและเปิดไฟประดับต่างๆงดให้หมดตอนนี้ต้องประหยัดเงิน เพื่อช่วยเช็ดน้ำตา ประชาชนที่เสียหายเป็นอำดับแรก


อย่ามามัวเฉลิมฉลองรื่นเริงกันอยู่เลย เห็นใจกันก่อน
ตัดให้หมดงบฟุ่มเฟือย ต่างๆนานาไม่ว่าเจ้าว่ารัฐเวลานี้มันคือเวลาทุกข์ของประเทศ


ประชาชนต้องการความช่วยเหลือเป็นหมื่น เป็นแสนคนยังจะมาสนุกเทิอญพระเกียรติกันอีกหรือ
สำนักพระมหากษัตริย์ควรจะประกาศออกมาใด้แล้วว่างด
เฉลิมฉลองทุกอย่างในปีนี้ เห็นออกมาพูดทุกเช้าค่ำ
ไม่ใช่หรอว่ารักอย่ากให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ดีกินดี
งดงานฟุ่มเฟือยของพวกท่านใด้มั้ย???


สถานการณ์ภัยธรรมชาติ  ที่กำลังเกิดขึ้น ประชาชนชาวไทยทุกคนล้วนเดือดร้อน และรับทราบกันดีอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น

แต่ทางอีกฟากฝั่งนึงกลับไม่รู้ร้อนรู้หนาว ยังประโคมจัดงานกันยิ่งใหญ่ เหมือนประเทศชาติอยู่ในภาวะสงบสุข ประชาชนไม่เดือนไม่ร้อน


รูปภาพ

ใน ภาวะเช่นนี้ สถาบันอันยิ่งใหญ่ที่พูดเสมอว่าเป็นห่วงเป็นใยพี่น้องประชาชน กลับนิ่งเฉยไม่รู้ไม่เห็นเหมือนหลายๆเรื่องที่ผ่านมาในอดีต

การจัดงานยิ่งใหญ่เช่นนี้ย่อมต้องมีการลงทุนในจำนวนที่สูง การหาผลกำไรตอบแทนกลับไปเพื่อให้ไม่ขาดทุนนั้น เข้าใจได้ว่าเป็นสิ่งธรรมดา

แต่คำถามที่คนไทยข้องใจอย่างที่สุดในเวลานี้ คือ มันเหมาะสมหรือไม่ ถูกที่ถูกเวลาหรือไม่

ถ้าสถาบันอันยิ่งใหญ่ตอบไม่ได้ จะให้ประชาชนทั้งประเทศลุกขึ้นพร้อมกันตอบใช่มั้ยครับ


:no112::no112::no112::no112::no112::no112::no112::no112::no112::no112::no112::no112:
 

ช็อก ยูเครนเล่นแรงสกัดคู่แข่ง ตัดสินอดีตนายกฯหญิงใช้อำนาจเกินขอบเขต จำคุก 7 ปี








สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 11 ต.ค.ว่า ศาลยูเครนได้พิพากษาตัดสินว่านางยูเลีย ไทโมเชนโก้ อดีตนายกรัฐมนตรี มีความผิดจริงฐานใช้อำนาจเกินขอบเขตกรณีซื้อแก๊สจากรัสเซีย เมื่อปี 2009 และมีโทษจำคุกเป็นเวลา 7 ปี โดยกรณีดังกล่าว ศาลระบุว่า นางยูเลีย ได้สร้างผลกระทบเสียหายทางรายได้แก่รัฐเป็นมูลค่า 190 ล้านดอลลาร์จากการซื้่อแก๊สจากรัสเซีย โดยนางยูเลียไม่มีอำนาจที่จะสั่งให้รัฐลงนามทำข้อตกลงดังกล่าวกับรัฐบาลรัส เซีย และราคาแก๊สที่เธอซื้อจากรัสเซียมีราคาสูงเกินไป สร้างความเสียหายแก่งบประมาณแผ่นดิน

อย่างไรก็ตาม ทางด้านนางยูเลีย กล่าวภายหลังฟังคำพิพากษาว่า ไม่ว่าคำตัดสินจะเป็นอย่างไร เธอจะยังคงต่อสู้เพื่อยูเครน และจะไม่มีใครสามารถทำลายชื่อเสียงที่ซื่อสัตย์ของเธอได้ และเธอจะทำงานเพื่อประโยชน์ของชาติ เพื่อให้ประเทศได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป




ก่อนหน้านี้ สหรัฐและสหภาพยุโรปได้ประนามคดีนี้ว่ามีแรงจูงใจทางการเมือง เนื่องจากนางยูเลียเป็นคู่แข่งทางการเมืองกับประธานาธิบดีวิคตอร์ ยานุโควิช ซึ่งไม่ต้องการให้เธอเล่นการเมืองและแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดี นอกจากนี้ กลุ่มยังได้เตือนว่า การจำคุกนางยูเลีย อาจส่งผลให้ยูเครน ไม่สามารถเข้าร่วมเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปได้
นาย โรเบริ์ต อัมสเตอร์ดัมทนายความระดับโลกเสื้อแดงถึงไทย เยี่ยม เสื้อแดงในคุก "ลั่นยุติธรรมไทยต้องเปลี่ยนแปลง"



นาย โรเบริ์ต อัมสเตอร์ดัม ทนายความต่างประเทศคนเสื้อแดง พร้อมทีมกฏหมาย นปช. เดินทางเข้าเยี่ยมนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ หรือสุรชัย แซ่ด่าน และนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข กรณีโดนข้อหา หมิ่นพระบรมเดชานุภาพฯ ม.112 เพื่อขอข้อมูลพูดคุยถึงเป้าหมายแนวทางในการช่วยเหลือ

รูปภาพ

ทั้งนี้นายโรเบิร์ต กล่าวว่า

"การ เดินทางเข้าพบบุคคลทั้ง 2 ในวันนี้นั้นไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลในการพูดคุยระหว่างกันได้ เนื่องจากเกรงจะมีผลต่อคดี แต่ยืนยันจะอยู่ในประเทศไทยให้นานที่สุด และไม่ขอเปิดเผยกำหนดการระหว่างอยู่ในประเทศไทย ในส่วนของการช่วยเหลือคนเสื้อแดงที่ถูกคุมขังนั้น ตนต้องขอเวลา 2 – 3 วัน ถึงจะสามารถสรุปได้ว่าจะมีแนวทางในการช่วยเหลือเช่นไร"

แต่ หลังจากที่ได้พบผู้ต้องหาทั้ง 2 คนแล้วพบว่า สภาพความเป็นอยู่ของระบบยุติธรรมในสถานที่ถูกคุมขังไม่ตรงกับมาตรฐานหลัก นานาชาติสากล ซึ่งมองว่าเรื่องนี้จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงโดยเร็วที่สุด

ทั้ง นี้ มองว่าอัยการของประเทศไทยพยายามทำให้กลุ่มผู้ต้องขังท้อแท้และยอมรับ สารภาพ ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง โดยตนจะทยอยเดินทางเข้าพบผู้ต้องขังเสื้อแดงในต่างจังหวัดด้วย


ส่วน จะมีการเข้าพบนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หรือไม่นั้น ยังไม่แน่ใจ เพราะนางสาวยิ่งลักษณ์ ต้องดูแลช่วยเหลือน้ำท่วมประชาชน แต่ตนก็รู้จักคนในรัฐบาล 2-3 คน อาจจะมีการเข้าไปพบพูดคุยในเรื่องนี้

ขณะ เดียวกัน การเดินทางเข้าประเทศไทยในครั้งนี้ ก็ไม่กลัวว่าพรรคประชาธิปัตย์หรือฝ่ายค้านจะมองว่าการเดินทางของตน จะเป็นการแทรกแซงกระบวนการยุติธรรม เพราะถือว่าสิ่งที่ตนทำเป็นแนวทางที่ถูกต้อง อีก ทั้งมองว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์นำเรื่องของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเข้ามาโยงเกี่ยวข้องนั้น เป็นเพราะพรรคประชาธิปัตย์กลัว พ.ต.ท.ทักษิณ

พร้อม กันนี้ สำหรับความคืบหน้าการยื่นคำร้องฟ้องรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ต่อศาลอาญาระหว่างประเทศ ที่สลายการชุมนุมจนทำให้มีผู้เสียชีวิตนั้น ในวันพรุ่งนี้ ตนจะแถลงข่าว ที่ชั้น 5 ห้างสรรพสินค้า อิมพีเรียลลาดพร้าว ในเวลา 13.00 น. อย่างเป็นทางการอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ด้านนายคารม พลพรกลาง ทนายความ นปช. ระบุว่า

"การ ที่นายโรเบิร์ต อัมเตอร์ดัม เดินทางมาประเทศไทยนั้น เป็นเพราะมีความสนใจในเรื่องของมาตรา 112 ว่าทำไมผู้ถูกคุมขังในคดีหมิ่นประมาทถึงไม่ได้รับการประกันตัว พร้อมสนใจกฎหมายที่มาจากอำนาจเผด็จการ และมองว่าเป็นคดีที่ซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับหลายฝ่าย ส่วนการทำงานของฝ่ายกฏหมายของคนเสื้อแดงหรือนปช.นั้น จะประสานการทำงานร่วมกันกับนายโรเบิร์ตด้วย"

นอก จากนี้ ผู้สื่อข่าวได้รายงานเพิ่มเติมด้วยว่า เสื้อแดงที่ยังถูกคุมขังในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และคลองเปรม มีจำนวนทั้งสิ้น 40 คน รวมผู้หญิงอีก 3 คน โดยคดีที่โดนส่วนใหญ่จะ ฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน และม.112




เครดิต
http://news.mthai.com/politics-news/134429.html