วันคล้ายวันพระราชสมภพ ๖๐ พรรษา ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช
ทำไมนายวชิราลงกรณ์ไม่สมควรที่จะเป็นประมุข
โดยใจ อึ๊งภากรณ์
ใน
ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงรัชกาล
คนไทยจำนวนมากคงไม่สบายใจเป็นอย่างมากที่ดูเหมือนว่าเจ้าฟ้าชายจะขึ้นมาเป็น
ประมุขของประเทศ ถ้า นายวชิราลงกรณ์
ถือเป็นบุคคลธรรมดาที่ไม่มีบทบาทสาธารณะ
เราคงจะไม่แสดงความเห็นหรือพิพากษาเขา
นอกจากจะมีกรณีที่ก่ออาชญากรรมหรือละเมิดสิทธิของคนอื่น แต่การเป็นประมุข
ถือว่าเป็นตำแหน่งสาธารณะ และเป็นตัวแทนของสังคมเราอีกด้วย
เราต้องมีความเห็น ถ้าเราไม่ใช่ทาส
ประมุขมีไว้ทำไม? ถ้า
ศึกษาประมุขโดยทั่วไป ประมุขอาจมีอำนาจไม่มากก็น้อย
อาจมีหน้าที่เชิงพิธีกรรมหรือสัญลักษณ์
หรืออาจถูกอ้างว่าเป็นศูนย์รวมของชาติบ้านเมือง
ถ้าประมุขมีอำนาจการเมืองจริง เช่นประธานาธิบดี
คนนั้นควรจะมาจากการเลือกตั้งตามระบบประชาธิปไตย
เพราะอำนาจอธิปไตยควรอยู่ในมือของประชาชน
ไม่ใช่ในมือของเผด็จการหรือคนที่บังเอิญเกิดมาในตระกูลหนึ่ง
การมีฐานะพิเศษที่นำไปสู่อำนาจพิเศษในสังคมอันเนื่องมาจากการเป็นลูกใคร
ต้องถือว่าเป็นการคอร์รับชั่นชนิดหนึ่ง
ซึ่งเห็นในประเทศล้าหลังอย่างเกาหลีเหนือ
หรือเผด็จการในประเทศด้อยพัฒนาทั่วไป
ถ้านายวชิราลงกรณ์จะขอเป็นประมุขที่มีอำนาจ เขาควรจะลงสมัครรับเลือกตั้ง
โดยไม่มีสิทธิพิเศษ
และจะต้องแข่งกับผู้อื่นที่เสนอตัวมาตามกติกาประชาธิปไตย
ถ้า
ประมุขมีบทบาทเชิงพิธีกรรม สัญลักษณ์
หรือเป็นจุดรวมของชาติบ้านเมืองเท่านั้น อย่างกษัตริย์ยุโรปหรือญี่ปุ่น
ประมุขควรจะเป็นตัวอย่างที่ดีของสังคมนั้นๆ
เป็นสัญลักษณ์ของสังคมตามที่ประชาชนต้องการ
ถ้าเราเข้าใจประเด็นเหล่านี้เราจะเข้าใจว่าทำไมนายวชิราลงกรณ์ไม่สมควรจะ
เป็นประมุข และควรจะมีการปรับสภาพเป็นพลเมืองธรรมดาแทน
นาย
วชิราลงกรณ์ เป็นคนที่เรียนไม่เก่ง หรืออาจไม่สนใจเรียนก็ได้
ซึ่งถ้าเป็นพลเมืองธรรมดาก็ไม่ควรไปว่ากันตรงนั้น
แต่ถ้าจะเป็นประมุขก็ควรสนใจบ้านเมืองและสนใจเรียนและศึกษาเรื่องปัญหาบ้าน
เมือง ควรสามารถพูดคุยกับคนที่มีตำแหน่งทางการเมือง
ทั้งภายในและภายนอกประเทศได้ ด้วยสติปัญญา แต่นายวชิราลงกรณ์ทำไม่ได้
ไม่เชื่อก็ไปถามคนในวงการทูตก็ได้
นอกจากนี้ประมุขควรปกป้องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน
แต่ในเหตุการณ์นองเลือด ๖ ตุลาคม ๒๕๑๙
นายวชิราลงกรณ์ไปให้กำลังใจกับลูกเสือชาวบ้านที่ก่อความป่าเถื่อนในวันนั้น
ประมุข
ควรจะเป็นคนที่มีมารยาทระดับหนึ่ง โดยเฉพาะในกิจกรรมทางการ
แต่นายวชิราลงกรณ์เคยสร้างปัญหาทางการทูตกับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเพราะไม่พอ
ใจในเรื่องส่วนตัว
นำเครื่องบินที่ตนเองขับไปปิดกั้นเครื่องบินของนายกญี่ปุ่นที่ดอนเมือง
และในงานเลี้ยงครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งก็ปล่อยให้หมาของตนเองวิ่งไปมาบนโต๊ะ
อาหาร ปล่อยให้หมาดมและเลียอาหารในจานของแขกผู้รับเชิญที่มีเกียรติ์
ทั้งไทยและต่างประเทศ โดยที่ไม่มองว่าเป็นการกระทำที่ผิดแต่อย่างใด
แสดงว่าไร้คุณสมบัติ ตรงนี้เราไม่พูดถึงข่าวลือต่างๆ นาๆ
เรื่องการใช้ความรุนแรงและการเป็นเจ้าพ่อนักเลง
ซึ่งควรจะนำมาตรวจสอบอย่างเปิดเผยและเป็นธรรมก่อนที่จะรับตำแหน่งสาธารณะใดๆ
ถ้านายวชิราลงกรณ์จะเป็นประมุขเชิงสัญลักษณ์ของไทย เขาจะเป็นตัวแทนของสตรีไทย 30 กว่าล้านคน ซึ่งเป็นครึ่งหนึ่งของสังคม เราต้องพิจารณาภาพของนายวชิราลงกรณ์เกี่ยวกับทัศนะต่อสตรี ในสายตาคนไทยและคนต่างประเทศ
การ
ที่นายวชิราลงกรณ์หลงรักหรือหลงใคร่ผู้หญิงหลายคน ไม่ควรเป็นเรื่องผิด
และควรเป็นเรื่องส่วนตัว
ถ้าเขาอยากถ่ายรูปแฟนเขาเปลือยกายเพื่อเก็บไว้ดูเอง
ก็ไม่น่าจะผิดและน่าจะเป็นเรื่องส่วนตัวอีก แต่ประเด็นที่เราควรพิจารณาคือ
นายวชิราลงกรณ์ ในฐานะ “เตรียมประมุข” เป็น
คนที่เคารพผู้หญิงหรือไม่
ตรงนี้ในส่วนที่เกี่ยวกับตำแหน่งประมุขในเชิงสัญลักษณ์ที่ไม่ได้รับการเลือก
ตั้ง มันไม่ใช่เรื่องส่วนตัวแล้ว มันควรเป็นเรื่องที่สาธารณะพิจารณา
นาย
วชิราลงกรณ์เคยนั่งดื่มไวน์และกินข้าวริมสระน้ำกับแฟนเขา ตรงนั้นไม่แปลก
แต่ที่แปลกคือแฟนเขาแก้ผ้าหมด ในขณะที่เขาสวมเสื้อผ้า
และที่ยิ่งแปลกและน่ากังวลคือคนรับใช้ผู้ชายแต่งชุดราชการ
และมีคนอื่นถ่ายรูปทั้งวิดีโอและภาพนิ่ง แค่นั้นไม่พอ
มีการให้แฟนตนเองเปลือยกายคลานกับพื้นเพื่อรับขนมจากมือนายวชิราลงกรณ์
เหมือนเอาอาหารให้หมากิน ภาพนี้ ซึ่งปวงชนชาวไทยจำนวนมากได้แลเห็นไปแล้ว
เป็นภาพที่สะท้อนการไม่เคารพเพศสตรีของนายวชิราลงกรณ์
และประกอบกับการปล่อยภาพเปลือยกายของสตรีคนอื่นๆที่นายวชิราลงกรณ์คบ
ต้องถือว่าเป็นการล่วงละเมิดทางเพศผ่านการมีเงินและอำนาจ
ตรงนี้เป็นสาเหตุสำคัญที่นายวชิราลงกรณ์ไม่ควรเป็นประมุข ไม่ควรมีอำนาจ
และไม่ควรมีอิทธิพลเหนือผู้หญิงหรือประชาชนทั้งปวงในประเทศไทย
อย่า
ลืมว่าผู้เป็นแม่ เอ็นดูและยกโทษให้ลูกชายตนเองเสมอ ซึ่งไม่แปลก
แต่ไม่สมควรในคนที่อยู่ในแวดวงประมุข อย่าลืมว่าแม่กับลูกใกล้ชิดกัน
และอย่าลืมว่าแม่และลูกสาวเขา
ได้ไปงานศพพันธมิตรฯที่ก่อความรุนแรงและทำลายประชาธิปไตย
อย่าลืมอีกว่าผู้เป็นพ่อไม่ยอมออกมาตักเตือนลูกชายตนเอง ทั้งๆ
ที่รู้ว่ามีการผลักดันลูกชายให้เป็นประมุขคนต่อไป
อย่า
ลืมอีกว่าในสังคมอำมาตย์ของไทย ประชาชนถูกบังคับให้ยืนเคารพประมุข
ถูกบังคับให้หมอบคลาน ถูกบังคับให้ใช้ภาษาพิเศษ
ถูกบังคับให้เสียภาษีเพื่อวิถีชีวิตอันร่ำรวยของประมุข
ถูกบังคับให้เดือดร้อนเพราะมีการปิดถนนให้เขาเดินทางอย่างสะดวกสบาย
และถูกบังคับให้ท่องในห้องเรียนว่าประมุขเป็นคนดีวิเศษ
แต่นายวชิราลงกรณ์ไม่ใช่คนดีวิเศษ
และไม่ใช่แบบอย่างสำหรับนักเรียนในโรงเรียน
ถ้า
พิจารณาตรงนี้จะเห็นว่าการตั้งความหวังไว้กับรัชกาลต่อไป
ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี โดยคุณทักษิณหรือคนอื่น
น่าจะเป็นสิ่งผิดพลาด ยกเว้นว่าจะมีการมองว่านายวชิราลงกรณ์จะขอพัก ขอลาออก
ขอไม่เป็นประมุข ขอเป็นบุคคลธรรมดาและอยู่อย่างเงียบๆ
และในช่วงนั้นมีการปรับปรุงประชาธิปไตยให้เต็มใบ สงสารและเห็นใจแฟนของนายวชิราลงกรณ์เถิด
เวลาท่านเห็นภาพริมสระน้ำ หรือภาพเปลือยกายของเหล่าแฟน หรือ “หม่อม” ของ
นายวชิราลงกรณ์ โปรดอย่าด่าผู้หญิง โปรดเข้าใจว่าใครมีอำนาจตรงนั้น
โปรดให้อภัยสตรีน้อยๆ ผู้ตัดสินใจผิด
โปรดอย่าไปว่าคนที่โชว์ร่างเปลือยอันงาม เพราะนั้นก็ไม่ใช่อาชญากรรม
ทำไมมีการปล่อยภาพแบบนี้ออกมา? ต้อง
ตอบอย่างตรงไปตรงมาว่าไม่มีข้อมูลหลักฐานพอที่จะตอบได้ ได้แต่เดาเอา
ที่แน่นอนคือมันไม่ใช่อุบัติเหตุ เพราะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาหลายปี
ดังนั้นอาจเป็นวิธีควบคุมผู้หญิงให้หมดศักดิ์ศรีและพึ่งพานายวชิราลงกรณ์คน
เดียว หรืออาจเป็นการที่นายวชิราลงกรณ์อยากจะอวดว่าได้ผู้หญิงสวยๆ
มาหลายคนก็ได้ หรือเขาอาจมีทัศนะว่า “กูจะทำแล้วทำไม?” พยายาม
สร้างภาพว่าไม่มีใครแตะได้ แต่ทั้งหมดเป็นการเดาเท่านั้น
และการเดาใจคนที่น่าจะผิดเพี้ยนเคารพคนอื่นไม่เป็นทำยาก
ซึ่งน่าจะหมายความว่านายวชิราลงกรณ์ไม่สมควรเป็นประมุข
นาย
วชิราลงกรณ์ควรจะเป็นพลเมืองธรรมดา ควรจะหางานทำ ควรจะเสียภาษี
และควรจะทำหน้าที่เป็นพลเมืองที่ดี
และหลังจากนั้นเขาจะมีพฤติกรรมอะไรในบ้านเขาก็น่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว
(ที่มา)